ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มออสซี่เลิฟเมืองไทย ปลูกผัก-เลี้ยงไก่ ใช้ชีวิตพอเพียง  (อ่าน 1339 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


หนุ่มออสซี่เลิฟเมืองไทย ปลูกผัก-เลี้ยงไก่ ใช้ชีวิตพอเพียง

หนุ่มออสซี่หัวใจไทย ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณฯ มีครอบครัว มีภรรยาเป็นคนไทย ปลูกผักเลี้ยงสัตว์ ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ทำบ่อเลี้ยงไส้เดือน นำฉี่มาเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ พร้อมกับสอนชาวบ้านไปด้วย บอกคนไทยเกิดมาโชคดีที่มีในหลวง

วันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติที่มีหัวใจรักในหลวงและประเทศไทย มาใช้ชีวิตมีครอบครัวที่เมืองไทย และมีความคิดเผยแพร่เกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีให้คนไทย รวมถึงการใช้ชีวิตแบบพอเพียง จึงเดินทางไปพบที่บ้านใน ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์



ที่บ้านดังกล่าวซึ่งมีสวนเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง ได้พบ นางพรไพริน ฮามิลตัน อายุ 35 ปี สาวไทย และสามีชื่อ นายเบนจามิน ฮามิลตัน อายุ 30 ปี ชาวออสเตรเลีย พร้อมลูกๆ ด.ช.โทบี อายุ 7 ขวบ และ ด.ญ.เจสซิก้า อายุ 2 ขวบครึ่ง นายเบนจามิน ซึ่งพูดภาษาไทยได้ชัดเจนมาก เล่าประวัติให้ฟังว่า ตนเป็นชาวออสเตรเลีย บ้านเดิมอยู่รัฐควีนส์แลนด์ เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกเมื่ออายุได้ 15 ปี โดยมากับมารดาชื่อนางเจนนี่ ซึ่งมาเป็นอาสาสมัครผู้ช่วยครูสอนภาษาอังกฤษและช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่บ้านเมตตา ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้ได้พบกับ น.ส.พรไพริน ที่ทำงานดูแลเด็กกำพร้าอยู่ตอนนั้น จนเกิดเป็นความรัก

นายเบนจามิน กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงได้เดินทางมาตลอดทุกปี และได้ศึกษาชีวิตความเป็นอยู่คนไทยจนเกิดความประทับใจในประเทศไทย ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ศึกษาวิธีใช้ชีวิตแบบพอเพียง รวมถึงทฤษฎีการทำเกษตรแบบไร้สารพิษ กระทั่งตัดสินใจมาใช้ชีวิตมาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลืองานที่บ้านเด็กกำพร้าบ้านกลาง และเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้นักศึกษาตามสถานศึกษาต่างๆ ทั้งที่หล่มสัก เพชรบูรณ์ และลพบุรี



"จากความที่เป็นคนชอบเกี่ยวกับการเกษตรอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ไปศึกษาด้านการเกษตรที่ จ.เชียงใหม่ เกี่ยวกับการทำปุ๋ยชีวภาพที่ทำจากฉี่ไส้เดือนและการปลูกผักออร์แกนิก นำวิชาความรู้มาใช้กับที่ดินในบริเวณบ้านของภรรยาที่ ต.บ้านกลาง ด้วยการทดลองทำฟาร์มไส้เดือนเพื่อนำฉี่ของไส้เดือนมาทำปุ๋ยและปลูกพืช เช่น ฝรั่ง มะละกอ ซึ่งงอกงามดี ยามว่างก็ออกไปบอกชาวบ้านถึงผลดีต่างๆ และอยากให้ทำตาม จะได้มีสุขภาพแข็งแรงและพึ่งพาตนเองได้"

ทั้งนี้ นายเบนจามิน ได้พาผู้สื่อข่าวไปชมบ้านและพืชผักผลไม้ที่ปลูกไว้ในบริเวณบ้าน พร้อมโชว์ต้นมะละกอที่ปลูกได้ราวสองเดือน ติดผลโตมีผลดก แล้วพาไปชมบ่อไส้เดือนที่ใช้ผลิตปุ๋ยฉี่ไส้เดือน ด้วยการนำไส้เดือนมาเลี้ยงไว้ในบ่อซีเมนต์ ให้ผักเป็นอาหาร จากนั้นจึงใช้น้ำรดลงไปเพื่อให้ชะล้างฉี่ไส้เดือนไหลออกมาตามท่อที่ต่อไว้นำมาเป็นปุ๋ยชีวภาพไร้สารพิษ



ในตอนท้าย นายเบนจามิน กล่าวว่า ตนมีความฝันที่อยากจะใช้พื้นที่ของภรรยาที่มีอยู่อีกราว 25 ไร่ ทำเกษตรครบวงจรเพื่อพึ่งพาตนเอง ด้วยการเพาะพันธุ์ไส้เดือนและทำปุ๋ยไส้เดือนเพื่อแบ่งปันให้เกษตรกรผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้ และนำไปต่อยอดให้ความรู้กับทุกคน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงปลูกผักผลไม้ออร์แกนิก โดยเฉพาะต้นมะรุมที่มีโปรตีนสูง มีประโยชน์หลายอย่าง เลี้ยงเป็ดไก่ หมูและปลา เพื่อนำมาเป็นอาหาร ที่เหลือจึงนำไปขาย เป็นการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองและพอเพียงอย่างมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดสารพิษและโรคร้ายมารุมเร้า ปัจจุบันมารดาของตนก็สอนภาษาอังกฤษฟรี ให้นักเรียนโรงเรียนศรีมงคลใกล้บ้าน ส่วนภรรยาเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนบ้านเข็กน้อย อ.เขาค้อ


ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนรู้สึกซาบซึ้ง ที่คนไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงงานหนักตลอดชีวิตเพื่อคนไทย โครงการต่างๆ ของท่านล้วนสร้างความสุขให้แก่คนไทย เช่น การสร้างอ่างเก็บน้ำ การใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง การใช้ธรรมชาติแทนสารเคมีในการทำการเกษตร คนไทยโชคดีที่มีในหลวง และตนจะขออยู่ใช้ชีวิตที่เมืองไทยตลอดไป

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/463845
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ