ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร  (อ่าน 4798 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
ใช้วิธีกการนึก หรือ กระทำอย่างไร ในวิธีการครับ

      :c017: :25:
บันทึกการเข้า

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 11:25:00 am »
0
การกำหนดทุกข์ มีวิธีการกำหนดอย่างนี้

  1.กำหนดทุกข์ ว่าทุกข์ เกิดทีตรงไหน
  2.ทุกข์มีความทรมานลำบากมากน้อยอย่างไร
  3.ทุกข์นี้เคยบรรเทาได้อย่างไร
  4.ทุกข์นี้ดับได้อย่างไร
  5.ทุกข์ที่เกิดนั้นกำหนดได้แล้ว
  6.ทุกข์ที่เกิดนั้นกำหนดยังไม่ได้
 

  เบื้องต้นเท่านี้นะจ๊ะ
    ;)

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2012, 05:05:31 pm โดย VongoleX »
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 01:11:24 pm »
0
ผมตามอ่านตั้งแต่เช้าแล้วครับ คิดว่าเรื่องนี้พระอาจารย์คงรอขยายความต่อนะครับ

 :25: :c017:
บันทึกการเข้า

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 05:09:35 pm »
0
ขออนุญาตนำจดหมายที่พระอาจารย์ตอบวันก่อน มาให้อ่านดีกว่านะครับ เพราะผมใคร่ครวญแล้วไม่เป็นข้อความลับแต่ประการใด คิดว่าแจกธรรมตรงนี้น่าจะมีประโยชน์มากกว่านะครับ

ข้อความจากจดหมายที่พระอาจารย์ตอบเรื่องการกำหนดทุกข์ ครับ



ภาพจาก www.facebook.com/madchimaRDN
สำหรับเรื่องการกำหนดทุกข์นั้น มีการกำหนดอยู่ 3 ระดับ

              1.กำหนดทุกข์ ได้ เพราะทุกข์ นั้นดับไปเอง
                 การกำหนดทุกข์ สำหรับปุถุชนนั้น กำหนดในปัจจุบันยังไม่ได้ เพราะสัมมาทิฏฐิ ยังไม่มียิ่งกำหนด ก็จะยิ่งทุกข์มากขึ้น คนที่ทุกข์มาก ๆ ในขณะนั้น ผลคือความตรอมใจ สิ้นหวัง ท้อถอยบ หดหู่ ซึมเศร้า เป็นต้น ถ้ามีทุกข์อยู่ในขณะนั้น ฟังธรรม เรียนธรรมเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นไม่ใช่เวลาที่จะมานั่ง นอน ยืน เดิน ภาวนาเลย ด้องไประงับทุกข์กันก่อนถึงจะภาวนาได้ ที่นี้ทุกข์จริง ๆนั้น เขาไม่ได้มีอยู่ตลอดเวลา ทุกข์ เกิด ทุกข์ ดับ เป็นขณะ ดังนั้นต้องอาศัยช่วงเวลาที่ทุกข์ดับไประยะหนึ่งนั้นให้เป็นประโยชน์ ภาษาเราเรียกว่า ลืมทุกข์ ดังนั้นปุถุชน คนทั่วไป จะแสวงหาวิธีการลืมทุกข์ และสอดใส่พระธรรมใด พระธรรมจนกระทังทุกข์นั้น หายไป เสื่อมไป ซึ่งชาวโลกเรียกว่า ทุกข์คลายเพราะเวลา อาศัยเวลาทุกข์จึงหาย ส่วนนี้ใช้ได้ ทั้งทุกข์ที่มีกำลัง น้อย ถึง ขั้นสูง การกำหนดทุกข์เช่นนี้ไม่ต้องสอน ทุกคนมีโดยธรรมชาติ

              2.กำหนดทุกข์ ขั้นกลาง เพราะทุกข์ไม่ดับไปเอง ยังคงมีอยู่เช่นนั้น แต่เกิดดับไว ติดต่อทำให้ทรมานทั้งกาย และใจ
                การกำหนดทุกข์ อย่างนี้ พระพุทธเจ้าตรัสสอนการกำหนดทุกข์ อย่างนี้ด้วยสติ เรียกว่า สติปัฏฐาน ตั้งสติไว้ในฐาน 4 คือ กาย เวทนา จิต และ ธรรม อย่างที่ท่านทั้งหลายเคยได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้มากันบ้างแล้วไม่มากก็นอ้ย แต่วิธีการนี้ สามารถทำได้ในขณะที่มีทุกข์อยู่ ทำเพื่ออะไร ทำเพื่อขยายและยืดเวลาที่ทุกข์นั้นดับด้วยสติให้มีระยะเวลาในการกำหนดพิจารณาให้มากขึ้น ดังนั้นวิธีการนี้เป็นที่นิยมเหมาะแก่คนที่มีทุกข์ ประจำ ๆ ไม่ว่าจะทุกข์ เรื่องใด ก็ให้ตั้งสติ ไว้และจะแก้ไขทุกข์นั้นได้ สภาวะเช่นนี้ปุุถุชน คนทั่วไปก็อาศัยการฝึกภาวนาแบบนี้ได้ และ รู้ได้ด้วยกำลังปัญญา แต่วิธีการนี้ จิตต้องไต่ไปตามระดับ ตั้งแต่ รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรม ควรพัฒนาไปเป็นชุด เพราะปัจจุบันการสอนเอาเร็วจึงฉวยช่วงปลายมาสอนบ้าง หรือนำช่วงกลางมาสอนบ้าง แท้ที่จริงพื้นฐานการสะสมบารมีบางท่านอาจจะมีกำลังมาถึงระดับนั้นแล้วจึงได้รู้ได้ นับว่าเป็นข้อผิดพลาดของการสอนที่นำสติปัฏฐานขั้นสูงมาถ่ายทอดก่อนระดับต้น เพราะพุทธเจ้าให้ปฏิบัติตามลำดับ ถ้าใครปฏฺบัติตามลำดับ ก็ชื่อฝึกอานาปานสติ ขั้นสมบูรณ์ คือ ผ่านสติ ทั้ง 16 ขั้นตอน สังเกตุอานาปานสติเริ่มต้นตั้งแต่ กาย ไปเวทนา ไปจิต ไปธรรม ขั้นสุดท้าย

                 สำหรับเรื่องการกำหนดรู้ทุกข์นี้ ดั้งนั้นครูอาจารย์จึงเตือนท่านทั้งหลายทางอ้อมว่าให้กำหนดลมหายใจเข้า กำหนดลมหายใจออกบ้างเพราะเป็นการเพิ่มพื้นฐาน ในส่วนของสตินั่นเอง

              3.การกำหนดทุกข์ ขั้นสูง เพราะทุกข์นั้นเปลี่ยนสภาพเป็นทุกข์ละเอียด ( ให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือสุข ) เป็นการฝึกในระดับสมาธิ
             ทุกข์มีได้ เพราะสุขหายไป สุขมีได้  เพราะทุกข์หายไป ทุกข์ กับ สุข อยู่คู่กัน
             เวลาที่จิตมีความทุกข์ เวลานั้นทุกคนก็จะแสวงหาความพ้นทุกข์
             แต่เวลาใดที่มีความสุข ทุกคนก็จะพยายามอยู่กับความสุขนัน ที่แท้ความพยายามตรงนั้นก็คือความทุกข์ เป็นต้นตอของตัณหา คนที่มีจึงไมรู้จักพอ จุึงทำให้เกิดการฝีนกฏธรรมชาติ คือไม่อยากแก่ ไม่อยากเจ็บ และไม่อยากตาย ทุกข์( สุข ) จึงมีรูปแบบให้คนทั้งหลายแสวงหา ดังนั้นพระอริยเจ้า ท่านจึงเข้าใจด้วยจิตขั้นสูงว่า สุข หรือ ทุกข์ ที่เราเห็นตามความเป็นจริง ด้วยกำลังของสมาธิจึงจะแก้กิเลสนั้นได้
             สุข ที่มนุษย์และเท่วดา ละไม่ได้ เรียกว่า สุขทิพย์ เป็นสุขที่อำนาจเกินจาก สุข ของโลกธรรมของมนุษย์ เพราะความเป็นทิพย์ทั้งหลายเป็นที่ปรารถนา ของมนุษย์และเทวดา เป็นอย่างมากดังนั้น การเรียนกรรมฐาน ฝ่ายเจโตวิมุตติมุ่งหมายในข้อ 3 คือการละสุข

              การละเพียงทุกข์ ก็สำเร้จเป็นพระอริยะบุคคลได้ ในระดับวิปัสสก
              แต่การทุกข์ และ สุข ได้นั้นสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคล ในระดับ เตวิชโช ขึ้นไป

              การกำหนดทุกข์ จะทำให้ท่านทั้งหลาย เลือกเป้าหมายในการภาวนาได้ง่ายขึ้น เพราะบางท่านไม่มีความทุกข์ เพราะทุกข์ถูกตัดแล้วด้วยสติ เพราะมีสติอยู่เนื่องด้วยท่านมีบารมีธรรมสะสมมาเพียงพอ จึงทำให้ท่านรู้สึกว่า กำหนดทุกข์กันไม่ได้ แต่ท่านก็ควรจะกำหนดสุข ขึ้นมา แสดงว่าท่านทั้งหลายมีบุญบารมีในการฝึกกรรมฐาน ในระดับสมาธิ

               ในสติ มี(สัมปชัญญะ) การรู้สึกตัวทั่วพร้อม
               ในสมาธิ มี (ยถาภูตญาณทัศศนะ )การเห็นตามความเป็นจริง

               ดังนั้นการกำหนดทุกข์ ในความเป็นจริงแล้ว ต้องใช้ทุกแบบ เพราะจังหวะของชีวิตมีทุกแบบ แต่วาสนาบารมีในการพ้นจากทุกข์ได้นั้น จะไปตกจังหวะไหนก็อยุ่ที่บุญบารมี ที่สะสมกันมาด้วย บางท่านปรารถนาเป็นพระพุธทเจ้า บางท่านเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ บางท่านปรารถนาเป็นเอตทัคคะในพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ความปรารถนาส่วนนี้เป็นธรรมปิดกั้น ธรรมสภาวะของการบรรลุด้วย ดังนั้นถ้าท่านใดตั้งใจที่จะบรรลุธรรมในชาติปัจจุบัน ก็ขอให้คืน ความปรารถนาทั้งปวงนั้นลงด้วยการอธิษฐาน เป็นพุทธสาวก ในปัจจุบัน อย่างต่อเนื่องให้ทำความปรารถนาอย่างนี้ทุกวันจนกว่าจะบรรลุธรรม

               สรุปธรรมบทนี้ เพื่อให้ท่านทั้งหลาย กำหนด ปริวัฏ 3 ในอริยสัจจะ 4 ได้เป็นและถูกทาง

              การกำหนดทุกข์นั้น

               1.เวลาทุกข์อยู่ภาวนาไม่ได้ ถ้าท่านทั้งหลาย ใช้วิธีบรรเทาทุกข์ แบบปุถุชน ดังนัั้นอย่าพยายามภาวนาถ้าท่านไม่ได้ตั้งสติ เสียก่อน
               2.ถ้ามี ทุกข์ อยู่ให้ไปขยายเวลาของการลืมทุกข์ออก ด้วยสติ เสียก่อน แล้วจึงภาวนา
               3.ถ้ามี สุข อยู่ไม่มีความทุกข์ในขณะนั้น แสดงว่า สติสมบูรณ์ ให้เจริญสมาธิ ให้มากขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2012, 05:21:34 pm โดย VongoleX »
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 05:12:10 pm »
0
การกำหนดทุกข์ มีวิธีการกำหนดอย่างนี้

  1.กำหนดทุกข์ ว่าทุกข์ เกิดทีตรงไหน
  2.ทุกข์มีความทรมานลำบากมากน้อยอย่างไร
  3.ทุกข์นี้เคยบรรเทาได้อย่างไร
  4.ทุกข์นี้ดับได้อย่างไร
  5.ทุกข์ที่เกิดนั้นกำหนดได้แล้ว
  6.ทุกข์ที่เกิดนั้นกำหนดยังไม่ได้
 

  เบื้องต้นเท่านี้นะจ๊ะ
    ;)

 

  ส่วนนี้ถ้าขยายความก็จะทำให้เกิดวิธีการกำหนดได้ง่ายขึ้นนะครับ
 
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 10:35:51 pm »
0
ถ้าจะขยายความแบบพูด ก็คือเห็นธรรมนั้นเกิดขึ้น เห็นธรรมนั้นตั้งอยู่ เห็นธรรมนั้นดับไป เห็นแล้ว หรือว่า ยังไม่เห็น
              และการเห็นนั้น ยังเห็นเป็นแบบ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ก็มีเห็นได้อีกสามนัยยะ
             เช่นเห็นแบบสุตตามัย จินตามัย ภาวนามัย
                    อย่างเช่นอันนี้ก็เป็นการตอบแบบปริยัติ ก็คือได้ยินได้ฟังแล้วนํามาตอบ แบบนี้ก็คือยังไม่ได้จริง เรียกว่า จํามาตอบ ดึงมาจากสัญญาขันธ์5 เป็นโลกียะ ยังใช้ไม่ได้เปฯได้แค่มรรค  ยังไม่ใช่แบบภาวนามัย
     คร่าวๆรอครูอาจารย์มาขยายต่อ
        ไม่ได้ฟันธง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2012, 10:38:03 pm โดย aaaa »
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

pamai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 01:42:43 pm »
0
มีสาระมากครับ แสดงให้เห็นว่า เวลาพระอาจารย์ตอบปัญหาทางเมลไปแล้ว ถ้าได้นำมาแจกจ่ายกันอ่านบ้างน่าจะมีประโยชน์ มากนะครับฃ

  :s_hi: :25: :c017:
บันทึกการเข้า

teepung

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 52
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรียนถาม วิธีการกำหนดทุกข์ ครับ ควรทำอย่างไร
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 09:29:56 am »
0
การกำหนดทุกข์ มีวิธีการกำหนดอย่างนี้

  1.กำหนดทุกข์ ว่าทุกข์ เกิดทีตรงไหน
  2.ทุกข์มีความทรมานลำบากมากน้อยอย่างไร
  3.ทุกข์นี้เคยบรรเทาได้อย่างไร
  4.ทุกข์นี้ดับได้อย่างไร
  5.ทุกข์ที่เกิดนั้นกำหนดได้แล้ว
  6.ทุกข์ที่เกิดนั้นกำหนดยังไม่ได้
 

  เบื้องต้นเท่านี้นะจ๊ะ
    ;)

 

เพื่อน ๆ ท่านใดทราบในขึ้นตอนการปฏิบัติ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขั้นตอนในการปฏิบัติเป็นอย่างไรครับ ในส่วนนี้

 ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า