ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมชอบง่วง เวลานั่งสมาธิ ครับต้องแก้อย่างไร ครับ  (อ่าน 4182 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

มะเดื่อ

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 181
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เวลาปฏิบัติ สมาธิ ผมชอบรู้สึก ง่วง บางครั้งก็หาว ๆ ไปมาก ๆ

อยากจะทราบวิธีแก้ไข ว่าต้องทำอย่างไรครับ
 :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28444
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ผมชอบง่วง เวลานั่งสมาธิ ครับต้องแก้อย่างไร ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2011, 07:35:21 pm »
0

8 วิธีแก้ง่วงที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้กับพระโมคคัลลานะ


พระมหาโมคคัลลานะ เมื่ออุปสมบทได้ 7 วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่ป่าใกล้บ้านกัลป์ลาวาลมุตตาคาม แขวงมคธ ถูกถีนมิทธารมณ์ คือ ความง่วงเหงาเข้าครอบงำ ไม่สามารถจะทำความเพียรได้ ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ สวนเภสกลาวัน ซึ่งเป็นสถานที่ให้เหยื่อแก่เนื้อ ใกล้เมืองสุงสุมารคิรี อันเป็นเมืองหลวงของแคว้นภัคคะ ทรงทราบด้วยพระญาณว่าพระโมคคัลลานะ โงกง่วงอยู่ จึงทรงทำปาฏิหาริย์ให้เห็นปรากฏ ประหนึ่งว่าเสด็จประทับอยู่ตรงหน้า ทรงแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วงแก่เธอตามลำดับ ดังนี้


1.โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างใดแล้ว เกิดความง่วงขึ้น เธอจงทำไว้ในใจซึ่งสัญญาอย่างนั้นให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

2.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรตรึกตรองถึงธรรมที่ได้เรียนมาแล้ว ได้ฟังมาแล้วให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

3.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรสาธยายธรรมที่ได้เรียนได้ฟังมาแล้วให้มากจะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้


4.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรยอนช่วงหูทั้งสองข้าง และลูบตัวด้วยฝ่ายมือจะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

5.ถ้ายังละไม่ได้ เธอจงลุกขึ้นแล้วลูบนัยน์ตา ลูบหน้าด้วยน้ำเหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาว จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

6.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรทำไว้ในใจถึงอาโลกสัญญา ถือ กำหนดความสว่างไว้ในใจเหมือนกัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำใจให้เปิด ให้สว่าง จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

7.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรเดินจงกรมสำรวมอินทรีย์ มีจิตใจไม่คิดไปภายนอก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

8.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรสำเร็จสีหไสยาสน์ นอนตะแคงขวา ซ้อนเท้าให้เลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ หมายใจว่าจะลุกขึ้นเป็นนิตย์ เมื่อตื่นแล้วควรรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจะไม่ประกอบความสุขในการนอนและการเคลิ้มหลับอีกจะเป็นเหตุให้ละความง่วง ได้ พระพุทธองค์ ตรัสสอนอุบายเพื่อบรรเทาความง่วงโดย
ลำดับจนที่สุดถ้ายังไม่หายง่วงก็ให้นอน แต่ให้นอนอย่างมีสติ

ที่มา  http://atcloud.com/stories/55935
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28444
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ผมชอบง่วง เวลานั่งสมาธิ ครับต้องแก้อย่างไร ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2011, 07:42:50 pm »
0
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต


โมคคัลลานสูตร
  [๕๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่าเภสกลา มิคทายวัน
ใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ ก็สมัยนั้นแล ท่านมหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่
ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตร
เห็นท่านพระมหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ
ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุมนุษย์


ครั้นแล้วทรงหายจากเภสกลามิคทายวันใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ
เสด็จไปปรากฏเฉพาะหน้าท่านพระมหาโมคคัลลานะ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม
แคว้นมคธ เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลังเหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น

พระผู้มีพระภาคประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดแล้ว
ครั้นแล้วได้ตรัสถามท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า
ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ
ท่านพระมหาโมคคัลลานะกราบทูลว่า อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ

ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

อ่านเนื้อหาเต็มๆได้ที่ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=1873&Z=1938

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  บรรทัดที่ ๑๘๗๓ - ๑๙๓๘.  หน้าที่  ๘๒ - ๘๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=1873&Z=1938&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=58
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ส้ม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 184
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ผมชอบง่วง เวลานั่งสมาธิ ครับต้องแก้อย่างไร ครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2011, 06:41:22 pm »
0

อยากเล่าเรื่อง ลมหายใจแบบจีน แลกเปลี่ยนความรู้ค่ะ
เวลาฝึกชี่ง หรือมวยจีน เขาจะสอนการหายใจเป็น 3 แบบ
- แบบก่อนกำเนิด คือก่อนที่มทารกจะคลอด หายใจเข้าท้องยุบ หายใจออกท้องป่อง
- แบบหลังกำเนิด หายใจเข้า ท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ
- หายใจแบบเต่า คือการกระเพื่อมเพียงเล็กน้อย

การ เรียนลมหายใจแบบจีน ไม่เรียกว่าทำทำสมาธิค่ะ แต่เขาเน้นกำลังที่เกิดจากการหายใจ จะเรียนเปลี่ยนจากหายใจหลังกำเนิด สู่ก่อนกำเนิด คือหายใจเข้าท้องยุบและหายใจออกท้องป่อง

- ช่วงแรกของการฝึกนั้น เขาจะดูลม ที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ว่าหายใจเข้านั้นท้องยุบจริงๆ
- แต่พอเวลาเคลื่อนไหวแล้ว เขาจะไม่สนใจ
- สิ่งที่สอนคู่กันไปคือ การมีสติทั่วร่าง รู้ทั้งภายนอกและภายใน สติและใจจะไม่จมลงในความรู้หรือความคิดที่ใดที่หนึ่ง
-การรับรู้ของการเคลื่อนไหวเร็ว หรือช้า ของร่างกาย จะต้องอยู่กลางเสมอ
- ถ้าทำจนชำนาญ จะเกิดตัว "ผู้รู้" ที่เฝ้าดูการเคลือนไหว ลมหายใจ ความคิด และพลังงาน ตามกระบวนการธรรมชาติ
-ลม หายใจแบบ "ลมหายใจที่แท้จริง" คือ เมื่อคนที่นั่งสมาธิแบบหลับตา แล้วเจริญอานาปนสติ เมื่อจิตไม่ฟุ้งซ่าน ความคิดเริ่มสงบ ใส ลมหายใจแผ่วเบาจนแทบจะจับไม่ได้ นั่นล่ะที่ชาวจีนเรียกว่า ลมหายใจที่แท้จริง เกิดขึ้นเมื่อจิตมีสมาธิ สมถะ แต่ชาวจีนจะจับมาใส่ในการเคลื่อนไหว

- ลมหายใจที่แท้จริง สำหรับชาวจีนแล้วคือที่มาของขุมพลัง ในการทำให้สุขภาพดี เป็นจุดตั้งต้นของการเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ถ้าผู้ฝึกไม่เข้าใจ หรือตั้งไข่ในสภาวะ จิตเข้ากลาง ว่าง และได้ลมหายใจที่แท้จริง การเริ่มต้น ฝึกขั้นอื่นๆก็จะเข้าถึงยาก

จากคุณ : พยัคฆ์น้อย


ขอบคุณภาพจาก http://www.kheper.net
บันทึกการเข้า
เส้นทางแสนเปรี้ยว จะมีสุขจริงบ้างหรือไม่ ?

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ผมชอบง่วง เวลานั่งสมาธิ ครับต้องแก้อย่างไร ครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 11:36:13 pm »
0
ผมก็ง่วงครับ  บางครั้งทำงานหนื่อย
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม