ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่นพ ภูวริ วัดมหาพฤฒาราม บางรัก  (อ่าน 3663 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

samapol

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 304
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
หลวงปู่นพ ภูวริ วัดมหาพฤฒาราม บางรัก
« เมื่อ: กันยายน 06, 2011, 07:01:05 am »
0
วัดมหาพฤฒาราม วรวิหาร ตั้งอยู่ 5/7 ถ.มหาพฤฒาราม แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ : 0-2236-5678 0-2266-2844 รถประจำทางสายที่ผ่านได้แก่สาย 1,16,35,36,75, 93 รถปรับอากาศสาย 93 สามารถโดยสารทางเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ ท่ากรมเจ้าท่า ท่าสี่พระยา หรือเรือข้ามฝาก ท่าสี่พระยาได้ การเข้าชมวัดมหาพฤฒารามไม่เสียค่าเข้าชม โดยโบสถ์ของวัดเปิดให้เข้าชมเวลา 8.00-18.00น.







ริมสองฝั่งของคลองผดุงกรุงเกษม คลองขุดในสมัยรัชกาลที่ 4 มีวัดวาอารามตั้งอยู่มากมาย แต่ละวัดล้วนแต่เป็นวัดเก่าแก่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้น อาทิ วัดเทพศิรินทราวาส วัดโสมนัสราชวรวิหาร หรือแม้แต่ "วัดมหาพฤฒาราม"พระอารามหลวงชั้นตรี เป็นวัดหลวงเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในเขตบางรัก

ที่เกริ่นนำเช่นนี้เป็นเพราะ เดือนนี้เป็นเดือนที่วันสำคัญทางพุทธศาสนา อย่างวันวิสาขบูชาจะเวียนมาบรรจบ ในวันที่ 19 พ.ค.2551 ที่ใกล้จะมาถึง ฉันในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง จึงขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องไปทำบุญด้วยกันเสียเลย ที่ "วัดมหาพฤฒาราม" วัดที่มีความผูกพันกับรัชกาลที่ 4 อยู่ไม่น้อย

ก่อนจะพาเที่ยวชมบริเวณวัด ฉันขอกล่าวถึงประวัติอันน่าสนใจของวัดแห่งนี้ให้รู้กันเสียก่อน "วัดมหาพฤฒาราม วรวิหาร" นั้นตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของคลองผดุงกรุงเกษม แถวๆบริเวณตลาดน้อย เป็นวัดโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี

วัดนี้แต่เดิมชื่อว่า "วัดท่าเกวียน" เนื่องจากเคยเป็นที่พักแรมของกองเกวียน ที่เดินทางเข้ามาค้าขายในกรุงเทพฯ ในช่วงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่ต่อมาชาวบ้านก็พากันเรียกชื่อวัดนี้ว่า "วัดตะเคียน" สันนิษฐานว่า เรียกชื่อวัดตามต้นตะเคียนที่ขึ้นหนาแน่นอยู่รอบบริเวณวัดที่มีอาณาบริเวณ ถึง 14 ไร่

วัดนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งหนึ่งเป็น "วัดมหาพฤฒาราม" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่4 ทรงมีพระราชดำริที่จะให้ชื่อวัดที่ทรงพระราชทานนาม เพื่อเฉลิมฉลองท่านเจ้าอาวาสของวัดที่มีอายุยืนยาวมาถึง 107 ปี ในปีที่มีการพระราชทานนามวัดนั้น

สำหรับความเกี่ยวข้องที่เป็นที่มาของความผูกพันระหว่างรัชกาลที่ 4 และวัดมหาพฤฒารามแห่งนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เจ้าฟ้ามงกุฎ หรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอยู่ในเพศบรรพชิตได้เสด็จมาพระราชทานผ้าป่าที่วัดนี้

ในคราวนั้น พระอธิการแก้วเจ้าอาวาสได้ทูลถวายพยากรณ์ว่า "จะได้เป็นเจ้าชีวิตในเร็วๆนี้" พระองค์จึงทรงรับสั่งว่า "ถ้าได้ครองแผ่นดินจริงจะมาสร้างวัดให้อยู่ใหม่" หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์จึงโปรดเกล้าฯให้สถาปนาวัดขึ้นใหม่
บันทึกการเข้า

pongsatorn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หลวงปู่นพ ภูวริ วัดมหาพฤฒาราม บางรัก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 06, 2011, 07:06:33 am »
0


โลงเก็บสรีระของหลวงปู่นพ ภูวธิ


บาน ประตูและหน้าต่างของพระอุโบสถ เป็นรูปวัวลาก หมายถึง ชื่อเดิมของวัดท่าเกวียน รูปช้างหมายถึง เจ้าอาวาสพระอธิการแก้ว อายุ 107 ปี รูปเทวดาทูลพานสองชั้น ซึ่งมีพระมงกุฎวางอยู่ข้างบน หมายถึง เจ้าฟ้ามงกุฎ (รัชกาลที่4) ชมความงดงามของพระอุโบสถและจิตรกรรมฝาผนังแล้ว ก็อย่าหลงลืมไหว้พระประธานเสียด้วย

ใกล้ๆพระอุโบสถยังมี "พระปรางค์ 4 องค์" โดดเด่นเป็นสง่าด้วยสีขาวนวล ซึ่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ที่ปรินิพพานไปแล้ว โดยมีขนาดใหญ่เล็กเรียงกัน ตั้งอยู่ระหว่างอุโบสถกับวิหารเหนือ อ๋อ...ที่วิหารเหนือก็ควรแวะเข้าไปไหว้พระขอพรและกราบสรีระของ "หลวงปู่นพ ภูวธิ" อดีตพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณและเมตตาคุณ ซึ่งหลังจากท่านมรณภาพด้วยโรคชราในวัย 73 ปี ในปี พ.ศ.2503 ทางวัดได้นำสรีระท่านเก็บบรรจุไว้เป็นเวลา 29 ปี ต่อมาเมื่อทางวัดเปิดศพท่าน ปรากฏว่าสรีระของท่านกลายสภาพเหมือนไม้แห้ง โดยที่สรีระต่างๆยังอยู่ครบทางวัดเลยนำใส่โลงแก้วไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ เคารพจนถึงปัจุบัน


อ่านรายละเอีดยเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sanamluang&group=3&month=05-2008&date=15
บันทึกการเข้า