ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องจริง ความสุขที่ยิ่งกว่าการให้  (อ่าน 2346 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
เรื่องจริง ความสุขที่ยิ่งกว่าการให้
« เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 04:25:28 pm »
0
รู้สึกว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่นำไปเป็นรถละครในรายการช่อง 7 ด้วยคะ

ชายหนุ่มคนหนึ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ หน้าตาหล่อเหลา มีการศึกษาสูง
มีงานการที่มั่นคง มีความก้าวหน้าในอนาคต มีคนรักใคร่รอบข้าง
เรียกว่าใครเห็นใครรู้เป็นต้องอิจฉา
วันหนึ่งชีวิตที่สมบูรณ์แบบของชายคนนี้ยิ่งสุดยอด สมบูรณ์แบบมากขึ้น
เมื่อพี่ของเขายอมควักเงินก้อนโต ซื้อรถสปอร์ตคนงามเป็นของขวัญให้กับน้องชาย
ไม่ต้องบอกว่าเจ้าตัวจะยินดีปรีดาแค่ไหน เพราะรถสปอร์ตสุดหรูคันนี้
ชายหนุ่มนายนี้ฝันอยากได้ เป็นเจ้าของมาตลอดชีวิต เมื่อความฝันเป็นจริง
สิ่งที่ชายหนุ่มคิดทำอย่างแรกคือ ขับเจ้ารถสปอร์ตตระเวน

ไปตามที่ต่างๆให้สมอยาก ใจหนึ่งต้องการทดสอบแรงม้าที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องเครื่อง
ว่าจะมีเรี่ยวแรงเต็มกำลังแค่ไหน อีกใจก็แน่นอนว่า ใครที่มีรถสวยแรงขนาดนี้
คงไม่บ้าเก็บเอาไว้ดูตามลำพัง ที่โรงรถในบ้าน ขับโฉบเฉี่ยวไปมาสักพัก
ก็ถึงเวลาพักทั้งเครื่องและคน ชายหนุ่มจัดแจงจอดรถข้างถนน
ระหว่างกำลังพักผ่อนอิริยาบถ
เขาเห็นเด็กคนหนึ่งเดินลูบๆคลำๆรอบรถคันงาม
ด้วยกิริยาท่าทีชื่นชอบรถสปอร์ตอย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มรู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ สิ่งที่หลายต่อหลายคนใฝ่ฝัน
เขาเดินยืดอกมาที่รถ พร้อมพูดจาทักทายเด็กคนนั้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
ดั่งขุนศึกผู้ชนะสงคราม
"ระวังหน่อยน้อง เดี๋ยวเป็นรอย" เขาบอก
เด็กคนนั้นมองไปยังชายหนุ่มเจ้าของเสียง ก่อนจะพูดตอบ
"รถของพี่เหรอ สุดยอดจริงๆ"
"แน่นอน" เขาตอบ
"พี่ซื้อมาราคาเท่าไหร่" เด็กคนเดิมถาม
"คนอื่นอาจต้องควักสตางค์ซื้อเอง แต่พี่ไม่ต้อง
เพราะพี่ชายพี่ซื้อให้เป็นของขวัญ"
"โอ้โห! ดีจัง ผมอยาก...." เด็กคนเดิมพูดตะกุกตะกักชะงักในตอนท้าย
ชายหนุ่มคิดในใจว่า เด็กคนนี้คงไม่กล้าพูดต่อ
เพราะที่เด็กอยากจะพูดแต่ยั้งปากยั้งคำไว้นั้น คงต้องการบอกว่าอิจฉาตัวเขาเอง
อยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง

...มีพี่ที่แสนดีซื้อรถสุดหรูให้เป็นของขวัญ...
แต่สิ่งที่ชายหนุ่มคิดกลับผิดถนัด
"โอ้โห ดีจัง ผมอยาก....เป็นอย่างพี่ชายของพี่จัง" เด็กคนนั้นพูด
"ผมจะได้ซื้อรถให้น้องชายผมนั่งบ้าง" ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง
ในสังคมทุกวันนี้ ที่ใครๆตั้งหน้าตั้งตาแต่จะรับ หรือบางคนไม่ยอมรอ
ใช้กำลังความได้เปรียบแย่งชิงของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง
แต่เด็กคนนี้กลับคิดสวนทางใครๆ
...เขาอยากเป็นผู้ให้ มากกว่าเป็นผู้รับ...
.... ชายหนุ่มมองเด็กด้วยความรู้สึกทึ่งและพูดออกมาทันทีว่า
"อยากนั่งรถเล่นกับฉันไหม"
"ครับ อยากมากเลย"
หลังจากขับรถเล่นอยู่พักหนึ่ง เด็กชายหันมาพูดด้วยดวงตาวาวแวว
"คุณจะกรุณาขับรถไปหน้าบ้านผมได้ไหมครับ" ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ
เขาคิดว่าเขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มต้องการอะไร
เขาคงต้องการให้เพื่อนบ้านเห็นว่าเขาได้นั่งรถคันโตกลับบ้าน
แต่ชายหนุ่มคิดผิดอีกแล้ว
"คุณจอดตรงบันไดนั่นล่ะครับ" เขาวิ่งขึ้นบันได
จากนั้นสักครู่จึงกลับมาแต่เขาไม่ได้วิ่ง เขาอุ้มน้องตัวเล็กๆที่ขาพิการมาด้วย
และวางน้องลงที่บันไดล่าง กอดไว้และชี้ไปที่รถ
"นั่นไง บัดดี้ รถคันที่พี่เล่าให้ฟัง พี่ชายของเขาซื้อให้เป็นของขวัญ
เขาไม่ต้องเสียตังค์เลย สักวันหนึ่งพี่จะซื้อให้น้องบ้าง
น้องจะได้ดูของสวยๆงามๆด้วยตาของน้องเองเหมือนที่พี่เคยเล่าให้ฟัง"
ชายหนุ่มลงจากรถ แล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นรถ
พี่ชายปีนตามขึ้นมานั่งใกล้และแล้วทั้งสามก็เริ่มออกเดินทาง
ชายหนุ่มรู้แล้วว่า "ความสุขยิ่งกว่าการให้" หมายถึงอะไร

บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: เรื่องจริง ความสุขที่ยิ่งกว่าการให้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 05:38:09 am »
0



         ก่อนอื่นต้อง ขอขอบคุณ สำหรับเรื่องเล่า คุณอลิสา เข้าใจหามา ผมนั้นชอบมาก ถ้ามองตามจริงแล้วคน

ส่วนใหญ่ในสังคมเราชอบที่จะรับและคิดว่าการได้มาเป็นความสุข เมื่อไม่ได้มาดั่งใจก็ขวนขวายที่จะเอามาให้ได้

ดั่งใจหวัง เมื่อไม่ได้ไม่ให้ก็ต้องฉกฉวย ช่วงชิง ได้ด้วยชอบไม่ชอบว่ากันไป

       หากเราพิจารณาถึงความสุขกันถึงแก่นจริงๆคงพิจารณาได้จากเรื่องเล่า ยกตัวอย่างจากเรื่องจริงที่ผมทำอยู่

ขณะนี้ คือผมกับเพื่อนที่นับถือกันได้ร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือบทสวดชยมงคลคาถาแจกเป็นธรรมทานโดยหาเจ้า

ภาพรายย่อยๆเข้าร่วมจนครบยอดสั่งพิมพ์ สิ้นค่าใช้จ่ายราวหมื่นเศษๆ ผมเองนั้นคิดอยู่ว่าการนำหนังสือสวดมนต์

ไปแจกใครหนออยากจะรับบ้าง เมื่อรับไปแล้วเขาจะใส่ใจไปวางลืมหรือเปล่า จึงพินิจพิจารณาเลือกที่จะแจกคือ

แจกอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อนำไปแจกตามสถานที่ต่างๆทั้งธนาคาร, หน่วยงานราชการ, ห้าง, สถานประกอบ

การ, โรงเรียน สิ่งที่ผมได้คือ คำกล่าว ขอบคุณ และรอยยิ้ม สวัสดี คุณอลิสาทราบไหมครับว่า ความสุขเกิดแก่

ใจ ณ ตรงนั้นทันที คำว่าให้คือ ความสุข และสิ่งที่ตามมาคือ กำลังใจ ซึ่งเสมือนหนึ่งชัยชนะแห่งชีวิตดั่งบทมนต์

ชยมงคลคาถานั้นนั่นเทียว ทำให้เราเข้าใจชีวิต เห็นคุณค่าของชีวิตว่า เราอยู่นี้มีประโยชน์มิใช่แก่เรา แต่เราสร้าง

คุณให้คุณแก่ผู้อื่น ให้ความสุข รอยยิ้ม และไมตรี แก่เขาแล้วสนองตอบกลับมาทันที ทำให้เราคิดได้ว่าหากจิต

เป็นกุศลเพียงคิดแล้วตามด้วยทำ กุศลนั้นเกิดทันที เราจะมีแต่มิตรไม่มีศัตรู ไม่มีคำกล่าวร้ายมีแต่คำขอบคุณ

และขอบคุณ มิใช่คนเดียว แต่ทุกคนที่เราหยิบยื่นเข้าหา ฝากถึงเพื่อนๆชาวธรรมหากอ่านกระทู้นี้แล้วคงเข้าใจนะ

ครับว่า การให้อันกอปร์ด้วยเจตนาอันเป็นกุศลแล้วคือ ความสุข ที่หาได้เพียงแค่เรารู้จัก หยิบยื่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 29, 2010, 06:22:59 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา