ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากปล่อยวาง อดีต ที่แสนเจ็บปวด แต่ก็ทำไม่ได้สักที ผ่านมาหลายปีแล้ว  (อ่าน 6093 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากปล่อยวาง อดีต ที่แสนเจ็บปวด แต่ก็ทำไม่ได้สักที ผ่านมาหลายปีแล้ว ก็ยังทำใจไม่ได้ มีหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา นี้สอนอย่างไร กับวิธีการอย่างนี้ ทำอย่างไรถึง จะลืมอดีต ได้เสียที
 :'( :'( :'(
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปรุงแต่ง...........อดีตก็ล่วงมาแล้ว........ต้องวาง
 ปรุงแต่ง...........อนาคตก็ยังมาไม่ถึง........ต้องวาง
           ปรุงแต่งไป ก็มีแต่แค่     สุขบ้างทุกบ้าง แล้วก็ดับหนีไป    ไม่ได้อยู่อยู่กับเราซักหน่อย
                 สุขก็จาก ทุกข์ก็จาก
               
                  รู้สิ้นสุดไป มีภัยพึงกลัว และ สูญเปล่า

                     ไม่เที่ยง เป็นทุก ทนอยู่ไม่ได้
 
                          อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

                          ...........เกิดขึ้น.....ตั้งอยู่...ดับไป.........
         ................. บทนี้ จําของครูอาจารย์ เก็บตกมาปัจเวกให้ดูแบบคร่าวๆ..................
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณ ท่าน aaaa ที่มาช่วยตอบเป็นคนแรกคะ  thk56

 ask1
ปัญหา คือ รู้คะว่าเป็นทุกข์ แต่ จิตก็ยังคอยปรุงแต่ง

   วิธีอย่างไร ที่จะหยุดการปรุงแต่งได้จริง ๆ คะ

 :'(


 
บันทึกการเข้า

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอคำตอย วิธีการปล่อยวาง แบบได้ผล... ที่ท่านทำกัน ด้วยคะ

  thk56
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อดีต ที่แสนเจ็บปวด ทำอย่างไรถึงจะลืมได้

เราอยู่กับอดีต เพราะ คิดคำนึง จึงไม่ขาดสายใยแห่งทุกข์ ก็อดีตเช่นนี้เป็นทุุกข์ ปัจจุบันจงอย่าฝันปั้นปรุงใดใดอีก พลั้งเผลอไปบ้างดึงใจกลับมาตั้งมั่นที่ฐาน(สดือ)แล้วย้ำสวดพระคาถาพญาไก่เถื่อนลงไปอย่างมีสติระลึกรู้ตัว เอาใจกลับมาอยู่กับปัจจุบัน อดีตไม่มีแล้ว ครับ!
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

vichai

  • ศิษย์ตรง
  • พอพึ่งพาได้
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 207
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยู่ คนเดียวให้ระวัง ความคิด

อยู่ กับมิตรให้ระวัง คำพูด
 
อยู่ กับอดีิตให้ระวัง ฟุ้งซ่าน

อยู กับปัจจุบัน จะดีที่สุด

     สูดลมหายใจ ลึำก ๆ  คลายลมหายใจออก  เข้า ออก มีสติ เข้า ออก มีสติ เข้าออก มีสติ ครับ


 
บันทึกการเข้า
มาศึกษาธรรมะ ครับ ยินดีรู้จักทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร ครับ
เครดิต คุณกบแย้มกะลา

montra

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 76
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ans1
การที่จะทำให้เราไมคิดนี้ สินะ น่าจะเป็นเรื่องที่ลำบากเอาเรื่อง นะครับ

   วิธีหยุดคิดดีีที่สุด ก็คือ มอบหมายงานให้จิต คิดอีกเรื่อง หนึ่ง และให้คิดเรื่องเดียว นั่นก็คือการเจริญสมาธิ อันมีอุบายสงบใจ อย่างยิ่ง ดังนั้น กำหนด พุทโธ ที่ ฐานจิต ตามขั้นตอน อันนี้น่าจะแน่นอน ที่สุดครับ

 
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าหากต้องการ หยุดการปรุงแต่ง แบบจริงๆ  หรือ แบบถาวร
      ท่านต้องมา ภาวนา คือ มาเริ่ม เรื่องการปฏิบัติบําเพ็ญ
       
      สําหรับในเว็บนี้ ก็มีเนื้อหา มากมาย ที่ครูบาอาจารย์ ท่านได้ ส่งเสริมในเรื่อง พระกรรมฐาน เอาไว้
      และยังมี กัลยาณมิตร มากมาย

        การได้เข้ามาสนทนาธรรมกัน
       
         นั้น เป็นเรื่องที่ดี ของหมู่กัลยาณมิตร ทั้งหลาย

         เพราะเราจะได้ ปรับ ทิฐิ ทั้งหลาย

         การเริ่มมาคุยกัน ก็มีการยอมรับฟัง
 
          จากบางคนที่ไม่เคยยอมรับฟัง ก็กลายเป็นคนที่ยอมรับฟัง

          เพราะในเรื่องที่สนทนาธรรมกันนั้น โลกนั้น มี มติที่เป็น บัญญัติแบบโลก  และเนื้อหา ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ 
มีข้อสรุป ที่ส่วนใหญ่ ก็ได้อ้างมา จากพระสูตร ของพระพุทธองค์ นับเป็น ความรู้ยิ่ง
    ที่จะปรับทิฐิของเราทั้งหลาย
     เพื่อ เข้าสู่ แนวทาง แห่ง ศิล สมาธิ ปัญญา ได้ง่าย

      และที่นี่ มีครูอาจารย์

        มีเหล่าสหธรรมมิก ทั้งหลาย ที่ต้องการสนทนา เพื่อ ปรับ ทิฐิ ของกันและกัน

          ที่ใดมีนักปราชฌ์ เมื่อเราได้เข้ามาพบแล้ว

          ...............ก็เหมือน เข้าวัด.......

         เพราะเข้ามาเพื่อศึกษา ได้เรียนรู้ธรรม ........ทําวัดกันที่ใจ....ทําใจนี้ให้เป็นวัด..

           ก็คือ รับ พระรัตนตรัย เข้าสู่ใจ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก

            ตอนที่ยังมีลมหายใจ และถึงคราวที่ต้องปล่อยลมไป

             
              ควรตั้งสติเริ่มสตาร์ท

               หากสนใจ กรรมฐานนี้ ก็ไปขึ้นกรรมฐาน ได้ที่ คณะห้า วัดราชสิทธาราม

                 อยากให้ทุกท่านพ้นภัย
 
   
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เบื้องต้น ผมว่า ลองติดต่อขอรับ หนังสือ อานาปานสติปฏิสัมภิทามรรค ไว้ที่ตัวเราก่อนจะดีครับ ครูอาจารย์ทานแนะนำก็มักใช้คำสอนแนวทาง อยู่ในเล่มนี้ทั้งหมดครับ

 

  ห้องเืบื้องต้นครับ
  http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8334

  :49:
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 thk56 thk56 thk56

   สำหรับน้ำใจ ของทุกท่านคะ

  การอยู่คนเดียวบางครั้ง ก็ทำให้รู้สึกว่า ฟุ้งซ่าน เหมือนกันคะ พยายามข่มด้วยสติ และ ปัญญา ด้วยกรรมฐาน แต่บางครั้ง บางช่วงก็ไม่ทันคะ คิดว่าการที่จะดับ ความฟุ้งซ๋าน ส่วนนี้ต้องอยู่ในที่ มีกัลยาณมิตร ช่วยตักเตือนพร่ำสอน ด้วยกระมัง คะ

   st12
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การอยู่คนเดียวบางครั้ง ก็ทำให้รู้สึก ฟุ้งซ่าน พยายามข่มด้วยกรรมฐาน แต่บางครั้งบางช่วง ก็ไม่ทันคะ คิดจะดับความฟุ้งซ่านส่วนนี้ ต้องอยู่ในที่มีกัลยาณมิตร ช่วยตักเตือน ด้วยกระมัง คะ

ขันธ์ ๕ (รูป,เวทนา,สัญญา,สังขาร,วิญญาณ) สำคัญที่สังขารมากเป็นที่สุด ปกติใจเราท่านทั้งหลายมีสัญชาตญาณใน

การปรุงคิดต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาจิตจึงเกิดดับเกิดดับอยู่เช่นนี้ พิจารณาแล้วคนเรานี่ไร้สาระอยู่ทุกวันเวลาได้ตลอด และ

นี่แหละที่เรียกว่านิวรณ์คุณเครื่องปิดขวางกุศลหละครับ ดังนั้นจงใช้ชีวิตให้จิตนี้มีกุศลคือตามครูบาอาจารย์ท่านชี้นำไว้

ให้ อย่างเช่นการที่ให้เราท่านสวดย้ำพระคาถาพญาไก่เถื่อนโดยใช้ประคำนับ สวดลงศูนย์นาภี(สดือ) สวดสถิตย์ไว้ที่

หทัยวัตถุ นี้เป็นคุณเครื่องพระกรรมฐาน"บัวบานพรหมวิหารสันโดษ" อันครูบาอาจารย์เจ้าทั้งปวงมีเจริญอยู่เป็นนิตย์

ตัวอย่างเช่น สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี วัดระฆังฯ ที่ชี้นำเช่นนี้ล้วนเป็นการกล่าวบอกให้ทราบว่าปุถุชนผู้ข้องอยู่ใน

กามวัตถุนั้นพึงเจริญคุณเครื่องพระกรรมฐานเยื่องนี้ ย่อมเจริญในวิถีดำรงอยู่ในความพอดีพอเพียงพอใจแห่งตนของตน

ครับ! ท่านทั้งหลายทราบแล้วอย่างนี้ ใครสวดพระคาถาพญาไก่เถื่อนยังไม่บรรลุ ๘๔,๐๐๐ จบ ในหนึ่งปี ก่อนวิสาขะบูชา

ปีนี้ให้รีบเจริญซะให้ถึงโดยเร็วพลัน ท่านจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เจริญไม่ตกต่ำ สำหรับการเจริญพระกรรมฐานอย่าหมายมั่นเอา

ฤทธิ์เอาดีพอเพียงแค่สงบระงับนิวรณ์ได้ก็กุศลเหลือพอพยุงตนพยุงตัวคลายจากจิตอกุศลเป็นกุศลเป็นกำลังให้แก่บาท

ฐานจิตนี้ได้ก้าวขึ้นไปในวาระเมื่อวาสนามีได้พบพระอาจารย์ ท่านทั้งหลายก็จะก้างล่วงได้เร็ว ผมก็ไม่ขอสาธยายไป

มากกว่านี้แล้ว ขอให้ทุกท่านโชคดี บารมีอำนวยชี้ สุขีปราศทุกข์ เจริญสุขอยู่ด้วยธรรม ธรรมค้ำคูณกันทุกท่าน..สวัสดี

ครับ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 25, 2013, 04:39:45 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา