ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การกล่าวล่วงละเมิด บริภาษ ตั้งแต่พระโสดาบัน ก็มีโทษ ปิดกั้นธรรม  (อ่าน 6906 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
     พระพุทธเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ธรรมบรรยายที่เป็นธรรมาทาส คือกระจก
เงาส่องธรรมดังนี้แล ซึ่งอริยสาวก พึงใช้พยากรณ์ด้วยตนเองท่านกล่าวไว้ว่า บุคคลที่เป็นพระโสดาบันแล้ว ถ้าปรากฏว่า มีผู้อื่นผู้ใดประมาทพลาดพลั้ง หรือคะนองปาก กล่าวคำตำหนิติเตียน หรือนินทาว่าร้าย(อริยุปวาท) ด่า
บริภาษ โดยที่สุดอริยบุคคลโสดาบัน ที่เป็นคฤหัสถ์ ท่านกล่าวว่าห้าม มรรค ผลนิพพาน แม้บุคคลผู้นั้นจะพากเพียรปฏิบัติธรรม อย่างไรก็มิอาจสามารถ บรรลุมรรค ผลได้ การติเตียน ด่าบริภาษพระอริยเจ้า จึงมีโทษมาก เกิดความฉิบหาย ๑๐ อย่างคือ
บุคคลผู้นั้นจะยังไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ ๑
เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ๑
สัทธรรมของบุคคลนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว ๑
เป็นผู้หลงคิดว่าตนเป็นผู้บรรลุสัทธรรม ๑ ไม่
ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์ ๑
ถ้าเป็นภิกษุต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑
ย่อมถูกโรคเบียดเบียนอย่างหนัก ๑
ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน ๑
หลงตามกาละ คือตายไม่มีสติ ๑

       เมื่อตายย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก กรรมที่บริภาษ ด่าทอ พระอริยบุคคลนี้ เป็นกรรมตัดรอน มรรคผล นิพพาน มิใช่กรรมเก่า แต่เป็นกรรมที่สร้างขึ้นใหม่ และมีผลรุนแรงมาก มีอำนาจตัดรอนกรรมดีอื่นๆ
ในทันใด
      วิธีแก้กรรมนี้ ต้องกล่าวขอขมาโทษ แก่พระอริยเจ้า เมื่อพระอริยเจ้า อดโทษไม่เอาโทษแล้ว ก็ไม่ห้ามมรรค ผล นิพพาน กลับคืนเป็นปรกติตามเดิม โดยการขอขมาโทษ

      แม้อริยบุคคลโสดาบัน บางท่าน จะมีอาการหรือความเป็นไปภายนอก เช่นความเศร้าโศก และทุกข์โทมนัส ยังแสดงออกมาให้เห็นคล้ายกับปุถุชน แต่ก็เป็นอาการที่เป็นไปชั่วขณะ เมื่อมีสติ หรือมีผู้เตือนให้สติ อาการเหล่านั้นท่านก็ระงับได้ กลับเป็นปรกติตามเดิม โดยมีสติ

      แม้บุคคลโสดาบันที่เป็นคฤหัสถ์ ก็ควรทำสามีจิกรรม กราบไหว้ พระภิกษุสามเณร ที่บวชวันแรก และยังไม่บรรลุมรรคผลใดๆเลย เนื่องจาก เพศของพระภิกษุสามเณร เป็นอุดมเพศ เป็นวัตถุที่ควรเคารพบูชาพระพุทธเจ้าทรงแสดงเปรียบเทียบอานิสงส์ ของพระโสดาบันว่า ประเสริฐกว่าความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ประเสริฐกว่าการไปเกิดในสวรรค์ ประเสริฐกว่าความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง เพราะพระเจ้าจักรพรรดิ์ ก็ยังไม่พ้นจากอบายภูมิ การไปเกิดเป็นเทวดา เมื่อหมดบุญกุศลแล้ว ก็อาจไปอบายภูมิได้ แต่พระโสดาบัน เป็นผู้ปิดประตูอบายภูมิอย่างเด็ดขาด
ท่านผู้ที่ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค และท่านผู้ที่ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล นับเป็นพระอริยบุคคล ซึ่งเป็นสาวก ของพระผู้มีพระภาคเจ้า คู่ที่ ๑


พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน)
เรียบเรียงโดย พระครูสิทธิสังวร ผช.จล. วัดราชสิทธาราม ( พลับ )เจ้าคณะ 5
อาจารย์ใหญ่ผู้สืบทอด วิชากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ องค์ปัจจุบัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 01, 2012, 10:38:00 am โดย vichai »
บันทึกการเข้า

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา ด้วยคะ
ได้ความรู้มากเลยคะ

 :25:
บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

vichai

  • ศิษย์ตรง
  • พอพึ่งพาได้
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 207
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา ครับ ขออนุญาต ช่วยปรับวรรคตอนให้ใหม่ นะครับ

 :s_hi: :08:
บันทึกการเข้า
มาศึกษาธรรมะ ครับ ยินดีรู้จักทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร ครับ
เครดิต คุณกบแย้มกะลา

chatchay

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 244
  • เกิดเป็นคนต้องมีดี บวชทั้งทีต้องสร้างดีให้กับตน
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นเรื่องที่สำคัญ มาก ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จึงมีการขอขมาก่อนภาวนาพระกรรมฐาน ครับ

ขอบคุณมากครับ ที่มาช่วยรื้อฟื้น ประวัติหลวงปู่ให้ทราบ ไม่ได้อ่านมานานแล้วครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
โทษอันใดที่ข้าพเจ้าล่วงเกินแล้วต่อพระรัตนตรัย ด้วย กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ขอพระรัตนตรัย โปรดจงงดซึ่งโทษล่วงเกินนั้นแก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา คะ
มีสาระที่เกือบลืม ไปแล้ว พึ่งเข้ามาอ่านปี 2555

   :25: :13: :13:
บันทึกการเข้า

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา สาธุ ครับเป็นเรื่องที่ควรทำไว้ในใจเบื้องต้นนะครับ เรื่องนี้เห็นด้วยมากครับ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การกล่าว บริภาษ พระอริยะบุคคลตั้งแต่พระโสดาบัน นั้นมีโทษมาก นะจ๊ะ

  ที่จะบอกก็คือ เมื่อเราขอขมาโทษแล้ว ธรรมที่ถูกปิดกั้น ก็จะไม่ถูกปิดกั้น นะจ๊ะ อันนี้สำคัญมาก

  แต่โทษที่ ทำการล่วงเกินนั้น มิได้หมดไปเพราะขอขมานะจ๊ะ ยังคงต้องรับกรรม ที่ได้ทำไว้ด้วย

บางท่านเข้าใจว่า ทำการขอขมาแล้วโทษหมด มิใช่เป็นเช่นนั้น  เพียงทำให้ธรรมที่ถูกปิดกั้นนั้น ไม่ปิดกั้นการบรรลุธรรมซึ่งมีความสำคัญ  ส่วนกรรมที่สร้างไว้ ต้องรับต่อเช่นเดิมนะจ๊ะ


  ดังนั้น ทางที่ดีอย่าสร้างกรรมเหล่านี้ขึ้น อย่าไปคิดว่าจำเป็นต้องสร้างกรรม อาตมาเป็นห่วงทุกท่านที่ล่วงเกินและสร้างกรรมส่วนนี้ เพราะทุกวันนี้อาตมาเองก็รับกรรมในส่วนนั้น อยู่เช่นกันถึงแม้เราจะรู้ธรรมแล้วก็ตาม

  เจริญธรรม ขอให้ทุกท่านมีสติ อย่าสร้างกรรมส่วนนี้ขึ้นมากันนะจ๊ะ

   ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา