ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ  (อ่าน 6186 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
"จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2011, 12:00:48 pm »
0


"จับหลับ" หลับอย่างมีสติ

     จับหลับ หมายถึง การหลับที่มีสติ อันเป็นคำพูดของคนสมัยเก่า หลับจะมีสติได้อย่างไร มีวิธีปฏิบัติดังนี้
     หายใจเข้าหายใจออกยาว ๆ พองหนอ ยุบหนอ อย่าเคร่งในอุปาทานยึดมั่น ให้มันเกินไป ทำอย่างสบาย หายใจสบาย เดี๋ยวมันจะหลับมันจะเพลินแล้วมันจะเผลอ แล้วมันจะวูบลงไปสู่ภวังค์ จิตนั้นจะดิ่งลงไปไม่สัมผัสภายนอก พลิกกายกี่ครั้งรู้หมด ตื่นตอนไหนรู้หมดเลย นี่หลับมีสติซึ่งคนโบราณท่านเรียกว่า “จับหลับ” ในสติปัฏฐาน ๔


     อาตมาถามหลายคนใน ๑๐๐ คนจะได้สัก ๑๐ คนแต่ทำฝึกไปเรื่อย ๆ ได้ผล หลับมีสติอย่างนี้เอง บางทีถ้าไปนอนไม่มีนาฬิกาไป จะต้องตื่นตี ๔ ถ้าเรานั่งจนชำนาญแล้วนะ เราก็นอนพองหนอยุบหนอเรื่อยไป แล้วหลับมีสติดี ถึงตี ๔ จะสะดุ้งตื่นเลย แล้วดูนาฬิกาก็จะตรงเวลาพอดี

     พระพุทธเจ้าสอนข้อนี้ พูดตามศัพท์ภาษาไทยก็ นอน ตื่น มีสติ หลับมีสติ ในพระไตรปิฎกมีบอกไว้ สติปัฏฐาน ๔ ในตอนที่อาตมาเริ่มฝึกกรรมฐานใหม่ ๆ อาตมาก็ยังไม่ทราบหลับจะมีสติได้ยังไง ตื่นนี่มีสติแน่ หลับผลอยไปนี่ มันไม่เห็นมีสติอะไร แล้วทำไมพระพุทธเจ้าสอนว่าหลับต้องมีสติ ตื่นมีสติ หลับยังไง

     อาตมาก็ทำไปเรื่อย ๆ พระอาจารย์หลายรูปท่านก็บอกว่าหลับมีสติตื่นมีสติต่อเนื่อง เราก็ไม่รู้ ท่านก็ไม่บอกเราหลับแบบไหนมีสติอย่างไร ทีนี้อาตมาทำมาเรื่อย ๆ เป็นเวลานาน ก็พองหนอ ยุบหนอ เพ่งมากไม่หลับ ก็ทำอย่างนี้หลายวันแต่ก็กำหนดไปเรื่อย ๆ พองหนอ ยุบหนอ หายใจยาว ๆ ไปเรื่อย ๆ เอ..มันจะหลับแล้ว มันจะเพลินที่ฟังเสียงต่าง ๆ รู้มั่งไม่รู้มั่ง เผลอแว้บไม่รู้หลับไปตอนไหน จำไม่ได้ หนักเข้าเดินจงกรมมั่งนั่งบ้าง ก็รวบรวมสติปัญญาไว้แล้วมานอนกำหนดไป

     วันนั้นรู้ อ้อ หลับมีสติเป็นอย่างนี้นี่เอง ในตอนแรกได้ยินคนคุยกัน เราก็นอนกำหนดของเราไปเรื่อย ๆ แล้วก็ภาวนาพองหนอยุบหนอไป ได้ยินอะไรก็กำหนดไปเรื่อย ๆ กำหนดไปซักเพลินหลับ ๆ ตื่น ๆ ได้ยินแว่ว ๆ ถึงได้ตั้งสติเข้าไว้แต่อย่าไปเพ่งมาก ถ้าเพ่งมากไม่หลับ ไม่ต้องเพ่งมากหรือเพ่งชัดจนเกินไป ตั้งสติไว้อย่างเดียวก็หายใจเรื่อยไปว่าพองหนอยุบหนอไปเรื่อย ๆ

     สักประเดี๋ยวมันจะเผลอแว้บ พอยุบก็จับได้เลย เหมือนเราขับรถลงสะพานวูบลงไป แล้วก็ทวารหูปิดไม่ได้ยินเสียง แต่ข้างในรู้หมด หลับมีสติอย่างนี้นี่เอง แล้วทีนี้เราจะสังเกตตัวเราหลับนอน ๓ ชั่วโมง เหมือนนอนชั่วโมงเดียวไวมาก เราจะพลิกตัวกี่ครั้งรู้หมด รู้พลิกแบบใหม่อย่างไหนรู้หมด จะนอนตะแคงหรือนอนหงายนอนคว่ำ รู้หมดเลย

    พอถึงเวลาถึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาตามเวลาเลย อ้อ นี่หลับมีสติอย่างนี้เอง นอนมีสติ เราจะเห็นวินัยพระจะจำวัด ต้องปิดบังเสียให้ดี ปิดห้องหับเสียให้ดี ไม่งั้นมีอาบัติโทษ ข้อเท็จจริงก็หมายความว่า เดี๋ยวประชาชนเขาจะเห็นนะเอาศีลออกมาให้เขาดู ก็ลำบาก ถ้าหลับมีสติศีลไม่ออก หลับมีสติ ตื่นมีสติ ขอให้ท่านฝึก ๆ ไปได้ผลอย่างนี้ ในหลักบอกหลับมีสติ ตื่นมีสติ หลับมีสติได้อย่างไร หลับพลิกตัวกี่ครั้งรู้หมด รู้ข้างใน

     ถ้าวิปัสสนาข้างในต้องรู้นะ เผลอไปดิ่งพสุธา มีแต่สมาธิ ไม่ใช่วิปัสสนาแน่ ต้องรู้ข้างในพร้อมข้างนอกไม่รู้ อย่างที่พระสมาบัตินี่ข้างในรู้ หมด ข้างนอกไม่รู้ อันนี้มันก็ขึ้นอยู่ที่ฝึก นอนที่โล่ง ๆ ก็ได้ จะพลิกตัวกี่ครั้งรู้หมด แล้วใครจะเรียก คำเดียวต้องตื่นได้เลย มันจะบอก สตินี่สำคัญ



      อย่างบางท่านทำได้หลับบนเก้าอี้ได้เลย หายใจยาว ๆ วางจิตไว้ที่ตรงคอ อยากจะหลับ วางจิตไว้หลับเลย ถ้าง่วงเหลือเกินก็วางจิตไว้ที่หน้าผาก แล้วกำหนดไป ไม่หลับดูหนังสือต่อไปได้ ลองดูได้ถ้าสมาธิดี จับจุดปั๊บถูกต้อง ๆ ถ้าเราอยากจะหลับหายใจยาว ๆ สงบจิตไว้ วางไว้ที่คอที่เรากลืนน้ำลาย หลับเลย บนเก้าอี้ก็ได้ที่เรานั่งรถโงกไปทางนี้ ๆ ไม่มีสติ ถ้ามีสติดีในการหลับ รับรองถ้านั่งรถหรือนั่งเก้าอี้ ท่านจะหลับ เฉย ๆ ไม่โงกแน่นอน สติบอกพร้อม ถึง ๕ นาทีตื่นทันที ดีกว่าไปนอนที่บ้านตั้งหลายชั่วโมง อันนี้มีคนทำได้หลายคน

     บางทีเราเขียนหนังสืออยู่บนเก้าอี้จะพักผ่อน อยู่ที่ทำงานแล้วนั่งเขียนหนังสือเสร็จแล้วก็วาง ก็ค่อย ๆ นั่งเก้าอี้ธรรมดา ๆ หายใจยาว ๆ พองหนอ ยุบหนอ แล้วอธิษฐานจิตว่าข้าพเจ้าขอหลับ ๕ นาที สำรวมจิตไว้ที่ลูกกระเดือกที่กลืนน้ำลาย ตั้งสติหายใจยาว ไม่เกินอึดใจหลับเลย แล้วมันจะวูบลงไป พอถึง ๕ นาที ตื่นตามธรรมดาแล้วสดชื่น แต่ต้องวางจุดให้มันถูก

     แต่ก่อนที่จะหลับได้นี่ ต้องฝึกมานานนะ ต้องฝึกเรื่อย ๆ ให้มันเข้าออกได้ ทีนี้ถ้าง่วงเหลือเกินเราอยากจะอยู่ต่อไปโดยไม่ง่วง ตั้งสติไว้หน้าผากแล้วหายใจยาว ๆ ตั้งสติไว้หน้าผากแล้วหายใจยาว ๆ ตั้งสติไว้ที่หน้าผากเดี๋ยวตาแข็ง สมาธิไว้ที่นี่ ดูหนังสือต่อไปได้เลย อีก ๑ ชั่วโมงแล้วค่อยนอน

     ถ้าวันไหนฟุ้งซ่านมาก ไม่ใช่ไม่ดีนะ ดีนะ มันมีผลงานให้กำหนด แล้วก็ขอให้ท่านกำหนดเสีย ฟุ้งซ่านก็กำหนดตั้งอารมณ์ไว้ดี ๆ กำหนดฟุ้งซ่านหนอ แล้วหายใจยาว ๆ ไม่ต้องไปพองยุบ วิธีแก้หายใจยาว ๆ ตามสบาย แล้วภาวนาในใจ ฟุ้งซ่านหนอ ๆ สักชั่วครู่หนึ่งท่านจะหายแน่นอน บางคนดูหนังสือปวดลูกตา อย่าให้เขาเพ่งที่จมูก ต้องลงไปที่ท้องหายทุกราย บางทีปวดกระบอกตาดูหนังสือไม่ได้เลย ตาแดงร่านลงมากำหนดที่ท้องมันก็จะว่องไวคล่องแคล่วขึ้น แล้วจะหายไปเอง .......

    แล้วก็ขอให้ท่านกำหนดเสีย ฟุ้งซ่านก็กำหนดตั้งอารมณ์ไว้ดี ๆ กำหนดฟุ้งซ่านหนอ แล้วหายใจยาว ๆ ไม่ต้องไปพองยุบ วิธีแก้หายใจยาว ๆ ตามสบาย แล้วภาวนาในใจ ฟุ้งซ่านหนอ ๆ สักชั่วครู่หนึ่งท่านจะหายแน่นอน บางคนดูหนังสือปวดลูกตา อย่าให้เขาเพ่งที่จมูก ต้องลงไปที่ท้องหายทุกราย บางทีปวดกระบอกตาดูหนังสือไม่ได้เลย ตาแดงร่านลงมากำหนดที่ท้องมันก็จะว่องไวคล่องแคล่วขึ้น แล้วจะหายไปเอง ......."

โดย พระครูภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตตธัมโม)
นายเสรี ลพยิ้ม บันทึก "จับหลับ"



ที่มา http://www.namjaithai.com/modules.php?name=News&file=article&sid=248
ขอบคุณภาพจาก http://www.kanphotoclub.com/,http://www.rd1677.com/,http://www.rmutphysics.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2011, 10:05:46 am »
0
"การจับหลับ" .....
ตามที่หลวงพ่อจรัญ ได้กล่าวมานั้น......ป้ายังมีข้อสงสัยอยู่บางประการ...ดังนี้
      ๑. ในกรณีที่รู้ตัวอยู่ตลอด..แม้ขณะหลับก็ตาม...แล้วเผอิญไปรับรู้ในสิ่งต่างๆรอบข้างโดยบังเอิญ(ไม่ไช่ฝันน๊ะ)แล้วเราก็รู้ตามไปในเรื่องนั้นๆ จะเรียกว่ามีสติอยู่หรือไม่(หมายถึงว่าเข้าใจความหมายในสิ่งที่เข้าไปรู้นั้น)..
       ๒. แล้วในขณะเวลาที่เริ่มจะตื่น (ลำดับการตื่นขึ้นมารับรู้)มีขั้นตอนหรือไม่???เพราะ ป้าเคยมีประสพการณ์ที่ค่อยๆตื่นออกมาทีละน้อยๆ...ก่อนที่จะมีการปรุงแต่งความคิดเต็มตัว(เพราะบางที-ขั้นการตื่นมาแล้วป้าไม่รู้เลยว่า ป้าเป็นใคร,ชื่ออะไร,มีสถานะเป็นอย่างไร-แล้วจึงค่อยออกมารับรู้ได้เต็มๆ..)
       ๓. อันนี้อาจไม่เกี่ยวกับสติหรือการ"จับหลับ"ซักเท่าไหร่-คือการฝันซ้อนฝัน..?? มันเป็นการปรุงสัญญาซ้อนสัญญาหรือไม่??...
บันทึกการเข้า

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2011, 10:13:37 am »
0
ดีใจ คะ ไม่เห็น ป้าปชาบดี มาเยี่ยมตั้งนานแล้วคะ
 :s_hi: :25:


สำหรับ หนู คิดว่า การจับหลับ เป็น สติ เบื้องต้นเท่านั้นคะ เป็น สติ ที่ควรจะมีสำหรับ ผู้เริ่มฝึกสติ เป็นกำลังใจของคนที่ง่วง และ ยังหลับคะ ส่วน สติ แท้ ต้องประกอบด้วยญาณ คือความรู้แจ้ง มิใช่ประกอบด้วย สังขาร (ปรุงแต่ง ) คะ เพราะว่า ถ้าปรุงแต่งอยู่ ก็ยังไม่พ้น ลูบ ของ อวิชชาิ

   ดังนั้น สติ พัฒนา สัมปชัญญะ และ สัมปชัญญะ พัฒนา สมาธิ ก็พัฒนา ยถาภูตญาณ เป็นลำัดับไปคะ

  ควรมิควรแล้วแต่ จะแนะนำนะคะ

  :25: :25: :25: :58:
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2011, 02:28:42 pm »
0
สบายๆ ตามฐานะทางธรรมแห่งตนจ้ะ.....ที่ป้าไม่ได้เข้ามาโพสต์ก็เพราะสายปฎิบัติป้าไม่เหมือนกับสายมัชฌิมา,ปัญหาที่ป้าพบก็ไม่เหมือนกันจึงไม่ค่อยมีประโยชน์ซักเท่าไหร่......แต่ป้าก็ติตามกระทู้ต่างๆอยู่เสมอ.ๆ....น๊ะ...
แล้วหนู "หน่ออ่อน"(ไม่ยอมแก่)...ล่ะสบายดีอยู่เหรอ??..แล้วก้าวหน้าทางธรรมไปถึงไหนแล้ว.....???
ส่วนที่หนูให้คำตอบ มาน่ะ ป้าไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่...เพราะป้าไม่ได้ศึกษาจากหนังสือหรือพระไตรปิฎก...มากนัก(รวมทั้งไม่ได้ปฎิบัติตามขั้นตอนเหมือนสายมัชฌิมาด้วย)..จะดีมากถ้ากรุณาช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆและเห้นได้ปฎิบัติได้จริงๆ....สาธุไว้ร่วงหน้าน๊ะจ๊ะ... ??? :34: :bedtime2: :015: :043: :043: :043:
บันทึกการเข้า

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 04:08:50 pm »
0
ขอเสียง คนที่ปฏิบัติตามแนว หลวงพ่อจรัญ มาตอบหน่อยครับ กับเรื่องจับหลับ



เอาแบบแนวกรรมฐาน ที่ผมฝึกก็แล้วกันนะครับ ค่อยรออ่านของท่านอื่นต่อไปครับ

๑. ในกรณีที่รู้ตัวอยู่ตลอด..แม้ขณะหลับก็ตาม...แล้วเผอิญไปรับรู้ในสิ่งต่างๆรอบข้างโดยบังเอิญ(ไม่ไช่ฝันน๊ะ)แล้วเราก็รู้ตามไปในเรื่องนั้นๆ จะเรียกว่ามีสติอยู่หรือไม่(หมายถึงว่าเข้าใจความหมายในสิ่งที่เข้าไปรู้นั้น)..


ถ้าเป็นผู้เจริญ สติ จน พัฒนาเป็นมหาสติ  ก็คือ มีสัมปชัญญ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา อันนี้เรียกว่า สติ ตื่นอยู่เสมอครับ เป็นการมีสติ ที่ไม่พลั้งเผลอเลย เท่าที่ผมได้พบเจอจะมีกับพระสงฆ์ ที่ฝึก เนสัชชิกธุดงค์ อยู่ทุกวัน หลาย ๆ ปี เลยครับ ท่านไม่ต้องนอนหลับ ผมเคยลองแล้วท่านหลับตา สองนาที เหมือนนอนหลับ ผมก็พูด ไปหลายเรื่อง พอท่านลืมตาขึ้นมา ผมถามว่า ผมได้พูดเรื่องอะไรบ้าง ท่านก็ตอบได้ทุกอย่างเลยครับ สำหรับท่านที่ฝึกเนสัชชิกธุดงค์ จะมีสภาวะ สัมมชัญญญะ สมบูรณ์ ครับที่ผมเจอมาที่นับถือมากที่ พัทลุง เขาชัยสนครับ เดี๋ยวนี้ท่านมรณะ ภาพไปแล้วครับ สรุปก็คือ ผู้มีสติ จนสมบูรณ์ เรียกว่า สัมปชัญญะ เกิดอยู่ตลอดเวลาครับ

 ส่วนกรณีของศิษย์สาย หลวงพ่อเทียน ผมก็เคยเจออยุ่บ้างครับ ฝึกสติกับการเคลื่อนไหวไปเสมอจนมีสติตามรู้ อิริยาบถ ถึงขั้นหลับ เหมือนไม่หลับ
 
  ส่วนตัวนะครับ ผู้ฝึกสติ จะไม่มีอาการฝัน แต่ระดับหมดความฝันนั้น จะต้องเป็นพระอริยะุบุคคลขั้นพระอนาคามีครับ อันนี้กล่าวตามเกณฑ์ ของพระไตรปิฏกนะครับ

  ส่วนในกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ นั้นผมได้ฟังจากพระอาจารย์ว่า เมื่อหลับก็มีสติรู้ว่า หลับด้วยลมหายใจเข้าหรือออก และเมื่อตื่น ก็รู้ว่าตื่นด้วยลมหายใจหรือหายใจออก ดังนั้นระดับผู้ฝึกอานาปานสติ ก็มีสัมปชัญญะด้วยเช่นกันครับ

  หากจะกล่าวในแนวปฏิบัติแล้ว บางครั้งเรื่องที่รับรู้ขึ้นมาในระหว่างทีี่่หลับ ที่เข้าใจว่าไม่ฝันนั้น คืออะไร ในความรู้สึกของผม ว่าอย่าไปสนใจให้มากเลยครับ ให้สนใจการมีสติ สัมปชัญญะในธรรมเครื่องตรัสรู้ดีกว่าครับ คือ ให้เจริญ สติ สัมปชัญญะ มองเห็นความเกิด ความเสื่อม ให้ได้ เพื่อบรรเทา ทำลายกิเลส ดีกว่าครับ

  สนทนาเป็นเพื่อนเท่านี้นะครับ

   :s_hi:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 12:08:52 pm »
0
"การจับหลับ" .....
ตามที่หลวงพ่อจรัญ ได้กล่าวมานั้น......ป้ายังมีข้อสงสัยอยู่บางประการ...ดังนี้
      ๑. ในกรณีที่รู้ตัวอยู่ตลอด..แม้ขณะหลับก็ตาม...แล้วเผอิญไปรับรู้ในสิ่งต่างๆรอบข้างโดยบังเอิญ(ไม่ไช่ฝันน๊ะ)แล้วเราก็รู้ตามไปในเรื่องนั้นๆ จะเรียกว่ามีสติอยู่หรือไม่(หมายถึงว่าเข้าใจความหมายในสิ่งที่เข้าไปรู้นั้น)..
       

      ผมตอบไม่ไ้ด้ครับ แต่จะคุยเป็นเพื่อน ขณะที่ผมหลับ ผมเคยฝัน ขณะที่ฝัน ผมก็รู้สึกตัวดีว่า เรากำลังฝัน เรากำลังอยู่ในความฝัน

"การจับหลับ" .....
ตามที่หลวงพ่อจรัญ ได้กล่าวมานั้น......ป้ายังมีข้อสงสัยอยู่บางประการ...ดังนี้
   
       ๒. แล้วในขณะเวลาที่เริ่มจะตื่น (ลำดับการตื่นขึ้นมารับรู้)มีขั้นตอนหรือไม่???เพราะ ป้าเคยมีประสพการณ์ที่ค่อยๆตื่นออกมาทีละน้อยๆ...ก่อนที่จะมีการปรุงแต่งความคิดเต็มตัว(เพราะบางที-ขั้นการตื่นมาแล้วป้าไม่รู้เลยว่า ป้าเป็นใคร,ชื่ออะไร,มีสถานะเป็นอย่างไร-แล้วจึงค่อยออกมารับรู้ได้เต็มๆ..)
       

       ผมเคยอ่านหนังสืออยู่ดีๆ ก็วูบลงไป คล้ายๆจะหลับ แต่ไม่ได้สัปหงก รู้สึกตัวอีกที ก็สงสัยว่า ตัวผมเป็นใคร
ชื่ออะไร มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เรื่องนี้ผมเคยถามพระอาจารย์แล้ว ได้คำตอบว่า "ตกภวังค์"


"การจับหลับ" .....
ตามที่หลวงพ่อจรัญ ได้กล่าวมานั้น......ป้ายังมีข้อสงสัยอยู่บางประการ...ดังนี้
     
       ๓. อันนี้อาจไม่เกี่ยวกับสติหรือการ"จับหลับ"ซักเท่าไหร่-คือการฝันซ้อนฝัน..?? มันเป็นการปรุงสัญญาซ้อนสัญญาหรือไม่??...


    ตอบไม่ได้ขอรับ แนะนำให้ไปอ่านกระทู้นี้ครับ

     วิญญาณ “นุ่งขาวห่มขาวสะอาดวาววับ” มากราบลาหลวงพ่อ
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3561.msg12762#msg12762

     "ภวังคจิต คือ อะไร"
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4174.msg15484#msg15484


      :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 02:55:24 pm »
0
ขอบคุณมาก...ที่ให้ความกระจ่างเรื่อง ภวังค์...กับการออกมารับอารมณ์...
เพราะป้าเป็นอยู่ตรงนี้บ่อยมากๆ...แล้วป้าก็ขอถามต่ออีกเรื่อง..เรื่องการตกภวังค์นี่...บางครั้งนานมากๆ(เป็นชั่วโมงเลยก็มี)...เราจะทำอย่างไรให้มันออกมารับอารมณ์ได้มั่งล่ะ...ซึ่งน่าจะเรียกว่าป้าติดอยู่ในนี้นานมาก...แล้วนานๆมันจะโพล่ออกมารับข้างนอกซักทีอ่ะ...(สังเกตุได้ว่าเวลาไปอยู่ในนั้นมันนิ่งมากเหมือนเวลามันวิ่งช้ามาก,ไม่ต้องมีธุระมากในการรับรู้หรือคิดปรุงแต่ง....ไม่สว่างไม่มืดแต่มันเบาใจดี-แต่เวลามันออกมารับอารมณ์ ดูเหมือนว่าเวลามันจะเดินไปเร็วมากและเหมือนว่าใจเราจะต้องรับธุระมากมาย)............
ส่วนในข้อแรกที่จิตเราไปรู้ข้างนอกน่ะป้าไม่ไช่หมายถึงฝัน..(เพราะป้าเข้าใจ..ในลักษณะที่เราฝันก็จะมี...การที่ฝันแล้วเราสามารถจำความฝันออกมาได้และบางครั้งรู้ว่าฝันแต่จำเอาออกมาไม่ได้)
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: "จับหลับ" หลับอย่างมีสติ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 07:12:36 pm »
0
ขอบคุณมาก...ที่ให้ความกระจ่างเรื่อง ภวังค์...กับการออกมารับอารมณ์...
เพราะป้าเป็นอยู่ตรงนี้บ่อยมากๆ...แล้วป้าก็ขอถามต่ออีกเรื่อง..เรื่องการตกภวังค์นี่...บางครั้งนานมากๆ(เป็นชั่วโมงเลยก็มี)...เราจะทำอย่างไรให้มันออกมารับอารมณ์ได้มั่งล่ะ...ซึ่งน่าจะเรียกว่าป้าติดอยู่ในนี้นานมาก...แล้วนานๆมันจะโพล่ออกมารับข้างนอกซักทีอ่ะ...(สังเกตุได้ว่าเวลาไปอยู่ในนั้นมันนิ่งมากเหมือนเวลามันวิ่งช้ามาก,ไม่ต้องมีธุระมากในการรับรู้หรือคิดปรุงแต่ง....ไม่สว่างไม่มืดแต่มันเบาใจดี-แต่เวลามันออกมารับอารมณ์ ดูเหมือนว่าเวลามันจะเดินไปเร็วมากและเหมือนว่าใจเราจะต้องรับธุระมากมาย)............
ส่วนในข้อแรกที่จิตเราไปรู้ข้างนอกน่ะป้าไม่ไช่หมายถึงฝัน..(เพราะป้าเข้าใจ..ในลักษณะที่เราฝันก็จะมี...การที่ฝันแล้วเราสามารถจำความฝันออกมาได้และบางครั้งรู้ว่าฝันแต่จำเอาออกมาไม่ได้)

    คำถามข้อแรกของป้า ผมกลับไปทบทวน ผมว่า ป้าอาจไม่ได้หลับจริง อาจจะอยู่ในสมาธิก็ได้ เมื่อมีสมาธิระดับหนึ่งก็อาจไปรับรู้บางสิ่งบางอย่างได้

    ส่วนเรื่องการแก้การตกภวังค์ ผมสังเกตว่า เมื่อก่อนผมไม่เคยฝึกสติ จึงมีอาการตกภวังค์ พอผมเริ่มหันมาฝึกสติ อาการด้งกล่าวก็ไม่เกิดอีกเลย สรุปก็คือ ต้องเจริญสติครับ

    อาการของป้าท่าทางจะหนักกว่าผม สงสัยป้าต้องใช้อิริยาบถเป็นตัวช่วย ลองเดินจงกรมดู หรือไม่ก็เคลื่อนไหวตามแนวของหลวงพ่อเทียน
    แค่คุยเป็นเพื่อนนะครับ ผมไม่ใช้ผู้รู้ แค่เสนอทางเลือกเท่านั้น

     :49:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ