ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขณะที่เรานับถือ พระพุทธเ้จ้า ก็มี ขณะที่อีกหลาย หมิ่นดูถูก พระพุทธเจ้า  (อ่าน 8105 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

catwoman

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 88
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์นี้ นะคะ
http://www.8875fm.com/index.php?name=webboard&file=read&id=176
บันทึกการเข้า

catwoman

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 88
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จะมองแง่ ดี ว่า เข้าห้องสุขา เพราะปลดทุกข์ การปลดทุกข์ เหมือนการเข้าถึงธรรม อย่างนั้นหรือคะ

  การมองแง่ดีอย่างนี้หมายถึง การที่เราเข้าไปจัดการอะไรไม่ได้ เพื่อให้เราอารมณ์สงบ ลงใช่หรือ ไม่คะ
หรือต้องรื้อ พรหมชาลสูตร เข้ามาอ่าน หลาย ๆ รอบ  จึงจะถูกใจ ทุกท่าน

     คำถามคือ สิทธิมนุษยชน ที่ไม่ควรหมิ่นซึ่งกันและกันเพื่อการอยู่อย่างสันติสุข อยู่ตรงไหน คะ

   thk56 :'(
บันทึกการเข้า

เสริมสุข

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 223
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ลองอ่านดูครับ

".....มีเรื่องเล่าว่า คราวหนึ่งหลวงพ่อชา สุภัทโท เดินไปตรวจตราตามกุฏิพระ เห็นพระรูปหนึ่งนั่งหลบฝน เนื่องจากหลังคารั่ว ฝนจึงหยดลงมา
หลวงพ่อชาก็เลยถามว่า ทำไมไม่ซ่อมหลังคาล่ะ พระรูปนั้นบอกว่าผมปล่อยวางครับ
หลวงพ่อชาก็เลยบอกว่า ปล่อยวางกับวางเฉยแบบงัวแบบควายนั้นไม่เหมือนกัน

ผู้คนมักคิดว่าวางเฉยแบบงัวแบบควายเป็นการปล่อยวางแบบพุทธ นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด ปล่อยวางเป็นเรื่องภายในใจ
แต่หน้าที่การงานเราก็ต้องทำตามสมควรแก่เหตุปัจจัย โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทั้งแก่ตัวเราเองและต่อผู้อื่นด้วย

พระพรหมคุณาภรณ์ (ปยุตโต)ได้สรุปสั้นๆ ว่า ปล่อยวางนั้นเป็นเรื่องการทำ “จิต” ส่วนการทำงานต่าง ๆ ด้วยความรับผิดชอบนั้น
เป็นเรื่องการทำ “กิจ” ในเมื่อสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนเป็นนิจ ในแง่จิตใจเราจึงควรปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นในสิ่งทั้งปวง
แต่ขณะเดียวกันอะไรที่สมควรทำเราต้องรีบทำ ไม่เฉื่อยแฉะเฉื่อยเนือย เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียตามมา
การทำกิจนั้นบางทีท่านก็เรียกว่าความไม่ประมาท

ความไม่ประมาทกับการปล่อยวางเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ แม้อากัปกิริยาภายนอกทำงานด้วยความขยันขันแข็ง
แต่ภายในใจไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรา พร้อมอยู่เสมอที่จะเผชิญกับความผันผวน พร้อมที่จะเจอความล้มเหลว
เพราะรู้ว่าเหตุปัจจัยต่างๆ มีมากมายที่เราควบคุมไม่ได้ เวลาทำงานก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นว่านี่มันเป็นงานของเรา
ใครจะมาแตะต้องหรือวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เวลาทำอะไรก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นว่าผลต้องออกมาอย่างนี้อย่างนั้น
ถ้าไม่ออกมาตามที่หวัง ฉันโมโห ฉันโกรธ ฉันท้อแท้ ผิดหวัง ท่าทีเช่นนี้จะทำให้เป็นทุกข์ได้ง่าย
....."

http://www.visalo.org/article/bkkB000001.htm
บันทึกการเข้า
อยากได้รับความสุข จาก ธรรมะ อยากได้รับ ..... แหมก็อยากนี้จ๊ะ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
จะมองแง่ ดี ว่า เข้าห้องสุขา เพราะปลดทุกข์ การปลดทุกข์ เหมือนการเข้าถึงธรรม อย่างนั้นหรือ คะ การมองแง่ ดี อย่างนี้หมายถึง การที่เราเข้าไปจัดการอะไรไม่ได้ เพื่อให้เราอารมณ์สงบ ลงใช่หรือไม่ คะ

ลองอ่านดูครับ
".....มีเรื่องเล่าว่า คราวหนึ่งหลวงพ่อชา สุภัทโท เดินไปตรวจตราตามกุฏิพระ เห็นพระรูปหนึ่งนั่งหลบฝน เนื่องจากหลังคารั่ว ฝนจึงหยดลงมา
      หลวงพ่อชาก็เลยถามว่า ทำไมไม่ซ่อมหลังคาล่ะ พระรูปนั้นบอกว่าผมปล่อยวางครับ
      หลวงพ่อชาก็เลยบอกว่า ปล่อยวางกับวางเฉยแบบงัวแบบควายนั้นไม่เหมือนกัน
      ผู้คนมักคิดว่าวางเฉยแบบงัวแบบควายเป็นการปล่อยวางแบบพุทธ นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด ปล่อยวางเป็นเรื่องภายในใจ แต่หน้าที่การงานเราก็ต้องทำตามสมควรแก่เหตุปัจจัย โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทั้งแก่ตัวเราเองและต่อผู้อื่นด้วย....."


   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2013, 01:02:14 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

Be-boy

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 84
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ชาวพุทธโวย โรงแรมในฝรั่งเศส ใช้รูปพระพุทธเจ้า ประดับฝาโถส้วม ร้องกระทรวงการต่างประเทศ-สำนักพุทธฯประสานโรงแรม-โรงงานผู้ผลิตยุติการกระทำลบหลู่


27 ก.พ. 56 นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา(พศ.)  เปิดเผยว่า

พศ.ได้รับการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ(กต.) เกี่ยวกับกรณีร้องเรียนจากกลุ่มคนไทยในยุโรป ผ่านเว็บไซต์ องค์กรโนอิ้งบุดด้า เพื่อการปกป้องพระศาสนา   (Knowing Buddha Organization) ว่า โรงแรม มูแลง เดอ โบรเย( Moulin de broaille) สถานที่พักตากอากาศ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบัวร์โก (Bourgogne) ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการตกแต่งห้องชุดแนวใหม่โดยใช้ชื่อว่า “Little Buddha” หรือ “พระพุทธเจ้าน้อย” โดยได้นำภาพสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า  ทั้งภาพวาด ภาพเขียน มาเป็นวัสดุประดับผนังตกแต่ง ที่สำคัญมีการนำภาพพระเศียรของพระองค์มา ประดับไว้บนฝาโถส้วม  โดยฝาโถส้วมดังกล่าวเป็นสินค้าของบริษัทสุขภัณฑ์ฝรั่งเศส ชื่อ S.A.S Olfa


นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า ทางองค์กรโนอิ้งบุดด้า จึงได้เร่งดำเนินการประสานเรื่องนี้ไปยังสถานทูตฝรั่งเศสและสถานทูตเนเธอร์แลนด์

เพื่อช่วยขอให้โรงแรมหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และให้บริษัทผู้ผลิตหยุดทำการผลิตสินค้านี้ และออกมาขอโทษชาวพุทธ  ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ฝรั่งเศสในไทย ได้ทำหนังสือถึงผู้จัดการโรงแรม มูแลง เดอ โบรเย และขอให้แก้ไขเรื่องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือมายังพศ.ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว และพศ.จะทำหนังสือชี้แจงให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ พระศาสดา และความเชื่อในการนับถือศาสนาของชาวพุทธให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจต่อไป

             
“เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจต่อชาวต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากเขามักเข้าใจว่า ศาสนาพุทธเป็นเพียงแค่หลักปรัชญาเท่านั้น ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจกับเขาเพิ่มว่า รูปพระพุทธองค์หรือพระพุทธรูป คือ ศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ชาวพุทธเคารพนับถือ จะนำไปลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ การนำมาประดับตามโถสวม ถือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง หากจะนำไปประดับควรนำไปอยู่ในที่เหมาะสม เพราะจะกระทบจิตใจของชาวพุทธ”ผอ.พศ. กล่าว

               
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ องค์กรโนอิ้งบุดด้า เพื่อการปกป้องพระศาสนา 

ยังได้ระบุข้อมูลเพิ่มเติมไว้ว่า ขณะนี้ กำลังรณรงค์ กลุ่มคนไทยในยุโรปและชาวพุทธทั่วโลกให้ออกมาหยุดลบหลู่สัญลักษณ์ของพระพุทธศาสดา  พร้อมทั้งยังระบุว่า ได้ติดต่อคุยกับทั้งบริษัทผู้ผลิต และโรงแรมโดยตรง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ

             
อีกทั้ง แทบจะทุกถนนหนทางในประเทศแถบยุโรป ได้นำพระพุทธเจ้ามาทำการค้าอย่างขาดซึ่งความเคารพยำเกรง

แม้เพียงสามัญสำนึกพื้นฐาน ว่า พระพุทธองค์เป็นพระศาสดาเช่นกัน  ก็ยังไม่พึงให้ความเคารพ  กลับมองมองพระพุทธเจ้า เป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ชวนสงบและควรแก่การนำมาตกแต่งประดับบ้านตั้งแต่ช่วงบน ช่วงล่าง เป็นพรมเช็ดเท้าและกระทั่งนำพระรูปมาประดับบนโถส้วม


ที่มา:http://tnews.teenee.com/world/92047.html
บันทึกการเข้า
ออกกำลังกายเคลื่อนไหว เป็นสติครับ

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

sinjai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 144
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
                         

ฝรั่งอ้าง 'เสรีภาพ' ไม่สนไทยท้วง 'สบู่เศียรพระ' เดินหน้าผลิตต่อ

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้รายงานให้มหาเถรสมาคม (มส.) รับทราบตามที่ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือ กต.0904/336 เรื่องเว็บไซต์จำหน่ายสบู่รูปเศียรพระพุทธเจ้า ถึง พศ. โดยทางกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า พบการผลิตและจำหน่ายสบู่รูปเศียรพระพุทธเจ้าผ่านเว็บไซต์ www.purebuddha.nl จึงเห็นควรให้ทักท้วงหรือแจ้งผู้ดำเนินการดังกล่าว โดยทางกระทรวงฯ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ แจ้งให้เจ้าของกิจการ purebuddha ทราบข้อกังวลและความรู้สึกของชาวพุทธต่อกรณีดังกล่าว
        นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า ในหนังสือดังกล่าวยังได้แจ้งอีกว่า สถานเอกอัครราชทูตได้นัดหมาย Ms.Lorang เจ้าของกิจการดังกล่าว เพื่อชี้แจงข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสบู่รูปเศียรพระพุทธเจ้า แต่ได้รับการปฏิเสธ และสถานเอกอัครราชทูตได้รับแจ้งจากสถานีโทรทัศน์ RTL Bulvar ของประเทศเนเธอร์แลด์ว่า จะนำเสนอบทสัมภาษณ์ของ Ms.Lorang ซึ่งเห็นว่า ตนมีเสรีภาพที่จะประกอบกิจการดังกล่าวโดยไม่ผิดกฎหมายเนเธอร์แลนด์
        ต่อมา ทางสถานเอกอัครราชทูตได้เข้าพบพูดคุยกับเจ้าของกิจการคนดังกล่าว โดยได้รับข้อมูลว่า เคยทำงานในประเทศไทยและเข้าใจดีว่าคนไทยนับถือพระพุทธศาสนา แต่ตนตีความและเข้าใจพระพุทธศาสนาในมุมมองแตกต่างจากคนไทย
        ในหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุอีกว่า เจ้าของกิจการคนดังกล่าว เห็นว่าพระพุทธศาสนาเป็นเพียงความเชื่อหนึ่ง เธอมีเสรีภาพที่จะผลิตและจำหน่ายสบู่รูปเศียรพระพุทธเจ้าโดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และไม่มีเจตนาลบหลู่พระพุทธศาสนา ส่วนการที่ผู้ซื้ออาจจะนำสบู่ไปใช้หรือวางไว้ในที่ไม่เหมาะสม ก็เป็นสิทธิของผู้ซื้อ
        นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดสถานทูต จึงแสดงข้อห่วงกังวลต่อกิจการของเธอในขณะที่มีสินค้าเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าจำนวนมากในท้องตลาด
        นายนพรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า ตนได้รายงาน มส.ว่า สถานเอกอัครราชทูตได้แจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ทราบข้อห่วงกังวลในเรื่องนี้ และรับแจ้งว่า ไม่สามารถให้ความร่วมมือแจ้งบริษัท purebuddha เกี่ยวกับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าวในประเทศไทยได้ เนื่องจากประเทศเนเธอร์แลนด์ยึดถือและให้คุณค่าต่อเสรีภาพในการแสดงออก นอกจากนี้ ยังมีชาวดัตช์ที่นับถือศาสนาพุทธต้องการออกรายการโทรทัศน์ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและกรณีการผลิตจำหน่ายสบู่ข้างต้นด้วย




http://www.facebook.com/PureBuddha
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000026113
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2013, 09:19:17 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องนี้ ผมเห็นด้วยว่า อย่าวางเฉยครับ ลงชื่อร่วม เลยครับ เพื่อจะได้ผลักดัน เรื่องได้ เหมือนป้องกันการทำเหมือง อย่าไปพึ่งมองว่า ใครจะเสียหาย สิ่งสำคัญต้องทำเพื่อการบูชา คนที่บูชากันก่อนครับ เพื่อไม่ให้เกิดการปรามาสใหญ่ ทั่วโลก นะครับ

   st12 st12 st12
บันทึกการเข้า

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สุดท้ายเสียงที่กลับมาก การกระทำที่กลับมาก็คือ ไม่เกิดประโยชน์ หรือหยุดการกระทำของคนเหล่านั้นได้ ถึงแม้เรลงชื่อร่วมกัน เป็นแสน ๆ ก็เถอะ แต่ เราไม่ได้ไปทำศึกชิงกลับมา หรือ เอาเรื่องทางกฏหมายแล้ว ก็เท่ากับ ศูนย์ ดูอย่าง เหมืองนั่นสุดท้าย ก็สัมปะทานเดินหน้าเต็มกำลังในการทำลาย ถูกใจชาวเมืองที่ต้องการทำลาย พุทธ อยู่แล้ว อย่าลืมว่า ทุกวันนี้ ศาสนาที่คอยทำลาย ศาสนาอื่น ๆ นั้น คือ ศาสนาอะไร และเขาได้หยุดวิถีการทำลายนั้นหรือไม่ วันนี้เขาไม่ได้นิ่งเฉย เขาก็พยายามทำลายทั้ง ประเทศ สถาบัน ศาสนา เราอยู่ดี

  :91: :91: :91: :021: :021: :021:
บันทึกการเข้า