ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร  (อ่าน 8870 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ISSARAPAP

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 129
  • โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย สัจจะธรรมแท้ ไม่มีสูตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2010, 01:44:09 pm »
0
ผมเองเป็นไม่ได้เป็นศิษย์ ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

แต่กำลังเริ่มมีความสนใจ ในการภาวนา ตามแบบนี้

วันนี้ได้ไปอ่านที่หน้าข่าวสารครั้งแรก และได้เจอหน้าข่าวสารตรงนี้

เพื่อน ๆ สมาชิก คลิ๊กไปอ่านดูได้

http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=news&file=readnews&id=13


อ้างถึง
ความ คิดเห็นที่ 1
พุธ ที่ 12 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 21:53:10
เท่าที่ทราบที่วัดพลับมีการสอนและสอบอารมณ์และมีการยืนยัน
ว่าไค รผ่านขั้นไหนๆลองย้อนกลับไปถามว่าที่นี่มีไครสอบผ่านบ้าง
จะได้มั่นใจว่า สามารถส่งอารมณ์เราได้ เรื่องพวกนี้อย่าหลงเชื่อไคร
ง่ายๆ ในพระไตรปิฏกไม่มีกล่าวอย่าเพิ่งเชื่อนะครับ
โดย : อ    ไอพี : 125.26.7.88

ความคิดเห็นที่ 2
เสาร์ ที่ 29 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 20:40:42
คห.ที่ 1 มันเกี่ยวกับอะไรกับหัวข้อ ด้านบน
โพสต์ให้มันถูกห้อง ด้วย
โดย : ฮ    ไอพี : 222.123.221.234

ความคิดเห็นที่ 3
อาทิตย์ ที่ 30 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 09:31:47
เรา ว่า คห.ที่ 1 น่าจะไปโพสต์ในบอร์ด เลยนะจะได้ร่วมแสดงความจริงใจ ของจริง ไม่ต้องโฆษณา ของแท้ไม่ต้องกลัวโดนต้ม ไม่มีในพระไตรปิฏก ยิ่งโง่ใหญ่ เราเห็นหนังสือเล่มสีน้ำเงิน ที่หลวงพ่อพระครู ท่านพิมพ์มาให้อ่าน ล้วนอ้างกับพระไตรปิฏกทั้งเล่ม
โดย : ก    ไอพี : 222.123.204.198

แต่เกรงว่า เพื่อน ๆ สมาชิก จะไม่ได้อ่าน ก็ขอนำวางไว้ให้อ่านกันก่อนเดี๋ยวผมจะเข้ามาวิจารณ์ให้ฟัง
ในฐานะที่ไม่ได้เป็นศิษย์ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ


บันทึกการเข้า
ความสันโดษ เป็นบรมสุข

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
"ทำยังไงดี - คิดไม่ดีอยู่เรื่อย"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2010, 10:38:20 am »
0
"ทำยังไงดี - คิดไม่ดีอยู่เรื่อย"
คัดลอกมาจากคอลัมภ์ จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๙๕


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังทรมานใจอยู่ กับความคิด สกปรก ความทรงจำแย่ๆ หรือความลับน่าอับอายเกินกว่าจะให้ใครรู้ว่าเราก็คิดอย่างนี้ได้ ขอให้ทราบเถิดว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยว ยังมีคนอีกทั้งโลกเป็นเพื่อน ที่สำคัญว่าคิดบ้าๆอยู่คนเดียวก็เพราะไม่ได้เปิดอกนั่งจับเข่าคุยกันเท่า นั้นแหละ ใครเล่าจะอยากขุดเอาความคิดเพี้ยนๆเลอะเทอะในหัวของตัวเองออกมาแฉให้คนอื่น ร่วมรับทราบไปด้วย

คลื่นความคิดที่กระทบใจแล้วรบกวนเรา ได้แรงๆนั้น ไม่จำเป็นต้องชั่วช้าสามานย์อะไรมาก แค่คำด่าบางคำที่ใครบางคนมาปล่อยเรี่ยราดตามเว็บบอร์ด โดยชี้นำให้คิดโยงคำด่านั้นไปหาคนที่คุณนับถือ ก็เพียงพอแล้วที่มันจะกลายเป็นอาถรรพณ์ ตามมาวนเวียนหลอกหลอนคุณ ยั่วยุให้คุณนึกถึงคำวิปริตนั้นวันละเป็นสิบเป็นร้อยรอบ คล้ายมีวิญญาณร้ายแฝงอยู่ในสมองของคุณก็ไม่ปาน


ลองมาหาคำตอบกันดูครับ ความเข้าใจถึงที่มาที่ไป ตลอดจนอุบายต่อไปนี้ อาจช่วยคุณให้พ้นทุกข์จากความคิดชนิดบาดใจได้ในเวลาไม่นานนัก

ความคิดไม่ดีมาอยู่ในหัวเราได้อย่าง ไร? และที่ร้ายกว่านั้น ทำไมมันถึงเกิดขึ้นบ่อยๆ ทั้งที่เราเกลียดความคิดแบบนั้นแทบดิ้นตาย?

คำตอบคือใจเราเป็นธรรมชาติอย่าง หนึ่ง ที่เข้าไปติด เข้าไปข้อง หรือเข้าไปยึดมั่นสิ่งที่รักแรงหรือเกลียดแรงได้อย่างเหนียวแน่น และความยึดมั่นอย่างเหนียวแน่นนั้นเอง เป็นตัวการผลิตความคิดถึงสิ่งที่ยึดได้เรื่อยๆ

ขอให้นึกถึงบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง คุณเห็นเขาหรือเธอปรากฏตัวก็อยากถลาเข้าไปกอดรัดให้เต็มอ้อมทันที อาการอยากกอดรัดทางกายนั้นแหละ สะท้อนให้เห็นอาการยึดติดทางใจประมาณเดียวกัน

ส่วนบุคคลอันเป็นที่ชิงชังยิ่ง สำหรับคุณ เมื่อใดปรากฏตัว คุณจะอยากเบือนหน้าเดินหนี แต่เหมือนเขายังเป็นเงาติดตามคุณมาทุกฝีก้าวไม่ห่าง นั่นเพราะใจคุณไม่เคย "ทิ้ง" เขาเลย หรือถ้าคุณเกลียดจัด แทนที่จะอยากเดินหนี คุณอาจอยากถลาเข้าไปเขย่าคอ ชกหน้า ตบตี หรือทำร้ายร่างกายเขาเลยด้วยซ้ำ นี่ก็เป็นเครื่องแสดงอาการยึดของจิตอีกแบบ เกลียดกันแล้วก็ยึดว่าต้องทำลายล้าง ต้องทำให้เจ็บปวดในทางใดทางหนึ่ง ปล่อยให้ลอยนวลสบายๆไม่ได้

เมื่อรักแรงแล้วคิดถึงบ่อยๆย่อมเป็น สุขสดชื่น แต่หากเกลียดแรงแล้วคิดถึงบ่อยๆ ย่อมเป็นทุกข์ อึดอัด ไม่สบายใจ กระวนกระวาย หรือกระทั่งพาลพาโลเกลียดตนเองไปด้วย ค่าที่รู้สึกว่าความคิดคือเรา เราคือความคิด เมื่อความคิด "น่าเกลียด" ตัวเราก็ย่อมน่ารังเกียจไปด้วย


อาการที่สะท้อนความทรมานใจกับความ คิดในหัวแต่ละครั้งอาจแตกต่างกันไป ถ้าอาการน้อยหน่อยก็อาจแค่ขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่กับตัวเอง แต่ถ้าอาการหนักหน่อยก็อาจทำท่าฟึดฟัดงุ่นง่าน จนคนอยู่ใกล้ต้องหันมาถามว่า "เป็นอะไร?" อย่างอดสงสัยไม่ได้

ยิ่งหากคุณรู้สึกว่าความคิดที่เสียด แทงหัวหูอยู่นั้น เป็นเรื่องน่าอับอายเกินกว่าจะปรึกษาใคร เรียกว่าไม่กล้าเปิดเผยกันตลอดชีวิต ก็ยิ่งย้ำติดและคิดหนัก เช่น คำหยาบที่โยงเข้ากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือความคิดทางเพศกับญาติเชื้อ แม้คุณจะปฏิเสธว่าไม่ได้คิด ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อยากอยู่ข้างเดียวกับความคิดพรรค์นั้น มันก็ยังคงวนเวียนเยี่ยมหน้ามาไม่เลิก ราวกับมีศัตรูตามราวีตนอยู่ในตัวเอง

หลายคนต้องทรมานใจเป็นสิบๆปี เพียงเพราะไม่รู้ว่าจะเอาความคิดบัดสีบัดเถลิงหรือความคิดลบหลู่สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ออกไปจากหัวของตัวเองได้อย่างไร บ้างก็หาทางออกด้วยการเข้าหมู่เข้าพวกกับคนถ่อยไปเลย จะได้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาให้รู้แล้วรู้รอด อันนี้นับเป็นทางออกที่มืดมนที่สุด และเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าความคิดในหัวไม่ใช่แค่ลมแล้งเล็กน้อย ถ้าแกะไม่ออก ถอดไม่หมด ชีวิตก็อาจพลิกจากด้านสว่างเข้าสู่ด้านมืดโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ผมขอให้คุณๆมองอย่างนี้ครับว่า ยิ่งหาทางแก้ความคิดไม่ดี ก็ยิ่งตอกย้ำให้กลุ้มว่าเราคือเจ้าของความคิดไม่ดี อย่าไปทำอย่างนั้นเลย หาทางเป็นคนละข้างกับมันดีกว่า

วิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยาก และสามารถทำได้จริง คือ ในแต่ละครั้งที่ความคิดเลวร้ายมันผุดขึ้นในหัว ให้ดูว่ามันมาเอง เราไม่ได้เชิญ!

ก็ถ้าเราไม่ได้พามันมา เราไม่ได้เป็นฝ่ายเชื้อเชิญมัน แล้วทำไมมันจะต้องเป็นความรับผิดชอบของเราด้วย?

สิ่งใดเกิดขึ้นในหัวของเรา ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นตัวเราหรือของเราเสมอไป ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณไปเก็บตกคำด่าที่สาดกระจายเรี่ยราดตามเว็บบอร์ด แล้วเอามานั่งกลุ้ม เพราะคำนั้นดันติดแน่นฝังหัว ผุดขึ้นในหัวของคุณบ่อย ทั้งๆที่คุณไม่อยากให้มีคำนั้นขึ้นมาในโลก อย่างนี้ให้ตั้งหลัก ตั้งสติ แล้วคิดย้อนศรง่ายๆว่าคำหยาบเป็นวจีทุจริตของคนอื่น เป็นการจงใจสื่อสารที่ชั่วร้ายของคนอื่น มันไม่ใช่คำของคุณมาแต่แรก คุณไม่ได้ชั่วร้ายอย่างเขา แต่คุณ "เคราะห์ร้าย" ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปเกิดความเกลียดคำๆนั้นเข้า จิตเลยเกิดอาการยึดคำนั้นไว้เต็มเหนี่ยวด้วยพลังมืดของความเกลียด ดังกล่าวไว้แล้วแต่ต้น

เมื่อยึดมากก็หวนกลับมาคิดมาก และยิ่งรู้สึกคล้ายเป็นเจ้าของความคิดเสียเองมากขึ้นทุกที การทึกทักหลงยึดว่าความคิดนั้นๆเป็นของคุณ เป็นตัวคุณนั่นแหละ ก่อความรู้สึกผิดขึ้นมา จนกระวนกระวายเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ

พอพิจารณาอย่างละเอียดเท่านี้ คุณจะเริ่มโล่งใจ สบายใจขึ้น อย่างน้อยก็มีแก่ใจจะรับมือกับความคิดเลวร้ายอย่างถูกต้อง นั่นคือ ไม่ไปให้ "อาหาร" หล่อเลี้ยงมันด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ซ้ำซ้อน ทั้งในทางคล้อยตามมันไป และในทางต่อต้านปฏิเสธจะไม่ยอมให้มันมา

ทำไมจึงไม่ควรต่อต้าน? อย่าง ที่ผมกล่าวแล้วว่ายิ่งเกลียดแปลว่ายิ่งยึด ส่วนการต่อต้านก็คือยิ่งตอกย้ำความเกลียดเข้าไปใหญ่ แล้วเมื่อไรใจจะเลิกยึดได้เล่า?

ท่าทีที่ถูกต้องคืออย่างไร? ประการแรกคุณต้องยอมรับตามจริงโดยดุษณีว่าความคิดเลวร้ายมันเกิด ขึ้นในหัวของคุณ และนอกจากจะเห็นมันมาเองโดยคุณไม่ได้เชิญแล้ว ยังต้องเห็นว่ามันไปเองได้โดยไม่ต้องขับไล่อีกด้วย ขอแค่ใจเย็น เฝ้าดู และไม่แคร์ว่าจะต้องดูกี่ร้อยกี่พันรอบก็ตาม

พอคุณเฉยๆในอาการยอมรับว่ามันมาเอง และไปเอง ขณะนั้นจิตของคุณจะประกอบด้วยสติ รับตามจริง รู้ตามจริง ไม่หลอกตัวเอง บ่อยครั้งเข้าในที่สุดจะได้ข้อสรุปเป็นความสบายใจอย่างมีสติรู้ ว่ามันไม่ใช่เรา เราไม่เห็นจะต้องไปให้ความร่วมมือหรือต่อต้านมันเลยแม้แต่นิดเดียว

 ผลพลอยได้ที่ตามมาคือคุณจะไม่ใช่พวก รักแรงเกินไป เกลียดแรงเกินไป คือรักได้และเกลียดได้นะครับ แต่ไม่เกินขีด ไม่แปรความรักและความเกลียดมาเป็นความยึดแน่นให้เป็นทุกข์เปล่า

ดังตฤณ
จากบทความ "ทำยังไงดี"
นิตยสาร Miracle of Life ฉบับ เดือนพฤษภาคม ๕๓

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

lastman

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 158
  • สระบุรี มีอรอยพระพุทธบาทมากที่สุด.................
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2010, 10:19:58 pm »
0
อ้างถึง
พุธ ที่ 12 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 21:53:10
เท่าที่ทราบที่วัดพลับ มีการสอนและสอบอารมณ์และมีการยืนยัน
ว่าไค รผ่านขั้นไหนๆลองย้อนกลับไปถามว่าที่นี่มีไครสอบผ่านบ้าง
จะได้มั่นใจว่า สามารถส่งอารมณ์เราได้ เรื่องพวกนี้อย่าหลงเชื่อไคร
ง่ายๆ ในพระไตรปิฏกไม่มีกล่าวอย่าเพิ่งเชื่อนะครับ
โดย : อ    ไอพี : 125.26.7.88

นาย อ ต้องการอะไร ไปอ่านมาแล้วตามลิงก์ ที่จริง ก็ไม่อยากจะตำหนิ อะไรแต่เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 2
คือ ไปโพสต์ ตรงนั้นมันไม่เกี่ยวกับห้วข้อ ทางที่ดี มาว่ากันในหน้าเว็บบอร์ด ดีกว่านะครับจะได้ มีคนช่วยตอบข้อข้องใจ อีกอย่างการไปโพสต์อย่างนั้น นะ คนมีธรรมะ ( เป็นคนจริง )ไม่ทำอย่างที่คุณ อ ทำหรอกครับ เพราะการกระทำไม่เปิดเผย หลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ใช่วิสัยของนักภาวนา

 :s_hi:
บันทึกการเข้า
อนันตริยกรรม ๖ พึงงดเว้น
มีเพื่อนบอกว่าคุณจะเลวอย่างไรก็ได้ แต่อย่าทำผิดศีล ๕

ทิด...คนหนึ่งที่นับถืออาจารย์

axe

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 187
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2010, 07:42:13 pm »
0
อ้างถึง
คนมีธรรมะ ( เป็นคนจริง )ไม่ทำอย่างที่คุณ อ ทำหรอกครับ

 :13: :13: :13: :13:

กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ทำไมพระสงฆ์ในปัจจุบันไม่รู้จัก
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=430.0


การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=454.0


ผมว่า คุณ อ ควรจะอ่านความคิดเห็นส่วนนี้ ด้วยนะครับ
ถ้าใจคับแคบ ก็จะต้องหมดนะครับ

ว่าแต่ พระอาจารย์ ที่สอน กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีองค์เดียวหรือครับ ในประเทศไทย

ศิษย์ อื่น ๆ ปฏิบัติกันไม่ได้เลยหรือครับ ต้องกลับไปวัดราชสิทธาราม ที่เดียว ผมเองไปมาก็หลายครั้งแล้ว ปีนี้

ไปร่วมปฏิบัติธรรม ก็หนึ่งครั้งแล้ว ถึงไม่แสดงตัวว่าเป็นอย่างไร
แต่ก็ไม่เห็นด้วย ที่สมาชิก ที่ กทม. จะมาทำอย่างนี้

ถ้าไม่ปฏิบัติ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จะไม่สามารถ สำเร็จคุณธรรมในศาสนานี้ได้หรือครับ ?

คุณ ISSARAPAP ผมรอการวิเคราะห์อยู่ครับ
บันทึกการเข้า
หนุ่มหล่อ ใจดี AXE

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2010, 12:35:02 am »
0
 

ผู้หมวด.....ใจเย็น   :03:

ผู้หมวด......ใจดี     ;)


จริงจัง ๆ  เลยนะคร้้า เขาเลิกประัท้วงกันแล้ว

คนเคยเข้ากะ เนาะ เลยหลับยาก ตั้งใจมาฟังธรรมะ ( แต่ปิดสถานีแล้ว เมื่อคืนฟังได้ทั้งคืน )

 :25:

บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2010, 07:10:30 pm »
0
ผมเอง ก็เป็นศิษย์ ขึ้นกรรมฐาน ที่วัดราชสิทธาราม ยังไม่เคยคุยกับพระอาจารย์สนธยาเป็นทางการ

ผมอ่าน ก็ งง ๆ อยู่นะ

ก็แปลกดีนะ ที่เท่าที่ผมศึกษา เว็บนี้ดูอ่าน และ ฟัง ไปสัมผัส กับพระอาจารย์ สนธยา มาแล้ว

เห็นท่านก็สนับสนุน ญาติธรรม ไปวัดราชสิทธาราม แต่ข้อความที่ผมอ่านดู แล้วมันก็แปลก ๆ

เหมือนกับมีศิษย์ หลวงพ่อพระครูบางส่วนจะต่อต้าน พระอาจารย์สนธยา ผมไปตามอ่านจากเว็บพลังจิต

โดยเฉพาะ หัวข้อ ของคุณที่ใช้นามว่า บุญยสิกขา ถ้าจำไม่ผิดนะ กับ vchakron อะไรประมาณนี้นะครับ

ที่ผมอ่านดูแล้วจะมีลักษณะใช้ข้อความโจมตี
---------------------------
( ขออนุญาตลบข้อความช่วงนี้ออก นะจ๊ะ  ดูแล้วไม่ค่อยจะเหมาะสม ธัมมะวังโส )
--------------------------------------


ผมอ่านก็ งง  ๆ
--------------------------------------------------
( ขออนุญาตลบข้อความช่วงนี้ออก นะจ๊ะ ดูแล้วไม่ค่อยจะเหมาะสม ธัมมะวังโส )

--------------------------------------------------
แต่โดยส่วนตัวผมนั้น ไม่คิดเป็นเช่นนั้น เพราะผมได้ไปฟังท่านอบรม ญาติธรรม ที่ปฏิบัติธรรมในเดือน ก.พ.แล้ว

เห็น จริยาวัตร ท่านแล้ว ยิ่งตอนท่าน พา ญาติธรรม ปฏิบัติภาวนา ด้วยแล้ว ยิ่งรู้เลยว่า พระอาจารย์ เป็นเพชรที่

หายากมาก ๆ เท่าที่ผมได้ฟังพระ สอนกรรมฐาน มาท่านสอน กรรมฐานแบบที่ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าจะมีพระ

สอนอย่างนี้ ท่านควบคุมระวัง มาก ๆ เตือน

ผมว่า ต้องลองไปฟังท่านสอนตอนนั่ง กรรมฐาน ดูครับ

โดยส่วนตัวผมว่า หาพระที่สอนอย่างนี้ ยากมาก

ยิ่งช่วงนี้ ผมนึกถึงท่าน พยายามแวะเวียนไปหาท่านที่วัด แต่ท่านก็ไม่ได้กลับมาที่วัด มีแต่ประกาศให้ศิษย์ ปฏิบัติ

กรรมฐานไปอย่างต่อเนื่อง ผมไปล่าสุดก็วันวิสาขบูชา ก็ไม่พบท่าน ศาลาก็ปิด รู้ว่าพระอาจารย์ยังไม่กลับ

==============================================================

ผมว่า เพชร ยิ่งหายากอยู่แล้ว

พระที่ปฏิบัติ กรรมฐาน ก็หายาก ( ยิ่งปฏิบัีติได้ด้วย )

ยังไง ผมว่า รอคุณ อิสรภาพ วิจารณ์หน่อยก็ดีครับ

เพราะเท่าที่ผมติดตาม อ่านหัวข้อ คุณ อิสรภาพ แล้ว ผมว่าคงน่าอ่าน ครับ

 :25: :25: :25: Aeva Debug: 0.0006 seconds.Aeva Debug: 0.0005 seconds.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 02, 2010, 10:21:35 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

นิรนาม_พุทโธ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 48
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2010, 11:52:51 pm »
0
นานา จิตตัง

ผู้ฝึกจิต ดีแล้ว ย่อมอยู่เป็นสุข

=======================

เป็นอีกสาเหตุ หนึ่งครับ ที่พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ สูญไปในปัจจุบัน ทั้ง ๆ ที่น่าจะมี พระสงฆ์ รู้จักและปฏิบัติมาก ๆ  เพราะ พระอาจารย์ ที่มาเรียน และ ปฏิบัติได้แล้ว ไม่ออกมาเป็น กระบอกเสียงให้กับ พระธรรมครับ

----------------

ถ้า ผม เป็นพระอาจารย์ ผมจะไม่ทำอะไร ให้เลยกับ ........

อาจจะเห็นแก่ตัว แต่ จะอยู่เฉย ๆ นั่งภาวนา นอนภาวนา ยืนเดิน ภาวนา ของตนเอง ก็พอ

=======================================================

แต่ถ้า ทำอย่างนี้ แล้ว ก็จะไม่มีวันนี้ ที่เป็นแบบนี้ครับ

 :021: :021:
ต้องขอ อโหสิกรรม ก่อนครับ ที่ปล่อยไก่ แสดงความคิดเห็น วันนี้เข้า กะดึก ครับมีเวลานิดหน่อย

=================================================================
บันทึกการเข้า
เมื่อ......แสงธรรม เจิดจรัส สว่างจ้าในใจ เมื่อนั้น ก็จะเห็นพระพุทธองค์
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา ตถาคต

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2010, 11:04:55 pm »
0
ความไม่เข้าใจ ส่วนหนึ่งก็เกิดจาก การไม่ชี้แจงครับ หรือ ไม่ได้พูดกัน

เวทีธรรมะ เป็นเวที แห่งความอิสระในความคิด

ส่วนการภาวนา นั้นต้องเลือกจริต ด้วยนะครับ

อุดมปัญญา อุดมภาวนา อยู่ที่การสิ้นกิเลส พ้นจากสังสารวัฏฏ์

ช่วงตอนหัวค่ำ ผมได้ฟัง คำสอนเรื่อง กรรมฐาน หลวงพ่อพุูธ

มีข้อความที่สำคัญว่า มีสติรู้ ตัวรู้ ไม่ใช่ตัวคิด
บันทึกการเข้า

nongmai

  • สมาชิก
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2010, 08:31:59 pm »
0
อ้างถึง
มีสติรู้ ตัวรู้ ไม่ใช่ตัวคิด

 :25:
บันทึกการเข้า

chatchay

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 244
  • เกิดเป็นคนต้องมีดี บวชทั้งทีต้องสร้างดีให้กับตน
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2010, 11:51:22 pm »
0
 :welcome:

 ??? ??? :hee20hee20hee:
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
โทษอันใดที่ข้าพเจ้าล่วงเกินแล้วต่อพระรัตนตรัย ด้วย กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ขอพระรัตนตรัย โปรดจงงดซึ่งโทษล่วงเกินนั้นแก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

ISSARAPAP

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 129
  • โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย สัจจะธรรมแท้ ไม่มีสูตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
มาวิจารณ์ ให้แล้วนะครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2010, 12:16:05 am »
0
แท้ที่จริง แล้ว ก็ไม่อยากจะวิจารณ์ อะไรครับ เพราะการวิจารณ์ ก็เป็นสังขตธรรม มโนสังขาร วจีสังขาร กายสังขาร

ที่เป็นรูปแบบแห่งสมมุติ หลุมดำ และ หลุมพราง ของเจ้ากิเลสตัวอ้วน ที่อิ่มหมี พีมัน ไปด้วย ราคะ โทสะ และโมหะ

แต่เวทีความคิด ก็เป็นแค่การนำเสนอ และ อธิบายไขข้อข้องใจกันครับ

เวทีธรรมะ ไม่ใช่ เวทีนักโต้วาที

เวทีธรรมะ เป็น เวทีที่นักภาวนา มาแนะนำสหธรรมิก ด้วยกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ

ผมเห็นจุดนี้ คุณเห็นจุดนั้น

ผมนั่งรถยนต์ไป คุณนั่งรถไฟมา

ผมมาจากทิศเหนือ คุณมาจากทิศใต้

ถ้าเป้าหมาย เป็นที่เดียวกันแล้วไซร้่

ก็จะไม่มีอะไรที่ขัดข้อง กันหรอกครับ

ขึ้นอยู่ที่ วิธีการ ที่จะไปถึง สะดวก เร็ว ช้า ต่างกัน ตามอุปนิสัย และ บารมี

ถ้าเป็นนักภาวนาจริง ก็น่าจะเป็นอย่างนี้ครับ



แต่ถ้าเป็นนัก โต้วาทีแล้ว ควรอ่านสิ่งที่คุณ nathaponson โพสต์ให้อ่านนะครับว่าคืออะไร

อ่านแล้วอย่าเลือดขึ้นหน้า เพราะมิฉะนั้น แล้วก็เป็นทาส ตัวอ้วน นะครับ

นักโต้วาทีชี้แจงประเด็นได้สวยหรู เหมือน ยก เรื่อง ทอง กับ อุจจาระ อันไหนดีกว่ากัน

สุดท้ายด้วยวาทะแล้ว อุจจาระ ดีกว่า ทอง

แต่พอเอา ทอง กับ อุจจาระ มาให้เลือกเพื่อจะให้เอากับบ้าน เข้าจริง ๆ นักโต้วาทีที่ว่า อุจจาระ ดีกว่าทอง ก็ไม่

เอาอุจจาระกลับบ้าน หรอกครับ ต้องถือ ทอง กลับบ้านแน่ ๆ

ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจ ในเรื่อง สมมุติ บัญญัติ เข้า ถึง สภาวะ แห่ง สัจจะ ก็จะเห็นเรื่องนี้อย่างเข้าใจ

ผมไปในวัด มักจะได้ยินสำนวนนี้บ่อย ๆ ว่า

คนรู้ธรรมะ ชอบเอาชนะผู้อื่น

คนมีธรรมะ ชอบเอาชนะตัวเอง



จะให้เข้าใจ ง่าย ๆ นะครับ ว่าการศึกษาหลักปฏิบัติในทางศาสนาพุทธ แล้วเป็นการศึกษาเพื่อหยุดการศึกษา

เป็นการหยุด ยั้งตัวเองออกจาก สภาวะแห่งจิต และ สภาวะแห่งภพ

มีเป้าหมาย คือ นิพพาน

มีตัวเราเป็น ผู้ไป

มีกัลยาณมิตร เป็น ผู้บอก

มีพระธรรม เป็น ระบบ

มีพระพุทธ เป็น ผู้นำมาเปิดเผย

มีพระสงฆ์ เป็น ตัวอย่าง




การใช้ วิธีการ เป็นเครื่องชี้นำนั้น ทางเดียวไม่ได้ ต้องมองตามจริต ผู้ปฏิบัติ

ถึงแม้ผมจะเห็นความสำคัญของ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ว่าเป็นกรรมฐานที่ควรฝึก

แต่พื้นฐานการภาวนาของผมนั้น ก็ออกไปทางเซ็น ซึ่งระบบการฝึกสมาธิ ของพระมหายาน นั้นผมว่าไม่ธรรมดาครับ เท่าที่ผมได้ไปสัมผัสเช่นที่ประเทศจีน ที่เจดีย์ เมืองโซกาย ผมได้เข้าไปกราบไหว้ พระอาจารย์เว่ยหล่าง

ซึ่งสังขารของท่าน ที่นั่งมรณะภาพมา 1200 กว่าปีมานี้ ท่านก็ยังนั่งยิ้มอยู่ในท่าเดิม

===================================================

ดังนั้นถ้า เราเคารพองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจริง ๆ ก็ปฏิบัติ ตามที่พระองค์ทรงสอน

แต่วิธีการสอน ของพระองค์ ก็ไม่เหมือนกันทุกกลุ่ม

=====================================================
เช่น เวลาพระองค์ ไปสอน ปัญจวัคคีย์ ท่านก็ไปแสดงธรรม เรื่อง อริยสัจจะ 4 ( พระสูตรนี้ ได้พระโสดาบัน )

เวลาแสดงธรรม ให้เป็นพระอรหันต์ พระองค์ แสดง อนัตตลักขณสูตร

ตอนที่พระองค์ได้โปรด พระยส พระองค์ก็ทรงแสดงฤทธิื์ื กำบัง ให้ลูกไม่เห็น พ่อ และ พ่อ ก็ไม่เห็น ลูก และแสดงหัวข้อธรรมเดียวกัน

ตอนที่พระองค์ ไปโปรด ชฏิล 3 พี่น้อง พระองค์ก็แสดง ฤทธิ์ 2500 กว่าวิธี

ตอนที่พระองค์ โปรด องคุลีมาล ก็ใช้ ฤทธิ์

ตอนที่พระองค์ ทรงโปรด พระคิริมานนท์ พระองค์ก็สอน สัญญา 10 แทน

ตอนไปโปรดชาว กุรุ ก็สอน มหาสติปัฏฐาน

ตอนโปรด พระจูฬปันถก ก็ให้ภาวนาแต่ ผ้าขี้ริ้ว ๆ ( รโช หรณัง )

ตอนโปรด พระอดีตช่างทอง ก็ให้ เพ่งดอกบัว

นี้แค่ยกตัวอย่างให้ฟัง และพิจารณาว่า พระพุทธเจ้า องค์เดียวกันท่านสอนการภาวนาหลากวิธี

ทำไม พระองค์ไม่สอนวิธี เดียวกัน เพื่อให้เกิดมาตรฐานของผู้ปฏิบัติ

ผมว่าเพื่อน สมาชิก ก็คงคิดได้นะครับว่า ต้องเป็นไป จริต การสั่งสม บารมี ทางธรรม ของผู้ภาวนาด้วย


ดังนั้น สำหรับความคิดเห็น ที่หนึ่งนั้น ข้อความหมายความตามความคิดผมนั้น ต้องการให้ท่านไปเชื่อที่ คณะ 5 วัดราชสิทธาราม สอนอย่างเชื่อ พระอาจารย์สนธยา ผู้ที่โพสต์อย่างนี้มี อคติ กับผู้ภาวนาผู้อื่น ๆ เหมือนจะบอกว่ามีแต่ที่นี่เท่านี้ที่ฝึกสำเร็จ ผู้อื่นฝึกไม่สำเร็จหรอก ถ้าไม่มาฝึกที่นี่ ผมได้ไปที่ คณะ 5 วัดราชสิทธารามมาัแล้ว อ่านหนังสือ ประวัติหลวงพ่อสุก มีการแต่งตั้ง วัดตามหัวเมือง ต่าง ๆ ตามพระราชคำสั่งจากในหลวง ให้วัดนั้นเป็นผู้แจ้งห้องนี้ วัดนี้เป็นผู้รับภาระห้องนี้ ซึ่งมีจำนวนศิษย์ กรรมฐานจากรายชือ ทั้งวัดและ พระ มากมาย เลย

ผมลองไปตามที่รายชื่อวัดปรากฏ ในเขตอยุธยา ลพบุรี และคุยสนทนา กับเจ้าอาวาส

เป็นเรื่องที่แปลกใจเหมือนกันว่า มีตำนานคำสั่งแต่งตั้งขนาดนี้ ทำไมวัดที่ได้รับการแต่งตั้งถึงปัจจุบัน ไม่มี

พระรูปไหน รู้จักพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ กันเลย

พระที่ผมเจอส่วนใหญ่ จะแนะนำกรรมฐาน ให้ผมอยู่ 3 พวกเลยครับ

1.แนะนำให้ภาวนา พุทโธ กับ ลมหายใจ เข้า และ ออก ท่านก็อธิบายว่าแค่นี้ก็พอ
2.แนะนำให้ภาวนา อานาปานสติ ก็อธิบายให้ตามดู ลมหายใจเข้า และ ออก
3.แนะนำให้ภาวนา มหาสติปัฏฐาน ก็อธิบายกันเป็นคุ้ง เป็นแคว


ดังนั้น ผมเห็นความแตกต่างในเรื่องการฝึกภาวนาแล้ว หลักการออกไปทาง ปริยัติ คือ ให้สมมุติ บัญญัติ กับผมใหม่ บางท่าน บางรูป บอกต้องศึกษา พระอภิธรรม จะได้ไม่โดนใครหลอกง่าย ๆ ( ก็งง เหมือนกันว่ายังห่วงโดนหลอกอีก )

ดังนั้น ความคิดเห็นที่ 1 ผมอ่านแล้วผมคิดว่าใจคับแคบ ไม่ประกอบด้วยความหวังดีจริง เพียงต้องการปกป้องในสิ่งที่ตนเองคิด ผมไปวัดราชสิทธาราม ผมเดินคุยกับพระวัดราชสิทธารามแล้ว ไม่เห็นรูปไหนจะสนใจการปฏิบัติ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีแต่คุยเรื่อง อภิธรรม องค์หนึ่งละที่เห็น นอกนั้นผมเห็นคุยกันแต่เรื่องโลก

ผมนั่งกรรมฐาน อยู่บนห้องหน้ารูป หลวงปู่ทองในห้องเล็กอยู่ ร่วมชั่วโมง ก่อนลงมาบูชา หนังสือกับมาอ่าน
คุยกับพระที่นั่น ท่านก็บอกว่า แค่ ตจปัญจกะ กรรมฐานก็พอแล้ว ( อืม น่าคิด )

ผมคิดว่า ถ้าใจกว้างสักนิด พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จะไม่สูญ

ถ้าผู้ฝึกกรรมฐาน มีปณิธาน เป้าหมายที่ พระนิพพาน จริง ๆ

เฮ้อ ร่ายมากไปแล้ว ในวันนี้ ทุกอย่างก็เป็น สมมุติสัจจะ

 ;)

ที่จริงผมรอ คุณ natthaponson วิจารณ์ก่อน แต่เห็นนำของคนอื่นมาโพสต์แล้ว ก็ถือว่า วิจารณ์ แล้วก็แล้วกันนะ

ส่วนตัวผมนับถือว่า คุณ natthaponson นั้นเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ ดูแลกระทู้มาได้ดีจริง ๆ เป็นกลางด้วย

นับถือมากกับความรู้

 :015: :015: :015: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2010, 06:28:04 pm โดย patra »
บันทึกการเข้า
ความสันโดษ เป็นบรมสุข

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2010, 08:34:35 pm »
0
ขออนุโมทนากับทุกท่านที่แสดงความเห็นปกป้องครูบาอาจารย์

ก่อนที่คุณอิสรภาพจะนำเรื่องนี้มาตั้งเป็นกระทู้ ผมอ่านข้อความนี้มาก่อนแล้ว

และได้ปรารถกับพระอาจารย์ว่า ผมไม่อยากตอบกระทู้นี้เลย

เนื่องจากคนโพสต์ข้อความนี้ มีความสับสนในการตั้งประเด็น


และไม่รู้ว่าเค้าอยู่ฝ่ายไหน โดยเฉพาะกับประโยคที่กล่าวว่า

"ในพระไตรปิฏกไม่มีกล่าว อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ"

ถ้าเค้าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา พูดแบบนั้น จะเป็นการกล่าวตำหนิพวกเค้าเองด้วย

:smiley_confused1:

ถ้าจะให้วิเคราะห์ต่อไป เค้าอาจจะแค่โยนหินถามทาง

อยากรู้ว่า เราจะแสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไร

หรือไม่ก็ เค้าอาจรู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าเราจะตอบโต้อย่างไร

แค่ต้องการพิสูจน์สมมุติฐานของเค้าเอง ว่าถูกหรือเปล่า

แต่การที่ผู้โพสต์ไม่ยอม สมัครเป็นสมาชิก

เท่ากับแสดงว่า มีเจตนาที่ไม่ดีซ่อนไว้(ตามความเชื่อของฝ่ายเรา)

ผมเห็นว่า  อย่าไปถือสาเค้าเลย เค้าแค่ขาดสติไปชั่วขณะ

สติที่เค้ามีอยู่ยังไม่ใช่สัมมาสติ ถ้าเค้าทำความเพียรให้มากขึ้น

ทิฏฐิของเค้าอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ ไม่อยากคิดว่าเค้าเป็นผู้ร้าย

คนเราเมื่อยังเป็นปุถุชนอยู่ มันต้องมีช่วงเวลาใดเวลาหนึ่่ง

ที่ไม่สามารถเจริญสติได้ ตัวผมเองก็เคยเป็นบ่อย(ขาดสติ)

จิตของคนเราเป็น "อนัตตา" ไม่มีตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้


ในเมื่อเราห้ามไม่ให้มันคิดไม่ได้ ต้องหาวิธีไม่ให้มันล้นออกมาทาง วาจา และกาย

การงดเว้นเบียดเบียนใจและกายผู้อื่น คือ ศีล นั่นเอง จะช่วยได้ครับ

การตอบกระทู้ การตั้งกระทู้ ควรกระทำไปพร้อมกับการเจริญสติ

เรื่องนี้ ตัวผมเอง ก็พยายามทำอยู่ แต่ยอมรับว่า ทำได้บ้างทำไม่ได้บ้าง

หากการตอบกระทู้ของผมที่ผ่านมา ทำให้บางท่านขุ่นใจ หรือไม่ค่อยเห็นด้วย

หนักนิดเบาหน่อย ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้


 :25: :49: :bedtime2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 15, 2010, 08:29:05 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ