หัวข้อ: นอบน้อมสายกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤศจิกายน 16, 2016, 06:54:26 pm (http://www.madchima.net/forum/gallery/11_03_03_13_11_36_57.jpeg)
ขอ น้อมจิต คารวะ กราบหลวงปู่ ขอ เชิดชู คุณอาจารย์ กรรมฐาน ขอ น้อมไว้ ซึ่งวิชชา สายอาจารย์ ขอ ยกพาน นอบน้อมยิ่ง คุณครู เอย ธัมมะวังโส ๑๖ พ.ย. ๕๙ หัวข้อ: Re: นอบน้อมสายกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤศจิกายน 16, 2016, 07:02:19 pm นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ข้าพเจ้าขอกราบขอขมา ต่อ สมเด็จพระสังฆราชพระญาณสังวร หลวงปู่สุก ไกเถื่อน และ ตลอดถึง หลวงพ่อพระครูสิทธิสังวร อาจารย์ใหญ่ฝายกรรมฐาน คณะ 5 วัดราชสิทธาราม องค์ปัจจุบันผู้เรียบเรียงประวัติสมเด็จสุก โปรดอย่าได้เป็นโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยข้อความวันนี้เป็นข้อความตรงที่ ศิษย์ พยายามนำประวัติครูอาจารย์ มาแสดงแก่สาธุชน หากกล่าวพาดพิง เกิดเป็นการปรามาส โดยความประมาท ขอท่านทั้งสองโปรดยกโทษนั้นให้แก่ข้าพเจ้า ด้วยเถิด อุปัชฌาอาจริยัง คุณัง วันทามิ วันนี้จะได้มายกย่อง คุณแห่งครูอาจารย์ในสายกรรมฐาน มีหลวงปู่สุกเป็นปฐมาจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยจะยกประวัติคุณธรรมที่ยังความศรัทธาและความเลื่อมใสให้เกิดขึ้นแก่สาธุชน ด้วยคำว่า สัมมา อรหัง สัมมา อรหัง สัมมา อรหัง อรหัง อรหัง อรหัง ในสมัย พรรษาที่ 15 เป็นยุคกรุงธนบุรี หลวงปู่สุกยังอยู่ที่วัดท่าหอย มีใจความปรากฏในหนังสือ ประวัติหลวงปู่ โดยพระครูสิทธิสังวรเป็นผู้เรียบเรียง หน้า 167 มีการเล่าถึง การได้เรียน กรรมฐานพิเศษ เพื่อการตัดขันธ์ โดยพระอริยะที่เถราจารย์ที่มาสอนหลวงปู่ในนิมิตขณะนั้น หลวงพ่อพระครูได้ให้ชื่อ สมมุติบัญญัติว่า คำมา หรือถ้าเราจะเรียกก็ต้องเรียกว่าหลวงปู่คำมา ( ไม่ต้องหลวงทวด แค่หลวงปู่ก็เป็นการให้เกรียติสุด ๆ แล้ว ) ดังนั้ันข้าพเจ้าก็จะขอเรียกว่า หลวงปู่คำมา ซึ่งให้ความเคารพไม่ย่ิงหย่อนกว่า หลวงปู่สุกเช่นกัน สำหรับวิชาที่หลวงปู่คำมา นำมาสอนนั้น ท่านทั้งหลายสามารถอ่านรายละเอียดวิชาได้ทีหนังสือประวัติหลวงปู่ (ใครไม่มีก็ติดต่อขอซื้อได้ที่ คณะ 5 หรือ สนพ.สัปชัญญะ ราคา 250 บาท ) แต่ชือวิชาโดยตรง ก็คือ วิชาโลกุดรสยบมาร มีเนื้อหาใจความเป็นไปตามลำดับ ตั้งแต่เรื่องการตัดขันธ์ ตัวหลักวิชาการเดินจิต ผ่อนคลายจิต สยบเวทนา และ ฌานโลกุตร ซึ่งก็เป็นวิธีเดียวกันทั้งหมด แต่จุดประสงค์การเดินจิตตามหลักวิชานั้น ก็แตกต่างตามระดับที่ยกมาแสดง ในที่นี้จะไม่พูดถึงหลักวิชา แต่จะพูดไปยาวเลยว่า วิชาโลกุดรสยบมาร หลวงปู่สุกท่านใช้บ่อยมาก ท่านใช้เพื่อการเข้าผลสมาบัติ และหลวงปู่เป็นพระภิกษุที่เข้าผลสมาบัติบ่อย ๆ การเข้าผลสมาบัติเป็นข้อยืนยัน ปฏิเวธ ดังนั้นคนที่เคารพศรัทธาหลวงปู่ ก็เพราะว่าเห็นการปฏิบัติ และ ปฏิเวธของท่าน ท่านเข้าผลสมาบัติบ่อยมากขนาดไหนก็ต้องกล่าวว่า เมื่อท่านมาสถิตย์ที่วัดพลับ หลังฉันภัตร์เสร็จ ก็เข้าผลสมาบัติในวันเลย นี่เป็นคุณอันยิ่งใหญ่อีกคุณหนึ่งแห่งคุณครูอาจารย์ที่แสดงปฏิเวธให้ปรากฏเป็นแบบอย่างแก่ศิษย์ ดังนั้นใครที่เรียนกรรมฐานเข้าประจักษ์แล้ว ไม่เข้าผลสมาบัติเลยภายในสองปี จึงเป็นเรื่องไม่สมควรเพราะปฏิเวธ เป็นสิ่งที่ต้องแสดงเหมือน ปริยัติ และ ปฏิบัตินั่นเอง ดังนั้นจะกล่าวว่า การเข้าผลสมาบัติเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำบ่อยไม่ถูกต้องเพราะครูอาจารย์ในสายกรรมฐานที่สืบทอดกันมานั้น ท่านเข้ากันแทบทุกอาทิตย์ทุกเดือนไม่ใช่ ปีหนึ่งทำครั้ง ดังนั้นป่วยการที่จะไปกล่าวไม่เข้า ไม่ทำเลย เป็นไปไม่ได้ เพราะ ปฏิเวธ เป็นสิ่งที่ต้องกระทำให้ประจักษ์เป็นการแสดงธรรม เช่น ปริยัติ และ ปฏิบัติ เช่นกัน แถมท้าย เรื่องของคาถาพระยาไก่เถื่อน ( พญาไก่แก้ว ) อยู่ในหนังสือ ประวัติหลวงปู่ หน้าที่ 215 ผู้สอนคาถา คือ ครูบารุ่งเรือง สอนท่าน ในะระหว่างที่หลวงปู่ออกจากลำพูน กำลังจะถึงเชียงใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดอานุภาพ ในหนังสือหลวงพ่อพระครูสิทธิสังวรท่านได้เล่าไว้แล้ว วันนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสได้ยกครูอาจารย์มาเป็นแบบอย่างในการภาวนาให้ศิษย์ และท่านผู้มีศรัทธาในกรรมฐาน ได้มั่นคงในพระกรรมฐาน ภาวนากันอย่าได้ว่อกแว่ก มัวแต่ไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่นกันมาก ให้หาเวลามาดูแลตนเองปรับปรุงจิตใจของเราให้ได้คุณธรรมให้เร็ว อย่าได้เป็นคนกลวง เป็นโมฆะบุรุษ ชื่อว่าได้เรียนธรรมของพระพุทธเจ้า มีครูอันเลิศ แต่หาคุณธรรมไม่ได้ เป็นคนกลวงอย่างนี้ไม่ดีเลย ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลายจงใคร่ครวญแม้แต่ครูยังฉันยังยอมเสียเวลากักตนเองฝึกฝนภาวนา ไม่ยุ่งภาระกิจโลก เอาแต่ภาระกิจแห่งพรหมจรรย์ เวลาเราไม่รู้ว่าเหลือมาก หรือเหลือน้อย แต่เราจะใช้เวลานี้ ขณะนี้ ให้เป็นประโยชน์ในการดับกิเลส เพราะการดับกิเลสไม่ได้ทำเพื่อให้คนอื่น มาสรรเสริญยกย่องบูชากราบไหว้ หรือมอบสักการะให้ แต่การดับกิเลสจะทำให้เราหนีจากความวุ่นวายของโลก ไม่ต้องมาเผชิญกับดีหรือชั่วต่อไป ในอนาคต แม้ที่สุดปัจจบันก็จะไม่ยุ่งกับโลกเป็นผู้อยู่เหนือโลก สมดังพรรณนามานี้ เห็นว่าสมควรแก่คุณแห่งครูอาจารย์แล้ว จึงขอจบการอ้างอิงคุณแห่งครูอาจารย์ลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ โทษอันใดที่ข้าพเจ้าประมาทพลาดพลั้งเล่าผิด ไป ขอครูอาจารย์อย่าตำหนิเป็นโทษแก่ข้าพเจ้า ด้วยคุณแห่งข้าพเจ้าต้องการยกย่อง คุณแห่งครูอาจารย์เป็นที่ปรากฏให้มากขึ้น นั้นด้วย เทอญ สัพพะ โสตถิ ภะวันตุเม ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพจ้า เอวัง ก็มี ด้วยประการฉะนี้[/b] หัวข้อ: Re: นอบน้อมสายกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: nongyao ที่ พฤศจิกายน 17, 2016, 12:35:13 pm กราบนอบน้อม พระกรรมฐานเจ้าทุกพระองค์และทุกท่านที่เมตตา ต่อดวงจิตที่ปรารถนาการพ้นทุกข์ :25: :25: :25:
หัวข้อ: Re: นอบน้อมสายกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ พฤศจิกายน 17, 2016, 08:11:46 pm ♤ อิทธิบาทครู อาราธนา ♤
~ •○• ~ •○• ~ •○• ~ ♤ กระพุ่มหัตถ์ข้าขมาถึงครูเจ้า ประทุมธรเหนือเกล้าพระกรรมฐาน ขอเชิดครูเสด็จปู่(สุก)สังวรญาณ กาลฟ้าผ่านปฐมครูแต่เดิมบาง. ~ •○• ~ •○• ~ •○• ~ ♤ ข้าขอไหว้องค์ครูผู้อยู่สอน อาราธนาไม่คลอนคุณเอาบุญขวาง พระไภสัชชยคุรุอัญเชิญวาง ปาฏิหาริย์คุ้มหว่างหทัยครู ~ •○• ~ •○• ~ •○• ~ ♤ กายข้าน้อมสงวนคลานพานข้ายก เกล้าครูปรกคุ้มท้นคุณเจ้ากู พระกรรมฐานวิชชาครู(สน)ฟื้นฟู ข้าจักอยู่เคียงคัมภีร์นี้นิพพาน. ~ •○• ~ •○• ~ •○• ~ ☆ ช่างเฉิง.! ☆ :smiley_confused1: หัวข้อ: Re: นอบน้อมสายกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ พฤศจิกายน 18, 2016, 12:43:57 am ข้าพเจ้าขอกราบไหว้วันทาอภิวาทซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอกราบไหว้วันทานมัสการพระธรรมทั้งหลายอันเป็นเครื่องออกจากทุกข์ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วทั้งหลาย ขอกราบไหว้วันทานอบน้อมซึ่งพระอรหันตสาวก พระอริยสาวก พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ขอกราบไหว้วันทานอบน้อมซึ่งคุณต่อหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน ตลอดถึง หลวงปู่พระครูสิทธิสังวร อาจารย์ใหญ่ฝายกรรมฐาน คณะ 5 วัดราชสิทธาราม องค์ปัจจุบัน และ พระอาจารย์ธัมมะวังโส ขอกราบไหว้วันทานอบน้อมซึ่งคุณคุณพ่อแม่บุพการี ขอกราบไหว้วันทานอบน้อมซึ่งคุณครูบาอาจารย์ทั้งหลาย กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไปแล้วต่อ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ท่านทั้งหลายในกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ไม่ว่าจะตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ความประมาทพลั้งเผลอเหล่าใดทางกายก็ดี ทางวาจาก็ดี ทางใจก็ดี อันเป็นการล่วงเกิน ไม่สมควร ไม่เหมาะสม น่าติดเตียน ขอสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์พระบรมครู พระธรรม พระสงฆ์สาวก พระราหุลเถระ หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน ครูบาอาจารย์ทั้งหลายในกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับมีพระอาจารย์ธัมมวังโสเป็นต้น โปรดจงอดโทษไว้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ข้าพเจ้าขอขมาลาโทษ อย่าให้เป็นเวรกรรมวิบากกรรมแก่ข้าพเจ้า เพื่อความสุข ความเจริญสำเร็จประโยชน์สุขสมหวังสมปารถนาทั้งหน้าที่การงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว ตลอดจนสติปัญญาในการเรียนรู้ทั้งหลายให้เข้าถึงโดยง่ายทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้ฉลาดไม่มีที่สิ้นสุด หัวไวๆ มีความจำเป็นเลิศ มีความคิดพลิกแพลง สร้างสรรค์ มีไหวพริบ เพื่อเข้าถึงทั้ง ๔๐ กรรม วิโมกข์ ๘ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ ได้ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ญาณ 16 วิปัสสนาญาณ ๙ ตลอดจนเห็นอย่างที่พระพุทธเจ้าเห็น มีอย่างที่พระพุทธเจ้ามี เข้าถึงอย่างที่พระพุทธเจ้าเข้าถึง เพื่อเผยแพร่พระธรรมอันเป็นทางพ้นทุกข์ในพระพุทธศาสนาให้ขจรไกลยั่งยืนนานสืบไป ได้ถูกต้องและตรงตามจริงสามารถไขปัญหาและข้อข้องใจของคนทั้งปวงให้เข้าถึงงานถึงใจผู้คนตลอดจนทำให้ถึงพระธรรมอันพ้นทุกข์ในพระพุทธศาสนาสืบไป บุญใดที่ข้าพเจ้าได้กราบไหว้เคารพบูชาอยู่นี้ซึ่งพระรัตนตรัย พ่อแม่-บุพการี ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ตลอดทั้งครูบาอาจารยกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ มีหลวงปู่สุกไก่เถื่อน หลวงปู่พระครูสิทธิสังวร พระอาจารย์ธัมมะวังโสเป็นต้น ด้วยเดชแห่งบุญนั้นขอจงส่งผลให้ข้พาเจ้าถึงพระนิพพานในชาตินี้หากยังไม่ถึงพระนิพพานฉันใด ไม่ว่าจะเกิดมาชาติใดๆ ภพภูมิใดๆขอความไม่มี-ไม่ได้ คำว่าไม่มี-ไม่ได้ จงอย่าได้มาปรากฏแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งบุญนั้น st12 st12 st12 หัวข้อ: Re: นอบน้อมสายกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ พฤศจิกายน 18, 2016, 06:13:12 pm st11 st12 st12 st12
หัวข้อ: Re: นอบน้อมสายกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤศจิกายน 18, 2016, 08:52:54 pm ขออนุโมทนาสาธุ
|