ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: งดงาม! ฝนมาน้ำเจิ่ง พระ-เณรนำ “แฮกนา” ปลูกข้าววันแม่เกี่ยววันพ่อ  (อ่าน 1281 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


งดงาม! ฝนมาน้ำเจิ่ง พระ-เณรนำ “แฮกนา” ปลูกข้าววันแม่เกี่ยววันพ่อ

น่าน - ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย ฝนลงน้ำเจิ่งนา เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้งฯ คณาจารย์ ม.เกษตรฯ นำพระภิกษุ สามเณรร่วม “แฮกนา” พร้อม “ปลูกข้าววันแม่ เกี่ยววันพ่อ” สนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวนาอีกทางหนึ่ง
       
       วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากต้องเผชิญภัยแล้งมายาวนานจนชาวนาทั้งใน-นอกเขตชลประทานไม่สามารถทำนาตามฤดูกาลได้ กระทั่งฝนตกต่อเนื่องเมื่อย่างเข้ากลางฤดูฝน ทำให้แปลงนาบ้านฝายแก้ว ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน มีน้ำเจิ่งทำให้ชาวบ้านลงมือไถนาพลิกดินที่เคยแตกระแหงกันทันที

       


       ล่าสุดพระชยานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ชิณะวงศ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางแสน นำคณะครู นักเรียน พระภิกษุ สามเณร และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตวัดพระธาตุแช่แห้ง รวมเกือบ 150 รูป/คน ร่วมกับชาวนาบ้านฝายแก้ว ลงแปลงเพาะถอนต้นกล้าข้าว
       
       ทั้งนี้ เพื่อให้ภิกษุสงฆ์ “แฮกนา” หรือนำปักดำต้นข้าวอินทรีย์วิถีชุมชน 6 สายพันธุ์ คือ ข้าวหอมชลสิทธิ์, ข้าวหอมปิ่นเกษตร, ข้าวเหนียวกล่ำ, พันธุ์ปทุมธานี 1, ข้าวหอมพันธุ์ไรซ์เบอร์รี และข้าวพันธุ์ดั้งเดิมจากโรงสีข้าวพระราชทานพันธุ์ธัญสิริน ในพื้นที่แปลงนาของวัดพระธาตุแช่แห้ง เนื้อที่นาจำนวน 15 ไร่ สร้างขวัญ และกำลังใจให้แก่ชาวนาที่ต่อสู้กับภัยแล้งและรอวันปักดำกล้าข้าวมานาน
       



       รวมทั้งสนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงต้องการขยายพื้นที่เรียนรู้ให้แก่เยาวชนเรื่องของการทำนา ส่งเสริมให้นักเรียนมีประสบการณ์การเรียนรู้ในกระบวนการทำนาตามรายวิชาการปลูกข้าวอินทรีย์วิถีชุมชน ที่เปิดให้แก่นักเรียน พระภิกษุ สามเณร ในปีการศึกษา 2558 ด้วยการออกไปลงมือปฏิบัติจริงในพื้นที่แปลงนา ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ข้าว การทำนา การแปรรูป ตลอดจนการบรรจุ และจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้แก่ครัวเรือนต่อไป
       
       โดยจะปลูกวันแม่ แล้วทำการเก็บเกี่ยววันพ่อภายในเดือนธันวาคม เพื่อเป็นยุ้งฉางเก็บรวบรวมพันธุ์ข้าวไว้ให้ใช้ในยามวิกฤต อีกทั้งนักเรียนและเยาวชนรุ่นหลังได้ใช้เป็นสถานที่ศึกษาวิถีชีวิตชุมชนเกษตรกรชาวนาไทยเพื่อมิให้ถูกกลืนจากอารยธรรมภายนอก ปลูกฝังให้เยาวชนได้สืบทอดเรียนรู้ และรู้จักบุญคุณของข้าว บุญคุณของชาวนาไทย ก่อนวิถีชีวิตดั้งเดิม ภูมิปัญญาไทยจะสูญหายไปด้วย


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000082761
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

เสริมสุข

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 223
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ตอนนี้พุทธศาสนา กำลังก้าวสู่ แบบมหายาน เพราะการศึกษาสมัยใหม่
พระเณรให้ความสำคัญ กับเรื่องความรู้รอบตัว โดยทิ้งหลักธรรมการภาวนาเพื่อพระนิพพาน
การศึกษาปริยัติ ก็ไม่ค่อยมี มุ่งการศึกษา ออกไปทางโลก เพื่อการประกอบอาชีพ
น่าเป็นห่วงภาพ ของพระเณร ที่เป็นสายเถรวาท เริ่มน้อยลง คงเป้นเถรวาทผสมมหายาน
 
ทำไม ช่วงนี้ พระเณรถึงถูกท้าร้ายมากขึ้น
ก็เพราะว่า มุมมองของคนและสื่อ ทำให้มองพระเณรอย่างชนทั่วไป ไม่ใช่เนื้อนาบุญ

 นี่คืออันตราย อย่างหนึ่งที่กำลังบั่นทอน พุทธศาสนา
หลายคนอาจจะชื่นชมภาพแบบนี้ แต่ ความเป็นจริงไม่ใช่กิจ ของพระเณร
และมันจะนำสู่ความเสื่อม ความเป็นเนื้อนาบุญ

พูดถึงอาชีพ เป็นฆราวาสก็มีอาชีพ เมื่อบวชอาชีพที่ติดตัว ก็เป็นเพียงออฟชั่นที่ช่วยสังคม
สมัยก่อน พระสงฆ์โบราณ เป็นชาวนาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครออกเป็นครูปลูกข้าว อย่างนี้ เพราะไม่ใช่ วิถีของพระสงฆ์

   จำได้ว่ามีกระทู้เรื่อง ขอทานที่ต้องไหว้ เมื่อให้ และ ขอทานที่ ที่ไม่ต้องไหว้ เมื่อให้ ไปเร็ว ๆ นี้

   :49: thk56 ที่ข่าวสารมาให้รับทราบ ครับ

บันทึกการเข้า
อยากได้รับความสุข จาก ธรรมะ อยากได้รับ ..... แหมก็อยากนี้จ๊ะ