พิมพ์

[what-is-it]

 

   หลวงน้องฝากถาม คือ บางครั้งท่าน อยากนำอาหารบิณฑบาตร ให้แม่ ให้พี่น้อง บ้างเพราะมีเหลือมาก แต่ท่านไม่กล้าให้ กลัว เป็นบาป แก่ แม่ และ พี่น้อง

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

ในครั้งพุทธกาลมีพระภิกษุรูปหนึ่งบิณฑบาตเลี้ยงมารดาบิดา และเป็นที่โจษจันกันทั่วในหมู่สงฆ์ความทราบถึงพระบรมศาสดา พระบรมศาสดากลับตรัสสรรเสริญพระภิกษุรูปนั้นท่ามกลางหมู่สงฆ์ ของใดอันคฤหัสถ์ถวายตกสู่บาตรแล้วเป็นอันประเคนเสร็จสิ้น ภิกษุพิจารณาได้คือฉันได้เลยโดยมิต้องให้อนุปสัมปันประเคนซ้ำ หากภิกษุรับพิจารณาอาหารนั้นแล้วจักมอบแก่เหล่าญาติ,คนยาก,คนวัด,คนจร ก็ได้มิบาป (แต่ให้ข้อสังเกตนิดหนึ่งนะ ตรงที่อาหารบนถาดวางถวายข้าวพระพุทธนั้นห้ามนำไปโดยสงฆ์มิได้รับทราบ กล่าวคือต้องเสสังฯนำมาประเคนสงฆ์ก่อนแล้วสงฆ์รับพิจารณาจากนั้นสงฆ์อนุญาติแล้วนำไปบริโภคไม่ผิด ค่อยๆอ่านพิจารณาเอาจะได้ไม่พลาดเป็นบาป ครับ!

[what-is-it]

หมายความว่าอาหาร นั้นสงฆ์ ต้องอนุญาต

  สงฆ์ ในที่นี้ หมายถึงพระ เป็น คณะ หรือ พระ รูปเดียวคะ

 

[Tumdee]

บวชพระ เลี้ยงดู บิดา มารดา อย่างนี้บาปหรือไม่ ?

  ถ้าตามคำถามนี้ ผมว่า ถ้าจะเลี้ยงพ่อ เลี้ยงแม่ ไป เป็นเด็กวัด ทำงานให้วัด จะดีกว่า ครับ เวลาใช้กรรมไม่มากเหมือนเป็นพระนะครับ จะได้ไม่เอาผ้าเหลือง มาเป็นเครื่องแบบหากิน

 แต่ถ้าอ่านจากคำถามภายใน การนำอาหารที่เหลือฉันบางส่วน ไปมอบให้ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง คนทั่วไป นั้น ก็ควรจะพ้นจากเวลาเที่ยงไปแล้วครับ เพราะสิทธิ์ของอาหารนั้น หมดที่เวลา เที่ยงแล้วไปครับ ดังนั้นพระสงฆ์จะมอบหมาย หรือ ไม่มอบหมาย ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว ถ้ายังถือครอบครอง พระสงฆ์จะต้องอาบัติ ครับ ดังนั้น ธรรมเนียมก็รูกันว่า หลังจากเที่ยงแล้วไป นั้นอาหารที่เหลือ ก็มอบแจกจ่าย ตามสมควร แต่ บางวัดก็ผูกขาดการมอบให้แก่ญาตโยม บางท่าน บางคน เป็นเหตนำมาซึ่งการแย่งชิง ประมูล อาหารกันก็มี เหมือนกรณีเรื่องที่เคยเกิดที่จังหวัดอุทัยธานี ที่เจ้าอาวาสให้เปิดประมูลอาหารที่เหลือ จนนำไปสู่การถูกใส่ร้าย ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ผมฟังในรายการ กฏแห่งกรรม ที่นี่แหละ จำไม่ได้ว่า ตอนไหน

   

[ธุลีธวัช (chai173)]

หมายความว่าอาหาร นั้นสงฆ์ ต้องอนุญาต สงฆ์ ในที่นี้ หมายถึงพระ เป็น คณะ หรือ พระ รูปเดียวคะ

สงฆ์ประกอบด้วยพระภิกษุ 4 รูป ก็ได้ ถ้ามีการทำบุญเลี้ยงพระ 9 รูป มีถาดถวายข้าวพระพุทธ เสสังฯ แล้วนำไปสู่สงฆ์ก่อนเสมออย่าเผลอ

คณะต้องพระภิกษุ 3 รูป ก็ได้ ถ้ามีถาดถวายข้าวพระพุทธที่บ้านทุกวัน ก็นำมาใส่บาตรพระไปในตอนเช้า

พระภิกษุรูปเดียว ก็ได้ ถ้ามีพระภิกษุที่นับถือนิมนต์ท่านมาฉันเพลเสวนาธรรม มีถาดใส่ข้าวถวายพระพุทธ เสสังฯ แล้วนำมาถวายท่านรูปเดียวพิจารณาก่อน จากนั้นจึงค่อยรับจากท่านต่อในภายหลังท่านเสร็จภัตตกิจ อนุโมทนาคาถาแก่เจ้าภาพ ว่ากันไป

สรุปแล้วกล่าวอย่างนี้คือ ไม่จำกัดสงฆ์,คณะ,รูป แต่อย่างไร เพียงใส่ใจปฏิบัติอย่างระมัดระวัง ถูกต้อง ถูกวิธี ไม่เป็นผีขอส่วนบุญ..ครับ!

[raponsan]

   หลวงน้องฝากถาม คือ บางครั้งท่าน อยากนำอาหารบิณฑบาตร ให้แม่ ให้พี่น้อง บ้างเพราะมีเหลือมาก แต่ท่านไม่กล้าให้ กลัว เป็นบาป แก่ แม่ และ พี่น้อง

 

 

   
    ในอรรถกถาสุวรรณสามชาดก ว่าด้วย สุวรรณสามบำเพ็ญเมตตาบารมี
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=28&i=482
    ได้กล่าวถึง ภิกษุรูปหนึ่งนำอาหารไปเลี้ยงมารดาบิดา จนร่างกายตนเองซูบผอม เรื่องถึงพระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าประทานสาธุการถึงสามครั้ง สาธุ สาธุ สาธุ นั่นหมายถึงประทานอนุญาต และก็ยกย่อง
    แต่ในอรรถกถานี้ก็ไม่มีรายละเอียดบอกว่า บาปหรือไม่บาปอย่างไร

    อย่างไรก็ตาม ในสมัยพุทธกาลวินัยของภิกษุอาจแตกต่างจากสมัยนี้
    บาปหรือไม่ คงต้องไปดูในรายละเอียดของวินัย เรื่องวิัันัยพระนี้ คงต้องให้พระมาอธิบาย
     
   

[Admax]

 

ถ้าหากเราบิณฑบาตรณได้มาจัดได้ว่า ญาติโยม.นั้นใส่บาตรหมายให้ภิกษุปต่ละรูปที่ใส่นั้นได้อย่างนี้ๆ ของในบาตรนั้นเราจักเอาให้ใครก้อคงไม่เป็นไร

หาก)ฉันท์ภัตราหารที่หมู่คนทั้งหลายให้สงฆ์โดยรวมไม่เจาะจงต้องขอหมู่สงฆ์ในที่นั้นก่อนถึงให้ได้ เว้นแต่ในคณะสงฆ์นั้นมีการตกลงไว้ว่าเมื่อฉันเสร็จให้พรเสร็จภัตราหารนี้จะมอบให้แก่ฆราวาสดังนี้แล้วฆราวาสจึงสามารถนำไปกินต่อได้ หากจะให้จำเพาะบุคคลดี สุดก้อควรขอเสียต่อคณะสงฆ์ที่ฉันท์ร่วมกันอยู่จึงจะไม่เป็นบาปกรรมทั้งพระที่ให้และผู้รับ

[kobyamkala]

 

[what-is-it]