ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - นัยนา
หน้า: [1] 2
1  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เมื่อหลวงพ่อถูกถามว่า “ศาสนาพุทธ สอนอะไร?” เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 07:59:31 am
ครั้งหนึ่ง เคยมีชาวตะวันตก ที่หวังแจ้งเกิดในหลักธรรม ได้ยิงคำถามตรงประเด็น แบบไม่ถนอมน้ำใจคนที่ต้องตอบ ว่า
“ศาสนาพุทธ สอนอะไร?”
แทนการตอบคำถาม หลวงพ่อท่านได้ชี้นิ้ว ไปที่ก้อนหินเขื่องบนกระดาน
“ยกก้อนหินนั้น ขึ้นมาสิโยม”
ฝรั่งนายนั้น ทำตาม
ที่หลวงพ่อ บอก
“หนักไหม” ท่านถาม
“หนักครับ” ฝรั่งเจ้าของปุจฉา ที่ตนเองคิดว่าลึกล้ำ ร้องตอบ
หลวงพ่อ จึงไขปริศนาธรรมนั้น ว่า
“อะไรมันหนัก ก็วางลงเถิด สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน มีเพียงเท่านี้”

หลวงพ่อชา สุภัทโท


จากคุณ    : click2




ขอบคุณภาพจาก http://www.arayanewspaper.com
2  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ร่วมกันรำลึกสดุดี ปิยมหาราช 23 ต.ค. ของทุกปีิ เมื่อ: ตุลาคม 23, 2012, 12:10:42 pm

23 ตุลาคม ''วันปิยมหาราช''

วันที่ 22 ตุลาคม 2555 วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" ซึ่งมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน" ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม เป็น "วันปิยมหาราช"

ในวันปิยมหาราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จฯ ไปวางพวงมาลา ณ พระบรมรูปทรงม้าซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นประจำทุกปี



ประวัติความเป็นมาของ "วันปิยมหาราช"

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกให้กับประเทศไทยครั้งใหญ่หลวง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงประชวรเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์ที่เป็นที่เคารพรักของทวยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการ ทั้งในการปกครองบ้านเมือง และพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า

ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทางราชการได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวันที่ระลึกสำคัญของชาติเรียกว่า "วันปิยมหาราช" และกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ

เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยซึ่งต่อมาเป็น "กรุงเทพมหานคร" ร่วมด้วยกระทรวงวัง ซึ่งต่อมาเป็น "สำนักพระราชวัง" ได้จัดตกแต่งพระบรมราชานุสาวรีย์ ตั้งราชวัติฉัตร 5 ชั้น ประดับโคมไฟ ทอดเครื่องราชสักการะที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันปิยมหาราช ครั้งแรกเกิดขึ้นถัดจากปีที่ได้ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานถวายแล้วเสด็จฯ ไปถวายพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะที่พระบรมราชานุสาวรีย์


 ที่มาเนื้อหา
http://www.rd1677.com/rd_bangkok/top_bangkok.php?id=93311
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ทำอย่างไร ที่จะไม่ให้ จิต คิด ฟุ้งซ่าน คะ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2012, 09:25:48 am
ทำอย่างไร ที่จะไม่ให้ จิต คิด ฟุ้งซ่าน คะ
  คือ แบบว่า จิต ไม่หยุดคิด บางครั้ง คิด จน ต้องเอามือ ก่ายหน้าผาก เลยคะ ทำไมจิตถึงไม่หยุดคิด เสียทีคะ

มีวิธีใดที่ ทำให้จิต หยุดคิดอย่าง ดีบ้างคะ

 ขอบคุณมากคะ


 
4  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การสอบกรรมฐาน กับ การแจ้ง กรรมฐาน เหมือนกันหรือไม่คะ เมื่อ: กันยายน 22, 2012, 12:38:42 pm
การสอบกรรมฐาน กับ การแจ้ง กรรมฐาน เหมือนกันหรือไม่คะ

  การสอบกรรมฐาน กับ การแจ้งกรรมฐาน ทำไมต้องมี คะ ใครเป็นผู้ริเริ่ม ส่วนนี้คะ

  :c017:
5  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วันนี้วันพระเชิญ เพื่อน ๆ ทุกท่าน เจริญธรรมกันคะ เมื่อ: กันยายน 15, 2012, 08:16:14 am


วันนี้วันพระเชิญ เพื่อน ๆ ทุกท่าน เจริญธรรมกันคะ
 :25: :25: :25:
6  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / วันนี้เป็นวัน พระ ขอเชิญเพื่อน ๆ ร่วมปฏิบัติธรรม ฟังธรรม สร้างบารมีกันตามสมควร เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 07:38:14 am

ขอบคุณภาพจาก คุณ sawwalux
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7623.0


วันนี้เป็นวัน พระ ขอเชิญเพื่อน ๆ ร่วมปฏิบัติธรรม
 ฟังธรรม สร้างบารมีกันตามสมควร


 :25: :25: :25:
7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เศร้า!! พ่อแม่กลั้นใจบริจาคอวัยวะลูก ช่วยต่อชีวิตให้เด็กคนอื่น เมื่อ: มิถุนายน 20, 2012, 09:24:48 am
เศร้า!! พ่อแม่กลั้นใจบริจาคอวัยวะลูก ช่วยต่อชีวิตให้เด็กคนอื่น




ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://hilight.kapook.com

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่รายงานเรื่องราวสุดสะเทือนใจของพ่อแม่ชาวจีน ซึ่งกำลังร่ำไห้จูบลูกสาววัย 2 ขวบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะนำเธอไปผ่าตัดเพื่อนำตับและไตไปบริจาคเพื่อต่ออายุให้กับผู้ป่วยเด็กอีก 2 คน หลังจากที่ลูกสาวใกล้จะสิ้นลมเนื่องจากป่วยเป็นโรคสมองพิการและขาดเลือด

รายงานระบุว่า เหตุสะเทือนใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน เวลาประมาณ 17.30 น. ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองชื่อเฟิง เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ประเทศจีน หนูน้อย ซีวั่ง (แปลว่า ความหวัง) วัย 2 ขวบ ป่วยเป็นโรคสมองพิการและขาดเลือด ต้องความทุกข์ทรมานเข้า-ออกโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน และเสียค่ารักษาแล้วมากกว่า 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท)

ในที่สุดแพทย์ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของหนูน้อยซีวั่งได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของเธอก็ไม่ได้สูญเปล่า เพราะพ่อแม่ได้ตัดสินใจนำตับไตของลูกสาวไปบริจาคเพื่อต่อลมหายใจให้กับเด็กคนอื่น ๆ โดยก่อนที่แพทย์จะนำหนูน้อยเข้าห้องผ่าตัด พ่อแม่และญาติต่างก็ร่ำไห้ปานจะขาดใจ พร้อมกับจูบร่ำลูกสาวอย่างอาลัยอาวรณ์ในวาระสุดท้ายของเธอ





ทั้งนี้ หวังเสี่ยวเฟย แม่ของหนูน้อยระบุด้วยว่า เรากลั้นใจบริจาคอวัยวะของลูกให้กับเด็กคนอื่นแทนที่จะนำศพลูกสาวไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ดังนั้นพวกเราจึงตั้งชื่อให้กับลูกว่า ซีวั่ง แปลว่าความหวัง ซึ่งก็หมายความว่า ลูกสาวได้สร้างความหวังในชีวิตให้กับเด็กคนอื่น ๆ ที่กำลังรอรับความช่วยเหลืออยู่

ขณะนี้อวัยวะที่บริจาคได้ช่วยเหลือชีวิตเด็ก 2 คนที่โรงพยาบาลเทียนจินซึ่งมีอาการปลอดภัยดีแล้ว โดยครอบครัวของผู้ได้รับบริจาครู้สึกตื้นตันใจอย่างสุดซึ้งสำหรับการบริจาคอวัยวะของหนูน้อยซีวั่งในครั้งนี้

นอกจากนี้ หลังจากที่มีผู้ทราบเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้ ก็มีชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเห็นใจและต้องการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเด็กน้อย แต่พวกเขาก็ปฏิเสธ พร้อมกับระบุว่า พวกเขายังหนุ่ม-สาว และสามารถทำมาหาเลียงชีพได้ด้วยตนเอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินจากผู้อื่น และสิ่งที่เขาทำก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น
8  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / วันวิสาขบูชา ที่วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน เวียนเทียนตามหลวงปู่อุทัย สิริธโร เมื่อ: มิถุนายน 17, 2012, 10:19:58 am
!
Published on Jun 13, 2012 by puntisak


วันวิสาขบูชา หลวงปู่เทศนาสั้นๆ ทำวัตรเย็น
สวดธัมจัก-ชัยยะ เวียนเทียน เทศนายาว นั่งสมาธิ

ส่ง dvd ข้อมูลไป ฝากโยมที่บ้านอัพโหลด เร็วกว่าเยอะเลย
แถวนี้ลมแรงสัญญาณก็หลุด AIS 3Gแต่ชื่อ ความเร็ว
ช้ากว่าเน็ตสายโทรศัพท์ 56kอีก
จะมีคลิปเพิ่มอีกกว่า 16 กัณฑ์ ที่หลวงปู่ไปเทศนาที่สหรัฐ 2-22 พค.55
ที่ www.youtube.com/puntisak สู้ๆ นะที่บ้าน

เจริญในธรรมเน้อ

9  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ชาวบ้านอ่างทองฮือไล่ เจ้าอาวาสวัดดังออกยันต์พิเรนท์ "ม้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง" เมื่อ: มิถุนายน 17, 2012, 09:55:27 am
ชาวบ้านอ่างทองฮือไล่ เจ้าอาวาสวัดดังออกยันต์พิเรนท์ "ม้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง"

 เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ชาวบ้านในตำบลจำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง กว่า 20 คน เดินทางมายังสำนักงานผู้สื่อข่าวจังหวัดอ่างทอง เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมของพระอธิการพรหม  กิจจกาโร  เจ้าอาวาสวัดจำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่มีพฤติกรรมขัดต่อระเบียบของทางพุทธศาสนาโดยการออกผ้ายันต์เป็นรูปม้ากำลังมีเพศสัมพันธุ์กับสตรี

 

 ทั้งนี้ชาวบ้านได้นำผ้ายันต์มาให้ผู้สื่อข่าวดูก็พบว่าเป็นผ้ายันต์สีแดงขนาดประมาณ  30X30 ซ.ม.ภายในเป็นอักขระยันต์ รอบรูปม้าโดยมีผู้หญิงแก้ผ้ากอดอยู่และที่สำคัญได้เขียนชื่อพระอาจารย์พรหมไว้อย่างชัดเจน

 

 ด้าน นายประยูร  คงประเสริฐ  อายุ 76 ปี อดีตมัคนายก วัดจำปาหล่อ  กล่าวว่า ตนเป็นคนที่แนะนำพระอธิการพรหม  มาอยู่ที่วัดจำปาหล่อเอง  เพื่อให้มาพัฒนาวัดแต่ทางพระอธิการพรหม  กลับหมกมุ่นแต่เรื่องไสยศาสตร์ทำเสน่ห์ยาแฝด ไม่ค่อยอยู่พัฒนาวัด จนชาวบ้านรับไม่ได้และที่หนักไปกว่านั้นคือทางพระอธิการพรหม  ออกผ้ายันต์ลักษณะลามก เป็นสิ่งที่ชาวบ้านรับไม่ได้และไม่อยากให้อยู่ที่วัดสร้างความเสื่อมเสียอีก ตนและชาวบ้านได้ทำหนังสือไปยังจังหวัดแล้วแต่หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นตนและชาวบ้านก็จะรวมตัวกันขับไล่เอง

 

 เช่นเดียวกับ นางวงเดือน  อ่องลออ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 6 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง กล่าวว่า  ตนเองเป็นคนหนึ่งที่เข้าไปเพื่อจะทำเสนห์ให้สามีกลับมาเนื่องจากตนเห็นว่าพระอธิการพรหม  รับทำเสน่ห์จริง  พอตนไปติดต่อทางพระอธิการพรหม  บอกว่าต้องทำพิธีลงเทียนบนร่างกายตนไม่ยอมพระอธิการพรหม  จึงให้เอาธูปที่เสกแล้วมาจุดและอธิษฐานที่บ้านเองโดยเสียเงินไป 500 บาท ตนเห็นว่าลักษณะนี้เป็นการหลอกลวงประชาชน

 

 ส่วนนายมานพ  นิรันดร  นายกอบต.จำปาหล่อ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าในพื้นที่ตนจะมีพระที่ทำให้ทางศาสนาต้องมัวหมองและตนเองก็เห็นด้วยตาตนเองมาแล้ว เมื่อมีธุระที่จะต้องไปติดต่อเรื่องงานกับพระอธิการพรหม  แต่ก็เจอภาพที่ไม่เหมาะสมเมื่อพระอธิการพรหม  กำลังทำพิธีสักยันต์ให้กับผู้หญิงและเนื้อตัวก็ถูกกันด้วยและที่หนักไปกว่านั้น จะมีนักเลงที่เป็นวัยรุ่นในตลาดอ่างทองไปคอยดูแลด้วย

 

 ด้านพระครูสวัฒน์วรกิจ เจ้าอาวาสวัดช้าง เจ้าคณะตำบลจำปาหล่อ กล่าวว่า  ตอนนี้เกิดปัญหาภายในวัดจำปาหล่อ เนื่องจากชาวบ้านไม่พอใจที่พระอธิการพรหม  ไม่ค่อยอยู่วัดโดยจะไปแต่ประเทศอินโดนิเซีย  และมักจะอวดอ้างว่าทำเสน่ห์ได้จนมีผู้หญิงหลายคนมาให้ลงเสนห์ให้ และที่สำคัญที่ชาวบ้านลุกฮือคือพระอธิการพรหม  ไล่พระลูกวัดออกภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่ยอมชี้แจงเหตุผลกับชาวบ้านและพระรูปดังกล่าวชาวบ้านรักมาก อย่างไรก็ตามหลังจากที่อาตมาตรวจสอบก็พบว่าทางพระอธิการพรหม  มีการทำเสนห์ ออกวัตถุมงคลต่างๆ ซึ่งไม่เหมาะกับการที่ทางพระจะมาถือปฏิบัติอย่างนี้ ซึ่งตอนนี้ตนได้รายงานเรื่องไปยังเจ้าคณะอำเภอแล้ว

 http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek9UYzFNemd6TkE9PQ==&subcatid=
10  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / "ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้" (หลวงพ่อคูณ) เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2012, 08:06:19 am


"ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้" (หลวงพ่อคูณ)


"ทุกวันนี้ กูมีเงินเพราะพวกมึงช่วยเหลือ
พวกมึงบริจาคกันเป็นล้าน ๆ กูก็เอาไปให้คนที่มันลำบากเดือดร้อน
แต่ถ้ากูเห็นแก่ได้ เก็บเอาไว้คนเดียวใครจะมาบริจาคให้กูอีก
เพราะให้มาไม่เอาไปเผื่อแผ่แก่คนทุกข์ยาก
ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้"

หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
11  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พุทธชยันตี 2600 ปี หลาย ๆ ที่ ๆ จัดงาน ฉลอง เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2012, 08:02:24 am
ขอบคุณภาพจาก http://www.dhammathai.org

วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม สถานที่แรกที่พระพุทธศาสนาได้มาเผยแพร่ครั้งแรกในดินแดงสุวรรณภูมิ
       จังหวัดนครปฐม สถานที่แรกที่พระพุทธศาสนาได้มาเผยแพร่ครั้งแรกในดินแดงสุวรรณภูมิ ณ ที่นี่ ได้จัด งาน มหัศจรรย์วันวิสาขบูชาโลก ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี ของการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นดั่งดวงประทีปของโลก ภายในงานมีการจัดนิทรรศการมหัศจรรย์แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การบรรยายธรรม และหารให้เข้าร่วมปฏิบัติธรรม และชมขบวนแห่และพิธีเปิดงานที่งดงาม
       
       จังหวัดสกลนคร จัดกิจกรรม "เทศกาลวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า”ระหว่างวันที่ 29 พ.ค. - 4 มิ.ย. 55 ภายในงานชมนิทรรศการวิสาขบูชา การแสดงพระธรรมเทศนา พิธีบวชเนกขัมมะ ร่วมพิธีเวียนเทียน การประกวดสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะพื้นบ้าน
       
       กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม ณ ที่ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ภายในงานมีการจัดนิทรรศการในหัวข้อมหัศจรรย์พุทธวัจนะแห่งองค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้า ในรูปแบบ Installation Art ในระบบมัลติมีเดีย ในวันที่ 29 พ.ค. - 4 มิ.ย. 55 และมีการสัมมนาทางวิชาการในหัวข้อ “พระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติ”
12  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วอนช่วยเหลือเด็กพิการ ไม่มีสมอง ตาบอด หูหนวก เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2012, 07:48:12 am




ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ เด็กหญิงวัย 9 ขวบ เกิดมาพิการไม่มีสมองซีกขวา ตาบอด พูดไม่ได้ หูหนวก และเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน จึงไม่มีเงินพาไปพบแพทย์ รวมทั้งต้องให้นมผสมน้ำต้มเพื่อประทังชีวิต

วันนี้ (28 พฤษภาคม) มีรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 18 ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีเด็กหญิงวัย 9 ขวบ พิการไม่มีสมองซีกขวา ตาบอด พูดไม่ได้ หูไม่ได้ยิน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทราบชื่อภายหลังคือ เด็กหญิงสุพรรษา ผิวเผือด หรือ น้องแอม อายุ 9 ขวบ

โดย นายเสวก ผิวเผือด อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี พ่อของน้องแอมเผยว่า มีลูก 2 คน ซึ่งคนโตเป็นลูกชาย วัย 10 ขวบ มีร่างกายแข็งแรงปกติ ส่วนน้องแอมเป็นลูกสาวคนเล็ก ตอนแรกที่คลอดออกมายังปกติดี กระทั่งเมื่อนำตัวกลับมาที่บ้านราว 15 วัน ปรากฏว่าน้องแอมมีอาการ ตาค้าง ไม่ยอมหลับตลอด 24 ชั่วโมง จึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และแพทย์สันนิษฐานว่าเป็นมะเร็งที่ตา

กระทั่ง เมื่อน้องแอมอายุ 6 เดือน ตนได้พาไปตรวจดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราช แพทย์แจ้งว่าน้องแอมตาบอดทั้งสองข้าง และไม่มีสมองซีกขวา จึงพูดไม่ได้ เดินไม่ได้ รวมถึงกินนมได้เพียงอย่างเดียว แม้แพทย์สั่งให้กินนมผง แต่เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน เพราะตนเป็นเพียงพนักงานมีรายได้เดือนละประมาณ 6,000 บาท และแม้ว่าทาง อบต.บ่อสุพรรณ ได้บริจาคนมโรงเรียนมาช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จนตนต้องนำนมไปผสมน้ำต้มให้น้องแอมกินเพื่อประทังชีวิต

นอกจากนี้ยังขาดผ้าอ้อม เพราะน้องแอมไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ และตนยังไม่มีเงินพอเป็นค่าใช้จ่ายในการพาน้องแอมไปพบแพทย์ตามใบนัด ดังนั้นจึงอยากวอนผู้ใจบุญเข้าช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-0137935 หรือบริจาคเงินเข้า บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาสองพี่น้อง ชื่อบัญชี นายเสวก ผิวเผือด เลขที่บัญชี 730-0-20202-0
13  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / รู้สึกอย่างนี้เรียกว่า ปีติ ในองค์กรรมฐาน หรือไม่คะ เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2012, 07:26:57 am
เมื่อวานได้ไปทำบุญ ใส่บาตร และไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มา คะ

  ในระหว่างที่ทำอยู่นั้นก็เกิดความรู้สึก ตื่นตันใจ มากคะ รู้สึกขนลุก ทั่วตัวในขณะที่ก้มกราบพระ น้ำตาก็ไหลออกมา ซึ่งไม่เคยเป็นอย่างนี้ จำความรู้สึกตรงนี้ได้ แล้วจะรู้สึกมีความสุขมากคะ กับการได้สร้างกุศล คะ

 อยากเรียนถามผู้รู้ทุกท่าน คะ อาการที่เกิดเรียกว่า ปีติ ในองค์ภาวนากรรมฐาน หรือไม่คะ เพราะไม่ได้มีความรู้สึกในองค์กรรมฐาน นะคะ คือไม่ได้ภาวนา พุทโธ หรือนั่งสมาธิ คะ

   :c017:
14  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / โบราณสอนไว้ คะ น่าอ่าน นะคะ ( เชื่อ บุราณ จะบาน บุรี หรือไม่ ) เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2012, 11:38:38 am
ห้ามกวาดบ้านตอนกลางคืน

การกวาดบ้านเป็นสิ่งจำเป็นอย่ามากเพื่อสุขอนามัยที่ดี สำหรับคนไทยนั้น โบราณถือกันมาก "กวาดบ้านตอนกลางคืน" ถือว่าเป็นสิ่งไม่ดี จะทำให้เสียทรัยพ์สินเงินทองของมีค่า การที่คนสมัยก่อนห้านลูกห้ามหลาน ก็เหตุว่าตอนกลางคืนนั้นมันมืดมากไม่เหมือนสมัยนี้ที่มีแสงสว่างจากหลอดไฟ การกวาดบ้านในที่มืดหรือมีแสงสลัวๆ จะทำให้กวาดสิ่งของมีค่าที่ทำตกหล่นไว้ทิ้งไปโดยไม่รู้ตัว

ห้ามหันหัวนอนไปทางทิศตะวันตก

จริงๆ แล้วน่าจะเป็นเพราะ ตอนบ่ายอาคารด้านทิศตะวันตก จะอมความร้อน และสะสมไว้ จะค่อยๆ คลายความร้อนก็เมื่อตกกลางคืน ดังนั้น ถ้าคุณนอนหันหัวไปด้านนั้น ก็จะร้อนผ่าวๆ ทำให้ไม่สบายเนื้อสบายตัว

ห้ามปลูกลั่นทมเอาไว้ในบริเวณบ้าน

ไม่เกี่ยวกับความทุกข์ระทมอะไร แต่เพราะว่าใบของลั่นทมทำให้เกิดผื่นคันได้ ทั้งลำต้น ดอก มียางเป็นพิษ ถ้ากินเข้าไปในปริมาณมาก อาจถึงตาย ถ้าเข้าตา ทำให้ตาบอดได้

ให้ปลูกต้นมะยมเอาไว้หน้าบ้าน

เพราะในเมืองไทย ลมพัดแนวตะวันตกเฉียงใต้ กับตะวันออกเฉียงเหนือทั้งปี ดังนั้นการปลูกบ้านจึงนิยมหันหน้าบ้านตามแนวเหนือใต้ เพื่อจะได้รับลมได้ทั้งปี ดังนั้นเมื่อปลูกต้นไม้เอาไว้หน้าบ้าน ก็ต้องเลือกต้นไม้ที่ไม่มีเพลี้ย รา ซึ่งอาจโดนลมพัดเขามาในบ้านได้ มะยมจึงเป็นต้นไม้ที่เหมาะ นอกจากต้นใหญ่ให้ร่มเงา ไม่มีเพลี้ยมากวน ใบไม่ร่วงมาก ผลรับประทานได้ นำมาแปรรูปเป็นอาหารประเภทอื่นก็ได้ ก้านมะยมใช้หวดก้นลูกก็ได้ ดีมากๆ ด้วย

ขึ้นบ้านวันเสาร์

เนื่องจากว่าวันเสาร์ตามหลัก โหราศาสตร์ แล้วถือกันว่าเป็นวันแห่งโทษทุกข์ และ ดาวเสาร์ ยังจัดเป็นดาวแห่งบาปเคราะห์อีกด้วยแต่การขึ้นบ้านใหม่ ต้องการความร่มเย็น ความสุขและความมั่นคงถาวร ความเจริญ ดังนั้น คนโบราณ จึงห้ามมิให้ประกอบพิธีเกี่ยวกับการปลูกสร้าง บ้านเรือน เช่น การยกเสาเอก วางศิลาฤกษ์ เปิดป้ายอาคาร หรือแม้กระทั่งการย้ายเข้าสู่บ้านใหม่

เผาผีวันศุกร์

ตาม คติโบราณ ท่านห้ามทำการ ฌาปนกิจ ศพกันในวันศุกร์ เพราะชื่อของวันศุกร์นั้น ไปคล้องจองกับคำว่า "สุข" ดังนั้นเมื่อเอาความสุขไปให้คนตาย เป็นการกระทำอันไม่เป็นมงคล ความทุกข์ทั้งหลายก็จะต้องตกมาถึงคนเป็นหรือผู้ที่ทำการดังกล่าว ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ดาวศุกร์ เป็นดาวรื่นเริง บันเทิงใจ ดาวสังคม และความรัก ซึ่งตรงกันข้ามกับความทุกข์ ความหม่นหมอง ดังนั้นคนโบราณจึงได้ห้ามการกระทำดังกล่าวเอาไว้และมีคำพูดที่ให้ท่องกันติดปากว่า "เผาผี วันศุกร์ ให้ทุกข์คนยัง"

โกนจุก วันอังคาร

วันอังคารนั้นถือว่าเป็นวันแรงวันหนึ่ง เพราะ ดาวอังคาร คือดาวแห่งเทพเจ้าของสงคราม คนโบราณท่านว่าวันเจ้าแห่งสงครามนี้เหมาะแก่การออกรบหรืองานที่ต้องการความแข็งแกร่ง ความเด็ดขาดมากกว่า ไม่ควรใช้วันดังกล่าวเพื่อกระทำการที่เป็นมงคล หรือต้องการความร่มเย็น ความผาสุก และลาภผลต่าง ๆ เช่นการโกนจุก การขึ้นบ้านใหม่ พิธีมงคลสมรส เป็นต้น เพราะถ้าหากนำวันนี้ไปใช้แล้วก็อาจจะมีการทะเลาะวิวาทกัน หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็ได้ เพราะดาวอังคารยังจัดเป็น ดาวแห่งอุบัติเหตุ อีกด้วย

แต่งงาน วันพุธ

ในทาง โหราศาสตร์ เราจะรู้ได้ว่า ดาวพุธ เป็นดาวแห่งความแปรปรวน มักมีการโคจรที่ผิดปรกติอยู่เสมอ เดี๋ยวดีเดี๋ยวช้า เดี๋ยวเดินเร็ว แต่สักพักกลับเดินถอยหลัง ด้วยสาเหตุดังกล่าวคนโบราณจึงถือว่าดาวพุธเป็นดาวที่หาความแน่นอนและความมั่งคงไม่ได้ จึงไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้วันนี้เป็นวันประกอบพิธีมงคล สมรส เพราะอาจจะทำให้คู่บ่าวสาวมีจิตใจที่โลเล ไม่มั่นคงกับคู่ครองของตนเอง ซึ่งจะนำพาไปสู่การนอกใจและ หย่าร้าง กันในที่สุด

พุธห้ามตัด, พฤหัสห้ามถอน

วันพุธ ห้าม ตัดผม และ ตัดไม้ เพราะวันพุธเป็นวันแห่งการเจริญเติบโตและวิวัฒนาการ ถือว่าถ้าตัดผมวันพุธจะทำให้ปัญญาทราม แต่อีกนัยหนึ่งท่านว่าสมัยก่อนเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินมักจะตัดผมในวันพุธ ฉนั้นเหล่าสามัญชนคนธรรมดาไม่ควรที่จะตัดผมวันนี้ท่านถือว่าเป็นการทำตนเสมอท่านเป็นสิ่งไม่ดีส่วน วันพฤหัส นั้นเป็น วันครู เป็นวันที่นิยมเรียนวิชา ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรือง ดังนั้นไม่ควรถอน หรือโค่นทำลายสิ่งใดๆก็ตาม และในวันพฤหัสนี้ทางโบราณยังห้ามเรื่อง การแต่งงาน อีกด้วย เพราะวันนี้คือวันครู ดังนั้นไม่ควรกระทำการดังกล่าวในวันนี้เพราะถือว่าเป็นการไม่เคารพนับถือ ครูบาอาจารย์

สงฆ์ 14, นารี 11

ความหมาย คือ ท่านห้ามมิให้ทำการใด ๆ ให้แก่พระสงฆ์ ในวันขึ้น 14 ค่ำ และแรม 14 ค่ำทั้งสิ้น เช่น การ บวชนาค การ อุปสมบท และการ ฉลองพระ เป็นต้น เพราะถือกันว่าวันนั้นเป็น วันโกน พระสงฆ์ ทุกรูปจะต้องปลงผมในวันนั้น ถือเป็นการตัดราศีของพระท่าน จึงไม่ควรให้ท่านทำการมงคลใด ๆ ส่วนนารี 11 โบราณท่านห้ามมิให้ทำการใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสตรีเพศในวันขึ้น 11 ค่ำและวันแรม 11 ค่ำ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสมาคมสตรี เปิดโรงเรียนสตรี หรือเปิดหอพักสตรีก็ตาม
15  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / กรุงเทพฯ เผยผังเมืองใหม่ ใครกระทบต้องรีบแจ้ง เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2012, 11:29:33 am



ขอบคุณภาพจาก http://hilight.kapook.com/

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bangkokplan.org , เฟซบุ๊ก Bangkokplan Cityplan

กรุงเทพมหานคร ลงประกาศผังเมืองใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 3) และเชิญชวนให้ประชาชน รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสีย ตรวจสอบสิทธิการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ หากพบว่าได้รับผลกระทบ สามารถทำยื่นเรื่องร้องเรียนได้ทันที

วานนี้ (24 พฤษภาคม) ทางกรุงเทพมหานคร ได้ลงประกาศเพื่อเชิญชวนให้ผู้มีส่วนได้เสียไปตรวจดูแผนที่ แผนผัง และข้อกำหนดต่าง ๆ ในการปรับผังเมืองกรุงเทพมหานครใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 3) โดยเผยว่า การวางและจัดทำผังเมืองกรุงเทพมหานครครั้งล่าสุดนี้ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผังเมืองแล้ว และยังแจ้งว่าผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิร้องขอเพื่อแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว โดยให้ทำคำร้องเป็นหนังสือ นำไปยื่นที่สำนักผังเมืองของกรุงเทพมหานครได้ทันที

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการ และการวางปรับผังเมืองใหม่ ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนากรุงเทพมหานครให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าอยู่ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ซึ่งระบบผังเมืองใหม่นี้ จะมีการปรับเส้นทางการคมนาคม การขนส่ง การสาธารณูปโภค และบริการอื่น ๆ เพื่อให้กรุงเทพมหานคร มีมาตรฐาน และลดปัญหามลภาวะ หรือสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ทั้งนี้ ประชาชน หรือผู้มีส่วนได้เสีย สามารถอ่านรายละเอียดประกาศการปรับผังเมืองใหม่ รวมถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร

http://www.bangkokplan.org/website
16  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นักเรียนไล่ ยิงคู่อริบนรถเมล์สาย 131 วิ่งมีนบุรี-หนองจออก กระสุนพลาดถูกคนขับตาย เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2012, 11:21:28 am
นักเรียนไล่ ยิงคู่อริบนรถเมล์สาย 131 วิ่งมีนบุรี-หนองจออก กระสุนพลาดถูกคนขับตาย รถพุ่งขึ้นเกาะกลาง ผู้โดยสารแตกตื่นวิ่งหนีกระเจิง ตำรวจเร่งล่ามือยิง
พ.ต.ท.ณัฐพล คูหาเรืองรอง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ลำผักชี ได้รับแจ้งเหตุว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นักเรียนใช้อาวุธปืนไล่ยิงคู่อริ ที่อยู่บนรถร่วมบริการ ขสมก.สีน้ำเงิน-ขาว สาย 131 วิ่งประจำเส้นทางมีนบุรี-หนองจอก เหตุเกิดบริเวณปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 21 ถนนเชื่อมสัมพันธ์ แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก แต่กระสุนพลาดไปโดนคนขับรถเมล์ คือ นายจักรพันธ์ โคตรจักร อายุ 51 ปี จำนวน 1 นัด เข้าบริเวณรักแร้ด้านขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้รถเสียหลักพุ่งปีนขึ้นยังเกาะกลางถนน ผู้โดยสารหลายคนต้องวิ่งลงมาจากรถประจำทางด้วยความตื่นตกใจ ต่อมาแท็กซี่พลเมืองดีช่วยเหลือนำ นายจักรพันธ์ นำส่งโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตก่อนถึงมือแพทย์ โดยได้ส่งศพชันสูตรยังสถาบันนิติเวชต่อไป
ทั้งนี้จากเหตุดังกล่าวยังทำให้รถตู้ที่วิ่งตามมา หักหลบพุ่งไปชนรถจักรยานยนต์เจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย ขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายรถเมล์คันดังกล่าวออกจากที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปหลังก่อเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์เพื่อติดตามคนร้าย


อยากให้ทุกท่านช่วยกันมองว่าปัญหา มันเกิดจากอะไรกันแน่คะ
พระพุทธศาสนา มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่คะ กับเหตุการณ์อย่างนี้

 :'(
17  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เซ็นซื้อแท็บเล็ต "ป.1" แล้ว 60 วันส่ง 4แสนเครื่อง เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2012, 10:31:46 am


วันนี้(10 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) แถลงข่าว “พิธีลงนามจัดซื้อแท็บเล็ตป.1” ระหว่าง กระทรวงไอซีที กับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้กระทรวงไอซีทีดำเนินโครงการจัดหาแท็บเล็ตป.1ตั้งแต่ 22 ก.พ.55 โดยการดำเนินงานได้ทำอย่างต่อเนื่อง กระทั่งจัดหาแท็บเล็ตได้ในราคา 82 เหรียญ หรือ ประมาณ 2,400 บาท เป็นราคาจัดส่งถึงสนามบินสุวรรณภูมิ


“แท็บ เล็ตป.1จะได้รับการส่งมอบหลังลงนามในสัญญา 60 วัน จำนวน 400,000 เครื่อง มูลค่า 32,800,000 เหรียญสหรัฐ ที่เหลือจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วัน และจะมีการเซ็นสัญญาจัดซื้อแต่ละล๊อตทุกครั้ง ซึ่งล็อตนี้ไอซีทีวางเงินมัดจำ 5 เปอร์เซ็นต์ของสัญญา หรือ 50 ล้านบาท โดยการจัดส่งบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะเป็นผู้รับผิดชอบ” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

สำหรับสเปกแท็บเล็ตป.1  เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน่วยประมวลผล 1.2 กิกะเฮิร์ตซ  หน่วยความจำหลัก 1 กิกะเฮิร์ตซ แบตเตอรี่ลิเธี่ยม 3600 แอมป์ หน้าจอ 7 นิ้ว  รับประกันสินค้า 2 ปี ดำเนินการตามมาตรฐานสากล ซึ่งเนื้อหากระทรวงศึกษาธิการส่งให้ไอซีที เพื่อบรรจุลงแท็บเล็ต โดยมีทั้งหมด 5 กลุ่มวิชาเรียน คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ และ 8 สาระวิชา  โดยแบ่งเป็นการเรียนเทอม 1 เทอม 2 และ มีเนื้อหาที่เข้าใช้งานได้ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์

ทั้งนี้ การลงนามในสัญญาจัดซื้อแท็บเล็ตป.1 ตามโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child) เป็นการลงนามระหว่างนางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงไอซีที กับ นายจุน หลิว ประธานของบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ โดยมีนายกวน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และตัวแทนของธนาคารของประเทศจีน และนายผานิตย์ มีสุนทร ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นพยานในการลงนาม

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว่า ขณะนี้มีโรงเรียนที่พร้อมใช้งานแท็บเล็ตป.1 แล้ว 9,600 โรงเรียน โดย 20,000 กว่าโรงเรียนมีอินเทอร์เน็ตแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ โดยพ.ค.ที่เปิดภาคเรียน เด็กป.1จะได้รับการปรับพื้นฐานเพื่อรองรับการเรียนการสอนได้ และก.ค.เด็กจะได้ใช้งานแท็บเล็ตที่บรรจุตำราเรียนของกระทรวงศึกษาธิการพร้อม แล้ว

โครงการแท็บเล็ตป.1 จัดซื้อทั้งหมดจำนวน 1 ล้านเครื่อง ราคาเครื่องละ 2,400 บาท จึงเป็นโครงการที่จะใช้งบประมาณรวม 2,400 ล้านบาท
ขอบคุณที่มาข่าว
http://www.dailynews.co.th/technology/113799
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หัดสร้างกุศล ด้วยการให้อภัย ...... ข้อคิดดี ๆ ต้นปีใหม่ไทย เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 06:46:07 am
มีงานวิจัยระบุว่า  การยกโทษให้คนอื่นมีผลดีต่อตัวคุณเอง อย่างน้อยก็ทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น  เพิ่ม ประสิทธิภาพในการควบคุมอารมณ์โกรธ มีความไว้วางใจผู้อื่นมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้สุขภาพจิตแข็งแรง ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพกายแน่นอน

ถ้าคุณจะอยากให้อภัย แต่ดูมันช่างยากเย็นเสียจริงๆ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ดูซิ แล้วคุณจะได้รู้จักกับคำว่า " อภัย "



1. นึกถึงเรื่องที่ทำให้เสียใจ  หลาย คนพยายามปฏิเสธเรื่องที่คนอื่นกระทำต่อเราเพราะเชื่อว่าถ้าไม่คิดก็จะไม่ โกรธ แต่ถ้าต้องเจอหน้าคนที่ทำให้คุณต้องเจ็บปวดใจทุกวันคุณอาจรู้สึกหงุดหงิด รำคาญจนทนไม่ได้ ดังนั้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้พยายามอย่าให้ความโกรธ ความรู้สึกสงสารตัวเองหรือความเชื่อที่ว่าผู้อื่นจะมาขอโทษเอง มาบิดเบือนความคิดของคุณ

2. มองด้วยสายตาผู้อื่น  ลองนึกดูว่า ผู้ที่ทำให้คุณเจ็บใจอาจมีความกดดันบางอย่าง ลองเขียนจดหมายโดยสมมติว่าคุณเป็นคนๆ นั้น เขาหรือเธอจะอธิบายการกระทำนั้นๆ อย่างไร การมองในมุมอื่นอาจทำให้เราพิจารณา และเข้าใจการกระทำนั้นได้ง่ายและยอมรับได้มากขึ้น
 
3. พิจารณาตัวเอง คุณเคยทำร้ายหรือทำให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวโกรธบ้างไหม ลองนึกย้อนดูว่าคุณเองรู้สึกอย่างไรเมื่อพวกเขายกโทษให้ การทบทวนความรู้สึกสำนึกผิดและความรู้สึกขอบคุณที่เขาไม่โกรธ อาจช่วยให้คุณอยากปฏิบัติเช่นเดียวกันต่อคนที่เคยทำให้คุณเสียใจ

4. บอกคนที่คุณให้อภัย  บอกเขาว่าคุณไม่โกรธแล้ว หรืออาจเขียนไว้ในกระดาษหรือในสมุดบันทึก บางครั้งคุณอาจนึกถึงเรื่องที่เคยทำให้ช้ำใจ และความเป็นจริงคุณก็ยังไม่อยากจะยกโทษให้ แต่คุณหลีกเลี่ยงความรู้สึกเช่นนี้ได้หากมีเครื่องเตือนใจในการให้อภัย

5. ยึดมั่นในการให้อภัย  ความทรงจำอันเจ็บปวดไม่อาจลบเลือน เช่นเดียวกับไม่มีใครทำอะไรได้ถูกใจเราไปซะทุกอย่าง คุณค่าของความพยายามที่จะให้อภัยใครสักคน ความรู้สึกขมขื่นอาจจะหวนคืนมาบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ หากเป็นเช่นนั้น คุณควรทบทวนดูข้อความที่ใช้เตือนใจและนึกถึงการให้อภัยที่คุณเคยให้และได้ รับจากผู้อื่น

พระท่านบอกว่า เมื่อไรที่เราโกรธก็เหมือนเรากำลังวางระเบิดตัวเอง ระเบิดที่พร้อมจะเผาผลาญทุกอย่างให้ลุกเป็นไฟ และมอดไหม้โดยไม่เหลือร่องรอยเดิม

19  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / น่าเสียใจ นะคะที่ มิจฉาชีพ มอมยาพระ แล้วปลด ทรัพย์ เมื่อ: มีนาคม 12, 2012, 07:24:06 am
ติดตามข่าว ตอนเช้ารู้สึกหดหู่ใจที่ ยิ่งทราบข่าวว่า พระท่าน ฆ่าตัวตายด้วย
รู้สึก เศร้าใจ จังเลย ใครมีเนื้อหาข่าว ช่วยนำมาโพสต์ให้เืพื่อน ๆ อ่านด้วยนะคะ
จะได้ช่วยเป็นหู เป็นตาให้กับพระคุณเจ้า จะได้ไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้อีก


  :'( :'( :'(
20  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / บทสวดต่อ ดวงชะตาชีวิต เมื่อสวดแล้ว จะต่ออายุได้จริง หรือคะ เมื่อ: มกราคม 19, 2012, 09:11:23 am
บทสวดต่อ ดวงชะตาชีวิต เมื่อสวดแล้ว จะต่ออายุได้จริง หรือคะ ?

 หรือ เพียงให้เราได้สวดเพื่อความสะบายใจเท่านั้น คะ โปรดแนะนำ ด้วยคะ

   :smiley_confused1: :c017:
21  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อยากให้พระอาจารย์ ทีมงานช่วยตอบ คะ ไปอ่านมาแล้วตอบกันยังไม่เคลียร์คะ เมื่อ: มกราคม 13, 2012, 09:38:52 am
ได้ฝึกนั่งสมาธิมาประมาณ 4 เดือนแล้วค่ะ พยายามนั่งทุกครั้งที่มีเวลาว่างและพยายามให้ได้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พบว่ามีปัญหาหลายอย่างที่ตัวเองไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไงจึงอยากจะขอคำแนะนำจากทุกท่านด้วยค่ะ

1.ได้พยายามฝึกอานาปานสติแต่ก็ไม่สามารถจับลมหายใจของตัวเองได้ คือมันจะจับได้เฉพาะบางครั้งไม่สามารถจับลมหายใจทั้งสายได้ จะรู้สึกแค่ตัวเรายกขึ้นลงเวลาเราสูดหายใจเข้าออกน่ะค่ะ แต่บางที่ก็จะรู้สึกว่ามีลมผ่านจมูกได้แต่น้อยครั้งมากค่ะ เลยลองจับความรู้สึกที่หน้าท้องพองยุบดู ซึ่งจะจับได้ดีกว่า แบบนี้เราสมควรฝึกสมาธิโดยการจับความรู้สึกที่หน้าท้องแทนหรือไม่คะ

2. ได้ฟังเทปของหลวงพ่อพุธก็เลยลองฝึกบริกรรมภาวนาพุทโธโดยไม่ตามลมหายใจดู พบว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งซึ่งรู้สึกว่าจิตสงบได้(หมายถึงความฟุ้งซ่านน้อยลง) แต่หลังจากนั้นภาวนาไปๆ มันก็กลับไปจับลมหายใจเหมือนเดิม (แต่ไม่รู้สึกสัมผัสถึงลมหายใจนะคะ แค่รู้สึกว่าตัวเรายกขึ้นลงเวลาหายใจเข้าออกเท่านั้น) เลยไม่รู้ว่าตัวเองควรจะฝึกสมาธิโดยวิธีไหนดี

3. เวลานั่งไปได้สักพัก น่าจะประมาณ 20 นาที จะรู้สึกว่าตัวเราเอียงไปด้านหน้าเรื่อย ๆและตัวจะหนักๆ (ตอนนั้นจิตใจก็ยังฟุ้งอยู่เป็นระยะๆ)แล้วก็จะปวดหลังน่ะค่ะ แต่ถ้าพยายามตั้งตัวกลับขึ้นมาตรงใหม่มันเหมือนกับต้องใช้แรงมากที่จะเอียงตัวกลับมาน่ะค่ะ เป็นแบบนี้บ่อย ๆ เราควรจะแก้ไขอย่างไรคะ

4.เวลานั่งสมาธิจะรู้สึกว่าตัวเราโดยเฉพาะตำแหน่งแขนและมือทั้งสองที่ประสานกันไว้ที่ตักมันมีความร้อนและความรู้สึกซู่ ๆ บอกไม่ถูกค่ะ คล้าย ๆขนจะลุกแต่ก็ไม่ลุก แต่ถ้าเมื่อไหร่มีความรู้สึกแบบนี้เราจะรู้สึกดีน่ะค่ะ่ คล้ายๆใจจะสงบแต่ในระหว่างนี้จิตก็ยังฟุ้งอยู่เลย ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรคะ

รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

จากคุณ    : แม่งูน้อยกะลุงกระต่าย
ที่มาของคำถามคะ
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11535453/Y11535453.html
22  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากให้อธิบายความหมาย ของ คำว่า พยาบาท กับ อุปนาหะ ด้วยคะ เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 07:07:22 am
พยาบาท คือ ความอาฆาต

อุปนาหะ คือ การผูกโกรธ

  ทั้งสองอย่าง นี้ดูจากความหมายแล้ว น่าจะเหมือนกันนะคะ แต่ทำไมจึงใช้คำแตกต่างกัน

  และ สภาวะของกิเลสทั้งสองประการนี้ จะรับมืออย่างไร ? ดีคะ เมื่อ เกิดขึ้นมาแล้ว คะ

  :s_hi: :s_hi: :s_hi:
23  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ศรัทธา กับ ปัญญา ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ คะ เมื่อ: ธันวาคม 08, 2011, 04:42:35 pm
มีหลายท่านมักกล่าวว่า ศรัทธา แล้วให้มีปัญญา กันบ้าง

มีปัญญา ก็อย่า ขาดศรัทธา อย่างนี้มักจะพูดกันบ่อย

 แต่ความเป็นจริง ศรัทธา หมายถึง ความเชื่อ ความเคารพ ใช่หรือไม่คะ

   คือสงสัยว่า เวลา ลูกเคารพ พ่อแม่ ก็ชื่อ ว่าลูกมีศรัทธา แล้ว ทำไมต้องใช้ปัญญา กันด้วย เพราะพ่อแม่ ลูกก็ต้องเคารพกันอยู่แล้ว ใช่หรือไม่คะ

   พอมาที่วัด ก็บอกว่า ไหว้พระพุทธรูป ก็อย่าขาดปัญญา ปกติก็ไม่เห็นจะต้องใช้ปัญญาในการไหว้พระพุทธรูป เมื่อเป็นพระพุทธรูป เราก็ให้ความเคารพอยู่แล้ว ๆ ทำไมต้องใช้ปัญญา ด้วยคะ

  ชวนคุยนะคะ แต่อยากทราบจริง ๆ เวลาที่ ผู้มีธรรมะ สอนขัดกัน จนเด็ก ๆ อย่างพวกเราไม่รู้จะฟังใครดี

   :41: :25: :c017:
24  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เว้นค่าผ่านทางหลวงพิเศษหมายเลข 37 สายถนนวงแหวนรอบนอก ถึง 30 พ.ย.54 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 08:43:47 am
ที่ ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเลื่อนปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทออกไปเป็นวันที่ 1 เมษายน 2555 พร้อมขยายเวลายกเว้นค่าทางด่วนวงแหวนรอบนอก กทม.ช่วงบางปะอิน-บางพลี

นาง สาวอนุตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (22 พ.ย.)ว่า ที่ประชุมรับทราบข้อเสนอของคณะกรรมการค่าจ้าง ที่เสนอให้เลื่อนการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่วันละ 63-85 บาท หรือปรับเพิ่มเป็นวันละ 300 บาท โดยมติ ครม.เดิมให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.55 เป็นต้นไป แต่ขณะนี้สถานประกอบกิจการในหลายจังหวัดประสบภาวะน้ำท่วม คาดว่าจะใช้เวลาในการฟื้นฟูกิจการ 3-6 เดือน จึงให้เลื่อนการใช้บังคับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.55 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวหรือฟื้นฟูกิจการ


นอก จากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบในการขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมค่าผ่านทางหลวงพิเศษหมายเลข 37 สายถนนวงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ตอนบางปะอิน-บางพลี ตั้งแต่เวลา 12.00 น.วันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 54 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาน้ำท่วม

http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/48024/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B3-300-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-1-%E0%B9%80%E0%B8%A1-%E0%B8%A2-55.html

25  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / องค์กรเรียกร้องเสรีภาพให้ทิเบตได้นำวีดิโอแม่ชีเผาตัวเองประท้วงรัฐบาลจีน ออกมาเผย เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 08:27:38 am
องค์กรเรียกร้องเสรีภาพให้ทิเบตได้นำวีดิโอแม่ชีเผาตัวเองประท้วงรัฐบาลจีน ออกมาเผยแพร่

พาล เดน โชเอ็ตโซ แม่ชีทิเบตวัย 35 ปี จุดไฟเผาตัวเองเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อประท้วงรัฐบาลจีนที่เข้ามาควบคุมการนับถือศาสนาในทิเบต วีดิโอดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยกลุ่มเรียกร้องเสรีภาพให้ทิเบตที่มีชื่อว่า Students for a Free Tibet หรือ SFT ซึ่งได้เผยภาพแม่ชีกลุ่มหนึ่งตะโกนเรียกร้องเสรีภาพให้ทิเบต พร้อมกับเปิดเผยความต้องการสุดท้ายของแม่ชีที่เผาตัวตายว่า ต้องการให้องค์ดาไลลามะได้กลับสู่ทิเบต และให้ทิเบตได้รับอิสรภาพ ขณะที่ชาวทิเบตจำนวนมากได้ออกมาจุดเทียนเพื่อไว้อาลัย

การ ประท้วงรัฐบาลจีนด้วยการเผาตัวเองกำลังกลายเป็นวิธีที่มีคนใช้กันมากขึ้น โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2551 มีพระและแม่ชีทิเบตเผาตัวเองประท้วงมาแล้ว 12 คน โดยในจำนวนดังกล่าวมี 11 คนเกิดขึ้นในปีนี้ และมีอย่างน้อย 6 รายที่เสียชีวิต

ด้าน องค์ดาไลลามะ ผู้นำจิตวิญญาณทิเบตซึ่งลี้ภัยอยู่ที่เมืองธรรมศาลา ทางตอนเหนือของอินเดีย มาตั้งแต่ปี 2502 ไม่ได้ประนามหรือสนับสนุนการประท้วงรูปแบบนี้ แต่กล่าวว่า นักบวชเหล่านี้เผาตัวเองเพราะถูกบีบบังคับ และถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม ขณะที่นักบวชทิเบตส่วนใหญ่มองว่าการเผาตัวเองเป็นการเสียสละขั้นสูงสุด

ปัญหา การเผาตัวเองประท้วงกำลังทำให้นานาชาติหันมาสนใจปัญหาของทิเบตมากขึ้น และสร้างความวิตกกังวลให้รัฐบาลจีน ซึ่งประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการก่อการร้าย

http://202.170.123.23/Krobkruakao/Upload/news/worldmoning/china231154.mp4


http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/48040/%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99--%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%87.html
26  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / พ่อแม่ สร้างกรรม ทำไมกรรมถึงไปเกิดกับลูก คะ เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 12:32:54 pm
คือไม่่ค่อยจะเข้าใจ กับคำว่า

  ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็ได้ผลกรรมอย่างนั้น
  ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว


  ที่หมู่บ้าน มีคุณตาท่านหนึ่ง ท่านตาบอด ท่านเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ มีอาชีพจับนก และ ทำการเจาะตานก เพื่อไม่ให้นกหนีไป ท่านเกิดมาเลยตาบอด เหมือนนกตาบอดที่จากรังไม่ได้

   ที่ไม่เข้าใจ คือ  พ่อแม่ ของคุณตา เป็นคนทำ  แต่ กรรม ทำไมมาเกิดกับลูก

 
  อีกราย พ่อรับราชการ แต่รับสินบน ถูกตัดสินจำคุก บ้านถูกยึด รับกรรมอยู่ในคุก

  ที่ไม่เข้าใจ ทำไม ลูก เมีย ที่ไม่ได้ร่วมทำ กับต้องมารับกรรม ถูกชาวบ้านประนามว่าเป็นคนไม่ดี ไปที่ไหนจะโดนเกลียด โดนชัง โดนเฉพาะเด็ก ต้องออกจากโรงเรียนเลย

   ไม่ค่อยจะเข้าใจ ใครทราบ ใครรู้ ใครพอชี้แจงได้ ช่วยอธิบายด้วยเถิดคะ

   :25: :c017:
27  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากทราบความหมายของคำว่า พระ ภิกษุ สงฆ์ ใช้ต่างกันอย่างไร เมื่อ: กันยายน 22, 2011, 11:12:56 am
อยากทราบความหมายของคำว่า พระ ภิกษุ สงฆ์ ใช้ต่างกันอย่างไร

ไม่ค่อยจะเข้าใจบางทีจะเรียก พระ ว่า ตุ๊พ่อ ตุ๊พี่ เป็นต้น

  แ่ต่คำว่า พระ หรือ ภิกษุ หรือ สงฆ์ นี้ควรใช้ตอนไหนอย่างไร คะ

 ขอบคุณคะ

  :c017:
28  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พิษณุโลก-พระ-เณร กรอกกระสอบทรายกั้นน้ำท่วมวัดใหญ่ เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 08:40:11 am
ฝนยังตกหนักในจังหวัดพิษณุโลก พระสงฆ์และสามเณรนับร้อยรูป ช่วยกันกรอกกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมือง

สถานการณ์ น้ำท่วมที่จังหวัดพิษณุโลก ล่าสุดเย็นวันนี้ (10 ก.ย.) ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกินจุดวิกฤตที่ได้บันทึกไว้เมื่อปี 2538 ล่าสุดระดับน้ำแม่น้ำที่สถานีวัดระดับน้ำเชิงสะพานเอกาทศรถ 5A วัดได้ 10.55 เซนติเมตร ทำให้มีน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ตลิ่งต่ำในหลายจุดตลอดลำน้ำแม่น้ำน่าน ขณะเดียวกันได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ประกอบกับมีคำเตือนจากเทศบาลนครพิษณุโลก ให้ประชาชนระวังแม่น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนได้รับความเสียหาย

ส่วน ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ พระภิกษุสามเณร จำนวนกว่า 100 รูป ต้องเร่งมือช่วยกันกรอกกระสอบทรายนับพันใบเพื่อทำแนวป้องกันน้ำล้นตลิ่ง ไม่ใหท่วมถึงพระมหาวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ ทั้งนี้การทำแนวป้องกันดังกล่าว ทางสำนักศิลปากรที่ 6 จังหวัดสุโขทัย พิพิธพัณฑ์แห่งชาติพระพุทธชินราช ได้ขอแรงจากพระภิกษุสามเณรในวัดเพื่อช่วยกันปกป้องสิงศักดิ์สิทธิ์ของชาว พิษณุโลกให้รอดพ้นจากอุทกภัยครั้งนี้ไปให้ได้













http://www.krobkruakao.com
29  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / เมื่อฉันแก่ตัวลง.....ไม่ใช่ฉันที่เคยเป็น ขอโปรดเข้าใจฉัน เมื่อ: สิงหาคม 28, 2011, 09:16:13 am
เป็นเรื่องเล่าของลูกผู้ชายชาวจีนคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อเติบโตขึ้นต้องมีภารกิจเดินทาง และตั้งถิ่นฐานอยู่ไกลจากพ่อแม่แต่ก็มักติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับแม่อยู่ เสมอ...

แม่มักจะบอกเขาว่า “ไม่ต้องห่วงแม่” ไม่ต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ เพราะสิ้นเปลืองเงินทอง...
ยิ่งพูดก็ยิ่งซ้ำๆซากๆ เขารู้ดีว่า แม่เริ่มคิดถึงเขามาก

จนกระทั่งปีหนึ่ง ที่แม่มีอายุครบ 75 เขาจึงตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมแม่
โดยตั้งใจว่าจะอยู่ด้วยสัก 1 เดือน ขอเป็นเพื่อนแม่เพียงอย่างเดียว
พอบอกข่าวนี้ให้แม่ทราบ แม้จะมีเวลาอีกตั้ง 2 เดือนเศษ
แม่ก็เริ่มเตรียมตัวในการกลับมาเยี่ยมบ้านของลูก
แม่ดึงเอาสมุดบันทึกมาจดสิ่งที่ต้องตระเตรียม
แม่เตรียมรายการอาหารที่ลูกชอบ
รื้อเอาผ้าห่มที่ลูกเคยชอบห่มมาปะชุนใหม่...
สำหรับคนอายุ 75 เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย...

พอลูกกลับถึงบ้าน ตอนอยู่บนเครื่องบิน
เคยตั้งใจว่าจะขอกอดแม่ให้ชื่นใจสักครั้ง
แต่พอมาเห็นแม่ แม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ผอมแห้ง หน้าตาเหี่ยวย่น
ช่างไม่เหมือนแม่ คนก่อนหน้านี้เลย...

แม่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเตรียมอาหารที่ลูกเคยชอบ
โดยที่หาทราบไม่ว่า ลูกไม่ได้ชอบอาหารแบบนั้นแล้ว
และเพราะแม่ตาไม่ค่อยดี รสชาติอาหารจึงแย่มากๆ บางจานก็เค็มจัด
บางจานก็จืดสนิท ผ้าห่มที่แม่อุตส่าห์เตรียมให้ ทั้งหนาทั้งหยาบ
ไม่สบายกายเลย...แม่หารู้ไม่ว่า

เดี๋ยวนี้ลูกนอนห้องแอร์ และใช้ผ้าห่มขนแกะแล้ว
แต่เขาก็ไม่บ่นอะไร เพราะเขาตั้งใจจะกลับมาเป็นเพื่อแม่จริงๆ
สอง สามวันแรก แม่ยุ่งอยู่กับเรื่องจิปาถะ จนไม่มีเวลาพักผ่อน พอเริ่มได้พัก แม่ก็เริ่มพูดมาก สอนโน่นสอนนี่ พูดแต่ปรัชญาเก่าๆ ซึ่งปรัชญาเหล่านั้น 10 กว่าปีก่อนก็เคยพูดแล้ว พอลูกบอกให้ฟังว่า ปรัชญาเหล่านั้นไม่ทันสมัยแล้วแม่ก็เริ่มนิ่งเงียบและเศร้าซึม


“เหตุการณ์ เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ผมพบว่าสุขภาพแม่แย่ลง โดยเฉพาะสายตา อาหารบางจานมีแมลงวันด้วย บางทีอาหารหกบนเตา แม่ก็เก็บใส่จานตามเดิม ครั้นผมพยายามชวนแม่ไปกินนอกบ้าน แม่ก็บอกอาหารข้างนอกไม่สะอาด ของแปลกปลอมเยอะ เมื่อผมบอกแม่ว่าจะหาคนรับใช้มาช่วยแม่สักคน แม่ก็โวยวายว่าแม่เองยังสามารถทำงานเลี้ยงดูเด็กให้ผู้อื่นได้เลย ผมเลยพูดไม่ออกพอผมจะออกไปช้อปปิ้ง แม่ก็จะตามไปด้วย ทำเอาวันนั้นทั้งวัน พวกเราไม่ได้ไปช้อปปิ้งเลย...”

“พอพวกเราเริ่มคุยกันในเรื่องทัน สมัย แม่ก็จะหาว่าพวกเราเพี้ยน ผมก็เริ่มบอกแม่อย่างไม่ค่อยเกรงใจว่า แม่ นี่มันสมัยใหม่แล้ว แม่ต้องหัดมองโลกในแง่ใหม่ๆบ้าง... ช่วงครึ่งเดือนหลังที่อยู่กับแม่ ผมเริ่มขัดแม่มากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกรำคาญเพิ่มมากขึ้นแต่เราไม่เคยทะเลาะกันนะ พอผมขัดแม่ แม่ก็หยุดกึกลง ไม่พูดไม่จา ในตามีแววเหม่อลอย – โลกซึมเศร้าแบบคนแก่ของแม่ชักหนักขึ้นเรื่อยๆ”

“ได้เวลาที่ผมจะต้อง เดินทางกลับ แม่ดึงกล่องกระดาษกล่องหนึ่งออกมาในนั้นเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ที่แม่ตัดเก็บ ไว้ในช่วงที่ผมไปอยู่เมืองนอก แม่เริ่มสนใจข่าวต่างประเทศเมื่อผมเดินทางไปนอก ทุกครั้งที่มีข่าวตึงเครียดในประเทศนั้นๆ แม่จะตัดข่าวเก็บไว้
ตั้งใจจะ มอบให้ผมตอนที่ผมกลับมา แม่พูดอยู่เสมอว่า อยู่นอกบ้านนอกเมืองต้องระวังตัวให้มากๆ ครั้งหนึ่งมีเรื่องคนญี่ปุ่นต่อต้านและข่มเหงคนจีน มีการปะทะกันด้วย แม่เป็นห่วงมาก ถามเพื่อนบ้านว่าจะส่งข่าวไปเตือนผมที่ญี่ปุ่นได้อย่างไรตอนนั้นผมสอนอยู่ ที่ญี่ปุ่น”

แม่ดึงเอาปึกกระดาษข่าวนั้นออกมาอย่างยากลำบากวางใส่ใน มือผมเหมือนของวิเศษชิ้นหนึ่ง มันหนักมาก ผมเริ่มรู้สึกลำบากใจเพราะผมไม่อยากนำกลับไป มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วผมรู้ว่าแม่เก็บมันด้วยความยากลำบาก แม่สายตาไม่ค่อยดี ต้องใช้แว่นขยาย

อ่านได้วันละ 2 หน้าก็เก่งแล้ว นี่ยังตัดเก็บได้ขนาดนี้ ทันใดนั้นมีข่าวแผ่นหนึ่งปลิวหลุดลงมา แม่รีบเอื้อมไปหยิบแต่แทนที่แม่จะเก็บเข้ากองเดิม แม่กลับพับเก็บไว้ในกระเป๋าของตัวเอง

ผมรู้สึกเอะใจ เลยถามว่า “แม่ นั่นกระดาษอะไร ขอผมดูหน่อยนะ”แม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงล้วงออกมาวางบนข่าวปึกนั้นแล้วหุนหันเข้าครัวไปทำกับข้าวทันที

ผมหยิบแผ่นข่าวนั้นขึ้นมาดู มันเป็นบทความบทหนึ่ง ชื่อว่า “เมื่อฉันแก่ตัวลง”
ตัด จากหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2004 เป็นช่วงที่ผมเริ่มเถียงกับแม่ถี่มากขึ้นทุกทีบทความนั้นคัดมาจากนิตยสาร ฉบับหนึ่งของเม็กซิโก ฉบับเดือนพฤศจิกายน ผมอ่านบทความนั้นทันที ....


เมื่อฉันแก่ตัวลง.....ไม่ใช่ฉันที่เคยเป็น ขอโปรดเข้าใจฉัน
มีความอดทนต่อฉันเพิ่มขึ้นอีกสักนิด

ถ้าฉันทำน้ำแกงหกใส่เสื้อตัวเอง....ถ้าฉันลืมวิธีผูกเชือกรองเท้า
ขอให้คิดถึงตอนเธอเด็กๆ...ที่ฉันสอนเธอหัดทำทุกอย่าง

ถ้าฉันเริ่มพร่ำบ่นแต่เรื่องเดิมๆที่เธอรู้สึกเบื่อ….ขอให้อดทนสักนิด
อย่าเพิ่งขัดฉัน ตอนเธอยังเล็กๆ ฉันยังเคยเล่านิทานซ้ำๆซากๆ จนเธอหลับเลย

ถ้าฉันต้องการให้เธอช่วยอาบน้ำให้ อย่าตำหนิฉันเลยนะ
ยังจำตอนที่เธอยังเล็กๆได้ไหม
ฉันต้องทั้งกอดทั้งปลอบเพื่อให้....เธอยอมอาบน้ำ

ถ้าฉันงงกับวิทยาการใหม่ๆโปรดอย่าหัวเราะเยาะฉัน….
จำตอนที่ฉันเฝ้าอดทนตอบคำถาม
“ทำไม ทำไม”ทุกครั้งที่เธอถามได้ไหม

ถ้าฉันเหนื่อยล้าจนเดินต่อไม่ไหว
ขอ....จงยื่นมือที่แข็งแรงของเธอออกมาช่วยพยุงฉัน
เหมือนตอนที่ฉันพยุงเธอให้หัดเดินในตอนที่เธอยังเล็กๆ

หากฉันเผอิญลืมหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่โปรดให้เวลาฉันคิดสักนิด
ที่จริงสำหรับฉันแล้ว.....กำลังพูดเรื่องอะไรไม่สำคัญหรอก
ขอเพียงมีเธออยู่ฟังฉัน......ฉันก็พอใจแล้ว

ตอนนี้ถ้าเธอเห็นฉันแก่ตัวลง...ไม่ต้องเสียใจ...ขอให้เข้าใจฉัน....สนับสนุนฉัน
ให้เหมือนตอนที่ฉันสนับสนุนเธอตอนเธอเพิ่งเรียนรู้อะไรใหม่ๆ

ในตอนนั้น....ฉันนำพาเธอเข้าสู่เส้นทางชีวิต
ตอนนี้....ขอให้เธอเป็นเพื่อนฉันเดินไปให้สุดเส้นทางของชีวิต……
โปรด....ให้ความรักและความอดทนต่อ....ฉัน

ฉันจะยิ้มด้วยความขอบใจ....
ในแววตาอันฝ้าฟางของฉัน....มีแต่ความรักอันหาที่สิ้นสุดมิได้
ของฉันที่มีให้กับ..........เธอ

ขอบคุณข้อมูลจากkapook.com
30  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมทำบุญหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้า วัดพุทธบุตร ชลบุรี 10 ธ.ค.54 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 11:19:58 am


31  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มาดูพญานาค กันเุถอะ เมื่อ: สิงหาคม 17, 2011, 11:16:16 am


มาดูพญานาค กันเุถอะ

ใครเชื่อเรื่อง พญานาค กันบ้าง มาชมกันก่อนนะจ๊ะ

32  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / เสียงที่เ้ปิดตอน 9.45 - 10.10 น. เป็นเสียงใครคะ เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 10:06:37 am
เสียงที่เ้ปิดตอน 9.45 - 10.10 น. เป็นเสียงใครคะ

ฟังแล้วทำให้ความรู้สึก ถึงความสำคัญพระสงฆ์ ในเรื่องการขาดแคลนทำนุบำรุง ทางพระศาสนา

มีไฟล์เสียงให้ดาวน์โหลด หรือ ไม่คะ

  :25:
33  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / อยู่อย่างไร ตายอย่างนั้น เมื่อ: สิงหาคม 12, 2011, 10:29:55 am
ครูเบญจาเป็นครูที่ดุและเข้มงวดมาก ใช่แต่เท่านั้นยังมักอารมณ์เสียใส่นักเรียนบ่อย ๆ มีเรื่องตำหนินักเรียนไม่เว้นแต่ละวัน การลงโทษด้วยไม้เรียวเป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้ จนนักเรียนทั้งชั้นกลัวเกรงมาก เวลาอยู่นอกห้องเรียน หากเห็นครูเบญจาเดินมาแต่ไกล นักเรียนจะเลี่ยงไปอีกทางทันที

ปีแล้ว ปีเล่าที่ครูเบญจาสอนหนังสือโดยใช้พระเดชเป็นที่ตั้ง จนเกษียณอายุแล้วครูเบญจาก็ยังคิดว่าตนเป็นครูอยู่ จึงชอบเคี่ยวเข็ญสั่งการหรือต่อว่าคนรอบข้างเป็นอาจิณ จนกลายเป็นเผด็จการในสายตาของลูกหลาน ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรืออยากพูดคุยด้วย

แล้ววันหนึ่งครูเบญจาก็พบ ว่าตนเป็นมะเร็งเต้านม เมื่ออาการลุกลามเข้าสู่ระยะสุดท้าย ครูเบญจาถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาล แม้ป่วยหนักครูเบญจายังไม่ทิ้งนิสัยเดิม ใครที่อยู่ใกล้เป็นต้องถูกตำหนิติเตียนหรือถูกสั่งให้ทำโน่นทำนี่ ไม่เว้นกระทั่งแพทย์และพยาบาล ซ้ำยังถูกต่อว่านินทาลับหลัง จนเป็นที่เอือมระอาของผู้คน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มีใครอยากไปข้องแวะกับครูเบญจา

เป็นที่สังเกตว่า ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลมีคนมาเยี่ยมครูเบญจาน้อยมาก ลูกหลานนาน ๆ จะมาสักครั้ง ครูเบญจาจึงนอนซมอยู่บนเตียงผู้เดียวเป็นส่วนใหญ่ ดูเหงาหงอย ไม่มีความสุข ขณะเดียวกันจิตใจก็ว้าวุ่นเพราะไม่เคยรู้สึกพอใจกับอะไรเลยสักอย่าง

เมื่อ อาการทรุดหนัก ครูเบญจาก็มีสติฟั่นเฟือน ถึงกับเพ้อ เวลาแพทย์และพยาบาลมาข้างเตียง ครูเบญจาจะจ้องตาชี้นิ้วพร้อมกับสั่งแกมตะคอกว่า "เริ่ม....เริ่ม" ซึ่งเป็นคำพูดติดปากเวลาสั่งให้นักเรียนเริ่มต้นท่องหรืออ่านหนังสือหน้า ชั้น

คืนที่ครูเบญจาเสียชีวิตนั้น ไม่มีลูกหลานหรือญาติมิตรอยู่ดูใจสักคน แม้แต่คนที่แพทย์จะขอคำปรึกษาเพื่อตัดสินใจช่วยชีวิตหากหัวใจหยุดเต้น ก็ใช้เวลานานกว่าจะติดต่อได้ ในที่สุดครูเบญจาก็สิ้นใจคามือบุรุษพยาบาลที่พยายามปั๊มหัวใจอย่างเต็มที่ ทั้ง ๆ ที่ครูเบญจาเคยแสดงเจตจำนงว่าขอปฏิเสธวิธีดังกล่าวก็ตาม


จากคุณ    : โชติช่วงชัชวาล
34  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำไมเวลา คนกลัว มาก ๆ ผมเปลี่ยนสี และ ผมร่วง คะ เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 08:17:34 am
ความกลัว ทำไมถึง ทำให้คนผมร่วง คะ หรือ เปลี่ยน สี คะ


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://fwmail.teenee.com
35  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หล่อ(ศัลยกรรม)ขั้นเทพ อึ้ง!! อายุ17ผ่าหน้า16ครั้ง เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 09:11:32 am

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.thairath.co.th

นอกจากกระแสการทำ ?ศัลยกรรมฟีเวอร์? ในฟากเพศหญิงไทย (และทั่วโลก) จะเป็นเรื่องปกติและได้รับการยอมรับกันมากขึ้นแล้ว บรรดาเพศชาย (ทั้งชายแท้-เทียม) ก็แห่กันไปใช้บริการศัลยกรรมเปลี่ยนหน้ากันเพิ่มจำนว นมหาศาลอีกด้วย

ใน ยุคที่ ?หล่อ? ด้วยการ ?เหลา? นั้น น่าภูมิใจขนาดที่ว่า หนุ่มหลายคนถ่ายรูปขั้นตอนก่อน-หลังทำศัลยกรรมอัพโหลดโชว์กันตามเว็บไซ ต์ต่างๆ มากมาย และรูปภาพความหล่อขั้นเทพหลากแอ็คชั่นที่เสียเงินไปศ ัลยกรรมของหนุ่มหลายก็ กลายเป็นรูปภาพที่มีสาวๆ เข้าไปคอมเมนต์ชมชอบกันมากมายซะอย่างนั้น

คลั่งไคล้ชื่นชมโดยไม่สนใจว่า ?หนุ่ม? เหล่านี้ หล่อ ?ศัลยกรรม? ไม่ใช่ ?ธรรมชาติ?...???


ไทยรัฐออนไลน์ไปโพสต์ข้อความ ขอสัมภาษณ์หนึ่งในหนุ่มรูปงามที่มีรูปหล่อขั้นเทพ ไปปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ชื่อดังมากมาย เขายินดีแบบไม่มีข้อแม้ ยอมให้เปิดแม้กระทั่งให้เปิดชื่อ -นามสกุลจริง แต่ขอละชื่อ-สกุลเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ ทำนอง ?เซฟ? กันและกันเอาไว้ดีกว่า...!

หนุ่มหล่อยินดีไม่มีปัญหา นี่คือการเปลือยชีวิตหนุ่มสุดฮอตวัย 17 ปี จาก จ.เชียงใหม่ ที่ตกอยู่ในโลกศัลยกรรม ทั้งเบื้องหน้า-หลัง การทำศัลยกรรม 2 ปี 16 ครั้ง ที่คุณฟังแล้วอาจจะ ?ขยาด? หรือ ?อยาก? จะทำศัลยกรรมเลยทีเดียว

ขี้เหร่ อุบาทว์ มาตั้งแต่เกิด..?

?ตั้งแต่ จำความได้ผมก็รู้สึกว่าหน้าตาผมห่วย และกลายเป็นปมด้อยที่โดนคนรอบข้างล้อมาตั้งแต่เด็กๆ? หนุ่มวัย 17 ปี ที่ปัจจุบันเรียกได้เต็มปากว่าหล่อขั้นเทพด้วยศัลยกร รม พาย้อนเวลากลับไปตั้งแต่จำความได้ว่าตอนนั้นเขาขี้เห ร่ขั้นเทพ อุบาทว์ชนิด โครงหน้า รูปปาก คิ้ว คาง ย่ำแย่ แถมตัวดำ ดั้งก็ยังไม่มีอีก...!

?มัน เป็นปมด้อยเพื่อนๆ มักจะล้อเราเรื่องหน้าตาทุกวันๆ ทำให้ผมเครียดนอนไม่หลับ ใคร่ครวญมีอะไรที่จะทำให้เราหล่อได้เร็วๆ บ้างไหม คิดทุกวัน (เน้นเสียง) คิดร้อยแปดสิบองศาก็ไม่เห็นว่ามีทางอื่นนอกจากการใช้ การศัลยกรรม หลังจากเข้าไปศึกษาข้อมูลตามเว็บไซต์ว่า คลินิก-หมอที่ไหนเก่งและเด่นเปลี่ยนส่วนไหนของใบหน้า และเก็บเงินอยู่นานจนครบเมื่อตอนอายุ 15 ปี (ปัจจุบันเขาเรียนด้านคอมฯ และหาเงินได้จากการทำงานเป็นเว็บมาสเตอร์ให้เว็บไซต์ ดัง และเป็นเจ้าของเว็บ Bit Torrent ด้วย) จึงตัดสินใจว่าจะไปทำศัลยกรรมทันที? หนุ่มจอมศัลยกรรมกล่าว



มีเงินซื้อได้ทุกอย่าง...?

เมื่อเงิน พร้อม-ข้อมูลและความอยากพร้อมชนิดล้นปรี่ แต่ก็ใช่ว่าจะได้ใบหน้าใหม่ให้หล่อเหลาได้อย่างใจ เพราะวันที่เดินไปคลินิกศัลยกรรม (เขาทำจมูกเป็นอันดับแรก) ในจังหวัดเชียงใหม่ อภิรักษ์อายุเพียง 15 ปี อายุแค่นี้หมอมีจรรยาบรรณที่ไหนเขาจะทำศัลยกรรมให้

ก็มีที่ เชียงใหม่ไง!!!... หนุ่มหน้าพลาสติกหัวเราะเสียงดัง แต่แรกๆ ก็ยอมรับว่าเกร็งว่าจะออกมายังไง เพราะเรายังอายุน้อยมากๆ หมอเขาจะทำศัลยกรรมให้ไหม

?พอไปถึงผิดคาด (หัวเราะ) เขาทำให้ทันที มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าแค่ไปซื้ออาหารมากิน คือ แค่จ่ายตังค์ สั่งหมอ ขึ้นเขียง เราก็ได้จมูกใหม่กลับบ้านมาพ่อแม่ถามผมว่าไปทำอะไรมา หน้าบวมๆ บอกว่ายังไงรู้ไหม...? บอกว่าไปโดนผึ้งต่อยมา (หัวเราะ) นอนรอจนหน้าหายบวมอยู่ 2-3 วัน แต่ที่สุดแล้วพ่อ-แม่ก็ดูออกว่าไปทำจมูกมา? หนุ่มเชียงใหม่ เล่าไปยิ้มไปและย้ำว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมาใบหน้าเขา ผ่านการทำศัลยกรรมจาก ?คลินิก? ที่ จ.เชียงใหม่มาเกือบ 10 แห่ง



ไม่มีการซักประวัติ ไม่มีผู้ปกครองมาเซ็นชื่อยินยอม เพราะอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่มีจิตแพทย์มาสอบประวัติ หรือ แนะนำ...? - เราสงสัย

?ไม่มีครับ (ตอบเร็ว) ครั้งแรกก็เป็นกังวลเรื่องเหล่านี้ แต่ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเราเข้าไปทำที่คลินิก ก็เลยไม่ซักอะไรมากมาก หลังจากผ่านด่านแรกไปอย่างง่ายดาย? เขาเปรียบว่า ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

หลัง จากครั้งแรกผ่านการผ่าไปแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น อภิรักษ์บอกว่าหลังจากนั้นเขาแก้ไขความหล่อแบบพลาสติ กมาเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นการทำๆ แก้ๆ ดั้งจมูกมา 2 รอบ เสริมคางอีกไม่ต่ำกว่า 2 รอบ กรีดริมฝีปากให้บางอีก 1 รอบ เหลากรามให้เรียวสวยงามอีก 1 รอบ

?ส่วน อื่นๆ ก็จะเป็นพวกสารเติมแต่งใบหน้า พวกโบท็อกซ์ ทำให้หน้าเข้ารูป คือ ถ้าอยากยิ้มให้ดูแก้มเด็กก็จะมีการฉีดเข้าไปตรงแก้ม หรือ อย่างกราม ถ้าใหญ่เกิน ก็จะมีการฉีดสลายเนื้อให้ยุบลง?

ศัลยกรรม ความเจ็บที่ไม่ต้องจดก็จำไปจนตาย ...!

ข้าง ต้นเล่าไปเหมือนสนุก ทว่าอภิรักษ์ย้ำว่า ที่เล่าชนิดเน้นผลลัพท์มันอาจจะดูง่ายชนิดดีดนิ้วแล้ วหน้าเปลี่ยน แต่ความจริงแล้วมันต้องผ่านความเจ็บแบบแสนสาหัสจากกา รศัลยกรรมมากมาย

?อย่าง เรื่องเหลากราม เป็นการทำศัลยกรรมที่ผมจะไม่มีวันลืม (เน้นเสียง- ที่จริงเขาบอกว่าเจ็บปวดทรมานแทบทุกส่วนที่ศัลยกรรม) คือหมอเขาจะเปิดแผลใต้คาง พร้อมกับไล่เลาะไปด้านข้าง เหมือนมีอะไรมาขูดตรงกรามเราเสียงดังและเจ็บมาก (เน้นเสียง) แม้หมอจะฉีดยาคลายความกังวลให้ แต่เราก็ยังจำความรู้สึกแบบนั้นได้ดี หรืออย่างการทำจมูก มันก็ไม่ได้ง่าย เพราะตอนแรกเราทำแบบไม่มีต้นแบบ ทำมาแล้วต้องไปแก้ โดยครั้งที่ 2 ผมบอกเขาจัดว่าเอาจมูกแบบโดม-ปกรณ์ ลัม เอารูปพี่โดมไปให้แพทย์ แต่เนื่องจากเนื้อจมูกเรามีน้อย ไม่สามารถดึงออกมาได้โด่งเท่าโดม จมูกก็เลยต่ำกว่าโดมหน่อยแต่ทรงเดียวกัน?

ส่วน ผิวพรรณจากอดีตที่เคย ?ดำด้าน? ดำเหมือนถ่าน อภิรักษ์ก็ใช้วิธีฉีดวิตามินที่ทำให้ผิวกระจ่างใส และทำผิวหน้าเลเซอร์ที่ใบหน้า พร้อมทั้งศึกษาเกี่ยวกับวิธีเพิ่มความสูง จนตอนนี้ส่วนสูง 180 เซนติเมตรโดยธรรมชาติ



?สิ่งที่ไม่ต้องศัลยกรรมในร่างกายผมก็คือส่วนสูงเท่า นั้นครับ? หนุ่มสุดฮอตหัวเราะลั่น

ความคุ้มค่า ผล-เสีย ศัลยกรรม??

กล่าวสำหรับราคาการ "อัพหน้า" เพื่อหล่อเหลาราวกับ 'ยกเครื่องใหม่' ถือว่าไม่ใช่เรื่องราวเล่นๆ

อภิรักษ์ บอกว่า คร่าวๆก็ทำจมูกครั้งแรก 15,000 บาท ครั้งที่สอง 22,000 บาท ทำคางครั้งแรก 16,000 บาท ครั้งที่สอง 25,000 ทำปากราคาถูกหน่อย เพราะทำเว็บให้กับทางคลินิก และเหลากราม 25,000 บาท เป็นต้น รวมการทำศัลยกรรมทั้งหมดก็ราว 16 ครั้ง ณ วันนี้ เป็นเงินเท่าไหร่ลองคิดดูเอาเอง

?ส่วนตัวมองในเรื่องชีวิต คิดว่าคุ้มค่า เพราะหลังจากการทำ ชีวิตเปลี่ยนไปมาก มั่นใจขึ้น เวลาทำอะไรก็ตาม จะเป็นที่ยอมรับ จากเดิมที่เป็นคนขี้อายพูดน้อยตอนนี้ก็มีความมั่นใจเ พิ่มขึ้น สมัยก่อนไปจีบสาวแล้วรู้สึกอายๆ แต่ตอนนี้หากต้องการคุยกับคนนี้ ก็สามารถเข้าไปทักแล้วคุยได้เลย หลายคนก็เขามาคุยกับเราแบบปลื้มๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้หน้าตาทำให้มีความมั่นใจสูงขึ้นเป็นสิบเท่า?

นอก จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อนาคตเขายังวางแผนเอาไว้ว่า จะจัดฟันให้เรียงสวย ส่วนปัญหาใหญ่เรื่องรูปหน้าที่อาจจะเปลี่ยนไปตามวัยท ี่ต้องเผชิญนั้น เขาบอกว่าได้คิดไว้แล้ว จึงปรึกษากับหมอเรื่องกะโหลกศีรษะของเด็ก หมอบอกว่าสักอายุ 16-17 ปี กะโหลกจะอยู่เท่านั้น ส่วนที่เปลี่ยนแปลงจะเป็นส่วนของเนื้อเยื่อ เพราะคนเอเชียหรือเกาหลีที่ทำกัน ก็ทำตั้งแต่อายุ 17-18 ปีเหมือนกัน อย่างจมูก ถ้าอายุมากขึ้นก็ใช่ว่าจมูกจะโด่งขึ้น

?เรื่องแก่เรื่อง เหี่ยวเป็นธรรมดาของมนุษย์ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะศัลยกรรมดึงหน้าไหม อย่างบางคนอายุ 60 มาดึงหน้าจนอยู่ที่ 30 กว่า หน้าจะไม่มีรอยย่นเลยมีคนสงสัยว่าผมเป็นเพศที่ 3 หรือไม่เห็นทำศัลยกรรมมากมายแบบนี้ ยืนยันตรงนี้ว่าตนเป็นผู้ชายแน่นอน วันนี้ก็มีแฟนผู้หญิงเป็นตัวเป็นต้น แม้จะมีสาวเข้ามาหามากมาย แต่ก็ไม่ได้ให้ความใกล้ชิดแต่อย่างใด?

เสพติดศัลยกรรมทำดีได้ดีตลอดไปจริงเหรอ ??

ท้าย ที่สุด หนุ่มจอมศัลยกรรมวัย 17 ปี ได้ฝากถึงผู้ที่คิดจะทำศัลยกรรมว่า การทำศัลยกรรมต้องศึกษาให้ดี เพราะหมอแต่ละคนมีฝีมือในแต่ละส่วนที่แตกต่างกัน บางคนทำออกมาไม่ได้จะดูดีขึ้นเสมอไป เราจึงต้องศึกษาให้ดี และคิดตรึกตรองให้ถี่ถ้วน

?ที่ผมพูดมาทั้งหมดไม่ใช่ว่าจะสนับสนุน เพราะการทำศัลยกรรมมันมีข้อเสียมากมาย มีเรื่องชกต่อยหรือทำอะไรเสี่ยงๆ กับการกระแทกบนใบหน้าไม่ได้ทั้งนั้น เพราะอะไรแข็งๆ มาโดนหน้ามันจะพัง อย่างไรก็ดีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลายคนติดศัลยกรรมออกมาไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ไม่มั่นใจถึงกับไม่กล้าออกไปพบเจอผู้คน แต่ผมอาจจะโชคดีกว่า แต่อย่างไรก็ดี หน้าศัลยกรรมแบบนี้ เราต้องดูแลตัวเองให้มากๆ โดยเฉพาะะเรื่องอุบัติเหตุ ขับรถพลาดจนส่งผลให้ส่วนที่ทำศัลยกรรมเกิดความเปลี่ย นแปลง?

โดยส่วน ตัวตนเองว่า มันลำบากตอนการพักฟื้น เช่น หลังทำแก้คางครั้งที่ 2 ต้องเหลาไปด้านข้างของบริเวณคาง และมีการเลาะเนื้อออกจากกระดูกและเย็บใหม่ คืนแรกที่นอนก็ดิ้นเลย ส่วนปากรับประทานอาหารไม่ได้ประมาณ 7 วันหลังทำปากบาง ต้องตักอาหารใส่เบาๆ น้ำก็ดูดไม่ได้ต้องเทเข้าไป ทำอย่างนี้จนหายบวมจึงจะกินได้ปกติ ซึ่งทรมานมากแบบไม่มีวันลืม

อภิรักษ์ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า หากตอนนั้นไม่ทำศัลยกรรม ชีวิตจะไม่เป็นอย่างวันนี้, แต่สิ่งที่แน่นอนกว่าก็คือ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำศัลยกรรมก็มีมากกว่าค นที่ทำแล้วดี..! แต่ "ดี" ในวันนี้แล้ววันข้างหน้าละใครจะรู้??

http://variety.postdung.com/detail/5197_%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%28%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%29%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E-%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87!!-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B817%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B216%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87/
36  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ขอทราบความหมายของคำว่า อัตตวาทุปาทาน คะ หมายถึงอย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 08:52:35 am
ขอทราบความหมายของคำว่า อัตตวาทุปาทาน คะ หมายถึงอย่างไร

จะละได้อย่างไร คะ

ควรปฏิบัติภาวนาได้อย่างไร

 :c017:
37  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / VDO สมถญาณิกะวิ ปัสสนาญาณิกะ โดย พระครูเกษมธรรมทัต เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2011, 08:19:36 am


VDO สมถญาณิกะวิ ปัสสนาญาณิกะ
38  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / แนะนำการปฏิบัติ โดย พระครูเกษมธรรมทัต วัดมเหยงค์ อยุธยา เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2011, 08:18:16 am


แนะนำการปฏิบัติ
39  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ปสาทสูตร สูตรแห่งความเลื่อมใส เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:08:37 am

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://jitpan.files.wordpress.com

ปสาทสูตร
             [๓๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเลื่อมใสในสิ่งเลิศ ๔ ประการนี้
๔ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ไม่มีเท้าก็ตาม ๒ เท้าก็ตาม
๔ เท้าก็ตาม มีเท้ามากก็ตาม มีรูปหรือไม่มีรูปก็ตาม มีสัญญาหรือไม่มีสัญญา
ก็ตาม มีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ก็ตาม มีประมาณเพียงใด พระ
ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อันชาวโลกกล่าวว่าเลิศกว่าสัตว์เหล่านั้น ชน
เหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ชนเหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในสิ่งเลิศ และ
วิบากอันเลิศย่อมมีแก่ชนผู้เลื่อมใสในสิ่งเลิศ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่ปัจจัย
ปรุงแต่งมีประมาณเท่าใด อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ เรากล่าวว่าเลิศกว่า
ธรรมเหล่านั้น ชนเหล่าใดเลื่อมใสในอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ชนเหล่า
นั้นชื่อว่าเลื่อมใสในสิ่งเลิศ และวิบากอันเลิศย่อมมีแก่ชนผู้เลื่อมใสในสิ่งเลิศ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่ปัจจัยปรุงแต่งหรือไม่ปรุงแต่งมีประมาณเท่าใด วิราคะ
คือ ธรรมอันย่ำยีความเมา ธรรมเครื่องกำจัดความกระหาย ความถอนเสียซึ่ง
ความอาลัย ความเข้าไปตัดวัฏฏะ ธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา ความคลายกำหนัด
ความดับ นิพพาน เรากล่าวว่าเลิศกว่าธรรมเหล่านั้น ชนเหล่าใดเลื่อมใส
ในวิราคะ ชนเหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในสิ่งเลิศ และวิบากอันเลิศย่อมมีแก่ชน
ผู้เลื่อมใสในสิ่งเลิศ ดูกรภิกษุทั้งหลาย หมู่ก็ดี คณะก็ดี มีประมาณเท่าใด
พระสงฆ์สาวกของตถาคต คือ คู่บุรุษ ๔ บุรุษบุคคล ๘ นี้ คือ พระสงฆ์สาวก
ของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของ
ทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า เรา
กล่าวว่าเลิศกว่าหมู่หรือคณะเหล่านั้น ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระสงฆ์ ชนเหล่านั้น
ชื่อว่าเลื่อมใสในสิ่งเลิศ และวิบากอันเลิศย่อมมีแก่ชนผู้เลื่อมใสในสิ่งเลิศ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย ความเลื่อมใสในสิ่งเลิศ ๔ ประการนี้แล ฯ
                          บุญที่เลิศ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติคุณ สุข และพละ
                          อันเลิศ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้รู้แจ้งซึ่งธรรมอันเลิศ เลื่อมใส
                          โดยความเป็นของเลิศ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผู้เป็น
                          ทักขิไณยบุคคลชั้นเยี่ยม เลื่อมใสในพระธรรมอันเลิศ
                          ซึ่งเป็นธรรมปราศจากราคะ สงบและเป็นสุข เลื่อมใส
                          ในพระสงฆ์ผู้เลิศ ซึ่งเป็นบุญเขตชั้นเยี่ยม ถวายทานใน
                          ท่านผู้เลิศนั้น ผู้มีปัญญาตั้งมั่นแล้วในธรรมอันเลิศ ให้ทาน
                          แก่ท่านผู้เป็นบุญเขตอันเลิศ จะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์
                          ก็ตาม ย่อมถึงความเป็นผู้เลิศ บันเทิงอยู่ ฯ
จบสูตรที่ ๔


             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ บรรทัดที่ ๙๑๒ - ๙๔๔. หน้าที่ ๓๙ - ๔๐.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=912&Z=944&pagebreak=0
40  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / กรณียเมตตสูตร กับอานิสงค์ เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 09:39:47 am


กรณียเมตตสูตรในขุททกปาฐะ
             [๑๐]    กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์ ปรารถนาจะตรัสรู้บทอันสงบ
                          แล้วอยู่ พึงบำเพ็ญไตรสิกขา กุลบุตรนั้นพึงเป็นผู้อาจหาญ
                          เป็นผู้ตรง ซื่อตรง ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่เย่อหยิ่ง สันโดษ
                          เลี้ยงง่าย มีกิจน้อย มีความประพฤติเบา มีอินทรีย์อันสงบ
                          ระงับ มีปัญญาเครื่องรักษาตน ไม่คะนอง ไม่พัวพันในสกุล
                          ทั้งหลาย ไม่พึงประพฤติทุจริตเล็กน้อยอะไรๆ ซึ่งเป็นเหตุ
                          ให้ท่านผู้รู้เหล่าอื่นติเตียนได้ พึงแผ่ไมตรีจิตในสัตว์ทั้งหลาย
                          ว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้มีสุข มีความเกษม มีตน
                          ถึงความสุขเถิด สัตว์มีชีวิตเหล่าใดเหล่าหนึ่งมีอยู่ เป็นผู้
                          สะดุ้งหรือเป็นผู้มั่นคง ผอมหรือพี และสัตว์เหล่าใดมีกาย
                          ยาวหรือใหญ่ ปานกลางหรือสั้น ที่เราเห็นแล้วหรือมิได้เห็น
                          อยู่ในที่ไกลหรือที่ใกล้ ที่เกิดแล้วหรือแสวงหาที่เกิด ขอ
                          สัตว์ทั้งหมดนั้นจงเป็นผู้มีตนถึงความสุขเถิด สัตว์อื่นไม่พึง
                          ข่มขู่สัตว์อื่น ไม่พึงดูหมิ่นอะไรเขาในที่ไหนๆ ไม่พึง
                          ปรารถนาทุกข์แก่กันและกันเพราะความกริ้วโกรธ เพราะความ
                          เคียดแค้น มารดาถนอมบุตรคนเดียวผู้เกิดในตน แม้ด้วย
                          การยอมสละชีวิตได้ ฉันใด กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์
                          พึงเจริญเมตตามีในใจไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งปวง แม้ฉันนั้น
                          ก็กุลบุตรนั้น พึงเจริญเมตตามีในใจไม่มีประมาณไปในโลก
                          ทั้งสิ้น ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง ไม่คับแคบ
                          ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู กุลบุตรผู้เจริญเมตตานั้นยืนอยู่ก็ดี เดิน
                          อยู่ก็ดี นั่งอยู่ก็ดี นอนอยู่ก็ดี พึงเป็นผู้ปราศจากความง่วง
                          เหงาเพียงใด ก็พึงตั้งสตินี้ไว้เพียงนั้น บัณฑิตทั้งหลายกล่าว
                          วิหารธรรมนี้ว่า เป็นพรหมวิหาร ในธรรมวินัยของพระอริย
                          เจ้านี้ กุลบุตรผู้เจริญเมตตา ไม่เข้าไปอาศัยทิฐิ เป็นผู้มีศีล
                          ถึงพร้อมด้วยทัศนะ กำจัดความยินดีในกามทั้งหลายออก
                          ได้แล้ว ย่อมไม่ถึงความนอนในครรภ์อีกโดยแท้แล ฯ
จบเมตตสูตร
จบขุททกปาฐะ

-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๒๓๗ - ๒๖๗. หน้าที่ ๑๑ - ๑๒.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=237&Z=267&pagebreak=0
หน้า: [1] 2