การปฏิบัติธรรม มีการอธิฐานขอ...
เช่น ......ขอสาวกภูมิ ขอเป็นพระอริยะสงฆ์ เป้าหมายเพื่อออกจากสังสารวัฏ ไม่ต้องการมาเกิดอีก
ขอพุทธภูมิ ต้องการบําเพ็ญบารมีสั่งสมบุญอย่างเดียว แบบนี้ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด เพราะยังเอาสุข แบบนี้ยังไม่ต้องการหมดทุกข์ เพราะสุข-ทุกข์เมื่อดับดับด้วยกัน พระพุทธองค์ตรัสไว้ เลือกแต่สุขไม่เอาทุกข์ก็ไม่ได้ เพราะทุกข์มันต้องเกิด เค้าจึงคู่ไว้ว่า สุขทุกข์
แก่นของการภาวนา ก็ขึ้นอยู่กับการอธิฐานขอด้วย ว่าเราเลือกแบบไหน
เช่น...การไม่กลับมาเกิดอีก เป็นต้น
เมื่อเวลาเรามองดูคนอื่น
ก็ให้สังเกตุดูว่า เค้ายังต้องการทําอย่างนั้นเพื่อความสุขอยู่
หรือเราทําอย่างนี้เพื่อความสุขอยู่ แปลว่า ทุกข์ที่เป็นของคู่กับสุขก็ยังไม่ไป
เพราะความเป็นอนัตตาไม่มีของคู่ สุขทุกข์จึงไม่มี
พระพุทธองค์ ตรัสไว้ว่า ฌานสี่เป็นฌานที่ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข
แต่ฌานสี่เป็นของพระ อรหันต์เท่านั้น
ขอเรียง ฌานโลกุตตระ เอาไว้ตามที่ได้ยินมาจากครูบาอาจารย์
ผู้ที่ได้ฌานหนึ่ง คือพระโสดาบัน
ผู้ที่ได้ฌานสอง คือพระสกทาคามี
ผู้ที่ได้ฌานสาม คือพระอนาคามี
ผู้ที่ได้ฌานสี่คือพระ อรหัง
สองพระแรก ยังเวียนว่ายสลับ มนุษย์และเทวโลก
พระที่สาม พระอนาคา แปลว่าผู้ที่ไม่กลับมายังโลกมนุษย์
พระที่สี่ไม่ต้องพูด ก็คือ พระอรหันต์เหนือโลก
ก็ว่ากันไปแล้วแต่จะเลือกตั้ง....ปณิธาน
หรือเลือกอธิฐานในแบบของเรา..ตามจริตของเรา