ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (2)  (อ่าน 2324 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ตามรอยพระอริยสงฆ์ (2)
« เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 07:11:58 am »
0


ตามรอยพระอริยสงฆ์ (2)
คอลัมภ์ : มุมมองสองวัย นสพ.เดลินิวส์ ประจำวันพุธที่ 14 มีนาคม 2555

เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากผมกลับจากการแสวงบุญที่พุทธคยาและสารนาถ ผมก็รีบตาม คณะหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ไปธุดงค์ขึ้นดอยอินทนนท์ ความจริงหลวงพ่อและคณะศิษย์ร่วม 2,500 คน ได้เดินธุดงค์ขึ้นดอยไปตั้งแต่วันที่ 8 หลังวันมาฆบูชาเพียงวันเดียว

คำว่า “ธุดงค์” มาจากภาษาบาลีคือ “ธุต” ที่แปลว่า กำจัดหรือขัดเกลา กับ “องค์” สนธิรวมกันเป็น ธุดงค์ หมายถึง องค์คุณแห่งการกำจัดกิเลส ซึ่งในพระพุทธศาสนาถือว่ามีข้อวัตร 13 อย่าง ซึ่งพระพุทธองค์ทรงอนุญาตและสรรเสริญให้ภิกษุในพระพุทธศาสนามานาน เรียกว่า “ธุดงควัตร” มีทั้งข้อวัตรที่เป็นการ ละเว้น เช่น
     อารัญญิกังคธุดงค์ คือ การละเว้นการอยู่ใกล้ชุมชน หรือ
     รุกขมูลิกังคธุดงค์ คือ ละเว้นการนั่งนอนในที่มุงบัง เช่น กุฏิอยู่ใต้โคนไม้
     ธุดงค์ที่นำโดยพระอาจารย์หลวงพ่อจึงเป็นทั้ง อารัญญิกังคะ และรุกขมุลิกังคะ เพราะตลอด 3 คืน 4 วันนั้น ต้องเดินและนอนในป่าบนดอยตลอด


ผมคิดว่าไม่มีคณะธุดงค์ใดในเวลานี้ที่จะมีคนมากถึง 2,500 คน! ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะลูกศิษย์ที่เรียนหลักสูตรครูสมาธิ และ หลักสูตรวิทันตสาสมาธิ จะจบการศึกษาได้ก็ต้องฝึกปฏิบัติจริงในสนาม จึงมีนักศึกษาทั้ง 2 หลักสูตรจากแคนาดา 3 ศูนย์ คือที่ Edmunton, Toronto และ Vancouver 25 คน และจากศูนย์ที่ Dallas Texas 5 คน เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลตามพระอาจารย์หลวงพ่อมาและนักศึกษาไทยอีก 2,500 คนจาก 31 ศูนย์สอนสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพทั่วประเทศ

เดิมผมทราบจำนวนคนก็คิดว่าคงเป็น “โกลาหลธุดงค์” เป็นแน่ แต่เอาเข้าจริงก็เห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเฉพาะเมื่อมีการนำสวดมนต์ ทำสมาธิ โดยพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์นั้น ป่าทั้งป่าก็สงบเงียบเหมือนไม่มีคนเลย เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทำให้นึกถึงคาถามนตราแผ่นดินที่ว่า
    “สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา”   
    หรือความพร้อมเพรียงของหมู่คณะ ก่อให้เกิดความสุขความเจริญ
    ความเรียบร้อยนี้มาจาก 3 เหตุ คือ ศรัทธาในหลวงพ่อหนึ่ง การบริหารจัดการที่ดีเยี่ยมของสถาบันพลังจิตตานุภาพหนึ่ง และความร่วมมือของคน 2,500 คนอีกหนึ่ง





พระอาจารย์หลวงพ่อเดินธุดงค์มาตั้งแต่อายุ 13 จนบัดนี้อายุ 93 รวม 80 ปี แต่ที่ท่านเมตตานำศิษย์ที่ฝึกสมาธิกับท่านธุดงค์นี้ มีมาตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ และเปิดสอนสมาธิในปี 2540 มาจนถึงปัจจุบัน 15 ปี และท่านนำเดินธุดงค์มาแล้ว 29 รุ่น (ทั้งรุ่นปัจจุบันที่เดินตามท่าน)

คนที่เดินธุดงค์ตามท่านมีทั้งชาวต่างชาติ ชาวไทย มีทั้งอายุน้อยที่สุด (10 ขวบ) กับมากที่สุด (93 ปี) มีทั้งคนพิการแต่กาย แต่ใจสมบูรณ์เต็มร้อย นั่งรถเข็นมา (น.ต.สิน ธีรพัฒนกุล) มีทั้งภิกษุ (ที่เรียนหลักสูตรท่าน) และฆราวาส ฯลฯ

    ผมถามชาวแคนาดา และอเมริกันที่ข้ามน้ำข้ามทะเลตามท่านมาว่า เหตุใดจึงลงทุนเช่นนี้
    คำตอบตรงกัน คือ “ศรัทธา”(มี Faith) และนับถือหลวงพ่อเป็น “Master-Father” (ครูและพ่อ) และอยากได้ประกาศนียบัตร


    เพราะเรียนสมาธิกับหลวงพ่อแล้ว ได้ผลทั้งทางใจ คือใจสงบ นอนหลับ คิดแก้ปัญหาได้
     และ ทางกาย คือ หายจากโรค ถ้าไม่มีใบประกาศ เขารู้สึกว่ามันจะขาดอะไรไป
     และคนเหล่านี้ไม่ใช่สักแต่จะจบ แต่ยังปฏิญาณว่าจะช่วยหลวงพ่อเผยแผ่สมาธิไปให้เกิดสันติสุขทั้งในสังคมของเขาและในโลก
     จึงต้องช่วยสอน เมื่อจะช่วยสอนก็ต้องมีใบประกาศนียบัตร (Certificate) ของหลวงพ่อ จึงต้องดั้นด้นมาเอาใบประกาศให้ได้


    หลักสูตร “ครูสมาธิ” นี้ หลวงพ่อเล่าว่า
    เกิดจากการสอบถามพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ว่าจะนำหลักสมาธิไปสอนชาวโลกได้หรือไม่
    พระอาจารย์มั่นตอบว่า

    “ได้ แต่ต้องเอาแบบขั้นพื้นฐาน สำหรับเป็นประโยชน์แก่มหาชน
    สำหรับขั้นสูงให้มีน้อย โอกาสที่เธอเห็นจะทำนั้นมีอยู่
    แต่ต้องทำขั้นพื้นฐาน เพื่อคนส่วนมากในโลกจะได้สงบ
    และเธอต้องไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะคนกรุงเทพฯ ที่มีวาสนาบารมีมีอยู่ไม่น้อย”




   
    พระอาจารย์หลวงพ่อยืนยันว่า ท่านได้ประมวลประสบการณ์จากที่
    พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์กงมาสอน และประสบการณ์ 80 ปีของท่าน

    ทำตำรา 3 เล่ม (ไม่มีขายจนกว่าจะไปเรียนด้วยตนเอง) ย่นย่อ 80 ปีของท่าน
    เหลือหลักสูตร 200 ชั่วโมง หรือเรียนวันละ 2 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
    เป็นเวลา 6 เดือนเท่านั้น ก็ได้เคล็ดวิชาครบถ้วน!
    ใน 2 ชั่วโมงเป็นทฤษฎีคือฟังคำบรรยายจากเสียงหลวงพ่อ 1 ชั่วโมง เดินจงกรม 30 นาที นั่งสมาธิ 30 นาที
    เพื่อสร้างพลังจิต (Will Power) และพลังจิตนี้เอง ถ้าสะสมมากๆ ก็จะทำให้หายเครียด
    ระงับความร้ายกาจที่เคยเป็น เช่น โมโหร้าย แก้ปัญหาที่แก้ไม่ตกได้ ฯลฯ
    ถ้าสะสมได้มาก ๆ เหมือนพระอริยสงฆ์ก็อาจใช้เป็นบาทฐานให้พ้นทุกข์ได้


    หลวงพ่อเน้นมาก "การสร้างพลังจิตด้วยสมถกรรมฐาน" นี้แหละ สำคัญสำหรับฆราวาส
    เพราะช่วยในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข สงบ และสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น
    หลักสูตรของหลวงพ่อจึงเน้น “ประโยชน์” และ “สุข” ของคนหมู่มาก
    เพื่อสันติภาพในสังคมไทยและสังคมโลก


เมื่อยามศึกษาจบและได้ประสบการณ์ตรงจากผลของสมาธิจึงตัดสินใจนำเข้าสู่สถาบันพระปกเกล้า พระอาจารย์หลวงพ่อจึงเมตตาย่อหลักสูตรครูสมาธิลงเหลือ 150 ชั่วโมง เรียกว่า
     “วิทันตสาสมาธิ” แปลว่า “การฝึกฝนตนอย่างวิเศษ”
     เปิดเรียนจบรุ่นที่ 1 แล้ว รุ่นที่ 2 กำลังรับสมัครที่สถาบันพระปกเกล้า จนถึงวันที่  16 มีนาคมนี้
     และจะเริ่มปฐมนิเทศและลงมือเรียน ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ติดต่อได้ที่ โทร. 0-2141-9641


    ใครที่อยากได้ประสบการณ์ตรงจากผลของสมาธิต้องรีบมาสมัครเรียนนะครับ เพราะเรารับจำนวนจำกัด!
    ใครมีเวลาจะเรียนหลักสูตรครูสมาธิเต็มหลักสูตร ก็ขอข้อมูลได้ที่ วัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 โทร. 0-2332-4145.


ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.dailynews.co.th/article/351/16978
http://www.dhammada.net/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2012, 07:15:38 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Skydragon

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (2)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 08:31:28 am »
0
อ้างถึง
“วิทันตสาสมาธิ” แปลว่า “การฝึกฝนตนอย่างวิเศษ”

 เป็นกรรมฐานแนวใหม่ ในยุคนี้ ที่หลวงพ่อวิิริยังค์ ได้ใช้ประสบการณ์ 80 ปีของท่านรวมเรียกว่า กรรมฐาน เคยได้ยิน ตั้งแต่ วิทิศาสมาธิ  นิรศาสมาธิ  วิทันตาสมาธิ

อนุโมทนา สาธุ ครับ
   :25: :25: :25:


บันทึกการเข้า