สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => IT สาระประโยชน์ชาวธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: mfood ที่ พฤษภาคม 26, 2020, 02:42:34 pm



หัวข้อ: ในสถานการณ์แบบนี้เรามาดูวิธีใช้งานแอพจัดส่งอาหารแบบ Delivery กันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mfood ที่ พฤษภาคม 26, 2020, 02:42:34 pm
ในสถานการณ์แบบนี้เรามาสร้างระบบจัดส่งอาหารกันดีกว่า

ขั้นตอนง่าย ๆ ในการสร้างร้านอาหารเพื่อให้บริการ Delivery กับลูกค้าที่อยู่ในเขตพื้นที่ของเรา หรือเราสามารถกำหนดเขตพื้นที่ให้บริการตามจุดที่เราต้องการได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการ ดังนี้

การใช้งานแอพพลิเคชัน M Food เบื้องต้น
การใช้งานอาจจะดูเหมือนซับซ้อนแต่รับรอง เมื่อใช้งานเป็นแล้วมันก็ไม่ยากเหมือนเล่นเฟสเล่นไลน์ !

แพลตฟอร์มของ M Food เป็นระบบที่ร้านอาหารจะต้องดำเนินการจัดส่งด้วยตัวเอง หรือใครที่ต้องการรับหิ้วก็สามารถใช้แอพ M Food ได้เลย

ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดแอพฯ M Food มาลงที่ Android ของเราก่อนนะ หากไม่ใช่ Android หรือเป็น iOS ก็สามารถใช้งานผ่านหน้าเว็บนี้ได้เลยทันที ! (www.mfoodservice.com (https://play.google.com/store/apps/details?id=com.mfoodservice.mfoodservice))

การดาวน์โหลดแอพฯร้านอาหารให้ทำดังนี้ !

เข้าสู่ Google Play หรือ คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดแอพฯ (https://play.google.com/store/apps/details?id=com.mfoodservice.mfoodservice) เมื่อมาที่ Google Play แล้วให้พิมพ์ข้อความว่า “M Food” เพื่อติดตั้ง แอพพลิเคชัน M Food

(https://miro.medium.com/max/563/0*T_LcmQWMnkPfut_h.png)
(https://miro.medium.com/max/527/0*zRkfNQ36g8jUJZ7x.png)
 

เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วให้ไปที่หน้าจอ Android ให้เปิดแอพพลิเคชัน M Food ขึ้นมาเลย 
(https://miro.medium.com/max/493/0*A142CKgmA42FzA_r.png)
 

หลังจากเปิดแอพฯ M Food ขึ้นมาจะพบหน้าตาแอพฯ M Food ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/493/0*ku8Fy7kEFiaG5rZ3.png)


จากนั้นให้กดที่เมนูมุมขวาบนของหน้าจอแล้วกด “เข้าสู่ระบบ” เพื่อเข้าสู่ระบบของ M Food
(https://miro.medium.com/max/507/0*W9E7FNof9c0NcwuV.png)
 

จากนั้นให้เข้าสู่ระบบโดย... หากเราเคยสมัครไว้โดยใช้อีเมล์และรหัสผ่านที่เคยสมัครไว้ แต่ถ้ายังให้กดที่สมัครสมาชิก เพื่อสมัครสมาชิก M Food
(https://miro.medium.com/max/493/0*GId4mJzgkARDrGDN.png)
 

กรณีที่ต้องการสมัครสมาชิกให้กดที่ “สมัครสมาชิก” 
(https://miro.medium.com/max/493/0*SgAY1RRspN72O45t.png)


จากนั้นกรอกชื่อและอีเมล์ที่ต้องการสมัคร หรือ หากมีบัญชีของ Facebook หรือ Google ก็สามารถกดปุ่มนั้นได้เลย จะได้ไม่ต้องจำรหัสผ่านใหม่ให้ยุ่งยาก เพราะใช้เพียงรหัสของ Facebook หรือ Google เท่านั้นก็สามารถเข้าใช้งาน M Food ได้แล้ว ง่ายมาก ๆ

ส่วนการสมัครสมาชิก จำเป็นจะต้องมีอีเมล์และจำรหัสผ่านที่ใช้สมัครเอาไว้ให้ได้นะ
(https://miro.medium.com/max/493/0*OkSFaWxA_cuOj10R.png)


จากนั้น กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน แล้วกดปุ่มสมัครสมาชิก
(https://miro.medium.com/max/493/0*rqagurCPzu9HEqcO.png)
 

เมื่อสมัครเสร็จแล้วระบบจะแจ้งเตือนดังรูป 
(https://miro.medium.com/max/493/0*xrcYT6tnK2etXe7r.png)


จากนั้นให้ล็อกอินเข้าสู่ระบบด้วยการกรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบ หรือหากมีบัญชี Google หรือ Facebook อยู่แล้วก็สามารถกดเข้าไปได้เลย ระบบจะนำพาเราเข้าระบบ M Food เองโดยอัตโนมัติ

รอซักครู่เพื่อเข้าสู่ระบบ
(https://miro.medium.com/max/493/0*Lb4RSt5BteIAXk0O.png)


แค่นี้เราก็สามารถใช้งานส่วนอื่น ๆ ต่อไปได้

การลงทะเบียนแพ็กเกจ
ก่อนที่จะมีร้านอาหารในระบบ จำเป็นต้องสมัครแพ็กเกจเพื่อให้ร้านอาหารสามารถใช้งานได้ตามแพ็กเกจที่สมัครไว้ก่อน การลงทะเบียนแพ็กเกจให้ทำดังนี้

กดที่ (1) เมนูขวาบน แล้วเลือก (2) “บัญชีของฉัน” จากนั้นกดที่ (3) “ร้านอาหารของฉัน”
(https://miro.medium.com/max/493/0*Rmcd_x2lP43EVn2u.png)


จากนั้นระบบจะเข้าสู่หน้าจอ “ร้านอาหารของฉัน” ให้กดที่ “ดูแพ็กเกจร้านอาหาร” เพื่อเลือกแพ็กเกจ
(https://miro.medium.com/max/493/0*-GQW8QxTrCIJp1PT.png)


จะเห็นตัวเลือกแพ็กเกจแสดงขึ้นมา ซึ่งมี 1 แพ็กเกจที่เป็นแพ็กเกจฟรี สามารถใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ โดยไม่เสียค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากจะมีการใช้บริการรับชำระด้วยบัตรเครดิตออนไลน์เท่านั้น ที่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในแต่ละครั้งที่ใช้งาน หากไม่ใช้ระบบนี้เราก็ใช้งานได้ฟรีตลอดเลยทีเดียวเชียวนะ งั้นไปเลือกแพ็กเกจตามที่เราต้องการได้เลย
(https://miro.medium.com/max/493/0*Jpqrhitmu4xh1Tbv.png)

 
เลื่อนหน้าจอขึ้นลงเพื่อเลือกแพ็กเกจตามความเหมาะสมของร้านอาหารหรือตามที่ต้องการ ดูความสามารถในแต่ละแพ็กเกจให้ดี ๆ ล่ะ
(https://miro.medium.com/max/493/0*zH5vqWOErgRRCNwO.png)


แพ็กเกจที่มีค่าบริการรายเดือนยังเปิดให้ใช้ฟรี ! อยู่นะ
หรือ...จนกว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น
แต่โดยปกติแล้วแพ็กเกจที่มีค่าบริการก็ให้ใช้ฟรี 2 เดือนอยู่แล้ว
แต่แพ็กเกจฟรี ! ของเราก็ใช้ได้ฟรีตลอดชีพ
 
(ลองใช้แพ็กเกจที่มีค่าบริการไปก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนกลับมาเป็นแบบฟรีก็ได้ !)

แพ็กเกจของเราเป็นแบบเหมาจ่ายรายเดือน ใช้งานเท่าไหร่จ่ายเท่าเดิม

เมื่อพบแพ็กเกจที่ต้องการแล้วให้กดที่ปุ่ม “ลงทะเบียน” ระบบจะแสดงหน้าจอลงทะเบียน
(https://miro.medium.com/max/493/0*NQH5A6u5lq3e0qeL.png)
 

เมื่อตรวจสอบรายละเอียดเสร็จแล้ว ให้เลื่อนลงมาด้านล่างเพื่ออ่านรายละเอียด ข้อตกลงและเงื่อนไข ในการขอใช้บริการ อ่านให้เข้าใจก่อนนะ
(https://miro.medium.com/max/493/0*wsgkoHJqQSnWZQe9.png)
 

จากนั้นติ๊กถูกที่ “ฉันยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข” แล้วกดที่ปุ่ม “ยืนยันการลงทะเบียน”
(https://miro.medium.com/max/496/0*1LkJn7migUICl7SN.png)


หากไม่มีข้อผิดพลาดอะไร หน้าจอจะแสดงข้อความยืนยัน
 

จากนั้นให้กดปุ่มย้อนกลับ หรือปุ่ม “ปิด” เพื่อปิดหน้านี้

จากนั้นให้ทำการส่งข้อมูลยืนยันตัวตน เพื่อยืนยันการลงทะเบียนแพ็กเกจ และเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกระงับบริการก่อนกำหนด ซึ่งหากไม่ส่งการยืนยันตัวตนภายใน 15 วันหลังจากเริ่มมีออร์เดอร์การสั่งซื้ออาหารของร้านอาหารสำหรับแพ็กเกจนั้น ๆ ซึ่งแพ็กเกจนั้นจะถูกระงับการให้บริการทันที พร้อมกับปิดบริการร้านอาหารที่ได้ลงทะเบียนกับแพ็กเกจไว้

การยืนยันตัวตน ให้กดเข้าไปที่แพ็กเกจแล้วกดที่ปุ่ม "ยืนยันตัวตน" จากนั้นกรอกข้อมูลให้ครบแล้วกดบันทึกเพื่อยืนยันตัวตน


หมายเหตุ กรณีที่สมัครไว้เพื่อโปรโมทร้านอาหาร ซึ่งยังไม่มีการทำรายการสั่งอาหารในระบบ ไม่จำเป็นที่จะต้องส่งข้อมูลการยืนยันตัวตนเข้ามาก็ได้ ซึ่งการยืนยันนี้เป็นการยืนยันการมีตัวตนของเจ้าของร้านอาหารจริง ๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและนำชื่อมาใช้ในทางที่ผิด

ก็เสร็จสิ้นการลงทะเบียนแพ็กเกจ คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียนแพ็กเกจ

การลงทะเบียนแพ็กเกจสามารถลงได้หลากหลายแพ็กเกจ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา หรือถ้ากรณีที่เราต้องการยกเลิกแพ็กเกจก็สามารถทำได้ทุกเมื่อ

จากนั้นไปสเต็ปถัดไปได้เลย นั่น คือ !



การลงทะเบียนร้านอาหาร
หลังจากที่ลงทะเบียนแพ็กเกจแล้วก็จะสามารถลงทะเบียนร้านอาหารเข้ามายังแพ็กเกจที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อให้ร้านอาหารของเรามีความสามารถตามแพ็กเกจที่ได้เลือกไว้แล้ว วิธีการลงทะเบียนร้านอาหารให้ทำดังนี้

จากหน้าจอร้านอาหารของฉัน ให้กดที่ปุ่ม “ลงทะเบียนร้านอาหาร”
(https://miro.medium.com/max/493/0*ReIVErg6H0IwCoMl.png)


ทำการกรอกข้อมูลของร้านอาหารที่ต้องการลงทะเบียนให้ครบถ้วน
(https://miro.medium.com/max/493/0*IGpBC2-OZKxAjwen.png)
 

หลังจากที่กรอกชื่อร้านอาหารเสร็จแล้วให้เลือกประเภทของร้านอาหารกันด้วยนะ

จากนั้นกดเลือกแพ็กเกจที่ต้องการลงทะเบียนให้กับร้านอาหารของเรา ในตัวอย่างนี้เราเลือกลงทะเบียนกับแพ็กเกจฟรีนั่นเอง
(https://miro.medium.com/max/493/0*PJKSLDbsGnS6PvhU.png)


จากนั้นใส่รายละเอียดหรือความเป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารลงไป เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าร้านอาหารของเราให้บริการแบบไหนบ้าง
(https://miro.medium.com/max/493/0*1PlTprwLMp5FQNuu.png)


จากนั้นให้เลือกสถานะว่าจะเปิดให้บริการทันทีหรือไม่เปิด แต่...ขอแนะนำว่าให้เลือกเป็น “ปิดบริการ” เพื่อทำการตั้งค่าและเพิ่มเมนูอาหารให้พร้อมขายก่อนแล้วค่อยกลับมาแก้ไขให้สามารถเปิดบริการได้ตามปกติ (การเปิดบริการคือการอนุญาติให้สั่งอาหารได้นั่นเอง)
(https://miro.medium.com/max/490/0*qiYL8Ezy0IEIxgS1.png)


จากนั้นกดที่ปุ่ม “บันทึกการลงทะเบียน” แล้วหน้าจอจะแสดงข้อความยืนยัน สามารถกดปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มปิดได้เลย
(https://miro.medium.com/max/493/0*kbSEGAXsZtwxQFss.png)

 

จากนั้นจะพบชื่อร้านอาหารที่ได้ลงทะเบียนไว้บนหน้าจอ
(https://miro.medium.com/max/493/0*YVH3FEHdOplRg0La.png)

หลังจากนั้นเราก็มีร้านอาหารพร้อมเข้าบริหารจัดการได้เลย

 

การบริหารจัดการร้านอาหาร
ให้กดที่ปุ่ม “เข้าสู่ระบบหรือเปิดร้านอาหาร” เพื่อเข้าระบบจัดการร้านอาหาร

(https://miro.medium.com/max/495/0*UY815hDvrRCgq-UC.png)


จากนั้นให้รอซักครู่... ระบบจะนำพาเราเข้าสู่ระบบจัดการร้านอาหาร
(https://miro.medium.com/max/493/0*eMmL_FsWSMbJGMgN.png)
 

สำหรับใครที่ได้ลงทะเบียนร้านอาหารไว้แล้ว โดยปกติแล้ว ทุกครั้งที่เราเปิดแอพฯ M Food ขึ้นมาใหม่ ๆ ระบบจะแสดงชื่อร้านอาหารที่ลงทะเบียนไว้ขึ้นมาให้ทันที เราก็สามารถกดเข้าสู่ระบบร้านอาหารได้เลย
(https://miro.medium.com/max/493/0*ZW14zYbH4dUbMaK-.png)


เมื่อเข้ามาแล้วจะพบหน้าจอหลักของการจัดการร้านอาหารดังรูป รายละเอียดต่าง ๆ จะกล่าวในหัวข้อถัดไป
(https://miro.medium.com/max/493/0*4TVcYVVmmW3rv96P.png)
 

ส่วนของ รูปโปรไฟล์ของร้านอาหาร คือ รูปภาพที่จะแสดงให้ลูกค้าเห็นในครั้งแรกที่เข้ามาพบร้านอาหารผ่านหน้าเว็บของ M Food หรือจากการค้นหาของ Google

ให้กดที่ “แก้ไข” ตรงช่องของรูปโปรไฟล์หน้าร้าน เพื่อเพิ่มรูปภาพของหน้าร้านอาหารของเรา
(https://miro.medium.com/max/446/0*oWP3SQubJvCXvVzR.png)
 

จากนั้นกด “เลือกไฟล์”
(https://miro.medium.com/max/491/0*DhYJnOu1Bv96Jxah.png)


ทำการเลือกไฟล์ที่มีอยู่บนเครื่อง (ต้องเตรียมรูปภาพหรือถ่ายรูปไว้แล้วนะ)
(https://miro.medium.com/max/493/0*fPa_xLbOmzO1I3wh.png)


หลังจากกดเลือกรูปมาแล้ว หน้าจอจะโชว์รูปภาพที่เราเลือกมาทันที แต่รูปที่โชว์อยู่นี้จะยังไม่เข้าระบบ จนกว่า ....
(https://miro.medium.com/max/494/0*WrKzRNGprUg07UKg.png)

 

จากนั้นให้กดที่ปุ่ม “อัพโหลด” เพื่ออัพโหลดรูปภาพเข้าระบบ

แล้ว ! รอ... ซัก ... ครู่...

(https://miro.medium.com/max/493/0*ovU8meYeiR5VoONF.png)


เมื่อระบบอัพโหลดภาพเสร็จแล้วจะแสดงข้อความยืนยัน สามารถกดที่ปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มปิดได้เลย
(https://miro.medium.com/max/493/0*QSQ2nAAmxv6ouamJ.png)


หลังจากนั้นหน้าจอจะแสดงรูปภาพที่ได้อัพโหลดไว้แล้วบนหน้าหลัก ดังรูป

(https://miro.medium.com/max/490/0*1oqaGvTBZIIYkrrg.png)
 

ต่อไปเราจะเพิ่มรายละเอียดของร้านอาหารของเราก่อน

รายละเอียดของร้านอาหาร คือ ข้อมูลพื้นฐาน การเพิ่มรายละเอียดของร้านอาหารด้วยการเลื่อนหน้าจอลงมาจะพบข้อมูลของร้าน จากนั้นกดที่ปุ่ม แก้ไข
(https://miro.medium.com/max/490/0*_uMhqJst5ntB7y-s.png)

 

ทำการกำหนดรายละเอียดของร้านอาหารให้ครบ เพื่อให้ลูกค้าทราบข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารของเรา
(https://miro.medium.com/max/490/0*5PDuRWPsGCJJ0C1f.png)
(https://miro.medium.com/max/490/0*x5AFw7CL0Xf6OtpF.png)
 

เมื่อระบุข้อมูลครบแล้ว จากนั้นเลื่อนลงมาเพื่อเพิ่มช่วงเวลาในการ เปิด/ปิด ของร้านอาหาร หากไม่ได้เปิดร้านก็ไม่จำเป็นต้องระบุก็ได้ เพราะเราจะขายเฉพาะ Delivery อย่างเดียว

จากนั้นหากต้องการให้ร้านอาหารของเราออนไลน์ทันที ! (แสดงผลให้ลูกค้าเห็นข้อมูลร้านอาหารจากหน้าเว็บ mfoodservice.com หรือ Google) ให้เปลี่ยนการแสดงผลเป็น “แสดง” ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเห็นข้อมูลของร้านอาหารได้ทันที (แต่ยังไม่สามารถสั่งอาหารได้นะ เหลืออีกไม่กี่ขั้นตอนหรอก)
(https://miro.medium.com/max/490/0*kCeRPYK1lFGmo7aV.png)

 

จากนั้นให้กดปุ่ม “บันทึก” เพื่อบันทึกข้อมูลของร้านอาหาร เมื่อบันทึกเสร็จแล้วจะแสดงข้อความยืนยัน ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/490/0*NQ7nsh2fZRBTBKpW.png)

 

เราสามารถกดปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มปิดได้เลย

ข้อมูลรายละเอียดของร้านอาหารที่ได้บึนทึกไว้แล้วจะแสดงดังรูป
(https://miro.medium.com/max/490/0*cGKIZHohEb5D5zKF.png)

 

เมนูอาหาร
เมนูอาหาร คือ การจัดการเมนูอาหารของร้านอาหาร ถ้าร้านอาหารไม่มีเมนูอาหารแล้วจะเปิดร้านทำไมล่ะ ว่าไหม ดังนั้นเรามีดูวิธีการจัดการเมนูอาหารกัน

การจัดการเมนูอาหาร กดที่ปุ่ม “อาหาร” ที่อยู่ด้านล่างสุดของหน้าจอ
(https://miro.medium.com/max/491/0*yPlwMkMjjwRwmoVm.png)


จะพบหน้าจอเมนูอาหารดังรูป
(https://miro.medium.com/max/496/0*eLxCJLvTJgWqZX5Q.png)


เมื่อต้องการเพิ่มเมนูอาหารให้กดที่ปุ่ม “เพิ่มเมนูอาหาร”
(https://miro.medium.com/max/494/0*DGRkL33dZmzomD56.png)

 

จากนั้นกรอกชื่อเมนูอาหาร และใส่รายละเอียดให้ครบถ้วน
(https://miro.medium.com/max/496/0*ytKEWYQWMEZj4D_y.png)


 
แล้วเลือกกลุ่ม เลือกประเภท ของอาหาร เพื่อให้สามารถแยกกลุ่มแยกประเภทของอาหารได้ง่าย และทำให้ง่ายต่อการค้นหาเมนูอาหารอีกด้วย ไม่ใช่ง่ายสำหรับเรา มันง่ายสำหรับลูกค้าของเราด้วยนะ
(https://miro.medium.com/max/496/0*8pBT1jZGsw7j3yC7.png)

 

การระบุข้อมูลเพิ่มเติม มีดังนี้

ขนาด เช่น ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เป็นต้น จำเป็นต้องใส่หรือไม่ใส่ก็ได้

หน่วย ให้กำหนดเป็น จาน ถ้วย ชาม แก้ว และอื่น ๆ

ราคาต่อหน่วย คือราคาตั้งต้นที่เราจำหน่าย ที่ยังไม่ได้ลดราคา

ราคาขายจริง คือราคาที่ลูกค้าต้องจ่ายให้เรา ดังนั้นหากราคาต่อหน่วยมากกว่าราคาขายจริง เวลาแสดงผลบนหน้าจอสั่งอาหารจะพบว่าเมนูนี้แสดงเปอร์เซ็นการลดราคาให้ด้วย

ต้นทุน หากสามารถระบุต้นทุนได้จะยิ่งดี ทำให้เราสามารถตรวจสอบยอดขายที่หักลบกำไรต้นทุนให้ด้วย จะทำให้เราเห็นภาพได้ว่าร้านอาหารปัจจุบันมีผลกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ โดยระบบของ M Food มีระบบรายงานยอดขายแสดงผลเป็นรูปแบบกำไร-ขาดทุนให้ด้วย

(https://miro.medium.com/max/496/0*HAaLKCHn_jdasosJ.png)
 

ตัวอย่างนี้ เราขายอาหารเมนูนี้เพียงแค่ขนาดเดียวขนาดเดียวเท่าน้น (ไม่ใช่อันเดียวตัวเดียวนะ !) ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องระบุขนาดลงไปก็ได้ ดังรูป

(https://miro.medium.com/max/496/0*N8aC1nosb2Hc7JXx.png)

 

จากนั้นหากต้องการให้เมนูอาหารนี้สามารถ Delivery ได้ ให้เลือกเป็น “จัดส่ง” จากนั้นใส่จำนวนที่สามารถจัดส่งให้ลูกค้าต่อวันได้เลย

ส่วนช่องแสดงผล เป็นการกำหนดว่าจะขายที่ร้านทันทีเลยหรือไม่ หากต้องการขายทันทีให้เลือกแสดงทันที แต่ทั้งนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะให้แสดงทันที เนื่องจากว่าเรายังไม่ได้ใส่รูปอาหารเลย
(https://miro.medium.com/max/496/0*7y1r7cHhRmDB41nu.png)


เมื่อระบุข้อมูลครบแล้วให้กดปุ่ม “บันทึก & ปิด” เพื่อบันทึกเมนูอาหารเข้าระบบ  M Food

ระบบจะแสดงข้อความแจ้ง หากต้องการเพิ่มเมนูต่อไปให้กดที่ปุ่ม “เพิ่มเมนูอาหาร” ได้ทันที หรือกดปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มปิดเพื่อกลับไปยังหน้าเมนูอาหาร
(https://miro.medium.com/max/496/0*aBIyp9l5dzEXaT5G.png)
 

เมื่อเพิ่มเมนูอาหารครบตามต้องการแล้ว หน้าจอจะแสดงเมนูอาหารที่ได้เพิ่มไว้บนหน้าจอ ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/496/0*mgv9TF-dnGaVFy6X.png)

 

ต่อไปเราก็จะต้องมาเพิ่มรูปภาพให้กับเมนูอาหารที่เรามีอยู่เข้าไป

รูปภาพของเมนูอาหาร หลังจากที่ได้เมนูอาหารแล้วต่อไปเราจะเพิ่มความน่ากินให้กับอาหารของเรา ด้วยการเพิ่มรูปภาพที่ถ่ายเตรียมไว้ พร้อมตกแต่งภาพให้สวยงาม การเพิ่มรูปภาพให้ทำดังนี้

กดที่ปุ่ม “รูปภาพ” ตรงช่องเมนูอาหารของเรา จากนั้นหน้าจอจะแสดงขึ้นมาให้กดที่ปุ่ม “เลือกไฟล์” ตรงช่องภาพหลัก ซึ่งรูปภาพอาหารเราสามารถเพิ่มรูปภาพได้ไม่เกิน 4 รูป หรือใส่เพียงแค่รูปเดียวก็ได้ โดยอัพโหลดไปที่ภาพหลักเท่านั้น เพราะภาพหลักมันก็จะแสดงไว้ในหน้าแรกที่เปิดเมนูอาหาร
(https://miro.medium.com/max/496/0*7gFQHQwePSqBCPb9.png)


หลังจากกดปุ่ม “เลือกไฟล์” แล้ว ให้หารูปที่อยู่บนเครื่องของเรา จากหน้าจอนี้ เรามีรูปภาพอยู่บน “Photos” ซึ่งเป็นรูปภาพที่เก็บไว้บน Google Photos แต่หากมีรูปภาพบนเครื่องให้เลือก “รูปภาพ” ได้เลย
(https://miro.medium.com/max/499/0*l1bi_nDdzRn4BmVA.png)

 

เมื่อเข้ามาที่ “Photos” แล้ว ให้เลือก “รูปภาพ”
(https://miro.medium.com/max/496/0*ajp8SeNyfkS9r7qg.png)


จากนั้นให้หารูปภาพที่ได้เตรียมไว้
(https://miro.medium.com/max/496/0*20vzCVVbI8jb4bHl.png)

 

เมื่อพบรูปภาพที่ต้องการแล้วให้กดเลือกไปยังรูปนั้น

จากนั้นระบบจะโหลดรูปภาพมาแสดงบนหน้าจอ ให้กดที่ปุ่ม “บันทึกภาพ” เพื่ออัพโหลดรูปภาพเข้าระบบ M Food

(https://miro.medium.com/max/496/0*ljmFG8KlJq2WexNP.png)


จากนั้นให้รอ... จนกว่าระบบจะอัพโหลดรูปภาพเสร็จ

(https://miro.medium.com/max/496/0*gRRxPYB8hBTPSv_T.png)


หลังจากที่อัพโหลดเสร็จแล้วหน้าจอจะแสดงดังรูป
(https://miro.medium.com/max/496/0*eaafL8ufDw2bl3QN.png)
 

เพียงเท่านี้เราก็จะได้รูปภาพของอาหารมาแล้ว 1 เมนู ให้กดปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มปิด เพื่อกลับสู่หน้าเมนูอาหาร หรือเพิ่มรูปภาพที่ 1 – 4 อีกก็ได้

ลองกดปุ่มเมนูที่อยู่ด้านบนเพื่อเปลี่ยนวิวที่เพื่อเปลี่ยนการแสดงผล จะพบว่ามี 1 เมนูอาหารที่เราได้เพิ่มรูปภาพเข้ามาแล้ว ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/498/0*Oj7HOEgC8Z62P9hn.png)

 

จากนั้นหากต้องการเพิ่มรูปภาพใหม่ เราสามารถกดเข้าไปที่เมนูอาหารที่ไม่มีรูปภาพแสดงอยู่ได้เลย หรือกดที่ปุ่ม “ริสรายการ” เพื่อกลับไปยังการแสดงผลเมนูอาหารแบบปกติ แต่ถ้าอยู่ในหน้าเมนู เมื่อเรากดเข้ามายังเมนูนั้นจะพบหน้าจอดังรูป แล้วกดเข้าไปยัง “รูปภาพ” เพื่อเพิ่มรูปภาพต่อได้ทันที
(https://miro.medium.com/max/496/0*eCmU6ilb64iblHpf.png)
 

จากนั้นให้ทำการเพิ่มรูปภาพของแต่ละเมนูให้ครบทั้งหมด
(https://miro.medium.com/max/496/0*4TaHlBq8ikWjLtVJ.png)


วิธีการที่จะดูเมนูอาหารว่าเมนูไหนมีรูปภาพหรือยังไม่มี ให้กดที่ปุ่ม “เมนู” จะทำให้เห็นภาพรวมของเมนูอาหารได้ง่ายขึ้น
(https://miro.medium.com/max/497/0*JkEzVxej6_SYwBOj.png)
 

เมื่อเราเพิ่มเมนูอาหารครบหมดแล้ว หน้าจอจะแสดงดังรูป
(https://miro.medium.com/max/496/0*rzReFvWrj4dfcKvK.png)


หลังจากนั้นเมนูอาหารของเราก็สามารถพร้อมขายได้ทันที

แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่จะขายอาหารเราต้องมาตั้งค่ากันก่อนนะ ว่าร้านอาหารของเราจะให้บริการในเขตไหนบ้าง

การตั้งค่า
การตั้งค่าของร้านอาหารเป็นการกำหนดค่าต่าง ๆ ของร้านอาหาร เช่น การจัดส่ง การชำระค่าอาหาร ช่วงเวลาการจัดส่ง และอื่น ๆ เป็นต้น การเข้าสู่หน้าการตั้งค่าให้ทำดังนี้

ที่เมนูด้านล่างของหน้าจอให้กดเข้าไปที่ตั้งค่า ข้อมูลจะแสดงดังรูป
(https://miro.medium.com/max/490/0*rC7ofEqXcnm6cVWj.png)

 

การกำหนดค่าการแสดงผลเวลาเพิ่มเมนูอาหาร และวัตถุดิบประกอบอาหาร จากระบบของ M Food หากเราต้องการกำหนดกลุ่มหรือประเภทเองก็ให้ปิดการแสดงผลในส่วนนี้ได้เลย การแสดงผลประกอบไปด้วย

- กลุ่มของอาหารจากระบบ

- ประเภทของอาหารจากระบบ

- กลุ่มของวัตถุดิบจากระบบ

- ประเภทของวัตถุดิบจากระบบ

ขอแนะนำว่าให้เปิดไว้ เพื่อให้ง่ายต่อการเพิ่มข้อมูลเมนูอาหารและวัตถุดิบประกอบอาหาร เพราะระบบ M Food จะมีการอัพเดทข้อมูลส่วนนี้เข้ามาเลื่อย ๆ

ระบบ Delivery คือ การกำหนดว่าร้านอาหารของเราอนุญาติให้จัดส่งหรือไม่ เมื่อกำหนดค่าเสร็จแล้วจากนั้นให้ทำการตั้งค่าพื้นที่ให้บริการของร้านอาหารโดยให้กดเข้าไปที่ “พื้นที่ให้บริการ Delivery” จากนั้นให้กดที่ปุ่ม “เพิ่มพื้นที่ให้บริการ”
(https://miro.medium.com/max/490/0*qDiV7O2RSu_vAtR-.png)
 

จากนั้นตั้งชื่อพื้นที่ให้บริการและทำการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน (ชื่อพื้นที่ก็ตั้งชื่อให้พอเข้าใจว่ามันคือโซนไหนที่เราจะทำการ Delivery)
(https://miro.medium.com/max/490/0*wre5X8qREc5jItHN.png)

 

ค่าบริการในการจัดส่ง Delivery เราสามารถกำหนดได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

- ฟรีค่าจัดส่ง เวลาระบบคิดค่าบริการจะไม่มีการเรียกเก็บจากลูกค้า

- มีค่าบริการ หากลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ที่เรากำหนดไว้ในหน้านี้จะต้องเสียค่าบริการ โดยเราต้องระบุจำนวนค่าบริการลงไป

- ฟรีแบบมีขั้นต่ำ เป็นการกำหนดยอดการสั่งซื้อขั้นต่ำไว้ หากต่ำกว่านี้จะต้องเสียค่าบริการตามที่กำหนด
(https://miro.medium.com/max/490/0*67wbKhDWxm22Tp0t.png)

 

จากตัวอย่างข้างต้น เราทำการกำหนดพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งอำเภอศรีราชา หากเราต้องการกำหนดแยกย่อยลงมาอีกก็ให้กำหนดตำบล หมู่บ้าน หรือกำหนดเป็นถนน เป็นหมู่ที่ เพื่อบีบพื้นที่ให้แคบลงได้ ซึ่งลูกค้าที่จะสั่งอาหารได้จะต้องเป็นลูกค้าที่ระบุที่อยู่ในเขตที่เรากำหนดเท่านั้น !
(https://miro.medium.com/max/490/0*pz92_KESPSu-yLoI.png)
 

เมื่อกรอกข้อมูลการครบแล้วให้กดปุ่ม “บันทึกพื้นที่ให้บริการ” ระบบจะแจ้งสถานะการบันทึกข้อมูลพร้อมกับแสดงปุ่มให้เราสามารถเพิ่มพื้นที่อื่น ๆ ได้อีก ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/490/0*kv2zcP3cfJG7OhL7.png)

 
หากเพิ่มพื้นที่ให้บริการครบแล้วให้กดปุ่มปิดหรือปุ่มย้อนกลับ จะพบข้อมูลพื้นที่ให้บริการบนหน้จอ สามารถกดปุ่มเพื่อเปิดดูรายละเอียดหรือลบและแก้ไขได้
(https://miro.medium.com/max/490/0*Gt-ZmFkprzIbgMR8.png)

 

เพียงเท่านี้ก็จะได้พื้นที่ที่เราให้บริการในการจัดส่งอาหารแล้ว

จากนั้นมาที่ด้านล่างของหน้าจอกดไปที่ตั้งค่าเพื่อกลับไปยังเมนูตั้งค่าของร้านอาหาร
(https://miro.medium.com/max/490/0*yNhIXUgBXCDhAvpr.png)


การจัดส่งอาหารจำเป็นต้องระบุช่วงวันที่และเวลาในการจัดส่งด้วยนะ เพื่อให้เราสามารถให้บริการ Delivery ได้ตามวันที่เรากำหนด

การกำหนดวันที่ ให้กดเข้าไปที่ “กำหนดวันที่ที่สามารถจัดส่งได้”
(https://miro.medium.com/max/490/0*jFVgXxW0q728IVo8.png)


จะพบว่าระบบกำหนดค่าเริ่มต้นให้สามารถจัดส่งได้ทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ และกำหนดวัน ที่ลูกค้าสามารถสั่งล่วงหน้าได้ เช่น หากกำหนดเป็น 3 วัน ลูกค้าจะไม่สามารถกำหนดวันที่ที่เกินจากวันนี้ไป 4 วันได้ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าสั่งอาหารวันที่ 1 แต่กำหนดส่งวันที่ 4 จะไม่สามารถสั่งอาหารได้ ต้องกำหนดวันที่ที่ต่ำกว่านี้ถึงจะสั่งได้

หรือหากเราเปิดบริการจัดส่งด้วยการกำหนดวันที่ตายตัวก็ทำได้เหมือนกัน โดยให้เลือกที่ “ระบุวันที่” จากนั้นให้กำหนดวันที่ที่จะทำการจัดส่งแล้วกดบันทึก

การกำหนดโดยระบุวันที่ลงไปนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะส่งอาหารทุกวัน หรือต้องการระบบพรีออร์เดอร์ล่วงหน้าก่อนจัดส่งให้ลูกค้า
(https://miro.medium.com/max/490/0*CEGF1WNzypaT2QS0.png)
 

ขอย้ำ ! การกำหนดวันที่โดยระบุเป็นวันลงไปซึ่งมันจะง่ายสำหรับร้านอาหารที่ต้องการจัดส่งตามวันที่สามารถจัดส่งได้ ซึ่งจะเหมาะสำหรับร้านอาหารที่ต้องการระบบ Pre-Order จากลูกค้า
 

แต่ในที่นี้ในตัวอย่างนี้ เรากำหนดเป็นระบุวันใน 1 สัปดาห์ แล้วกำหนดจำนวนวันที่ที่ต้องการจัดส่งล่วงหน้าไว้ที่ 1 วัน
(https://miro.medium.com/max/490/0*ryKAPq1k8mavkRPr.png)

จากนั้นกดปุ่มบันทึกแล้วกดปุ่มปิด

เมื่อได้วันที่ที่สามารถจัดส่งได้แล้วต่อไปก็ต้องกำหนดช่วงเวลาที่สามารถส่งให้ลูกค้าได้ (หรือเวลาที่ลูกค้านัดรับของนั่นเอง) โดยกดเข้าไปที่ “กำหนดช่วงเวลาในการจัดส่ง”
(https://miro.medium.com/max/492/0*6PPVEWy_Bkco7YyQ.png)


(1) เลือกช่วงเวลาที่จะออกจัดส่งให้ลูกค้า แล้วกดปุ่ม (2) “เพิ่ม” เพื่อบันทึกช่วงเวลาที่สามารถจัดส่งได้

(https://miro.medium.com/max/494/0*3_TtXRnqJhF_ZGyI.png)
 

เราสามารถกำหนดช่วงเวลาในการจัดส่งได้หลายช่วงเวลา โดยให้กำหนดเวลาตามที่ต้องการแล้วกดปุ่มเพิ่มเข้าไปอีกจนกว่าจะครบตามที่ต้องการ
(https://miro.medium.com/max/490/0*5z1cqn7_zZUF6xIt.png)
 

จะได้ช่วงเวลาที่สามารถจัดส่งเพิ่มเข้ามาอีก ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/490/0*3jKCgDq9smLmc6ZC.png)


หากเพิ่มครบตามต้องการแล้วให้กดปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มปิดได้เลย

จากนั้นกลับมาที่หน้าจอการตั้งค่าอีกครั้ง

การตั้งค่าการชำระค่าอาหาร เป็นการกำหนดว่าลูกค้า Delivery สามารถเลือกวิธีการชำระเงินทางไหนได้บ้าง ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/490/0*x9xB9c6gBQbi1ICA.png)
 

จากรูปจะมีเครดิตออนไลน์คือระบบที่ลูกค้าสามารถชำระค่าอาหารได้ก่อน โดยการตัดยอดบัตรเครดิตของลูกค้าผ่านระบบออนไลน่ของ M Food สามารถกดเลือกได้ว่าจะเปิดรับชำระแบบไหนได้บ้าง เมื่อเลือกแล้วให้กดปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มปิดได้ทันที

เมื่อตั้งค่าทุกอย่างครบแล้วต่อไปเราจะมารับออร์เดอร์ของลูกค้ากัน ส่วนวิธีการสั่งอาหารให้คลิกที่นี่ (https://www.mfoodservice.com/Page/ManualRestaurant#manual_16)

ระบบ Delivery ในส่วนของร้านอาหาร
เป็นระบบรับออร์เดอร์ของลูกค้าที่สั่งอาหารผ่านแอพฯ M Food และระบบจัดส่งอาหารให้กับลูกค้า ซึ่งทั้งสองส่วนนี้สามารถแบ่งงานออกเป็น 2 ส่วนก็ได้ คือ 1 คนรับออร์เดอร์ 2 คนจัดส่งอาหาร ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของเราเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนส่งกับคนรับออร์เดอร์ก็สามารถเป็นคนเดียวกันก็ได้ เพาะยุคนี้เราเก่งกันอยู่แล้วสามารถทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะมีแอพพลิเคชั่นร้านอาหารมาคอยช่วยเหลือ ซึ่งวิธีการรับออร์เดอร์มีดังนี้

การรับออร์เดอร์ของลูกค้า เมื่อมีออร์เดอร์ของลูกค้าเข้ามาจะมีระฆังที่มุมซ้ายด้านล่างของหน้าจอ ดังรูป ให้กดเข้าไปที่ระฆัง
(https://miro.medium.com/max/497/0*B4cd-MxJqX3KGbQy.png)


หรือกดที่ออร์เดอร์ ระบบจะพาเข้ามาพบออร์เดอร์ Delivery ที่ลูกค้าสั่งอาหาร
(https://miro.medium.com/max/497/0*z-KOIS8Dw2Gg7S5Y.png)
 

จากนั้นให้กดเข้าไปที่ออร์เดอร์นั้น จะพบเมนูอาหารที่ลูกค้าสั่ง ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/497/0*-R0i0NUMqazzfNJc.png)


จากนั้นเลื่อนหน้าจอลงมาด้านล่าง หากมีเมนูพร้อมทำอาหารเพื่อจัดส่งให้ลูกค้า (1) ตามวันที่และเวลาที่แสดงบนหน้าจอให้กดปุ่ม (2) ยืนยันพร้อมจัดส่ง

(ก่อนกดยืนยันจัดส่ง ควรโทรยืนยันกับลูกค้าก่อนนะ หรืกกดปุ่มแชทกับลูกค้าเพื่อส่งข้อความยืนยันกับลูกค้า)
(https://miro.medium.com/max/497/0*Lb0pG9z6iu1eoOsw.png)
 

หลังจากที่กดยืนยันพร้อมจัดส่งแล้วระบบจะแจ้งเวลาที่เรากดยืนยันให้กับลูกค้าทราบ และลูกค้าจะไม่สามารถยกเลิกออร์เดอร์นี้ได้ (หากเราไม่กดปุ่มยืนยัน ลูกค้าจะสามารถกดยกเลิกออร์เดอร์เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะลูกค้าอาจจะลังเลว่าทางร้านจะจัดส่งหรือไม่)
(https://miro.medium.com/max/497/0*DbB48Q_ypGhx8bVe.png)
 

และหลังจากกดยืนยันออร์เดอร์แล้ว ออร์เดอร์นี้จะถูกส่งเข้าสู่ระบบห้องครัว ให้ห้องครัวกดทำอาหารตามปกติ ดังรูป

คลิกที่นี่เพื่อดูการจัดการระบบห้องครัว
(https://miro.medium.com/max/497/0*iX-kyfKQMD91chUj.png)

 

แต่ในชั่วโมงเร่งด่วนเราไม่จำเป็นต้องกดทำอาหารในห้องครัวก็ได้ เพราะการกดทำอาหารในระบบห้องครัวคือระบบป้องกันการลืมทำอาหารเท่านั้น

เมื่อทำอาหารเสร็จแล้ว ต่อไปเราจะทำการจัดส่งให้กับลูกค้าตามวันและเวลาดังกล่าว


การจัดส่งอาหารให้กับลูกค้า กลับมาที่หน้าจอออร์เดอร์ของลูกค้าอีกครั้ง เมื่อแพ็คอาหารพร้อมส่งแล้วก่อนออกเดินทางให้กดที่ปุ่ม “Delivery Start” เพื่อให้ระบบแจ้งลูกค้าว่าได้ออกจัดส่งแล้ว จากนั้นระบบ Delivery ของ M Food จะเริ่มบันทึกตำแหน่งที่ตั้งของคนจัดส่งจาก GPS ในโทรศัพท์ที่ใช้กด Delivery Start
(https://miro.medium.com/max/497/0*vVUoJZQfCHBy41Gw.png)
 

ดังนั้น คนจัดส่งควรพกโทรศัพท์และเปิดแอพฯ M Food ไว้ด้วยตอนนำส่งอาหารให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าทราบได้ว่าเราถึงไหนแล้ว จะได้เตรียมตัวจ่ายตังค์
(https://miro.medium.com/max/497/0*o85wNGANw5oxdJAQ.png)
 

เมื่อนำอาหารมาถึงบ้านของลูกค้าแล้วให้กดเลือกวิธีชำระเงิน ในที่นี้เราเลือกเป็น ชำระด้วยเงินสด (ถ้าเลือกเป็นคิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์ ระบบจะแสดงคิวอาร์ฯ ให้ลูกค้าสแกนเพื่อจ่าย คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการตั้งค่าคิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์)
(https://miro.medium.com/max/497/0*X8Iu_bKQn3wbBP1x.png)


จากนั้น (1) ให้กรอกจำนวนเงินที่รับจากลูกค้า ระบบจะแจ้งว่าต้องทอนเงินกี่บาท แล้วกดปุ่ม (2) เซ็นรับ เพื่อให้ลูกค้าเซ็นรับอาหาร

ให้ลูกค้าเซ็นผ่านหน้าจอตรงช่องว่างที่ระบุไว้ (1) ดังรูป จากนั้นกดปุ่ม (2) บันทึก เพื่อบันทึกการจัดส่ง หรือหากเซ็นผิดพลาดก็สามารถกดปุ่มเซ็นใหม่ เพื่อให้ระบบเคลียร์หน้าจอให้เซ็นใหม่ได้ แล้วค่อยกดปุ่มบันทึกอีกครั้ง
(https://miro.medium.com/max/497/0*LvzZFA6Bz5L5OkVJ.png)


กรณีที่ลูกค้าไม่ต้องการเซ็นรับ ก็สามารถกรอกชื่อผู้รับลงไปแทนลายเซ็นก็ได้

เมื่อบันทึกการเซ็นรับอาหารเสร็จแล้ว ระบบจะแสดงสถานะออร์เดอร์ ดังรูป และจะแจ้งไปยังแอพฯ M Food ทางฝั่งของลูกค้าด้วย พร้อมแสดงลายเซ็นบนหน้าจอ
(https://miro.medium.com/max/496/0*nJwConfWKW7uR68a.png)


เพียงเท่านี้เราก็สามารถจัดการออร์เดอร์ Delivery ได้อย่างง่ายดายแล้ว

หรือหากเราไม่ต้องการจัดส่งด้วยตัวเอง เราก็ให้พนักงานส่งอาหารจัดส่งให้โดยใช้โทรศํพท์ของเขาเองในการใช้งานระบบ M Food ซึ่งวิธีจัดการพนักงานจัดส่งให้คลิกที่นี่

วิธีแชร์ลิงค์เพื่อโปรโมทร้านอาหารให้กดเข้าไปที่ร้านอาหาร แล้ว กดที่ (1) Copy เพื่อคัดลอกลิงค์ หรือ กดที่ (2) แชร์ร้านอาหาร เพื่อแชร์ร้านอาหาร ดังรูป
(https://miro.medium.com/max/485/0*yNxKhEnBiaVdbBiD.png)
 

แพลตฟอร์มของ M Food เป็นระบบที่ร้านอาหารจะต้องดำเนินการจัดส่งด้วยตัวเอง หรือใครที่ต้องการรับหิ้วก็สามารถใช้แอพ M Food ได้เลย

หากคุณพร้อมแล้ว คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียนแพ็กเกจ

ส่วนวิธีการใช้งานแอพพลิเคชั่น M Food ฉบับสมบูรณ์ คลิกที่นี่ (https://www.mfoodservice.com/Page/ManualOrder)

วิธีสั่งอาหารในส่วนของลูกค้าคลิกที่นี่
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mfoodservice.com/Page/Content/61 (https://www.mfoodservice.com/Page/Content/61)

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก https://medium.com/@m2010thai/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-delivery-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-m-food-service-e4903e62310 (https://medium.com/@m2010thai/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-delivery-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-m-food-service-e4903e62310)