ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ  (อ่าน 3140 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มาตั้งหัวข้อ ไม่ใช่มาว่า ใคร ๆ ผู้ใด นะคะ แต่บางครั้งก็สงสัยว่า ทำไมเวลาเราคุยกับเพื่อน ต้องดึงหัวข้อกับมาเรื่องธรรมะทุกครั้ง

  เช่นเพื่อน ๆ คุยเรื่องแฟชั่น หนัง เที่ยว เดี๋ยวเราก็ดึงหัวข้อที่คุยกับมาที่ธรรมะ สุดท้ายเพื่อน ๆ ก็เดินหนีกันหมดจึงมาสงสัยอยู่เหมือนกันว่า การที่เราทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้ จัดเป็นความฟุ้งซ่าน ใช่หรือไม่คะ

  :93: :19:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 29, 2011, 01:12:55 pm »
0


ในมงคลสูตร กล่าวไว้ว่า การฟังธรรมตามกาล และสนทนาธรรมตามกาล เป็นมงคลสูงสุด

มงคลที่ 26 การฟังธรรมตามกาล
     การฟังธรรม ตามกาล ผ่านมาถึง  ควรคำนึง นิ่งนั่ง ฟังขยัน
     ย่อมจะเกิด ปัญญา สารพัน       ตั้งใจมั่น ฟังดี นี่สมควร


มงคลที่ 30 การสนทนาธรรมตามกาล
     ยามหดหู่ ฟุ้งซ่าน กาลสงสัย       เป็นสมัย ไต่ถาม ตามเหตุผล
     เพื่อบรรเทา คลี่คลาย หายกังวล   ควรจะสน- ทนาธรรม ตามที่ควร



ที่มา  http://www.fungdham.com/mongkhol38/mongkhol38.html
อ้างอิง 
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต “มงคลสูตร”
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  บรรทัดที่ ๔๑ - ๗๒.  หน้าที่  ๓ - ๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=41&Z=72&pagebreak=0
ขอบคุณภาพจาก www.our-teacher.com
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 29, 2011, 01:37:39 pm »
0

มาตั้งหัวข้อ ไม่ใช่มาว่า ใคร ๆ ผู้ใด นะคะ แต่บางครั้งก็สงสัยว่า ทำไมเวลาเราคุยกับเพื่อน ต้องดึงหัวข้อกับมาเรื่องธรรมะทุกครั้ง

  เช่นเพื่อน ๆ คุยเรื่องแฟชั่น หนัง เที่ยว เดี๋ยวเราก็ดึงหัวข้อที่คุยกับมาที่ธรรมะ สุดท้ายเพื่อน ๆ ก็เดินหนีกันหมดจึงมาสงสัยอยู่เหมือนกันว่า การที่เราทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้ จัดเป็นความฟุ้งซ่าน ใช่หรือไม่คะ

  :93: :19:

   ขอนำคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาแสดงดังนี้

   การปฏิบัติทุกอย่างเหมือนกัน อยากมันถึงทำ แต่ตัวอยากตัวนี้เป็นฉันทะ หลวงพ่อเรียกว่าธรรมฉันทะ คือ ความพอใจในธรรม ไม่ใช่ตัวตัณหา ตัวตัณหาเป็นการอยากได้ใคร่มีในลักษณะที่เรียกว่า ถ้าไม่ได้มาผิดศีลผิดธรรมก็ยังเอา ตัวอยาก มีอยู่ในทุกธรรมะ แต่ว่าตัวอยากนี้เป็นตัว "ธรรมฉันทะ" คือ พอใจในการปฏิบัติ


ที่มา http://www.oneclickmarket.com/shopcore/topic_detail.php?shop_id=13&id=15


ขอบคุณภาพจาก http://chaoprayanews.com

   การพูดที่ประกอบด้วยสติ ผมเห็นว่า ไม่ใช่ความฟุ้งซ่าน ความฟุ้งซ่านเป็นนิวรณ์ข้อหนึ่ง
   เรียกว่า อุทธัจจกุกกุจจะ แต่ถ้าเป็นสังโยชน์จะเหลือเพียง อุทธัจจะ อรหันตผลเท่านั้นที่ละได้

   ดังนั้น เวลาจะพูดอะไร ต้องใช้สติและสมาธิกำกับ หรือง่ายๆก็คือ ให้ดูจิตตนเอง อันไหนเป็นกุศล
อันไหนไม่เป็น ผู้ปฏิบัติธรรมจะทราบได้เอง การไม่เบียดเบียนกายใจผู้อืนเป็นสิ่งที่ควรกระทำ

   ขอเป็นกำลังให้ทุกท่านที่มี "ธรรมฉันทะ"

    :25: :49:

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Mahajaroon

  • 1.บรรพชิต
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 63
  • ข้างนอกต้องแก้ไข ข้างในต้องปล่อยวาง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
มาตั้งหัวข้อ ไม่ใช่มาว่า ใคร ๆ ผู้ใด นะคะ แต่บางครั้งก็สงสัยว่า ทำไมเวลาเราคุยกับเพื่อน ต้องดึงหัวข้อกับมาเรื่องธรรมะทุกครั้ง

เช่นเพื่อน ๆ คุยเรื่องแฟชั่น หนัง เที่ยว เดี๋ยวเราก็ดึงหัวข้อที่คุยกับมาที่ธรรมะ สุดท้ายเพื่อน ๆ ก็เดินหนีกันหมดจึงมาสงสัยอยู่เหมือนกันว่า การที่เราทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้ จัดเป็นความฟุ้งซ่าน ใช่หรือไม่คะ

  :93: :19:

การคุยธรรมะต้องคุยให้ถูกที่ถูกคน  ธรรมะเปรียบเสมือนยาขม สำหรับคนที่ยังดื้อยา
แต่ธรรมเป็นโอชารสเลิศ เป็นอาหารใจอย่างดีสำหรับผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม
มนุษย์เราปัญญาเกิดขึ้นได้เพราะการฝึกฝนอดทน ปัญญาเกิดได้ ๔ ช่องทางคือ
สุ   /  จิ /  ปุ  /  ลิ


สุ  ฟังด้วยความตั้งใจไม่วอกแวก
จิ  คิดจนแตกจากฟังฝังใจอยู่
ปุ ถามความข้องใจใคร่ครวญดู
ลิ เขียนจดใว้ควรคู่รู้ค่าปัญญาคม


                                                          :welcome:
บันทึกการเข้า
พุทธะนับหมื่นอยู่ที่ใจ

konsrilom

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 69
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การคุยสนทนาธรรม บางครั้ง ก็บ้าน้ำลาย

 การภาวนา บางครั้ง ให้เก็บวาจา เพราะเหตุนี้คะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การคุยต้องเลือกคน ถ้าเราลองพูดไปแล้วเขาไม่สนใจให้หยุดคุยเรื่องะรรมะ อย่าไปว่าเขานะเพราะเราเองอาจจะเคยเป้นเหมือนเขามาก่อน เมตตาต่อกันให้มากๆ
อีกอย่างถ้าเราไม่เลือกผู้ที่จะสนทนาด้วย แล้วบังเอิญเขามาว่าเราลับหลัง ก็เท่ากับว่า ไปส่งเสริมให้คนทำชั่ว
ไปสร้างกรรมให้เขาเปล่าๆ
ส่วนเรื่องฟุ้ง มันก็มีเป็นธรรมดา
บันทึกการเข้า