ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รำลึก พุทธโอวาท ของ พระพุทธเจ้า กันเถิด ( 2558 แล้วนะ )  (อ่าน 8654 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
สาระธรรม สำคัญ สำหรับ วัน มาฆะบูชา มีดังนี้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 03, 2015, 10:36:19 am »
0
1.หลักการปฏิบัติ ของผู้ภาวนา ที่จะเรียกว่า บรรพชิต หรือ สมณะ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
   ๏ ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง
   พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า นิพพานเป็นบรมธรรม
   ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต
   ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ

 เนื่องด้วย คนทั้งปวง บางครั้ง ก็เรียก สมณะ บางครั้ง ก็เรียก บรรพชิต ดังนั้นการจะเป็นสมณะ หรือ บรรพชิต ที่ได้รับการอุปสมบถโดยตรง ด้วยวาจาจากพระพุทธเจ้า ว่า ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว อย่างนี้ ดังนั้นบรรดาพระอรหันต์ 1250 รูป ล้วนแล้วบวชด้วยวาจา อย่างนี้ ดังนั้น การรู้ระเบียบ วินัย นั้นตอนนั้น ยังไม่มีเพราะพระพุทธเจ้า ทรงบัญญัติ ไปตามความผิด ดังนั้น พระวินัย จึงเพิ่มพูนไปตามวาระ ไม่เหมือน พระธรรม ซึ่งถูกประกาศไว้แน่นอน
 
 2. พระพุทธเจ้า ทรงประกาศธรรม ที่เรียกว่า ระเบียบการสอนของภาพรวม เพื่อให้พระอรหันต์ มีหลักการในการเผยแผ่ มี 3 ข้อ ย่อ คือ
     1. การละอกุศล
     2. การสร้างกุศล
     3. การทำจิตให้ขาวรอบ

  เนื่องด้วยการเกิด พระพุทธศาสนา สำหรับเราที่นับถือก็นับว่าเป็นศาสนา สำหรับคนที่ไม่นับถือ ก็จัดว่าเป็นลัทธิ ที่มีความเชื่อ ไม่ต่างจากลัทธิต่าง ๆ ในสมัยนั้น คนเคารพก็มี คนไม่เคารพก็มี คนทำตามก็มี คนที่ขัดขวางก็มี ดังนั้น เพื่อให้การเผยแผ่ พระธรรมมีระเบียบแบบแผน จึงทรงตรัสสอนวิธีการสอน 3 ประการ คือ สอนละความชั่วก่อน และสอนให้คนสร้างความดี จากนั้น สอนให้จิตใจบริสุทธิ์หมดจด จากความดีที่ทำลงไป คือ สอนให้ทำความดี ไม่ติดดี ไม่ใช่ทำความดีเพื่อ ลาภ ยศ สุข หรือ สรรเสริญ แต่การสอนให้ทำความดี เบื้องต้นก็คือ สอนให้ได้รับความสุข นะแต่สุดท้าย เมื่อปฏิบัติไปถึงระดับสูง ชั่ว ไม่ทำ ดี ก็ไม่ติด ดี หรือ ชั่ว ก็หมดไป กลายเป็น เหนือดี เหนือ ชั่ว นั่นคือ เหนือโลก

 3. การสอนที่ไม่ผิดเพี้ยน จากพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
  การไม่กล่าวร้าย 1
  การไม่ทำร้าย 1
  ความสำรวมในปาติโมกข์ 1
  ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร 1
  ที่นั่งนอนอันสงัด 1
  ความเพียรในอธิจิต 1
 
 หลักปฏิบัติ ที่สอนกันมาสำหรับ บริษัททั้ง 2 คือ ภิกษุ ภิกษุณี ก็อาศัยการกระจาย ตามหัวข้อธรรมที่เหลือ นี้ แบ่งออกเป็น

   สิ่งที่ต้องเว้น คือ การไม่พูดร้าย การไม่ทำร้าย

   สิ่งที่ต้องรักษา คือ การสำรวมในพระปาฎิโมกข์ คือ ข้อบัญญัติ ที่ได้บัญญิัตไว้
 
   ส่ิงที่ต้องควบคุม คือ การนอน การบริโภค ให้เป็นไปเพื่อความสงัด เพื่อความจางคลาย จากกิเลส
 
   ส่ิงที่ต้องพากเพียร คือ การทำอธิจิต ให้เกิดขึ้น นั่นก็คือ การดำเนินจิตไปในกรรมฐาน

  จะเห็นได้ว่า วันมาฆะบูชา นั้น ถ้าพวกเราทบทวน ให้ดีก็จะเห็นแบบอย่าง แนวทางในการเผยแผ่ธรรมที่พระพุทธเจ้า ทรสตรัสแนะนำกับพระอรหันต์ ( ย้ำพระอรหันต์ นะ ) ให้เป็นแบบอย่างในการนำ ผู้ติดตาม ที่เรียกว่า สัทธิวิหาริก คือ ผู้ใต้ปกครอง ให้เจริญตามแนวทาง เพราะว่า พระอรหันต์ ถึงแม้จะดับกิเลส ก็ วาสนาไม่เท่ากัน แตกต่างกันด้วย ปฏิสัมภิทาสี่ บ้าง เตวิชโช ฉฬภิญโญบ้าง ดังนั้น การบัญญัตแนวทาง ให้แก่พระอรหันต์ ยุคต้นนั้น จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแบบแผน ต่อมา ถึงปัจจุบัน


 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
คำตอบ จาตุรงคสันนิบาต คือ อะไร ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 03, 2015, 10:40:46 am »
0
 ans1

คำตอบ จาตุรงคสันนิบาต คือ อะไร ?

1. เป็นวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ดวงจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ (วันเพ็ญเดือน 3 )
2. พระภิกษุ 1,250 รูป มาประชุมโดยมิได้นัดหมาย
3.ภิกษุเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา 6 ทั้งหมด ไม่มีภิกษุผู้เป็นปุถุชนหรือพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามีแม้สักรูปเดียวมาประชุมในครั้งนี้
4.พระภิกษุทั้งหมดเป็นผู้ที่ได้รับการบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา ซึ่งพระบรมศาสดาทรงประทานการบวชให้


 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


พระอรหันต์จำนวน 1,250 รูป ที่เข้าร่วมสันนิบาตในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ

   กลุ่มที่ 1
   คณะพระภิกษุอดีตชฏิล 3 พี่น้อง มีท่านอุรุเวลกัสสปะเป็นหัวหน้า และบริวารทั้งหมด 1,003 รูป

   แน่นอน
 
   กลุ่มที่ 2
   คณะที่เป็นบริวารของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ มีจำนวน 203 รูป

   แน่นอน
  คือปัญหาที่ถามว่า มีใครบ้าง ก็คงจะตอบชื่อได้ ไม่กี่ท่าน นะ
   1.อุรุเวลกัสสปะ
   2.นทีกัสสปะ
   3.คยกัสสปะ
   4.พระสารีบุตร
   5.พระโมคคัลลานะ


   ปํญหา ก็คือ อีก 44 รูป จะเป็นกลุ่มไหน ?

   กลุ่มที่ 1 ปัญจวัคคีย์

หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็มานั่งคิดว่า ธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้นั้นเป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง ไปสอนคนอื่นแล้วจะมีใครเข้าใจรึเปล่า แต่พระองค์คิดได้ว่า "คนเราเปรียบเหมือนบัวสี่เหล่า" ในคนจำนวนนั้นต้องมีใครเข้าใจบ้างแหละ ในที่สุดพระองค์จึงตัดสินใจออกเผยแผ่คำสอน ตอนแรกพระองค์คิดจะไปโปรด 2 ดาบสที่เคยเป็นอาจารย์แต่ทั้ง 2 ได้เสียชีวิตไปแล้ว จึงตัดสินใจไปโปรด "ปัญจวัคคีย์" ที่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (เป็นชื่อป่าที่ยาวมากกก)

ในวันเพ็ญเดือน 8 พระพุทธเจ้าทรงแสดง "ธัมมจักกัปปวัตนสูตร" ส่งผลให้ ท่านโกณฑัญญะบรรลุโสดาบัน หลังจากนั้นไม่นานปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

(ปัญจวัคคีย์ มี 5 คน ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ)

 

กลุ่มที่ 2 ยสกุลบุตร

หลังจากนั้นไม่นานเท่าไรนัก ใกล้กับป่าอิสิปตนมฤคทายวัน มีบ้านของเศรษฐีผู้หนึ่ง ลูกชายบ้านนี้ชื่อว่า "ยสะ" เป็นผู้ที่ร่ำรวยมาก มีบ้าน 3 ฤดู (มีเหมือนกับเจ้าชายสิทธัตถะเลย) วันนึงเกิดเบื่อหน่าย จึงออกเดินเรื่อยเปื่อย พร้อมกับรำพึงกับตัวเองว่า "ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ" เดินไปเรื่อยๆจนถึงที่ประทับของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงทรงเรียกมาและทรงแสดงธรรม จนยสกุลบุตรนี้บรรลุเป็นพระอรหันต์ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนของเขาอีก 4 คน (ชื่อ วิมล สุพาหุ ปุณณชิ ควัมปติ) รวมกับบรรดาสหายอีก 50 คน ภายหลังบรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น

 

กลุ่มที่ 3 ภัททวัคคีย์

หลังจากมีพระสงฆ์ถึง 60 องค์แล้ว พระพุทธเจ้าก็ให้แยกย้ายกันไปเผยแผ่ศาสนา ระหว่างที่พระพุทธเจ้ากำลังเดินทางไปตำบลอุรุเวลา ก็พบชายกลุ่มหนึ่งเรียกว่า "ภัททวัคคีย์" มีจำนวน 30 คน ตามหาหญิงแพศยา ได้เข้ามาถามพระพุทธเจ้าว่าทรงเห็นหญิงผู้นี้รึเปล่า พระพุทธเจ้าถามกลับไปว่า "แสวงหาหญิง หรือแสวงหาตนเองดีกว่ากัน" ชายกลุ่มนี้จึงคิดได้ว่าแสวงหาตนเองย่อมดีกว่า จึงยอมฟังธรรมของพระองค์จนบรรลุอรหัตผลในที่สุด

 

กลุ่มที่ 4 ชฎิล 3 พี่น้อง

ณ ตำบลอุรุเวลา

มีชฎิล (นักบวชบูชาไฟ) 3 พี่น้องอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ คนโตชื่อ "อุรุเวลกัสสปะ" มีบริวาร 500 คน คนกลางชื่อว่า "นทีกัสสปะ" มีบริวาร 300 คน ส่วนคนเล็กชื่อว่า "คยากัสสปะ" มีบริวาร 200 คน

พระพุทธเจ้าได้เข้าไปแสดงธรรมกับคนกลุ่มนี้ สอนเกี่ยวกับเรื่องความร้อนว่า "รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เป็นของร้อน" "กิเลสเป็นของร้อน" ฯลฯ จนในที่สุดทั้ง 1003 คน ก็ได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนาและบรรลุเป็นพระอรหันต์เช่นกัน

 

กลุ่มที่ 5 อุปติสสะ โกลิตะ

ชื่อนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นกันเท่าไร แต่ทั้งสองเป็นชื่อเดิมของ "พระสารีบุตร" และ "พระโมคคัลลานะ" อุปติสสะและโกลิตะเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองต่างออกแสวงหาโมกขธรรม ให้สัญญากันว่าถ้าใครพบแล้วให้มาบอกอีกคนด้วย

วันนึงอุปติสสะ (พระสารีบุตร) เห็นพระอัสสชิ (จำได้มั้ย ท่านเป็นหนึ่งในปัญจวัคคีย์) เดินบิณฑบาตด้วยอาการสำรวมก็เกิดเลื่อมใส เข้าไปถามว่าใครเป็นศาสดาของท่านและมีคำสอนอะไรบ้าง พระอัสสชิกลับตอบว่า "เราเพิ่งบวชได้ไม่นาน ไม่อาจแสดงธรรมได้มากนัก" จึงแสดงธรรมโดยย่อว่า "สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา" เพียงเท่านี้อุปติสสะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม จึงไปชวนโกลิตะ (พระโมคคัลลานะ) พร้อมบริวาร 200 คน ออกบวชในพระพุทธศาสนา ภายหลังบรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น

อุปติสสะ (พระสารีบุตร) ภายหลังได้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา ได้รับการยกย่องว่ามีปัญญามาก

โกลิตะ (พระโมคคัลลานะ) ภายหลังได้เป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย ได้รับการยกย่องว่ามีฤทธิ์มาก

 

มานับกันว่าตอนนี้มีพระอรหันต์กี่องค์แล้ว

ปัญจวัคคีย์ 5 + ยสกุลบุตร 55 +ภัททวัคคีย์ 30 + ชฎิลพี่น้อง 1003 + อุปติสสะโกลิตะ 202

รวมทั้งสิ้นเท่ากับ 1295 องค์

 

7 เดือนต่อมา หลังจากได้พุทธสาวกกลุ่มแรก (ปัญจวัคคีย์) ก็ถึงวันเพ็ญเดือน 3 ซึ่งเป็นวันมาฆบูชา

มีพระอรหันต์มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายทั้งสิ้น 1250 องค์

 

เพราะฉะนั้น พระอรห้นต์ที่ไม่มาประชุมเท่ากับ 1295 - 1250 = 45 องค์
   
  ดังนั้น มีพระอรหันต์ ถึงขณะวันที่ประชุม จาตุรงคสันนิบาตนั้น มีพระอรหันต์ แล้ว 1295 รูป
  มาประชุม แน่นอน 1205 รูป 2 คณะ ที่เหลือ ต้องอนุมาน เอาเองว่าน่าจะเป็นกลุ่มไหน อีก 45 รูป 

   
   ส่วนพระรูปอื่น ๆ นั้น ในจำนวน ไม่สามารถระบุชื่อได้ หรือ ใครมี ก็ช่วยบอกหน่อย นะ


   
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

st12 st12 st12
st11 st11 st11

เป็นคุณประโยชน์ดีงามแล้วครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


                         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2015, 07:54:17 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นหัวข้อ ที่ เราชาว สมาชิก ในที่นี้ ควรให้ความสำคัญ นะครับ
เพราะว่าครูอาจารย์ ที่นี่ ดูเหมือน จะทรงตามธรรม ไม่ยุ่งไปกับ พระชาวบ้าน เลยนะครับ
ผมว่า สายภาวนา น่าจะได้บุญมากกว่า .. นะครับ


   st11 st12 st12
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12

  แน่นด้วยเนื้อหา มีเรื่องที่ยากรู้ แต่ไม่รู้จะถามอย่างไร หลายเรื่อง ในที่สุดก็เข้าใจเสีย ที สมกับภูมิธรรม ระดับครูอาจารย์

  :25:
บันทึกการเข้า

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
st11 st12 st12

  แน่นด้วยเนื้อหา มีเรื่องที่ยากรู้ แต่ไม่รู้จะถามอย่างไร หลายเรื่อง ในที่สุดก็เข้าใจเสีย ที สมกับภูมิธรรม ระดับครูอาจารย์

  :25:

รู้แล้ว ละ กิเลสได้หรือ ยัง เฮ้อ น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง นะ น้อง

 :88:
บันทึกการเข้า

Roj khonkaen

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 414
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11  st12  st12  thk56

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
st11 st12 st12

  แน่นด้วยเนื้อหา มีเรื่องที่ยากรู้ แต่ไม่รู้จะถามอย่างไร หลายเรื่อง ในที่สุดก็เข้าใจเสีย ที สมกับภูมิธรรม ระดับครูอาจารย์

  :25:

รู้แล้ว ละ กิเลสได้หรือ ยัง เฮ้อ น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง นะ น้อง

 :88:


แสดงว่าไม่ได้ อ่าน ลักษณะการมีมนุษย์สัมพันธ์ ในโอวาทปาฏิโมกข์เลยนะครับ

 เว้นจากการพูดร้าย ( พูดแล้ว ทำให้ตัวเองลงนรก และ พาคนอื่นไปนรกด้วย )

 โธ่ ๆๆๆๆๆๆๆๆ น่าสงสาร เสียจริง

  :P
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

nopporn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
st11 st12 st12

  แน่นด้วยเนื้อหา มีเรื่องที่ยากรู้ แต่ไม่รู้จะถามอย่างไร หลายเรื่อง ในที่สุดก็เข้าใจเสีย ที สมกับภูมิธรรม ระดับครูอาจารย์

  :25:

 ไม่เห็น มี ทุ่ง กับ ผัก บุ้ง เลย คะ เห็นมีแต่ ตัวอักษร ดำ ๆ ขาว ๆ ฟ้า ๆ แดง ๆ นะคะ

  :s_hi:
รู้แล้ว ละ กิเลสได้หรือ ยัง เฮ้อ น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง นะ น้อง

 :88:
บันทึกการเข้า
อยู่แก๊งค์ ป่วนอ๊บ

nopporn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12
บันทึกการเข้า
อยู่แก๊งค์ ป่วนอ๊บ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

saieaw

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 271
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า