ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สุดมั่ว! พระต่างถิ่นควงฆราวาสบุกวัดพระธาตุเมืองคอน อ้างสร้างศูนย์สินค้าที่ระลึกเ  (อ่าน 1575 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28409
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สุดมั่ว! พระต่างถิ่นควงฆราวาสบุกวัดพระธาตุเมืองคอน อ้างสร้างศูนย์สินค้าที่ระลึกเหมือนมัสยิด

นครศรีธรรมราช - มั่วหนักกลุ่มพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนต่างถิ่นจับแพะชนแกะอ้างเป็นองค์กรพิทักษ์พุทธศาสนาบุกวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารค้านปรับภูมิทัศน์ศูนย์จำหน่ายสินค้าในวัดพระธาตุ อ้างนำศิลปะต่างศาสนามาไว้ในวัดผู้รู้ตอกกลับไปศึกษามาก่อนสร้างความแตกแยก
       
       วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณศูนย์จำหน่ายสินค้าที่ระลึก ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีพระสงฆ์สามเณรและพุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่งอ้างว่าเป็นเครือข่ายองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา พระสงฆ์ภาคใต้ รวมตัวเพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดนครศรีธรรมราชรื้อแนวหน้ากากบังตากั้นศูนย์จำหน่ายสินค้าที่ระลึกเนื่องจากอ้างว่าศิลปะต่างศาสนาไม่มีความเหมาะสมจะนำมาไว้ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
       
       ขณะที่พระปลัดนรุตม์ชัย อภินนโท อ้างว่ามาจากวัดเกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ในนามองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา พระสงฆ์ภาคใต้ ระบุว่าว่า เนื่องจากการปรับสถานที่บริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ปรับในพื้นที่หลายๆ จุดด้วยกัน เช่นการเคลื่อนย้ายรูปเหมือนเจ้าชายธนกุมาร และเจ้าหญิงเหมชาลา การรื้อพื้นตัวหนอนแล้วใช้ทรายแทนในบริเวณ และการสร้างอาคารศูนย์ศูนย์การค้าแปลนมัสยิด เป็นต้น

       
         
       พระปลัดนรุตม์ชัย ระบุว่าว่า การสร้างอาคารดังกล่าว เป็นการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดความสลดใจกับผู้ที่พบเห็น จึงมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม 2 ข้อ ให้มีการตรวจสอบว่าใครเป็นผู้สร้างอาคารดังกล่าว เพราะสถานที่นั้นเป็นพุทธสถานทางพุทธศาสนา 2) ให้รื้ออาคารดังกล่าวภายใน 60 วัน 3) ให้มีการสร้างอาคารสถาปัตยกรรมแบบพุทธศิลป์ในพื้นที่พุทธศาสนาเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตามในการเคลื่อนไหวของกลุ่มพระสงฆ์และพุทธสาสนิกชนที่อ้างตัวว่าเป็นองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา เป็นที่น่าสังเกตว่าล้วนเป็นคนต่างถิ่น ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ทราบข้อมูลว่าการปรับปรุงภูมิทัศน์ของวัดนั้นเกิดจากสาเหตุใด อย่างไร และมีที่มาที่ไปอย่างไรภายหลัง พระสงฆ์และชาวพุทธกลุ่มนี้ได้สลายตัวไป
       
       ขณะที่นักวิชาการที่เกี่ยวข้องรายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่าอาคารลักษณะรูปแบบหน้ากากสร้างภูมิทัศน์ของศูนย์สินค้าที่ระลึกไม่ใช่อาคารด้วยซ้ำเป็นเพียงแผงฉากสร้างภูมิทัศน์เหมือนกับฉากเวที ที่นี่เป็นเพียงฉากหน้ากากที่สร้างภูมิทัศน์ให้ดูดีขึ้น เป็นระเบียบมากขึ้นขึ้น นี่คือการเข้าใจผิดลำดับแรก และหน้ากากดังกล่าวดังไม่ใช่มัสยิด แต่เป็นข้อมูลที่สืบค้นได้จากทุกแหล่ง

        :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

      แท้ที่จริงแล้วเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกิสคือ ลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบจีน-โปรตุเกส คือ การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุโรปและศิลปะจีน กล่าวคือ “สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม” หรือ “อาคารแบบโคโลเนียล” (Colonial Style) ถ้าเป็นอาคารสองชั้นกึ่งร้านค้ากึ่งที่อยู่อาศัย (shop-house or semi-residential) จะมีด้านหน้าอาคารที่ชั้นล่างมีช่องโค้ง (arch) ต่อเนื่องกันเป็นระยะๆ เพื่อให้เกิดการเดินเท้า ที่ภาษาไทยเรียกทับศัพท์ว่า “อาเขต” (arcade) หรือที่ภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า “หง่อคาขี่” ซึ่งมีความหมายว่า ทางเดินกว้างห้าฟุต ในภาษามาลายูแปลว่าทางเดินเท้า กากี่แปลว่าเท้า

       นอกจากอาเขตแล้ว อาคารแบบโคโลเนียลมีการนำลวดลายศิลปะตะวันตกแบบกรีก โรมัน หรือเรียกว่า “สมัยคลาสสิก” เช่น หน้าต่างวงโค้งเกือกม้า หรือหัวเสาแบบโยนิก หรือไอโอนิก (แบบม้วนก้นหอย) และคอรินเทียน (มีใบไม้ขนาดใหญ่ประดับ) ซึ่งนี่เป็นข้อมูลสาธารณะสืบค้นได้เลย และอาจเป็นสิ่งที่พระสงฆ์สามเณรพุทธศาสนิกชนเหล่านี้เข้าใจผิดนั่นเอง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับมัสยิดทั้งสิ้น สิ่งที่เขาเคลื่อนไหวต้องถามว่า ต้องการอะไร ปัจจุบันความแตกแยกในสังคมไม่พออีกหรือ”
นักวิชาการรายนี้กล่าว


         
       การเป็นพระสงฆ์ออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้อันแรกคิดว่าเป็นจรรยาที่ไม่ควรต่อสมณะสารูป สุ่มเสี่ยงต่อการต้องอาบัติในข้อที่ว่าโลกะวัชชะ หรือต้องถูกโลกติเตียนถึงวัตรปฏิบัติของสงฆ์ และท่านควรศึกษาลงลึกในรายละเอียดว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไปอย่างไร และควรบอกกล่าวพุทธศาสนิกชนถึงทางที่ถูกที่ควรไม่ใช่เป็นผู้ปลุกปั่นเสียเอง เป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่ไปโยงเอาศาสนาอื่นทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง เข้ามาพัวพันให้เกิดความร้าวฉานเกลียดชังกัน
       
       “ท่านที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวลองมานั่งพิจารณาบริบทในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช ทั้งวันจะเห็นว่ามีพี่น้องทุกเชื้อชาติทุกศาสนา เข้ามาเที่ยวชมประวัติศาสตร์และบริเวณวัดอย่างมีความสุข นี่คือการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข” นักวิชาการรายนี้กล่าว


        :96: :96: :96: :96: :96:

       เขายังกล่าวอีกว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สอนให้เดินทางสายกลางที่มีความพอดี การสะท้อนผ่านฉากศิลปะคือการผสมผสานทุกอย่างอยู่กันได้อย่างมีความสุข ทุกเชื้อชาติศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แบบของอาคารรูปแบบชิโนโปรตุกิสที่เก่าแก่มีอยู่หลายหลังในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีให้เห็นอยู่ควรศึกษาที่มา เช่นอาคารของสำนักงาน ททท.นครศรีธรรมราช เป็นต้น และย้ำว่าที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารไม่ใช่อาคารแต่เป็นหน้ากากแผงกั้นย่านการค้าของที่ระลึกเท่านั้น และมีเพียงแผง2แผงเท่านั้นคือฝั่งตะวันออกและฝั่งเหนือแค่นี้กลับไม่ได้สังเกตแล้ว
       
       เช่นเดียวกับนักประวัติศาสตร์มุสลิม ที่เข้าศึกษาประวัติศาสตร์ของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารบ่อยครั้งระบุผ่านสังออนไลน์ในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ไม่ใช่มัสยิดอย่างเด็ดขาดและไม่มีทางเป็นไปได้ มัสยิดต้องประกอบด้วยโดม และหออาซาน จึงจะเป็นมัสยิด

        :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

       ส่วนการปรับภูมิทัศน์ภายในบริเวณลานวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นั้นเป็นการปรับภูมิทัศน์ให้กลับไปแบบดั้งเดิมเช่นสมัยโบราณ คือมีลานทรายขาวสะอาดที่เรียกว่าหาดทรายแก้ว แต่มาเมื่อราว 20 ปีก่อนได้มีการปูตัวหนอนทับทั้งหมดจนคุ้นตาโดยไม่รู้ที่มาที่ไป ปัจจุบันมีการปรับปรุงให้เป็นแบบดั้งเดิม ภาพเก่าภาพโบราณมีให้เห็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับการย้ายรูปเคารพที่เพิ่งนำมาตั้งไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยอัญเชิญไปไว้ที่ข้างพระวิหารหลวงสืบเนื่องจากการปรับปรุงให้บริเวณสวนรุกขชาตที่มีความร่มเย็นจากต้นไม้ใหญ่ให้เป็นอุทยานที่มีรูปเคารพให้ประชาชนเข้าสักการะ และให้พื้นที่ดั้งเดิมสอดคล้องกับการปรับภูมิทัศน์รองรับการเป็นมรดกโลกนั่นเอง


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000094713
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องอื่น ผมไม่รู้หรอกนะครับ แต่ที่แน่นอน เจ้าหน้าที่ ในวัดเป็น มุสลิมเกือบหมด ที่รู้เพราะผมถาม และไปเที่ยวมาแล้วที่นี่ เจ้าหน้าที่ ทัวร์วัด มุสลิม พิพิธภัณฑ์ มุสลิม แม่ค้า พ่อค้า ที่ขายอาหาร ก็มุสลิม คาดว่า น่าจะเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ คนพวกนี้เนียน นะครับ ถ้าไม่ได้คุยจะไม่รู้ว่า ใช่หรือไม่ใช่ เพราะเขายกมือไหว้พระด้วย แต่จะทำแบบฝืน ๆ ผมรู้ ผมมองออก ก็เลยถาม ผมคุยกับเจ้าหน้าที่ บริการการท่องเที่ยว เขาเอากล้องมาส่องยอดพระเจดีย์ให้ชมด้วย พอคุยกันไป กันมา ในส่วนของธรรมะ ประวัติ ที่ลึกซึ้งเข้าไปอีกระดับ หนึ่งตอบไม่ได้ ก็เลยถามเพิ่ม ถามไปถามมา เขาจึงบอกว่า เขาเป็น มุสลิม และก็บอกเราหลายอย่าง และใครบ้าง เป็นบางส่วน

  เรื่องนี้อาจจะไม่ธรรมดา นะ..... ก็ดูกันต่อไป

   :smiley_confused1:
 
บันทึกการเข้า

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ไม่ต้องไกลจาก สงขลา หรอกครับ ที่ภูเก็ต มี มุสลิม มาบวช เป็นระดับเจ้าอาวาส หลายองค์ ผมเคยเข้าไปสนทนาด้วยครับ เขาไม่ได้สนใจเรื่องหลักธรรมเลย เขาสนใจแต่เรื่องการบริจาค พยายามตั้งและทำ ตู้บริจาคอย่างเดียว ที่เขาทำก็ประมาณนั้น

   :49:
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปล่อยมันไปเถอะครับ เรื่่องพวกนี้ อย่างไรเสีย โลกเราก็จะพินาศด้วย ศาสนาที่ก่อสงคราม อยู่แล้ว ทุกวันนี้ เราก็รู้กันดีอยู่แล้ว ศาสนาที่ก่อสงคราม มีศาสนา อะไรบ้าง ?

    :d030: :d030: :d030: :d030:
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...