ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติศาสตร์อยุธยา ต้องทบทวนใหม่ ไม่ใช่ราชธานีแห่งที่สอง สุโขทัยก็ไม่ใช่แห่งแรก  (อ่าน 1234 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

เรือนไม้ไผ่ของสามัญชนชาวสยาม



ประวัติศาสตร์อยุธยา ต้องทบทวนใหม่ ไม่ใช่ราชธานีแห่งที่สอง เพราะไม่เคยมีแห่งแรกที่สุโขทัย

ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย สร้างอยุธยาให้อยู่โดดๆ ลอยๆ ไม่มีเครือญาติชาติพันธุ์ และชาติภาษา มีแต่คนไทยแท้ๆ ที่อพยพถอนรากถอนโคนมาจากอัลไต, น่านเจ้า ซึ่งไม่มีหลักฐานสนับสนุน ดังนั้น ต้องยกเลิกประวัติศาสตร์ไทยที่วิปลาสคลาดเคลื่อน แล้วทำความเข้าใจใหม่ตามหลักฐานแท้จริงทางประวัติศาสตร์โบราณคดี ดังนี้

1. คนไทยไม่ได้อพยพถอนรากถอนโคนมาจากเทือกเขาอัลไต
2. สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของไทย เพราะประเทศไทยยังไม่มี
3. อยุธยาไม่ใช่ราชธานีที่สอง มีขึ้นหลังสุโขทัยล่มสลาย แต่อยุธยามีความเป็นมาก่อนมีสุโขทัย และมีส่วนสนับสนุนให้เกิดรัฐสุโขทัย
4. คนเชื้อชาติไทยแท้ๆ ไม่มี เพราะไทยและคนไทยเป็นชื่อทางวัฒนธรรม ไม่ใช่ชื่อเชื้อชาติ
5. กลุ่มชนเรียกตัวเองว่าไทย, คนไทย เพิ่งพบหลักฐานและร่องรอยแรกๆ ราวหลัง พ.ศ. 1800 บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ภาคกลาง มีศูนย์กลางอยู่อยุธยา

ดังนั้น ในหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม บอกว่ามีคนไทยในยูนนาน แล้วอพยพเคลื่อนย้ายลงมาทางใต้ (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2558 หน้า 75) จึงน่าสงสัยอย่างยิ่งว่ามีคนไทยอยู่ส่วนไหนของยูนนาน เพราะที่สิบสองพันนามีแต่ชาวลื้อ (ที่เป็นไต-ไท) เขาไม่เรียกตัวเงอว่า คนไทย เว้นเสียแต่ทางการไทยบังคับให้เขาเป็นคนไทย


ฝีพายชาวสยาม (ลายเส้นจากจดหมายเหตุลาลูแบร์ ฉบับภาษาอังฤกษ พิมพ์ครั้งแรกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2236 ตรงกับต้นรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา)


กำเนิดอยุธยา

ต้องยกเลิกเรื่องพระเจ้าอู่ทองอพยพไพร่พลหนีโรคห่าจากเมืองอู่ทอง สุพรรณ ไปสร้างกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 1893 เพราะไม่มีหลักฐานสนับสนุน เป็นที่รู้ในหมู่นักวิชาการนานแล้ว ตั้งแต่ราว พ.ศ. 2509 หรือ 50 ปีมาแล้ว แต่ทางการไม่ป่าวประกาศให้สาธารณชนรับรู้ ครูบาอาจารย์ส่วนมากไม่รู้ การเรียนการสอนตามระบบโรงเรียนจึงยังไม่เปลี่ยน กำเนิดอยุธยาตามหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดี กับร่องรอยในตำนานพงศาวดาร ควรเป็นดังนี้

อยุธยาเป็นป่าชายเลนยุคทวารวดี ราวหลัง พ.ศ. 1000 ฝั่งทะเลอยู่บริเวณที่ปัจจุบันเรียกเขตบางขุนเทียน-เขตคลองเตย กทม. มีแม่น้ำ (เจ้าพระยา) เป็นแกนสำคัญ มีชุมชนหมู่บ้านทำประมงกระจัดกระจายทั่วไป แต่มีชุมชนใหญ่อยู่สามแยกแม่น้ำ บริเวณที่ปัจจุบันเป็นวัดพนัญเชิง ถึงวัดพุทไธศวรรย์

มีรัฐขนาดใหญ่แล้วในภาคกลาง ได้แก่ รัฐจินหลิน (อู่ทอง สุพรรณบุรี), รัฐหลั่งยะสิว (นครปฐม), รัฐโถโลโปตี (ลพบุรี), ฯลฯ และรัฐอื่นๆ ทั่วภูมิภาคสุวรรณภูมิอุษาคเนย์ ราวหลัง พ.ศ. 1500 มีกลุ่มรัฐใหญ่อยู่สองฟากแม่น้ำเจ้าพระยา คือ รัฐละโว้ (ลพบุรี) กับรัฐสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี)

อยุธยามีขึ้นจากการรวมตัวอย่างหลวมๆ ของรัฐลุ่มน้ำเจ้าพระยา 2 กลุ่ม ได้แก่
(1.) รัฐละโว้ (ลพบุรี) อยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และ
(2.) รัฐสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) อยู่ฟากตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา

การรวมตัวอย่างหลวมๆ น่าจะมีหลายครั้ง เท่าที่พบหลักฐานขณะนี้มีอย่างน้อย 2 ครั้ง ได้แก่
    - ก่อน พ.ศ. 1839 (ก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่) พบหลักฐานอยู่ในเอกสารของโจวต้า กวาน ทูตจีนที่เข้าไปรัฐเจินละ สมัยเมืองพระนครหลวง (หรือนครธม)
    - หลัง พ.ศ. 1893 เป็นที่รับรู้ทั่วไปแล้ว แต่ยังไม่ถาวร เพราะหลังแผ่นดินขุนหลวงพะงั่ว รัฐสุพรรณภูมิก็แยกเป็นเอกเทศ
    - หลัง พ.ศ. 1950 เจ้านครอินทร์ (โดยการสนับสนุนของจีน) ยึดอยุธยา เนรเทศกษัตรย์อยุธยาวงศ์ละโว้ไปอยู่ปทาคูจาม (ปัจจุบันอยู่ด้านทิศใต้ นอกเกาะเมืองอยุธยา)


 ans1 ans1 ans1 ans1

ร้อยพ่อพันแม่

อยุธยามีคนหลากหลายเผ่าพันธุ์ผสมผสานอยู่ด้วยกัน เหมือนร้อยพ่อพันแม่ ด้วยเหตุอย่างน้อย 2 ประการ คือ อยุธยาเป็นส่วนหนึ่งของสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์อย่างแยกออกจากกันมิได้ ซึ่งมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ อยุธยาจึงมีความหลากหลายด้วยอย่างปฏิเสธมิได้ เอกสารของชาวยุโรปสมัยพระนารายณ์ฯ บอกว่ายุคนั้นมีคนกลุ่มต่างๆ มากกว่า 20 ชาติภาษา

อุษาคเนย์มีพื้นที่กว้างขวาง แต่มีคนน้อย (ตรงข้ามกับยุโรปพื้นที่น้อยมีคนมาก) จึงให้ความสำคัญการโยกย้ายถ่ายเทกวาดต้อนคนเป็นเชลยเพื่อเพิ่มประชากรในบ้านเมืองของตน (ไม่ยึดครองดินแดนตามที่มีบอกในตำราประวัติศาสตร์ไทย) อยุธยาก็เช่นเดียวกัน มีการกวาดต้อนโยกย้ายเชลยศึกบ่อยๆ เพื่อเพิ่มเติมประชากร เป็นเหตุให้มีการผสมผสานทางเผ่าพันธุ์ตลอดเวลา จึงไม่มีชาติพันธุ์ใดบริสุทธิ์ มีแต่ประเภทร้อยพ่อพันแม่



ผู้เขียน : สุจิตต์ วงษ์เทศ
ที่มา : มติชนออนไลน์
เผยแพร่ : 7 ก.ค. 59
http://www.matichon.co.th/news/204587
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
  ขอบคุณที่หามาให้ได้อ่านครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา