ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทนนั่งให้ได้ตามเวลา แม้จิตไม่เป็นสมาธิ จะมีประโยชน์อะไรกับการภาวนาบ้างคะ  (อ่าน 8001 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เวลานั่งกรรมฐาน คือ ทรมานมากหลังจากผ่าน 30 นาทีไป แต่ก็อาศัยคำว่าอดทน ที่จะนั่งกรรมฐานอย่างนั้นให้ได้จึงทนนั่งไปอย่างนั้น จนได้ตามเวลาที่ต้องการจึงเปลี่ยนท่าท่าง การทำอย่างนี้ จะมีประโยชน์ใด ๆ กับการทำสามาธิบ้างคะ หรือว่ามีิวิธีแก้ ด้วยวิธีอื่น

 
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ใช้กรรมฐานอะไรอยู่ ขอรายละเอียดมากกว่านี้
           ที่ทรมานมากเรื่องใด ไม่ชัดเลย
              เผื่อครูอาจารย์ท่านจะได้ชี้แนะให้
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การปฏิบัติ ภาวนา ถึงแม้จะไม่ได้มุ่งเรื่องเวลา
แต่การปฏิบัติให้ได้ตามเวลา ก็เป็นการภาวนาเช่นกัน


   จริงอยุ่ที่การภาวนา นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเวลา เพราะเกี่ยวข้องที่ผลของการภาวนา คือ สามารถรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวมองเห็นตามความเป็นจริงได้ แต่ผู้อ่อนปฏิบัตจะอาศัยเวลาที่น้อยเพื่อเข้าสู่ผลที่ใหญ่ ก็ต้องมีการฝึกความอดทน โดยเฉพาะเรื่องสัจจะ ถึงแม้ขณะที่ภาวนาอยู่นั้นไม่เข้าถึงผลของสมาธิ หรือ ปัญญา แต่อย่างน้อยก็ยังภาวนาอยู่ โดย สัจจะบารมี คือการสงัดกาย ควบคุมใจ ให้ได้ตามเวลาที่ตั้งใจ จะกล่าวว่าไม่มีผลเลย ก็มิได้เพราะวิธีการฝึกภาวนานั้น ต้องมีการเตรียมตัว เตรียมใจ เบื้องต้น อย่างน้อยจิตที่ฝืนอยู่ ก็จะมองเห็นธรรมหลาย ๆ อย่างในณะที่ภาวนาด้วยสัจจะธรรม

    ดังนั้นการภาวนาที่มีความอดทน ได้ผลการปฏิบัติ ทำได้่ตามสัจจะที่ตั้งใจไว้ เชื่อว่าคนที่ภาวนาอย่างนั้นก็ยังมีผลคือความปราโมทย์ อิ่มใจว่าเรายังสามารถทำได้แม้เพียงสงัดกาย สงบใจได้บ้าง ก็ยังดี กว่าที่ท่านไม่อดทนเลิกล้มไปกลางคัน เพราะถ้าเลิกล้มระหว่างกลาง ก็จะก่ออปนิสัย การเลิกล้มอย่างนี้มากขึ้นยิ่งไป จัดได้ว่าเป็น การสร้างอุปนิสัยให้ห่างธรรมเพิ่มขึ้น


    ดังนั้น ท่านอดทนนั่ง ก็จัดว่าท่านยังภาวนา แต่เป็นการภาวนา รักษา สัจจะ และ ขันติ บารมี สองส่วนนี้มิใช่่ไม่ม่ผล ก็ขออนุโมทนาด้วย สำคัญที่สุดระหว่างที่มีความทุกข์ นั้นให้วางอุเบกขา ให้ได้สังเกตว่า ในสายวิปัสสนาโดยตรง เมื่อมีอาการปวดเหน็บชา ทรมานทางกายเกิดขึ้น เขาจะให้ภาวนา ปวดหนอ ๆ  ดังนี้เพื่อให้จิตวาง อุเบกขา ดังนั้นท่านที่เผชิญเวทนาที่เกิดในระหว่างภาวนา ก็อย่าพึ่งเลิกล้มการภาวนา ให้จิตตั้งในนิมิตทั้ง 3 จนจิตวางอุเบาขาได้ การที่วางอุเบาขาได้ นับว่าสำเร็จการวางอุเบกขา ด้วยปัญญา

    ท่านที่สามารถกำหนดรวมจิตได้ จนจิตเข้าถึงสุข ก็จะเข้าถึง ปริสุทธุเบกขา อีกองค์หนึ่ง

    ส่วนท่านที่วัด กันที่ผลของสมาธินั้น บอกตรง ๆ ว่ากำลังคิดผิด เพราะผู้อ่อนปฏิบัติยากที่จะเข้าถึงผลสมาธิในเบื้องต้น จิตที่ไม่เคยฝึกก็ต้องอาศัยความอดทน และ สัจจะเป็นหลัก

    สรุป ท่านที่จะฝึกด้วยอดทน ก็จะถึง อุุเบกขา อีกองค์หนึ่ง

         ท่านที่สามารถรวมจิต ได้ ก็จะถึง อุเบกขา อีกองค์หนึ่ง

     อุเบกขาทั้งปวง นั้นสนับสนุนพระกรรมฐาน ทั้ง สมถะและวิปัสสนา

   

 



บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


[๓๐๗]  สมาธิภาวนา   ๔
๑.  สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว    ย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน
๒.  สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว    ย่อมเป็นไปเพื่อได้ญาณทัสสนะ
๓.  สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว    ย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ
๔.  สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว    ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้น อาสวะ

     ขอให้ท่านที่ภาวนา อยู่ พึ่งทำความเข้าใจกับ สมาธิภาวนา 4 ให้เข้าใจ อย่างน้อยที่ท่าน อดทน ผลของการอดทน ก็ยังอยู่ในข้อ 2 3 และ 4 นะจ๊ะ ดังนั้น ให้อดทนไว้ในการภาวนาตามเวลาที่กำหนด ก็ได้บุญกุศลมิใช่ไม่ได้อะไร อย่าไปคิดว่าไม่มีประโยชน์

     ที่สำคัญอย่าเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ เพราะการภาวนาเป็น ปัจจัตตัง เป็นของเฉพาะตน

   เจริญธรรม
 


บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา ครับ ผมได้อ่านข้อความที่พระอาจารย์แสดงความเห็นแล้ว หักล้างความคิดของผมเลยนะครับ
เดิมที ผมคิดว่าการนั่งกรรรมฐาน โดยกำหนดแต่เวลา และไม่เป็นสมาธิ ไม่มีประโยชน์

 อ่านแล้ว ต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่เลยครับ เหมือนการภาวนาของผมยังไม่พอเลยครับ

 สาธุ สาธุ ไม่ผิดหวังที่ได้ติดตามเนื้อหาที่พระอาจารย์ตอบครับ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

พรทิพย์

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 76
  • มีธรรมนำจิต ชีวิตสุขสบาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ เจ้าคะ แจ่มแจ้งเลยคะ

 อย่างน้อยก็มีกำลังใจ ฝึกความอดทน และ สัจจะ ต่อไปคะ นึกว่าไม่มีผลในการภาวนาแบบนี้เสียอีก

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา คะ การได้อ่านครั้งนี้ได้เป็นความคิด ของ kobyamkala หลาย ๆ เรื่อง เลยคะโดยเฉพาะการภาวนาที่แท้จริง อยู่ตรงไหน ?

ฝากถึงชาวชมรมอ๊บ อ๊บ ให้ได้อ่านกันด้วยนะคะ

  สาธุ สาธุ สาธุ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

Be-boy

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 84
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา คะ การได้อ่านครั้งนี้ได้เป็นความคิด ของ kobyamkala หลาย ๆ เรื่อง เลยคะโดยเฉพาะการภาวนาที่แท้จริง อยู่ตรงไหน ?

ฝากถึงชาวชมรมอ๊บ อ๊บ ให้ได้อ่านกันด้วยนะคะ

  สาธุ สาธุ สาธุ

 :25: :25: :25:

มาอ่านแล้วนะครับ ดึกนิด หนึ่งงานเยอะครับ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ออกกำลังกายเคลื่อนไหว เป็นสติครับ

Sitti

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 97
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เมื่อทบทวนตามคำชี้แจงแล้ว ก็รู้สึกได้ว่า ที่ผ่าน ๆ มา ที่เคยคิดว่าไม่มีประโยชน์ ด้วยการอดทน ๆ นั่งด้วยเวทนา ที่แท้ก็คือต้องทบทวน สัจจะ อธิษฐาน ขันติ ตบะ คือสิ่งที่ได้จากการภาวนาในครั้งนี้ สาธุ พอจะเข้าใจส่วนนี้แล้วครับ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
สิทธิ มาแว๊ว มาตามคำเชิญ แก๊งค์  อ๊บ

แสงดาว

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 14
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ เดิมทีหนูคิดว่า ไม่มีผลประโยชน์อะไรเลยกับการนั่งทน ได้ทราบแล้วก็จะพยายามรักษาสัจจะตามที่ตั้งใจไว้ คะ

  :88: :c017:
บันทึกการเข้า

เ็พ็ญนภา

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 17
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จากข้อความที่ ตอบ แสดงให้เห็นว่า การนั่งทนก็เป็นทาง ที่ได้ประโยชน์เช่นกัน
ให้กำลังใจ ดีนะคะ

 โดยปกติ นั่งกรรมฐาน ไม่เกิน 30 นาที ก็เลิกแล้วคะ

  :25:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ ขอบพระคุณพระคุณเจ้าที่ให้คำแนะนำดีๆที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าของกระทู้และท่านอื่นทั้งหลายรวมถึงผมด้วยครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

TC9

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 137
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ่านแล้ว มุมมองในใจ ที่คิดว่าจะมาตอบวันนี้ ค้างเติ่งเลยคะ
เพราะคิดมาก่อนว่า การปฏิบัติภาวนาที่เอาแต่เวลา อาศัยแต่เวลา เอาแต่ความอดทน ไม่ใช่การภาวนา ครั้นพออ่านคำตอบของพระอาจารย์แล้ว ความคิดค้างเลยคะ......

 เพราะไม่เคยคิด แบบนี้มาก่อน คะ พอได้อ่านแล้ว จึงได้เห็นอานิสงค์การฝึกตามเวลาแล้วคะ ....

 ขอบคุณมากคะ

  :25: :25: :25: :c017:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เวลานั่งกรรมฐาน คือ ทรมานมากหลังจากผ่าน 30 นาทีไป แต่ก็อาศัยคำว่าอดทน ที่จะนั่งกรรมฐานอย่างนั้นให้ได้จึงทนนั่งไปอย่างนั้น จนได้ตามเวลาที่ต้องการจึงเปลี่ยนท่าท่าง การทำอย่างนี้ จะมีประโยชน์ใด ๆ กับการทำสมาธิบ้างคะ หรือว่ามีิวิธีแก้ ด้วยวิธีอื่น
ขอคุยด้วยเพื่อเป็นกำลังใจ ครับ! แรกเริ่มภาวนานั้นจะหมายใจหยั่งปิติองค์ธรรมนั้นยาก นั่งได้แต่ก็ต้องทนกับเหน็บที่ตาม

มา ผมนั้นก็เริ่มต้นอย่างนี้ ลงทุนไปบวชนุ่งห่มขาวอยู่ในถ้ำสามวันทานมื้อเดียวนั่งภาวนาเอาเวลาให้นานที่สุด ไม่ได้

อะไรมีแต่เวทนาเหน็บเริ่มแต่ปลายเท้าไล่ขึ้นมาถึงบั้นเอวชนิดหยิกไม่เจ็บ คิดว่าตายก็ตายลองตายสักครั้งลูกผู้ชายกลัว

อะไร นี่! หลากหลายท่านที่กำลังทุกข์สลัดใจยากในบางเรื่องลองพิจารณานั่งให้เวทนาเผาดูเจ็บกายหรือปวดใจยื้อกัน

อาจคลายปัญหาได้บ้างนะครับ! หลังจากผมผ่านประสบการณ์นั่งสู้ภาวนาเวทนากล้ามาแล้วจึงได้แวะเวียนเข้ากราบ

หลวงปู่ศรี ปริสุทโธ วัดหน้าพระลาน ท่านเมตตากล่าวสอนว่าได้อะไรในสิ่งที่ทำก็ สัจจะบารมี, ขันติบารมี, วิริยะบารมี,

และอธิษฐานบารมี อันจะหยั่งลงสู่สันดานเรา หากเพียรต่อไปเบื้องหน้าเราจะไม่คร้านกลัว ครั้งต่อไปเราจะนั่งได้ทน มี

อุเบกขาวางใจได้ก็ไต่ขั้นสู่ปิติองค์ธรรมเป็นวาสนาให้เราต่อๆไป ครับ!




http://kakukonline.com/tag/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%8A%E0%B8%B2/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2012, 05:55:19 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุุ กับทุกท่าน ที่ผ่านกรรมฐาน ก็ต้องมีความอดทนกันบ้าง ทนเหน็บกันบ้าง ต้องทนเป็นธรรมดา คะ
แต่เมื่อร่างกาย ชินกับอาการทั้งหลายเหล่านี้แล้ว น่าจะทำให้ใจสงบได้บ้างนะคะ

 กรรมฐาน จะก้าวหน้า ก็ต้องยอมเจ็บบ้าง..... ใช่หรือไม่คะ
 จะสิ้นทุกข์ได้ ก็ต้องทุกข์ก่อน ใช่หรือไม่จ๊ะ.....

  :s_hi:

บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น