พิมพ์

[raponsan]

ชายฝั่งสงขลาคลื่นซัดอ่วม ธรณีสงฆ์ถูกทะเลกลืนหาย

พื้นที่ชายฝั่ง อ.สิงหนคร จ.สงขลา คลื่นยักษ์ซัดถล่ม กินพื้นที่สงฆ์ จากเกือบ 80 ไร่ เหลือ 2 ไร่ แหล่งท่องเที่ยว ถนนพังจมทะเล โยธาทุ่มงบ 220 ล้านบาท เร่งแก้ปัญหา

เมื่อวันที่ 29ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์คลื่นยักษ์ซัดถล่มชายฝั่งอ่าวไทย พื้นที่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบอย่างหนักพื้นดิน และชายฝั่งจมหายไปในทะเล ตลอดแนวชายฝั่ง 6อำเภอ ตั้งแต่ อ.ระโนด อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.เมือง อ.จะนะ และ อ.เทพา อยู่ในภาวะวิกฤติโดยเฉพาะที่บริเวณชายฝั่งธรรมสถานหาดทรายแก้ว หมู่ 1 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร ถูกคลื่นซัดกลืนพื้นที่เหลือเพียง 2ไร่ จากเนื้อที่ทั้งหมดเกือบ 80ไร่ สภาพเกือบร้างมีเพียง พระอาจารย์เล็ก ขันติวโร อาศัยอยู่เพียงรูปเดียวและเหลือกุฎิอยู่เพียง 3-4หลัง ท่ามกลางซากปรักหักพังของโรงธรรมโบสถ์ 8เหลี่ยม และพระพุทธรูป 2องค์ ที่ตั้งอยู่ติดชายทะเลอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะถูกคลื่นซัดพังเสียหาย

พระอาจารย์เล็ก เปิดเผยว่า พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกกริยา ถูกคลื่นซัดและเริ่มโน้มเอียงไปข้างหน้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 7ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกคลื่นซัดอย่างรุนแรงที่ตั้งของธรรมสถานหาดทรายแก้ว เป็นของกรมเจ้าท่าซึ่งที่ผ่านมาทั้งกรมเจ้าท่า จังหวัดสงขลาและหน่วยงานภาคเอกชน ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมแก้ปัญหา โดยทราบว่ากรมเจ้าท่ามีแผนที่จะสร้างแนวกั้นคลื่นถาวร แต่สิ่งที่ต้องการให้เข้ามาแก้ปัญหาก่อน คือ เคลื่อนย้ายพระพุทธรูปทั้ง 2องค์ ที่อยู่ติดริมทะเล และถูกคลื่นซัดขึ้นมาไว้บนฝั่งเพื่อความปลอดภัย ได้เคยเรียกร้องไปยังทางจังหวัดที่ลงมาสำรวจพื้นที่ 2ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆส่วนตัวเองนั้นขออยู่ที่นี้ต่อไป จนกว่าจะไม่เหลือแผ่นดินของธรรมสถานแห่งนี้ เนื่องจากในอดีตบริเวณนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียง และมีผู้คนเดินทางมาปฏิบัติธรรมจำนวนมากแต่หลังจากเกิดปัญหาคลื่นกัดเซาะ ผู้คนก็หายไปจนถูกทิ้งร้างวันเดียวกัน

นายธนกร สังฆโร นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ลงสำรวจพื้นที่บริเวณชายทะเลหาดทรายแก้ว พร้อมเปิดเผยว่า จากการสำรวจความเสียหายของสภาพพื้นที่ชายฝั่งทะเลของ อ.สิงหนคร ที่ถูกคลื่นซัดพังเสียหายระยะทางประมาณ3กม.ที่หนักสุดมี 3จุดในส่วนที่ชาวบ้านและชาวประมงได้รับผลกระทบ ซึ่งอยู่ด้านหลังปตท.สผและบริเวณธรรมสถานหาดทรายแก้ว รวมทั้งถนนเลียบชายทะเลหาดทรายแก้ว ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างหมู่1กับ หมู่ 2 ต.ชิงโค

สำหรับแนวทางแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ล่าสุดทางกรมโยธาธิการได้จัดงบประมาณ 220ล้านบาท เข้ามาแก้ปัญหาแล้ว โดยแยกเป็น 2ส่วน คือเริ่มจากการสร้างแนวกั้นคลื่นบริเวณหาดทรายแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลังจากที่ได้ศึกษาเรื่องผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยจะเริ่มก่อสร้างได้ราวปลายปีนี้ และอีกส่วนคือการปรับปรุงทัศนียภาพของหาดทรายแก้ว ให้สวยงามเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจ.สงขลา ส่วนปัญหาคลื่นกัดกินพื้นที่บริเวณธรรมสถานหาดทรายแก้วนั้น ทราบว่าทางกรมเจ้าท่า ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่กำลังเตรียมการสร้างเขื่อนกั้นคลื่นถาวรขึ้นเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เสียหายขยายวงกว้างกินพื้นที่ทั้งหมดซึ่งเหลืออยู่เพียง 2ไร่..

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/382841

[Akira]

เคยเห็นผ่านตา ว่่าพระอาจารย์ เกี่ยวพันสถานที่ในภาพ นะคะ

 

[suchin_tum]

       ภัยธรรมชาติ ค่ะ

[PRAMOTE(aaaa)]

    ตามกฏไตรลักษณ์

[DANAPOL]

 

[ธัมมะวังโส]

สถานที่ ริมฝั่งเขต อ.เฉลิมพระเกรียติ นี้ เมื่อก่อนเป็นเขต อ.เมือง ฉันเคยตาม พระอาจารย์ สงวน จันทะวังโส มาศึกษาพระธรรม ที่เรียกว่า สุญญตา ตอนนั้นฟังแล้วชอบ แต่ ไม่สมบูรณ์ เพราะผู้พูด ตีความสุญญตา ไปเอื้อให้กับศาสนาสากล โดยมีข้อความระบุว่า ธรรมชาติ ก็คือ พระยะโฮวา หรือ พระอัลเลาะห์ อย่างนี้เป็นต้น ทำให้เกิดอุบัติของพระพุทธเจ้า เป็นเท็จเพราะพระพุทธเจ้า ในกาลปฐพีโลกนี้ มีเพียงพระองค์เดียว เท่านั้นคือ พระสมณะโคดม องค์ปัจจุบัน การอุบัติของพระพุทธเจ้าเป็นไปไม่ได้ ในขณะที่ศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันยังมีอยู่

   เมือ่ก่อนเคยชอบ หลักศาสนาสากล แต่ครั้นได้ปฏิบัติตามหลักพระธรรมแล้ว ความเข้าใจและการเข้าไปสู่ธรรม ไม่เห็นด้วยกับหลักศาสนาสากล ที่บรรดา พระสงฆ์ ในบางสายบิดเบือนเอื้อให้กับศาสนาอื่น ทำให้การอุบัติของพระพุทธเจ้า ขัดกันซึ่งมันเป็นไปไม่ได้

   สำหรับธรรมสถานหาดทรายแก้ว นี้เป็นจุดสตาร์ท ในการเดินธุดงค์ครั้งแรก ของ ฉัน คือได้เดินเลาะชายฝั่ง มาออก สทิงพระ แล้วข้ามทะเลสาปสงขลา ไปออกเขาชัยสน ที่พัทลุง

   ภาคใต้ เป็นภาพที่เดินลำบาก มากเพราะอากาศร้อน ฝนจะตก ก็ไม่มีสัญญาณ เตือนมากนัก ยิ่งเป็นเขต ทุงใหญ่ ทุ่งสง ร่อนพิบูลย์ จนถึงชุมพรด้วยแล้ว นับว่า การเดินธุดงค์ ลำบากมาก ๆ