ตรงนี้.... ขอแทรกเอาไว้...
เมื่อแรกเริ่มที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม อบรมสั่งสอนธรรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แก่สาธุชนทั่วไปที่ใฝ่ธรรม กล่าวได้ว่า ผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน นับว่าเป็นผู้มีจิตใจฝักใฝ่ในธรรมปฏิบัติอย่างมุ่งมั่นเอาจริง
หลวงพ่อจรัญสอนวิปัสสนากรรมฐานเป็นปฐมที่วัดพรหมบุรีก่อน แล้วจึงมาสอนที่วัดอัมพวัน ขอกล่าวถึงเฉพาะที่วัดอัมพวัน ในสมัยเริ่มแรกที่มีการสอนและปฏิบัติกรรมฐาน สมัยนั้นถนนหนทางลาดยาง ลาดคอนกรีตยังไม่มี การคมนาคมที่สะดวกที่สุดต้องใช้เรือพายเรือแจว พายตามน้ำ ทวนน้ำกันไป สถานที่ปฏิบัติธรรม คือ ศาลาการเปรียญ ไม่มีไฟฟ้าน้ำประปาใช้ อาหารการกินต้องเตรียมไปเอง และหุงหากินกันตามอัธยาศัย หากกำหนดเวลาปฏิบัติหลายวัน ก็ต้องกักตุนข้าวสาร อาหารแห้งให้พอเพียงไปหลายวัน ภูมิประเทศรอบวัดอัมพวัน ยังเป็นป่ารกรุงรัง มีแอ่งน้ำ ลำรางน้ำขังไปทั่ว จึงเป็นที่เพาะพันธุ์ยุง ผู้มาปฏิบัติธรรม จำเป็นต้องมีความอดทน อดกลั้น ตลอดเวลา
แต่ผู้ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม รุ่นแรก ๆ ทุกคน มิได้ระย่อท้อถอย ทุ่มกายถวายชีวิตมานะบากบั่นบำเพ็ญเพียร เพื่อจะได้เห็นธรรมอันสว่างไสวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อจะได้รู้สำนึกตรึกในกรรมของตน และเพื่อก่อกรรมดี เป็นพื้นฐานสืบไปในชาติปัจจุบัน และชาติภพเบื้องหน้า
วันนี้... ปัจจุบันนี้ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ไม่เหลือร่องรอยความอัตคัดกันดารใด ๆ อีกแล้ว กุฏิกรรมฐาน ศาลาปฏิบัติธรรมมีอยู่มากมาย กว้างขวางเรียงรายเต็มพื้นที่ธรณีสงฆ์ ยุง แมลง ไม่มารบกวน เพราะมีมุ้งลวดป้องกัน น้ำประปา ไฟฟ้า สะดวกสบาย ห้องน้ำ ห้องส้วม สะอาด เหลือเฟือ แม้กระทั่งอาหารการกิน ทางวัดก็จัดเตรียมไว้ให้บรรเทาความหิวทุกคน
ขอบคุณเนื้อหาจากเว็บ
http://www.nightsiam.com/forum/index.php?topic=1554.0;wap2ได้ฟังจากรายการ RDN แล้ว จึงนำมาสนับสนุน คะ