ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนถามว่า ทำไม พระอาจารย์ ที่เข้าใจหลักธรรม ทำไม ทำเรื่อง ไสยศาสตร์  (อ่าน 4822 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

เรียนถามว่า ทำไม พระอาจารย์ ที่เข้าใจหลักธรรม ทำไม ทำเรื่อง ไสยศาสตร์
 
   เช่นการทำน้ำมนต์ สร้างพระเครื่อง หล่อ พระ อะไรประมาณนี้ ผมเคยฟัง ครูอาจารย์ผมท่านกล่าวว่า การที่มอมเมา ประชาชน ด้วยสิ่งเหล่านี้ คือการสอนตรงกันข้ามกับ พระพุทธเจ้า

  :25: thk56
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2015, 12:16:49 pm โดย ปัญญสโก ภิกขุ »
บันทึกการเข้า

kindman

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 272
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
แล้ว คุณ เชื่อ ไสยศาสตร์ หรือ ไม่
ในทางกลับกัน คุณ เข้าใจ พุทธศาสตร์ แบบไหน ?

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ask1

เรียนถามว่า ทำไม พระอาจารย์ ที่เข้าใจหลักธรรม

  :25: thk56

่ท่าน รู้ได้อย่างไร ว่า ท่าน เข้าใจในหลักธรรม ?

ธรรมก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ปุถุชน จนถึงอริยะ จะเอาแค่ คำว่า ธรรม เฉย ๆ มากล่าว เห็นจะไม่เพียงพอ
ตราบใดที่ บารมีขอเราเองยังไม่เพียงพอ เราก็ต้องอาจจะขออาศัย บารมีผู้อื่นช่วย
แล้วถ้าหาก มิมีผู้ใดเลย ที่เคยได้รับผล เห็นผลแล้ว เห็นใดจึงมีมาจนปัจจุบัน
หากท่านได้มีการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็จะพบว่ามีไม่น้อย ที่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
บันทึกการเข้า

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ask1

 การที่มอมเมา ประชาชน ด้วยสิ่งเหล่านี้ คือการสอนตรงกันข้ามกับ พระพุทธเจ้า

  :25: thk56

อันนี้ถูก มิได้ให้มอมเมา
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ask1

เรียนถามว่า ทำไม พระอาจารย์ ที่เข้าใจหลักธรรม ทำไม ทำเรื่อง ไสยศาสตร์

"ไสยศาสตร์" เป็นเรื่องของคนเขลาขลาดไม่เกี่ยวกับพระ พระสงฆ์ท่านเพียรทางจิตสถานะทางจิต/ศีลท่านได้จึงมีเรียนกันไว้แต่ไม่ใคร่จะใช้ มีแต่คนมาขอให้ท่านใช้ให้ช่วยบรรเทาทุกข์ ครูอาจารย์ที่ผมมีโอกาสไปกราบ/ฟังธรรม ท่านไม่ใคร่จะอวดด้วยเห็นไม่ใช่ทางพ้น ท่านเทศน์สอนอยู่แต่การภาวนาเสียมากกว่า แต่คนก็ยากที่จะภาวนากันได้พระไม่มีอะไรจะให้ แต่ญาติโยมขะยั้นขะยอขอน้ำมนต์บ้าง,วัตถุมงคลบ้าง ดีที่ไม่ขอสตางค์ พระคงมีให้หรือมีคงไม่ให้เป็นกรณีๆไปเหมามั่วไม่ได้ สรุป! ไสยเวทย์,มนตรา,อาคม ครูอาจารย์ถ่ายทอดส่งเนื่องสู่ศิษย์ไว้รักษาขันธ์ เพราะมรรคผลเนื่องด้วยขันธ์ หากหลงใช้ผิดเจตนาครูก็อดสูตกต่ำขวางนิพพาน ครับ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2015, 07:15:01 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากให้ระบุ สักหน่อย ว่า ไสยศาสตร์ มีอะไร ที่พระทำ
 เครื่องรางของพขลัง ผ้ายันต์ ตะกรุด พระเครื่อง เหล่านี้เป็นไสยศาสตร์ หรือไม่ ?
 ถ้าเป็น ไสยศาสตร์ แล้ว ทำไม จึงทำอยู่

  :49:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
๑. การสร้างพระพุทธรูปหรือพระเครื่องนั้น ท่านมีมานานแล้ว ทำเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเป็นตัวแทนของ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ เมื่อห้อยคอหรือบูชาเป็นที่ยึดเหนี่ยวอย่างนี้ เอาคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ น้อมมาสู่ตนแล้วเจริญปฏิบัติตาม สิ่งนี้ย่อมประกอบไปด้วยคุณประโยชน์ เป็นกรรมฐานว่าด้วย "อนุสสติ"
- ส่วนท่านที่ทำเพื่อการค้าเป็นพานิชย์นั้นมันอยู่ที่คนนะ ปุถุชนนี่แหละที่ทำอยู่ ทำเพื่ออาศัยว่าจะได้เงิน ทำเพื่ออาศัยลาภ ยศ สักการะ สรรเสริญ อันนี้ก็ต้องดูที่เจตนาของคนนะ พระบางรูปท่านไม่คิดที่จะสร้างเลย และ ญาติโยมรู้ว่าท่านเป็นสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าแล้ว มีความศรัทธา เขาก็เอามาให้ท่านปลุกเลกบ้าง เพราะประกอบไปด้วยคุณที่เขาควรนำบาบูชา กราไหว้ต้อนรับ บ้างท่านก็สร้างขึ้นเพื่อกรรมฐาน
- ที่สำคัญการบวชนั้น บวชเพื่อสิ่งใด บวชเพื่อสงเคราะห์แก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย สัตว์โลกทั้งหลาย อันนี้เมื่อท่านผู้ถึงแล้วย่อมเกิดเห็นว่า การทำสิ่งใดๆเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่เขาเหล่านั้นได้บ้าง

๒. เรื่องไสยศาสตร์ เรื่องไสย์ศาสตร์นี้เป็นทางมืด ที่สงฆ์ไม่ควรแตะต้อง แต่ที่ท่านทำพิธิพุทธาภิเสกกันนั้น ล้วนทำด้วยพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณทั้งสิ้น บทสวดมนต์ทั้งปวงก็มีในมนต์พิธี ซึ่งไม่ใช่ไสยศาสตร์ เช่น บทพาหุงนี้ก็มิใช่ไสยศาสต์ มหากรุณิโก ก็ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ยังกิญจิ ก็ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ธชัคสูตร ก็ไม่ใช่ไสยศาสตร์ อาฏานาฏิยะก็ไม่ใช่ไสยศาสตร์เพราะพระสูตรนี้ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณทรงรจนาพระคาถานี้พร้อมกับพระอินทร์และหมู่พรหมถวายแก่พระพุทธเจ้าเพื่อให้แก่ภิกษุสงฆ์ที่ยังไม่บรรลุธรรมไปสู่ป่าแล้วป้องกันอมนุษย์มารบกวน กรณียะเมตตสูตร อันนี้เป็นพระขรรค์เพชรของพระพุทธเจ้า ที่ให้แก่ภิกษุสงฆ์ที่ยังไม่บรรลุธรรมใดๆเลยสวดเพื่อเป็นเมตตาป้องกันเทวกามากลั่นแกล้ง ซึ่งพระคาถาพระสูตรนี้นั้นเป็นเมตตาเจโตวิมุตติ นี่ไม่ใช่ไสยดำ และพระคาถาอื่นๆในคำภีร์โบราณจารย์เจ้าที่เป็นพระคาถาที่ไม่ใช่ไสยดำก็มีอยู่มากมาย ทั้งในพระไตรปิฎกและสูตรที่ไม่รวมอยู่ในบทก็มี
- ส่วนไสยดำนั้นเป็นพวกที่ทำในเรื่องชู้สาวผิดลูกผิดเมียเขา ของเบื้องต่ำสิ่งสกปรกของหญิงบ้าง ของชายบ้าง ทำให้ผู้อื่นลำบากจนถึงความฉิบหายบ้าง
- ทีนี้ที่พระท่านทำนั้นไม่ว่าพระเครื่อง ผ้ายันต์ เพื่อความยึดเหนี่ยวทางใจของคน เวลาที่ตกระกำลำบากนั้น เราย่อมนึกถึวพระรัตนะตรัย คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ บ้างกำพระระลึกถึงคุณท่านบ้าง ปุถุชนผู้ไม่ได้กรรมฐานย่อมไม่สามารถมีลมหายใจเป็นพุทโธได้ ก็ย่อมต้องอาศัยพระเครื่องนี้แหละเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวกายใจ ดั่งหลวงปู่ดูท่านว่า นี่น่ะบ้าพระบูชาเป็นสิ่งมงคลไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น ยังดีกว่าบ้าฆ่าสัตว์ บ้าขโมยของเขา บ้าผิดลูกเมียเขา บ้าพูดปด ส่อเสียด ยุแยงให้คนอื่นฉิบหาย บ้ากินเหล้าจนขาดสติทำเรื่องผิดๆหมดทุกอย่างสูญเสียเงินทองและความเป็นคนไป ทีนี้ ท่าน nirvanar55 บ้าอย่างไหนหรือครับ

ลองแยกแยะดูนะครับว่าสิ่งใดที่คุณเห็นบ้าง ที่คุณรู้บ้าง ที่เข้าใจบ้าง ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมมีกิเลสตัณหา แม้แต่ท่านเจ้าของกระทู้เองก็มี หากท่านไม่มีกิเลสตัณหาท่านก็เป็นพระอรหันต์ ในสมัยหนึ่งผมเองก็คิดอย่างคุณนะแต่เมื่อพิจารณามากเข้าๆก็เห็นอย่างที่ผมกล่าวบอกคุณนี้แหละ และ ที่สำคัญ ศีล 5 ถ้าเรายังถือไม่ได้ แล้วผู้ที่ท่านทำอยู่นั้นมีศีลเยอะแยะกว่าเรานัก โดยเฉพาะท่านใดที่สามารถอธิษฐานจิตได้นั้นน่ะ มีอภิญญานั้นน่ะ ถ้างานฐานแห่งศีลไม่มี ไม่มีทางได้มาแน่นอน แม้จะเป็นโลกียะแต่ก็ทรงคุณอยู่ ลองมองย้อนดูตัวเรานะครับ มันจะเกิดประโยชน์สูง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2015, 11:21:48 am โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณทุกท่าน ทีมาตอบครับ ถึงแม้จะไม่เคลียร์ ในใจผม แต่ก็เข้าใจในมุมมองแต่ละท่านได้ อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์

  st11 st12 st12
บันทึกการเข้า

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
  โดยเฉพาะ ลาภ สักการะ นี่แหละ เป็นตัวการที่ทำให้ พระ ออกมาทำเรื่องไสยศาสตร์ จำคำหลวงพ่อพุทธทาส ท่านสอนเสมอ ว่า สร้างพระ หนึ่งองค์ ก็คือสร้าง ความงมงายให้เกิดขึ้น 1 ครั้ง ทำให้คนพึ่งไปในทางผิด ไม่ได้พึ่งหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ไปพึ่ง อิฐ พิึ่ง ปูน ทองเหลือง นั่นแหละ
 
   :88:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ask1

เรียนถามว่า ทำไม พระอาจารย์ ที่เข้าใจหลักธรรม ทำไม ทำเรื่อง ไสยศาสตร์
 
   เช่นการทำน้ำมนต์ สร้างพระเครื่อง หล่อ พระ อะไรประมาณนี้ ผมเคยฟัง ครูอาจารย์ผมท่านกล่าวว่า การที่มอมเมา ประชาชน ด้วยสิ่งเหล่านี้ คือการสอนตรงกันข้ามกับ พระพุทธเจ้า

  :25: thk56


   ans1

  1. พระอาจารย์รูปไหน ละ ระบุ มาตรง ๆ ไปเลยนะ จะได้ตอบให้ โดนใจไปเลย ที่ฉันไม่ตอบคำถามนี้ เพราะว่า ความเป็นจริง ของสงฆ์ตอนนี้ มันมีทั้งดี และ ไม่ดี บางรูป บางองค์ ก็ทำไสยศาสตร์ จริง ๆ บางรูป บางองค์ ก็มีแต่ พุทธศาสน์ บางรูป บางองค์ ก็ทำทั้งสองอย่าง และ บางรูป บางองค์ ก็ไม่เอาทั้งสองอย่าง ก็มี

   ดังนั้น คำถามนี้ มันเป็นคำถามรวมไป ภาพพจน์ ของพระพุทธศาสนา ในใจแต่ละคนไม่เหมือนกัน

    ถ้าคุณไปถาม พวกชอบพระเครื่อง
    ถ้าคุณไปถาม พวกภาวนา
    ถ้าคุณไปถาม คนทั่วไป
    ถ้าคุณไปถาม บัณฑิต

    คำตอบที่ได้ นั้น มัน ไม่ใช่คำตอบในเรื่องนี้ เพราะแต่ละคนก็จะตอบตามที่ตนเองชอบ

   เชื่อไหมว่า การพูดตรงไป ตรงมา คนไม่ชอบ มีเยอะกว่า ในสังคมบ้านเรา

   เช่น เวลาทักกัน คุณสวยนะ ( ในใจอาจจะเรียกว่า อีแก่ อยู่ก็ได้ ) แต่คำพูด ที่พูดออกไป มันทำให้เกิด บรรยากาศที่ดี ใช่ไหม ?

    ดังนั้น เจตนาของคำถาม นี้ ฉันเข้าใจว่า คำถาม มันรวมไป ไม่มีประโยชน์แก่การภาวนา จึงไม่ตอบ แต่ถ้าหากคำถาม ระบุมาที่ฉันเอง ก็จะพิจารณา ตอบอยู่ เพราะเราพูดให้ตัวเราได้ แต่พูดให้คนอื่นไม่ได้ ฉันไม่แก้ตัวให้ พระรูปอื่น ๆ หรอก เพราะทำไม่ได้ แบบนั้น แต่ถ้าสงสัย ว่า ฉันทำไสยศาสตร์ อันนี้ก็พอจะพิจารณาคำตอบเพื่อจะตอบได้อยู่ แต่ก็ดูอีกว่า ท่านมีความเกี่ยวข้องกับฉันแบบไหน คนด่าฉันก็มีเยอะ คนเคารพก็พอมีอยู่ การที่ฉันจะต้องตอบเพื่อให้ ท่านมาเคารพฉัน บางทีก็ไม่มีความจำเป็น นะ

    สรุป ถามให้กระชับในเรื่องการปฏิบัิต คำถามรวม ๆ อย่างนี้ และ คำตอบที่ได้ ไม่มีประโยชน์ในการภาวนา นั้นฉันจะพิจารณา ตอบเป็นเรื่องสุดท้าย หรือ ไม่ ตอบ

 เจริญธรรม / เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พระอาจารย์ ตอบโดนใจมากคะ ถึงแม้ ส่วนตัวเอง ก็นับเป็นสายศิษย์ ในแนวทางหลวงพ่อปัญญา นะคะ ศิษย์วัดอุโมงค์ เชียงใหม่ ก็ไม่เห็นประโยชน์ จากคำถามนี้ เพราะถามเสร็จ พระที่ท่านทำไสยศาสตร์ ก็ไม่ได้น้อยลง และ ก็ไม่มีใครจัดการ แต่ บางที เป็นพระระดับราชาคณะ ดำเนินการเองด้วยซ้ำไป เรื่อง เหล่านี้

    :58: st12
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน