สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 23, 2013, 09:54:44 am



หัวข้อ: หลวงพ่อสายน์ "พระสามเมือง..เวียงจันทน์-หนองคาย-กรุงเทพฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 23, 2013, 09:54:44 am
(http://www.watpathumwanaram.com/useruploads/images/prasai.jpg)

พระไส หรือพระสายน์  เป็นพระพุทธรูปที่มีชื่อ ลาวนับถืออยู่ที่เมืองเวียงจันทน์มานาน เมื่อปราบเวียงจันทน์ขบถในรัชกาลที่ 3 เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ทำลายเมืองเวียงจันทน์เสีย สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ ซึ่งเสด็จเป็นจอมทัพไปคราวนั้น ได้เชิญมาไว้ที่วัดโพธิไชย ในแขวงเมืองหนองคาย ซึ่งตั้งขึ้นเป็นเมืองใหญ่แทนเวียงจันทน์

สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เชิญมาไว้ที่วัดเขมาภิรตาราม ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้อัญเชิญพระไสมาประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถ วัดปทุมวนาราม เมื่อขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ปีมะเส็ง พ.ศ. 2401 ข้อความต่อไปนี้ พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 4 จากหนังสือที่ระลึกในการทอดกฐินพระราชทาน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแปลจากจารึกด้านหลังของพระไส ดังนี้

      ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแด่ทุกท่าน ที่ได้สดับและอ่านเรื่องนี้เถิด

      ans1 ans1 ans1

      ข้าพเจ้าจะขอกล่าวถึงประวัติของพระปฏิมานามว่า “สายน์” ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ พระอุโบสถ วัดปทุมวนารามนี้ โดยคาถาประพันธ์เหล่านี้ ตามที่ได้ทราบและได้ยินมาแต่เพียงย่อ ๆ ดังต่อไปนี้

      พระพุทธปฏิมาซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ พระอุโบสถ นี้ หล่อด้วยทองเหลืองซึ่งผสมเป็นอย่างดีมาแล้วทั้งหนาทั้งหนัก สนิทดีดุจศิลาทั้งแต่เกลี้ยงเกลา เหลืองอร่าม ดุจทองคำ ข้าพเจ้าไม่ทราบเหมือนกันว่า ใครเป็นผู้สร้าง สร้างที่ไหน สร้างเมื่อไหร่ และสร้างอย่างไร ทราบแต่เพียงว่าเป็นหัตถกรรมของลาวอย่างเดียวเท่านั้น

     ก่อนที่จะนำมาประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถนี้ พระพุทธปฏิมาองค์นี้ ได้ประดิษฐานอยู่ ณ แคว้นลาวพวกอิสรชนบางหมู่ได้เอาไปเก็บไว้ในถ้ำ ณ ภูเขาลูกหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้เมืองมหาชัยปุระ ในแคว้นลาวนั้นเป็นเวลานานแล้ว เปิดโอกาสให้มหาชนทั่ว ๆ ไปบูชากันได้

      ask1 ask1 ask1

     จะเป็นเพราะเหตุใดพระพุทธปฏิมานี้จึงได้นามว่า “พระสายน์” นั้นไม่มีใครทราบ
     แม้แต่ประชาชนจำนวนมากซึ่งมีนิวาสถานอยู่ในเมืองมหาชัยปุระ เป็นต้นในกาลก่อนก็เพียงแต่ทราบกิตติศัพท์ ที่เขาเล่าลือกันว่าท่านมีฤทธิ์มากเท่าใด เมือใดเกิดฝนแล้งเขาก็จะอัญเชิญท่านออกมาบูชากัน ณ ที่สะอาดกลางแจ้งแล้วก็ขอฝน ด้วยอานุภาพของพระพุทธปฏิมาองค์นี้ ฝนก็จะหลั่งลงมายังข้าวกล้าให้สมบูรณ์ ทำให้ไพร่ฟ้าประชากรประสพความสำเร็จได้
     ชนส่วนมากรู้จักพระพุทธปฏิมาองค์นี้ โดยกิตติศัพท์ที่เขาเล่าลือกันเพียงเท่านี้ เท่านั้น
     เมื่อเกิดมีฝนแล้งขึ้นแล้ว เขาก็จะบูชาท่านเพื่อขอฝน



(http://www.watpathumwanaram.com/main/admin/gallery/33023308_52_gallery03-3.jpg)
วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร
969 พระราม1 แขวงปทุมวัน ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330


    เมื่อพระพุทธศักราชล่วงได้ 2400 ปี พระบาทสมเด็จพระปรเมรทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นใหญ่ในสยามประเทศ ทั้งทรงมีพระอำนาจเหนือดินแดนต่าง ๆ มีแคว้นลาว เป็นต้น พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระรัตนตรัย มีพระพระพุทธเจ้า เป็นต้น ได้ทรงให้ความอุปถัมภ์แก่พระพุทธศาสนาทุกแห่งโดยสัมมาปฏิบัติเสมอพระองค์

    ได้ทรงส่งราชเสวกผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นลาว ชื่อ โสณังกูร ไปยังแคว้นลาวด้วยพระราชกรณียกิจบางอย่าง ลาวโสณังกูรนั้น เมื่องไปถึงแคว้นลาวในคราวนั้น ได้ยินกิตติศัพท์ของพระสายน์ ซึ่งแผ่กระจายอยู่ทั่วหัวระแหง แล้วจึงได้ไปยังเมืองมหาชัยปุระ ได้เห็นพระพุทธรูปชื่อว่า “พระสายน์” นี้ ประดิษฐานอยู่ในถ้ำเป็นอย่างดีด้วยตนเอง 

    พระสายน์นี้เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของชนทั่ว ๆ ไปมิได้มีใครรักษา แต่มีคนมาบูชาอยู่เสมอตามโอกาส จึงได้อ้างพระราชโองการแล้วนำพระพุทธปฏิมานี้มาด้วย พระราชกฤษภินิหาร ของพระองค์เจ้ากรุงสยามแล้ว เมื่อมาถึงพระนครนี้แล้วก็ได้กราบทูลให้ทรงทราบความเป็นมาทุกประการ แล้วได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระพุทธปฏิมา แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

      :sign0144: :sign0144: :sign0144:

    ในสมัยนั้นพระปรเมรทรมหามงกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ซึ่งกอร์ปไปด้วยพระวิริยอุตสาหะอย่างใหญ่หลวง ทรงเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างดี ได้ทรงรับสั่งให้สร้างวัดนี้ขึ้น ณ ที่ลุ่ม ซึ่งเป็นสระบัวที่น่ารื่นรมย์ใจแห่งนี้ แล้วให้ประดิษฐานทุกสิ่งได้อย่างพร้อมสรรพ เมื่อโรงพระพุทธปฏิมานี้ เราสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ผู้เป็นจอมคนจึงรับสั่งให้ประดิษฐานพระพุทธรูป “พระสายน์” ซึ่งมีลักษณะอันงามอันได้มาโดยวิธีดังกล่าวนั้น ทำให้เป็นใหญ่กว่าเจดียสถานทั้งปวง เปิดโอกาสให้ประชาชนได้บูชาพระพุทธปฏิมานั้นตลอดกาลเป็นนิจบ้างและตามโอกาสอันสมควรบ้าง

     ขอทวยเทพและมนุษย์ทั้งหลายที่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ทั้งปวงที่พากันมา ณ ที่นี้ จงกราบไหว้บูชาอุทเทสิกเจดีย์ พระพระพุทธเจ้าอันมีพระนามว่า “สายน์” นี้ โดยความเคารพ ตามกำลังความสามารถเถิด และขอจงอนุโมทนาส่วนพระราชกุศล ที่พระราชาผู้ปรารถนาประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชนได้ทรงสร้างไว้นานาประการมิใช่น้อยเถิด

      st12 st12 st12

     พระราชา พระองค์หาได้ทรงปรารถนาพุทธภูมิดุจชนอื่นเป็นจำนวนมากไม่ เมื่อพระองค์ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายมิได้ถึงความสงบ จึงทรงปรารถนาเพียงให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์เท่าที่พระองค์และชนเหล่าอื่นจะถึงมีได้เท่านั้น

     ขอพระพุทธปฏิมา พระนามว่า “สายน์” ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ พระอุโบสถนี้ จงบันดาลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาลทุกเมื่อ เทอญ.



ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.watpathumwanaram.com/main/buddha-statueA.php (http://www.watpathumwanaram.com/main/buddha-statueA.php)


หัวข้อ: Re: หลวงพ่อสายน์ "พระสามเมือง..เวียงจันทน์-หนองคาย-กรุงเทพฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ ตุลาคม 23, 2013, 11:26:47 am
(http://www.watpathumwanaram.com/useruploads/images/prasai.jpg)

วัดประทุมวนาราม

     พระสายน์พระใสแพร้ว      เด่นทแกล้วอยู่เวียงลาว
นิราศแคว้นเพียงคราว         สืบศานติ์ศาสน์อยู่บึงบัว.

                                                                                                        ธรรมธวัช.!


 st12           :25:           st12           :25:           st12


หัวข้อ: Re: หลวงพ่อสายน์ "พระสามเมือง..เวียงจันทน์-หนองคาย-กรุงเทพฯ"
เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ ตุลาคม 23, 2013, 08:11:35 pm
 st12
ชออนุโมทนาสาธุ