ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง  (อ่าน 5628 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pinmanee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 163
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ตามหัวข้อเลยคะ

 เพราะบางที ก็สับสน กับเส้นทางสายกลาง ที่มีิวิธีการมากมาย จริง ๆ ในปัจจุบัน นี้คะ

  :25: :25: :25: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:46:08 pm »
0

มรรคมีองค์ ๘ คือ ทางสายกลาง ย่อลงเรียกว่า ไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิและปัญญา
 สิกขา ก็คือ ศึกษา
 ต้องการสวรรค์สมบัติก็ศึกษาแค่ศีล ต้องการเป็นพรหมก็ศึกษาศีลและสมาธิ
 หากต้องการนิพพานสมบัติ ก็ต้องศึกษาทั้งศีล สมาธิและปัญญา
 หรือหากต้องการ "ปิดประตูอบายภูมิ" ก็ต้องเป็นโสดาปัตติผลเป็นอย่างน้อย

 
     แต่ที่คุยมาอาจไม่ตรงใจคุณปิ่นมณี ผมว่า คุณอาจต้องการให้บอกขั้นตอน วิธีปฏิบัติ และเทคนิคที่จำเป็น
ตลอดจนข้อธรรมที่ควรรู้ ในการปฏิบัติกรรมฐานมากกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวครับ แต่ละคนสั่งสมบารมีธรรมมาไม่เหมือนกัน ควรที่จะต้องหาทางเฉพาะตนเอาเอง
     องค์ธรรมในการตรัสรู้ก็คือ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ...ขอรับ :25:

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:50:51 pm »
0
คุณ natthaponson ตอบได้กว้าง ตามคำถามที่กว้าง เหลือคณานับ เลยนะครับ

 ว่าแต่ คุณ ปิ่นมณี กำลังสับสนกับการปฏิบัติภาวนา แบบไหน ละครับ

  หรือ ว่า คุณ ปิ่นมณี กำลังปฏิบัติแบบไหน หรือ ครับ ช่วยไขข้อข้องใจตรงนี้ก่อนได้หรือไม่ครับ

 จะได้ ว่ากันด้วยเรื่อง มรรค กันได้ถูก ถึงอย่างไรก็ครอบคลุมด้วย โพธิปักขิยธรรม 37 ประการไว้แล้ว

ก็จะได้กันข้อผิดพลาด ที่คุณ ปิ่นมณี รู้สึกสับสน อยู่ครับ

  :57:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 12:44:46 pm »
0
ตามหัวข้อเลยคะ เพราะบางที ก็สับสน กับเส้นทางสายกลาง ที่มีิวิธีการมากมาย จริง ๆ ในปัจจุบัน นี้คะ

           การภาวนา "พุท-โธ" คำเดียวดูเหมือนจะง่าย แต่คำตอบไม่กระจ่าง แบบเดียวกับการภาวนา "ยุบ-พอง"

หรือ ปัคคหะนิมิตบริกรรม "สัมมาอรหัง" ทั้งหมดต่างล้วนอาศัยผู้ภาวนาเพียรเอา และ เขลาถามตามครูอาจารย์

เรียกว่าสอบอารมณ์กันอย่างนั้น การเข้าถึงธรรมต้องถึงซึ่งภาวนาจริงๆ สรุปตามหัวข้อแท้แล้วอย่างไหนเป็นกลาง

จริง ในความหมายที่ว่าเป็นกลางกล่าวคือ สามารถอ้างอิงยกลำดับขั้นภาวนาเป็นอรรถเป็นพยัญชนะได้ ครอบ

คลุมถึงความหลากหลายในอิทธิวิธีที่มีปรากฏ รวมถึงความปราณีตแห่งจิตในระดับฆราวาสวิสัย และ พ้นวิสัย ที่

สุดนักภาวนาต้องเปิดใจให้กว้างวางใจเป็นกลางพิจารณาเพียงตนแห่งตนหยั่งรู้จริตพินิจเอาแต่เฉพาะตนเป็นพอ

ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2011, 12:47:35 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 12:45:21 pm »
0
เพียร เพียง พ้น

         เพียรรู้อยู่เพียงตน          รู้เพียรค้นจริตต้อง
อย่าริหมายคิดข้อง         แล้วมืดหมองหนทางตน.

     เพียรรู้อยู่เพียงครู          อย่าลบหรู่ครูไม่สน
เข้าหาครูบายล      ผละคลายหม่นไม่หมองตัว.


                                                                                                         ธรรมธวัช.!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2011, 01:19:32 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 05:56:17 pm »
0
เพียร เพียง พ้น

         เพียรรู้อยู่เพียงตน          รู้เพียรค้นจริตต้อง
อย่าริหมายคิดข้อง         แล้วมืดหมองหนทางตน.

     เพียรรู้อยู่เพียงครู          อย่าลบหรู่ครูไม่สน
เข้าหาครูบายล      ผละคลายหม่นไม่หมองตัว.


                                                                                                         ธรรมธวัช.!


 ความเพียร ต้องสะสมกันจริง การจะเกิดปัญญา( ความเข้าใจ ) ก็ต้องสะสม ด้วยการ ฟัง คิด ถาม เขียน


  คาถา บัณฑิต 

     สุ  จิ  ปุ ลิ
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

ban

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 117
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 09:59:11 pm »
0
เพียงพอ ก็คือ อริยะมรรค 8 กับ อริยสัจจะ 4 ทำความเข้าใจ 12 ประการนี้ ก็น่าจะพอครับ
แต่หนทางการศึกษา นั้นมีระยะเวลา บวกกับ ความต้องการของผู้ปฏิบัติ

 เพราะเหตุผลของผู้ปฏิบัติ ไม่เท่ากัน บางท่านบางคน ก็ต้องการเพียงแค่ให้ชีวิตมีความสุข เท่านั้นไม่ต้องการไปสู่การพ้นสังสารวัฏฏ์ ดังนั้น ก็อยู่ที่เป้าหมายของท่าน ว่าท่านต้องการอะไร ?

   ดังนั้น ท่านต้องการ อะไรในการภาวนา

  1. ถ้าต้องการความสุข ในชีวิตประจำวัน ในครอบครัว มั่งมี ศรีสุข ก็ ปฏิบัติภาวนา เพียงแค่ ทาน ศีล ภาวนา เล็กน้อยก็น่าจะเพียงพอ ครับ

  2. ถ้าต้องการจิตที่ตั้งมั่น ก็ภาวนา สมาธิ ให้มาก ๆ

  3. ถ้าต้องการช่วยเหลือ ผู้อื่น ก็ต้องบำเพ็ญ บารมี 30

  4. ถ้าต้องการพ้นจากสังสารวัฏฏ์ นี้ ก็ต้อง เลือก กรรมฐาน สมถะวิปัสสนา

   ดังนั้น เป้าหมายเป็นเครื่องกำหนด ความพอเพียงในการภาวนา อย่างนี้ครับ

  :25:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2011, 09:09:47 am »
0
ศึกษา เพื่อ ขจัดกิเลส ตั้งแต่ หยาบ จนถึง ไม่มี นั่่นแหละ จึงจะเรียกว่า พอเพียง

โดยรวมก็เป็นอย่างนั้น นะจ๊ะ

 เจริญธรรม

  ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

SAWWALUK

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 246
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2011, 09:51:35 am »
0
ศึกษา เพื่อ ขจัดกิเลส ตั้งแต่ หยาบ จนถึง ไม่มี นั่่นแหละ จึงจะเรียกว่า พอเพียง

โดยรวมก็เป็นอย่างนั้น นะจ๊ะ

 เจริญธรรม

  ;)

 ก็แสดงให้เห็นว่า ถ้าเราศึกษา แล้วภาวนา ขจัดกิเลสได้ บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ถูกทางใช่หรือไม่คะ

  :25:
บันทึกการเข้า

SAWWALUK

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 246
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2011, 09:42:17 am »
0
ผ่านไปเกือบอาทิตย์ ได้อ่านไปอีกหลายกระทู้ แล้ว

 พอจะเข้าใจบ้างแล้วคะ

 โดยเฉพาะ ความขัดเคือง ไม่ได้อย่างใจ นี่ก็เป็นกิเลส บาง ๆ ที่นำออกยาก

 แต่พอได้เจริญกรรมฐาน รู้สึกได้เลยว่า จะนอนนิ่ง ตามใจที่สงบด้วยคะ

 การมี พุทโธ มีข้อดีอย่างนี้นี่เอง คะ

  สาธุ
  :25:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ศึกษา เพื่อ ภาวนา เช่นไร จึงจักพอเพียง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2011, 08:36:52 am »
0
ศึกษาที่ตัวเรา เป็นเรื่องแรก  เรีัยกว่า ศึกษา กาย หรือ รูป

ศึกษาจิต ของเราเป็นเรื่องที่สอง เรียกว่า ศึกษา จิต หรือ นาม

 เข้าใจ รูป และ นาม หรือ นาม และ รูป หรือ นามรูป ก็เป็นเพียง ปฐมบทของการศึกษาธรรม ในพุทธศาสนาแล้ว การศึกษาอย่างนี้ ถูกทางเป็นการศึกษา ที่พอเีพียง

 พอเพียงอย่างไร พอเพียง ต่อการดำเนินตามแก่นธรรม เพื่อการสิ้นสุด แห่ง สังสารวัฏ นี้

 เจริญธรรม

  ;)

บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ