ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อึ้ง.! ผลสำรวจเด็กไทย 1 ล.คน ซึมเศร้า 50% นิยมผอมสวย รับได้มีกิ๊ก-แฟนหลายคน  (อ่าน 1986 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อึ้ง!! ผลสำรวจเด็กไทย 1 ล.คน ซึมเศร้า 50%
นิยมผอมสวย รับได้มีกิ๊ก-แฟนหลายคนพร้อมกัน

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาสถาบันรามจิตติ กล่าวถึงรายงานสภาวการณ์เด็กและเยาวชนไทย สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า
     จากการสำรวจสภาวการณ์เด็กและเยาวชนไทย ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2555
     จากกลุ่มตัวอย่างเด็ก 20,000 คน ใน 4 ช่วงอายุ จาก 20 จังหวัดทั่วประเทศ
     เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งจะสามารถสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นได้ โดยสภาวการณ์ด้านสุขภาพ


    พบว่าเยาวชนระดับ ม.ต้น และ ม.ปลายที่กินอาหารเช้าเป็นประจำเพียงร้อยละ 50
     เมื่อขึ้นอุดมศึกษาจะเหลือเพียงร้อยละ 37
     และเด็กที่กินผักเป็นประจำทุกมื้อ มีเพียง 1 ใน 3 ของเด็กทั้งหมด
     พบว่าเด็กยังมีค่านิยม สวยผอม โดย 1 ใน 3 มีความคิดใช้ยาลดความอ้วน ทำศัลยกรรม





ส่วนสถานการณ์ภาวะเครียด พบว่าเด็กในระดับมัธยมถึงอุดมศึกษาประมาณ 1 ล้านคน มีอาการซึมเศร้าและหงุดหงิดไม่รู้สาเหตุ และเกือบร้อยละ 50 เคยมีอาการเครียดจนปวดท้องหรืออาเจียน โดยการที่พบว่าเด็กมีความสุขในการไปเรียนลดลง สะท้อนให้ระบบการศึกษาต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ซึ่งควรปรับการจัดการศึกษาในโรงเรียน ให้กรอบไม่แน่นจนเกินไป โดยเพิ่มพื้นที่กิจกรรมทางเลือกที่หลากหลายให้เด็กมีทางออกจากความเครียด สร้างความสุขในการใช้ชีวิต ก่อให้เกิดศักดิ์ศรีและเคารพในตัวเอง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนได้ในเวลาเดียวกัน

    “ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เด็กและเยาวชนเข้าสู่การมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
     จากร้อยละ 24 ในปี 2551 เป็นร้อยละ 35 ในปี 2554
     ขณะเดียวกันจากการสำรวจในปี2554 พบว่า
     เด็กถึงร้อยละ 27 มีเพื่อนสนิทเคยตั้งท้องหรือเคยทำแท้ง
     และมีเด็กไทยถึง 1 ใน 4 ที่รู้สึกว่าการมีกิ๊กหรือมีแฟนหลายๆ คนพร้อมกันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
   
    สะท้อนถึงพฤติกรรมและค่านิยมของเด็กจำนวนมาก ที่ยังสุ่มเสี่ยงต่อการสร้างปัญหาให้ตนแอง




   
    นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กยังขาดความรู้เรื่องเพศ มีเพียงร้อยละ 53 เท่านั้นที่รู้ถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงในการใช้ถุงยางอนามัย
    และมีเด็กเพียงร้อยละ 57 ที่ยอมรับการพกถุงยางอนามัยติดตัว
    นอกจากนี้มีเด็กเพียง 1 ใน 4 ที่รู้สึกว่าได้เรียนรู้เรื่องเพศอย่างพอเพียงจากโรงเรียน”
นายอมรวิชช์กล่าว

    นายอมรวิชช์กล่าวว่า ประเด็นความรุนแรงในเด็กและเยาวชนไทยในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าจากจำนวนเด็กในระดับมัธยมศึกษาถึงระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศกว่า 7 ล้านคน

    จะพบว่ามีเด็กและเยาวชนกว่า 700,000-1,000,000 คน ตกอยู่ในภาวะความรุนแรงในโรงเรียน เช่น ถูกขู่กรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และการทะเลาะวิวาทกับเพื่อนนักเรียน
    โดยมีเด็กถึงร้อยละ 33 ที่พบเห็นการพกพาอาวุธร้ายแรง อาทิ ปืน มีดดาบ ระเบิดทำเอง ฯลฯ เข้ามาในสถานศึกษาที่ตนอยู่ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว


    นอกจากนี้ สื่อยังมีอิทธิพลอย่างสูงต่อเด็กไทย โดยใช้เวลาดูโทรทัศน์ คุยโทรศัพท์ เล่นอินเตอร์เน็ตรวมกันกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน ที่น่าสนใจคือ เด็กจำนวนกว่าร้อยละ 50 นิยมดูละครโทรทัศน์ จึงจำเป็นต้องสร้างสื่อเพื่อสะท้อนการใช้ชีวิตอย่างฉลาด ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง



ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1341826410&grpid=00&catid=&subcatid=
ขอบคุณภาพจาก http://learners.in.th/,http://talk.mthai.com/,http://www.bloggang.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

because

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 71
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าจะเป็นค่านิยมที่ตามฝรั่งแล้วครับ ตอนนี้เพราะตามตูดเขาอยู่วัฒนธรรมเดิม ๆ ก็กำลังจะหายไปเราต้องช่วยกันฟื้นฟูศีลธรรมให้กลับมาแต่นึก ๆ ไปผมเคยทำงานโครงการฟื้นฟูศีลธรรมของ สวนโมกข์ หลายสิบปีมานี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ครับ เด็ก ๆ ที่สนใจพระธรรมมีน้อยลงสังเกตจากการเข้ามาเรียน พุทธศาสนาวันอาทิตย์แทบนับจำนวนกันได้น้อยลงนะครับ พอ ๆ กับจำนวนพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศก็น้อยลงนะครับ
   
   สื่อธรรมมีมากขึ้น แต่เป็นสื่อเผื่อเลือกเพราะเว็บธรรมะคนที่ใส่ใจมีจำนวนน้อยลง

   ยิ่งยุคนี้ ขโมย โจร มีมากขึ้นแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจเมืองไทยหนักหน่วงขึ้น ค่าครองชีพก็สูงขึ้น

   ธรรมะไม่กลับมา โลกาจะวินาศ

   การศึกษา หมาหางด้วน

   
   http://www.watsuanvang.com/simple/?t419.html
   อสนใจแต่เรื่องรักสวยรักงาม  แข่งขันกันในเรื่องแฟชั่นโดยเฉพาะแฟชั่นนักศึกษาสาว ๆ มักจะแข่งกันนุ่งกระโปรงสั้น ๆ เที่ยวโชว์ขาอ่อนล่อตะเข้ผู้ชาย  ผลเป็นอย่างไร?   หนังสือพิมพ์ลงข่าว  “นักเรียนฉุดนักเรียนจะข่มขืน 6 ต่อ 1” แล้วจะไปเหลืออะไร  นี่ยังโชคดีนะที่เป็นเพียงแค่ Future Tense (คือจะข่มขืน) ถ้าเกิดเป็น Present Tense แล้วไม่รู้จะบรรยายอย่างไร?
พ่อแม่ครูบาอาจารย์บอกสอนก็ไม่ค่อยจะเชื่อฟัง  แม่บอกว่า “นี่ ! ลูกเวลาไปโรงเรียนอย่ากลับให้มืดค่ำนักนะ ระวังจะเสียเด็ก”  มันกลับเถียงแม่ว่า  “ใครบอกว่าหนูจะเสียเด็ก  หนูกำลังจะได้เด็กต่างหากละแม่”

 :coffee2: :coffee2: :coffee2: :coffee2:
บันทึกการเข้า