ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อึ้ง.! ดัดแปลงรถกุฏิเคลื่อนที่ ออกใบ้หวยสะเดาะเคราะห์  (อ่าน 3169 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อึ้ง.!ดัดแปลงรถกุฏิเคลื่อนที่ ออกใบ้หวยสะเดาะเคราะห์   

จับพระไอเดียกระฉูด! ดัดแปลงรถ 6 ล้อ เป็นกุฏิเคลื่อนที่บรรทุกอัฐบริขาร เครื่องครัว ติดแอร์ ตระเวนใบ้หวย สะเดาะเคราะห์ไปทั่วไม่เข้าจำพรรษาตามวัด ตร.ยึดรถไว้ตรวจสอบไม่ติดป้ายทะเบียน-ไม่มีคู่มือจดทะบียนรถ พร้อมส่งให้เจ้าคณะตำบลพิจารณาโทษทางวินัยสงฆ์

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. พ.ต.อ.ณรงค์ เกตุบรรจง ผกก.สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีพระรูปหนึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ยอมเข้าจำพรรษาที่วัดทั้งที่เป็นช่วงเข้าพรรษา แต่กลับใช้ชีวิตอยู่บนรถที่ดัดแปลงเป็นกุฏิเคลื่อนที่ออกตระเวนใบ้หวย สะเดาะเคราะห์ไปตามสถานที่ต่างๆ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สัญญา อุทุมพร สว.สืบสวนสอบสวน พร้อม พ.ต.ท.สุรเชกข์ มณีเติม สวป. ,ร.ต.อ.สยาม สารศรี รอง สวป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.ลำปลายมาศ ออกไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง




ในที่เกิดเหตุพบรถ 6 ล้อ อีซูซุ สีเขียว ประตูรถเขียนว่า วัดจอมศรีศิริวนาราม หมู่15 บ้านจอมศรี ต.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ต่อเป็นพ่วง 2 พ่วง ดัดแปลงตกแต่งเป็นกุฏิเคลื่อนที่ ภายในมีอัฐบริขาร เครื่องครัว ห้องน้ำ ทั้งติดเครื่องปรับอากาศ คล้ายกับห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ท จอดอยู่ใกล้กับร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณบ้านแท่นพระ ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ โดยมีพระสันติ ปภากโร วัย 64 ปี เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว แต่ไม่พบคนขับ

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์พระสันติ มาสอบสวนที่ สภ.ลำปลายมาศ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบพระรูปดังกล่าวมีใบสุทธิพระ  อุปสมบทเมื่อปี 2546 ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ แต่ไม่มีสมุดคู่มือ หรือ เอกสารหลักฐานการครอบครองรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดรถคันดังกล่าวไว้เนื่องจากไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน  ดัดแปลงต่อเติม ทั้งยึดไว้ตรวจสอบด้วยว่ารถคันดังกล่าวได้มาโดยถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งได้นิมนต์พระรูปดังกล่าวไปยังวัดบ้านกะทิง ต.หินโคน เพื่อให้พระครูพิพิธสารคุณ เจ้าคณะตำบลหินโคนเป็นผู้พิจารณาลงโทษธรรมวินัย เนื่องจากพระรูปดังกล่าวประพฤติไม่เหมาะสมทั้งการตระเวนใบ้หวย สะเดาะเคราะห์ไปตามจังหวัดต่างๆทั้งภาคกลาง และภาคอีสาน ไม่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัด 

 
             
จากการสอบถามพระสันติ ปภากโร พระเจ้าของกุฏิเคลื่อนที่ กล่าวว่า ได้สั่งประกอบรถ 6ล้อมือสองทำเป็นกุฏิเคลื่อนที่ ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ในราคากว่า 300,000 บาท ส่วนคนขับก็จะวานให้ญาติโยมเป็นคนขับให้ โดยจะขับต่อเป็นช่วงๆ ไป เมื่อจอดรถจุดไหนก็จะมีโยมขับรถ ทั้งยังบอกด้วยว่าได้จำพรรษาที่วัดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจำพรรษาที่วัดไหน  และไม่มีเจ้าอาวาส หรือพระรูปใดมารับรองให้ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าพระรูปดังกล่าวจำพรรษาจริงหรือไม่ ซึ่งถือว่าผิดวินัยสงฆ์

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/511077
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ว่าตามพระวินัยไม่ผิดนะครับ แต่ ระเบียบ มส. ต้องพิจารณาดูความสมควร เรื่องการจำพรรษา ไม่จำเป็นต้องเป็นวัดเสมอไป ไม่งั้น ชาวพุทธเข้าใจผิดกันมาก ว่า พระต้องจำพรรษาในวัดเท่านั้น

  :49:
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เอาชัด ๆ หน่อยได้หรือไม่ครับ ว่าไม่ผิดยังไง ?

  มีพระวินัยว่าอย่างไร ส่วนไหน ครับ ?

  :s_hi:
บันทึกการเข้า

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยู่พระวินัย เล่มที่ 4 ครับ ( ๓. วัสสูปนายิกาขันธกะ (หมวดวันเข้าพรรษา) )
 

ทรงอนุญาตการจำพรรษาในที่บางแห่ง
              มีภิกษุบางรูปประสงค์จะจำพรรษาในบางที่บางแห่งต่าง ๆ กัน ทรงผ่อนผันให้จำพรรษาได้ คือ
              ๑. ในคอกสัตว์ (อยู่ในที่ของนายโคบาล)
              ๒. เมื่อคอกสัตว์ย้ายไป ทรงอนุญาตให้ย้ายตามไปได้
              ๓. ในหมู่เกวียน
              ๔. ในเรือ.


   มีระบุไว้อย่างนี้ 4 อย่าง จะเห็นว่า แต่ละที่ไม่ใช่วัด และ ในข้อที่ 4 ในเรือ คือ พาหนะ เคลื่อนที่ได้ ครับ ดังนั้นการที่พระสงฆ์ จะดัดแปลงกุฏิ ไว้บนรถเคลื่อนที่ แล้วจำพรรษา ในรถเคลื่อนที่นั้น ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ควรจะเคลื่อนที่ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น

     อย่างเช่น ถ้าจำพรรษาในคอกสัตว์ จำของคอกสัตว์ ย้ายไป ก็สามารถย้ายตามเขาไปได้ ไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษา เพราะพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติข้ออนุญาตไว้แล้วว่า
 ขาดพรรษาที่ไม่ต้องอาบัติ

              เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ไม่สามารถจะจำพรรษาในที่นั้น ๆ ต่อไปได้ ทรงอนุญาตให้ไม่ต้องอาบัติ ดังต่อไปนี้
              ๑. ถูกสัตว์ร้ายรบกวน ถูกโจรปล้น วิหารถูกไฟไหม้ หรือถูกน้ำท่วม
              ๒. ชาวบ้านถูกโจรปล้น อพยพหนีไป ทรงอนุญาตให้ไปกับเขาได้ ชาวบ้านแตกกันเป็น ๒ ฝ่าย
              ๓. ขาดแคลนอาหารหรือยารักษาโรค หรือขาดผู้บำรุง ได้รับความลำบาก ทรงอนุญาตให้ไปได้
              ๔. มีผู้เอาทรัพย์มาล่อ ทรงอนุญาตให้ไปให้พ้นได้
              ๕. ภิกษุสงฆ์หรือภิกษุณีสงฆ์แตกกัน หรือมีผูพยายามให้แตกกัน หรือทำให้แตกกันแล้ว ไปเพื่อหาทางระงับได้.


   ที่นี้ที่มีข้อห้ามปรากฏ มีดังนี้ครับ

   ทรงห้ามการจำพรรษาในที่ไม่สมควร คือ
              ๑. ในโพรงไม้
              ๒. บนกิ่งหรือค่าคบไม้
              ๓. กลางแจ้ง
              ๔. ไม่มีเสนาสนะ (คือที่นอนที่นั่ง)
              ๕. ในโลงผี
              ๖. ในกลด๑ (เช่น เต๊นท์ของนายโคบาล)
              ๗. ในตุ่ม

  และในระหว่างจำพรรษา อยู่มีข้ออนุญาต ให้ออกจากที่พักได้ เรียกว่า สัตตาหะ

   ทรงอนุญาตให้ไปกลับภายใน ๗ วัน

              แล้วทรงอนุญาตให้เดินทางได้ในระหว่างพรรษาโดยให้กลับภายใน ๗ วัน ในเมื่อมีความจำเป็นเกิดขึ้น ที่เรียกว่า "สัตตาหกรณียะ" ดังต่อไปนี้
              ๑. ทายกปรารถนาจะบำเพ็ญกุศล ส่งคนมานิมนต์ ในกรณีเช่นนี้ ทรงอนุญาตให้ไปได้เฉพาะที่เขาส่งคำนิมนต์มา ถ้าไม่ส่งคำนิมนต์มา ไม่ให้ไป
              ๒. เพื่อนสหธัมมิก คือผู้บวชร่วมกัน (ภิกษุ, ภิกษุณี, นางสิกขมานา, สามเณร, สามเณรี) เป็นไข้จะส่งคนมานิมนต์หรือไม่ก็ตาม ทรงอนุญาตให้ไปได้. นอกจากนั้นยังทรงบัญญัติรายละเอียดเกี่ยวกับเพื่อนสหธัมมิกอีก คือเมื่อเพื่อนสหธัมมิกเป็นไข้ ภิกษุปรารถนาจะช่วยแสวงหาอาหาร, ผู้พยาบาล, ยารักษาโรคก็ไปได้, เมื่อเพื่อนสหธัมมิกเกิดความไม่ยินดี เกิดความรังเกียจ หรือเกิดความเห็นผิดขึ้น ไปเพื่อระงับเหตุนั้น , เมื่อเพื่อนสหธัมมิก (เฉพาะภิกษุ, ภิกษุณี) ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ปรารถนาจะอออกจากอาบัติในขั้นใด ๆ ก็ตาม หรือสงฆ์ปรารถนาจะทำสังฆกรรมลงโทษภิกษุรูปหนึ่ง ภิกษุรูปที่จะถูกลงโทษต้องการให้ไป ก็ไปได้เพื่อไกล่เกลี่ยไม่ให้ต้องทำกรรม หรือให้ลงโทษเบาลงไป, เพื่อให้ปฏิบัติโดยชอบด้วยพระวินัยเพื่อปลอบใจ เป็นต้น. หรือเมื่อนางสิกขมานาหรือสามเณรปรารถนาจะบวช ไปเพื่อช่วยเหลือในการนั้น
              ๓. มารดา บิดา พี่น้อง หรือ ญาติ เป็นไข้ ส่งคนมานิมนต์หรือไม่ รู้เข้า ไปได้
              ๔. วิหารชำรุด ไปเพื่อหาสิ่งของมาปฏิสังขรณ์.

   ดังนั้นจะเห็นได้ว่า พระ ไม่จำเป็นต้องจำพรรษา ในวัดเสมอไป ( อันนี้อยากให้เข้าใจให้ถูกต้อง )

 :34: :34: :34:

   


 
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 thk56 thk56 thk56

   ที่จริงก็คิดเหมือนกันว่า พระที่อยู่ถ้ำ อยู่ป่า อยู่วิเวกอาศรม ที่ไม่ใช่วัด มันผิดด้วยหรือ ในเมื่อวินัยไม่ได้บัญญัติไว้ว่าผิด แต่ที่เขาปรามตรงนี้ก้เพื่อไม่ต้องการให้พระ เอาอย่างกัน ใช่ไหม ครับ

   :49:
บันทึกการเข้า

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 like1 thk56 อธิบายชัดเจน ที่เหลืออยู่ที่ มติ มส. ใช่หรือไม่ครับ แต่ ข้อหาพระ ใบ้หวย สะเดาะเคราะห์ ต้องดูว่ามีหลักฐาน กันขนาดไหน เพราะกล่าวหากันได้

  :13: :13:
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พระศาสดา

ได้ทำนายไว้

ว่าสมมุติสงฆ์ จะกลายเป็นขอทาน
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา