ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มี ที่ใด ๆ ที่จะทำให้มนุษย์ หนี จากความตาย ได้ เพราะความตาย เป็น วัฏจักร  (อ่าน 4053 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


"ความตาย ความตาย ความตาย ชีวิตฉันที่เป็นพระนี้ หนีไม่ได้ จากงานที่เกี่ยวข้องกับความตาย บางครั้งวันหนึ่ง ๆ ก็สูญเสียไปทั้งวันทั้งคืน กับการเข้าไปยุ่งอยู่ งานแห่งความตาย จนพักหลังที่ได้เรียนกรรมฐานแล้ว รู้สึกถึงว่าตัวเอง จะต้องตายแบบเขานี่แหละ สัญญาณ เตือน จาก พญายม ที่ส่งข้อความเตือน มาเสมอ ๆ กับความเจ็บ เดี๋ยวโอย เดี๋ยวโอย คร่ำครวญอยู่ นั่นแหละ สัญญาณจาก พญายม ที่ส่งสาส์นมาเตือนว่า เอ็งนะ ทำความดี ไว้พอมาตอบข้าหรือยัง ถ้ายังก็รีบทำซะ ประมาณนี้ พอความเจ็บเข้ามาหา ทีก็นึกได้ที มันอย่างนี้นะ แต่ เราก็ลืมไปว่า คำเตือนอีกอย่าง ก็คือ ความแก่ สายตาผ้าฟาง หูฟังไม่ค่อยสดับ จำเรื่องจำราวไม่ค่อยได้ เรี่ยวแรงก็ถดถอย ผิวกายก็หย่อนยาน ผมเผ้าก็หงอกขาว ฟันฟางก็หลุดร่วง กระดูกก็ปวดนั่นปวดนี่ เป็นอยู่อย่างนี้อีกหลายเรื่องราว แต่นี่ก็เป็นคำเตือนจากยมบาลเช่นกัน ตอนเป็นหนุ่ม เป็นสาว ก็ประมาท พอความชรา เข้ามาถาม ก็ตอนที่คิดจะทำอะไร ไม่ค่อยออก อึดอัดขัดใจ เพราะมันทำไม่ได้ ตอนเป็นหนุ่มสาว เดิน 10 กม. ก็สู้ พอตอนนี้เอาสิ แค่ กิโลเดียว ก็โบกมือว่า พวกเอ็งไปเถอะ ทิ้งข้าไว้ที่นี่แหละ ข้าไปกับพวกเอ็งไม่ได้แล้ว สิ่งที่พอจะนึกได้ ก็คงมีแต่เสียงแห่ง พระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ให้สำเหนียกศึกษา ลมหายใจเข้า และ ลมหายใจออก เพราะลมหายใจของเราเริ่มแผ่ว หลุมศพ เชิงตะกอน มันรออยู่ตรงหน้า มันท้าทายเราหยอย ๆ ว่า แน่จริง เอ็งก็นี่ข้าให้พ้นสิ ตอนนี้ต่อให้ก่อนนะ รีบ ๆ หนีไปจากข้า ให้พ้นนะ โธ่ อะไรมันจะถูกเยาะอย่างนั้น นะ ว่าแล้ว ความสลดใจก็มีขึ้น ว่า ตู หนีมันไม่พ้น จริง ๆ อันความตาย ที่จะมีข้างหน้านี้ จะหนีไปอยู่ในเขา ในถ้ำ ในหลืบ บนสวรรค์ เมืองนรก นอกพิภพ หรือ ทั่วจักรวาล มันก็ยังตามเราไปได้ อย่างนั้นก็เลิกหนีมันซะ และ ทักทายกันอย่างเพื่อน ซะดีกว่า ท่านพญายม ท่านเป็นเพื่อน ของข้าพเจ้ามาเป็นแสนอสงไขยแล้ว วันนี้ท่านไม่เบื่อข้า ยังตามข้า ติดแจ อยู่เช่นเดิม แต่ตอนนี้ข้าเบื่อท่านแล้ว ข้าไม่อยากคบกับท่าน ดังนั้นเมือ่ประตูแห่งอมตะนี้เปิดแล้ว ท่านกับ ข้า ก็เป็นเพื่อนกันครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ขอให้ท่านทำหน้าที่ของท่านต่อไปเถิด ส่วนตัวข้านี้ขอจากท่านอย่างนิรันดร ด้วยรักนะ...สหาย"

ส่วนนี้เป็นส่วนเพ้อเจ้อ ที่เป็นข้อความในบันทึก ส่วนตัว วันนี้มานั่งอ่านแล้ว รู้สึกว่า เรานี้เพ้อเจ้อ เหลือเกิน

ข้อความบางส่วนจากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนาและการเดินทาง ของธัมมะวังโส


 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

MICRONE

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 310
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บทความของพระอาจารย์ นี่ถ้าออกไม่ได้ โฆษณา หรือ ติดตาม ก็มักจะไม่ค่อยเห็น นะครับ อันนี้เกือบ หลุดสายตาแล้ว

   st11 st12 st12
บันทึกการเข้า
อบอุ่นใจด้วยคุณธรรม จุดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
มีเรื่องใหม่ เห็น ใน เฟค แต่ ยังไม่เห็นบทความ อีก นะคะ

 
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


"วันนี้ จะพูดเรื่องยาก ๆ สักนิด ใครเข้าใจก็ขออนุโมทนา ใครไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องคิดให้มาก ปกติเรามองเวลา นาฬิกา เรามองทั้งหน้า ทั้งหมดของนาฬิกา แต่เวลาใดที่เราจะใช้เวลา เราก็จะมองลงไปที่แกนเข็มหลัก คือ ชม. ก่อน แล้ว จึงเป็น นาที และ วินาที การภาวนาก็เช่นกัน เมื่อเราจะภาวนา ก็ต้องมองภาพรวมของ กาย จิต เจตสิก นิพพาน ทั้งสี่อย่าง แต่เวลาที่เราภาวนา จริง กับต้องให้ความสำคัญที่ (...1...) และ(..2..) และ (...3..) ดังนั้นเวลาใดที่เราทำถูกก็จะได้ผลไว และ รู้ผลไว แต่ทุกครั้งที่มันผิดไม่ได้ผล ก็จะได้ผลว่า ไม่ได้อะไร เป็นเพราะเราไปจับตัวเร็ว เกินไป จึงไม่เข้าใจ อะไร ๆ ในนั้นเลย แท้ที่จริง การภาวนาที่มาถึงสมาธิ ก็เพียงเพื่อให้จิตของเรานั้น อยู่ในสภาวะ ที่ปราดเปรียว (ว่องไว วสี ) บริสุทธิ์ ( สะอาด ปริสุทธิ ) ตั้งมั่น (มั่นคง อุเบกขา ) เมื่อจิตเป็นสมาธิ จริง ๆ ก็จะเห็น สรรพสภาวะ ทั้งปวง มันช้าลง เมื่อเราเห็นอะไร ๆ ช้าลง เราก็จะจับ ตัวปัญหา และขจัดปัญหา นั้นออกได้อย่างหมดจด เริ่มตั้งแต่ นิวรณ์ อุปกิเลส มานานุสัย และ อวิชชานุสัย นั่นเอง

สาธุ ใครเข้าใจ ลำดับ 1 2 3 ก็เห็นว่าพอมีปัญญาบ้างแล้ว ใครยังไม่เข้าใจ ก็ต้องศึกษาลงไปในกรรมฐาน คือ พระพุทธานุสสติเสียก่อน เพราะกรรมฐาน ที่สนับสนุน และเป็นกรรมฐาน ที่พอกพูนกรรมฐาน ให้ว่องไว บริสุทธิ มั่นคง ก็คือ พระพุทธานุสสติ นั่นเอง

เจริญธรรม / เจริญพร"
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ