ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง  (อ่าน 7042 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง

  แนวทางที่ 1 สำหรับ ท่านที่ได้ อุคคหนิมิต มาแล้ว
  แนวทางที่ 2 สำหรับ ท่านที่ยังไม่ได้ อุคคหนิมิต

     ดังนั้น การตั้ง อานาปานสติ นั้นต้องตั้ง นิมิต ในอุปกรณ์ 3 อย่างของอานาปานสติ คือ

    1.อัสสาสะ
    2.ปัสสาสะ
    3.นิมิต 

   ดังนั้น ลมหายใจ คือ อัสสาสะ และ ปัสสาสะ ไม่ใช่ นิิมิต
   
   ความยุ่งยาก อยู่ที่ นิมิต
   อุปจาระฌาน ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน ล้วนอาศัย นิมิต เท่านั้น
   สำหรับ อรูปฌาน 4 ไม่ไ้ด้ ใช้ นิมิต ส่วนนี้ เพราะต้องตั้ง อรูปารมณ์ ขึ้นแทน
   ดังนั้น อานาปานสติ มีแค่ ฌาน 4
   
   สำหรับ ปัญจมฌาน เป็นการใช้ บาท เพื่อ ญาณ 9

   กับมาที่ นิมิต ของอานาปานสติ

     นิมิต เริ่มต้น ก็คือ การภาวนา ตาม อัสสาสะ และ ปัสสาสะ
   ด้วย วิธีการ ทั้ง 9 คือ

     1.คณนา
     2.อนุพันธนา
     3.ผุสนา 
     4.ฐปนา 
         1- 4 ลำดับแรก เรียกว่า สมาบัติ หรือ ส่วนสมถะ ให้ผล คือ รูปฌาน
     5.ธรรมะเวยยนา
     6.สังโยขนา
         5 - 6 ลำดับ นี้ เรียกว่า วิปัสสนา หรือ ส่วน มรรควิถี อริยะมรรค
     7.วิสุทธนา สำหรับส่วนนี้ สิ้นสุด ของ พระวิปัสสก  ถึงตรงนี้ ก็ได้ชื่อว่า วิสุทธิเทพ แล้ว               
     8.นิโรธนา จากข้อที่ 8 ไปเป็นของ พระเตวิชโช อภิญญาหก ปฏิสัมมภิทา ขึ้นไป
         7 - 8 ลำดับ นี้ เรียกว่า ผลวิปัสสนา หรือ ส่วน อริยะผล ส่วนนี้สิ้นสุดของ พระเตวิชโช
     9.สัญญาเวทยิตานิโรธนา
         ลำัดับสุดท้าย นี้ เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพาน เป็นคุณธรรม ของพระอริยะ ที่มี รูปฌาน และ อรูปฌาน ไม่จัดเป็น นิพพาน ถึงแม้จะเรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพาน ก็เหมือนใช้คำว่า วิกขัมภนนิพพาน ตทังคนิพพาน ประมาณนี้
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2014, 07:34:18 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


การตั้ง อุคคหนิมิต ในอานาปานสติ โดยตรงทำได้ยาก เพราะว่า

  วิธีการได้ อุคคหนิมิต โดยตรงทำได้ยาก เพราะว่า
   1. ไม่ประกอบด้วยสัมมาทิฏฐิ
   2. เป็นคุณธรรม ของ ผู้เป็น อุคคติตัญญู และ วิปจิตัญญู
   3. มีโอกาสตกอยู่ข้างฝ่าย อกุศล เพราะถูกครอบงำ ด้วยลมหายใจเ้ข้า และออก
   4. อาจหลงยึดติดใน ญาณ ทั้ง 9 ที่ได้ก่อน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเช่นนั้น 90 เปอร์เซ็นต์ จากอดีตถึงปัจจุบัน มักเป็นเช่นนี้ เสมอมา มิเปลี่ยนแปลง
   5. มีความหลงเข้าใจว่า ลมปราณ คือ ความสำเร็จของ อานาปานสติ
   6. อุปนิสัย ฤษี มักเกิดทำให้ อานาปานสติ มุ่งเป็น ตบะ ไม่ใช่เพื่อขจัดกิเลส กลาย เป็นเพียงแค่ ขัดเกลากิเิลส เท่านั้น

    และอีกหลายประการที่ ยังไม่ได้บอก

   ดังนั้นเป้าประสงค์ ของการฝึก อานาปานสติ จึงเริ่มต้น ที่ การภาวนา พระพุทธานุสสติ

     1. ได้ศรัทธา ตรง ต่อพระรัตนตรัย ยึดถือ พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง
     2. เป็นสัมมาทิฏฐิ ก่อน ที่ได้ฝึก อานาปานสติ

         สัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่ ความคิด แต่ สัมมาทิฏฐิ เป็น การรู้แจ้ง เห็นจริง ตามพระสุคต ว่า ทุกขอริยสัจจะ เป็นอย่างนี้ เกิดอย่างนี้ รู้ว่าทุำกข์ดับไปอย่างนี้ รู้ว่าทุกข์เกิดขึ้นแล้วอย่างนี้ รู้ว่าเหตุทุกข์เป็นอย่างนี้ รู้ว่าเหตุแห่งทุกข์ เกิดอย่างนี้ รู้ว่าเหตุแห่งทุกข์ดับไปอย่างนี้ รู้ว่าเหตุแห่งทุกข์เกิดขึ้นแล้วอย่างนี้ รู้ว่าความสิ้นไปดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้ รู้ว่าความสิ้นไปดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เกิดอย่างนี้ รู้ว่าความสิ้นไปดับไม่เหลือแห่งทุกข์ดับไปอย่างนี้ รู้ว่าความสิ้นไปดับไม่เหลือแห่งทุกข์เกิดขึ้นแล้วอย่างนี้ รู้ว่าหนทางแห่งการดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้ รู้ว่าหนทางแห่งการดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เกิดอย่างนี้ รู้ว่าหนทางแห่งการดับไม่เหลือแห่งทุกข์ดับไปอย่างนี้ รู้ว่าหนทางแห่งการดับไม่เหลือแห่งทุกข์เกิดขึ้นแล้วอย่างนี้

        สัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่ ความคิด แต่ เป็นการเข้ารู้แจ้งเห็นจริง ในกระบวนการ อริยสัจจะ 4
     
       ผู้ได้ สัมมาทิฏฐิ แท้ ๆ คือ พระโสดาบัน ขึ้นไป
     
       ผู้กำลังจะได้ สัมมาทิฏฐิ คือ พระโยคาวจร ผู้ เริ่มมีความหน่าย ต่อสังสารวัฏฏ์ เพื่อ มุ่งตรงต่อพระนิพพาน ดังนั้น ปุถุชน ไม่มีสัมมาทิฏฐิ จริง ๆ

       เพราะ สัมมาทิฏฐิ คือ แรงภาวนา ในการเคลื่อนตามมรรค สู่ นิพพาน

     3. สำเร็จกาย พุทธะ เรียกว่า พระโสดาบัน พร้อม อุคคหนิมิต ในพระไตรปิฏก ใช้คำว่า พรหมกาย นามกาย ธรรมกาย
     
      ดังนั้นการฝึก พระพุทธานุสสติ ก่อนนั้น จะเหมาะสม กับ เหล่า เวไนยยะบุคคล ในปัจจุบัน เหตุเพราะในปัจจุบัน อุคคติตัญญู และ วิปจิตัญญู มีจำนวนน้อยมาก หรือ แทบจะไม่มี เพราะยุคนี้ เป็นยุคของพระอนาคามี ซึ่งมีจำนวนมากกว่า

      ขอท่านทั้งหลาย ผู้สนใจในการฝึกภาวนา อานาปานสติ อันประกอบด้วย ญาณ 200 นั้นจงเข้าหาครูอาจารย์ เพื่อขึ้นกรรมฐาน และเรียน ภาวนา กรรมฐาน โดยตรง หากท่านทั้งหลาย มัวแต่อ่าน และคิดว่า จะได้รับการถ่ายทอด นั้นเป็นเรื่องที่กระทำได้ยาก เพราะ 98 เปอร์เซ็นต์ของพระกรรมฐาน ส่วนวิธีการภาวนา ไม่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฏก แต่หากมีบันทึกไว้ด้วย สภาวะ ภาวนา ระหว่าง อาจารย์ กับ ศิษย์ ในปัจจุบัน ดังนั้นท่านทั้งหลายอ่าน กี่รอบ กี่รอบ ก็มีแต่ทบทวนขั้นตอน สโตริกาญาณ 16 หาได้รู้เรื่องเกี่ยวกับ อัสสาสะ ปัสสาสะ และ นิมิต กันเลย

 เจริญธรรม / เจริญพร

 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2014, 07:57:28 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


การภาวนา ไม่ใช่ การสะกดจิต แต่ 98 เปอร์เซ็นต์ มักจะเริ่มด้วยการสะกดจิต

   หลาย ๆ ท่าน พอเริ่มภาวนา ก็มักจะ ภาวนา แบบ สะกดจิต

    เช่น ภาวนา พุทโธ ก็ พุทโธ ๆ ๆๆ ไปเหมือน ท่อง
    หรือ ทำกสิณ ก็ ท่อง กสิณตามชื่อไป เพ่งไป เหมือนท่อง

   ความพยายาม เหนือ พยายาม ก็คือ การพยายาม สะกดจิต ให้ได้ นิมิต ขึ้นมาในใจ โดยทุกคนเข้าใจว่า เมื่อหลับตา หรือ ลืมตา ภาพนิมิต นั้น ก็จักปรากฏคงอยู่ อย่างนั้น และเข้าใจว่า สิ่งที่ปรากฏ เช่นนั้นเรียกว่า นิมิต และหลายท่าน ก็มักจะเล่าส่วนนี้ให้ฟัง ว่าได้นิมิตอย่างนี้

    ก็ขอตอบว่า ท่านมีความสำเร็จ ในการสะกดจิต ท่าน แล้ว อย่างนั้น

    แต่แท้ที่จริง เป็นวิธีการที่ปฏิบัติผิด สิ่งที่เรียกว่า สะกดจิต ไม่ใช่การภาวนา เพราะการภาวนาในพระพุทธศาสนา ต้องประกอบ ด้วย องค์ 3 คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา หากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งนั้น ย่อมไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อท่านจะเจริญสมาธิ ไมใช่ ทิ้ง สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ ดังนั้น อริยะมรรค ทั้ง 7 ไม่ได้ทิ้งไปในฝึกภาวนา สมาธิ

    อ้าว แล้วฝึกอย่างไร ไม่ใช่การสะกดจิต

    1. ตั้งกายตรง
    2. ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า
    3. มีสติรู้พร้อมทั่วกาย
    4. มีสัมปชัญญะ เมื่อ ดำรง บริกรรมนิมิต
    5. ตั้งฐานจิต ส่วนใดส่วนหนึ่ง
    6. วางอารมณ์เป็นกลาง ต่อสภาวะ คือ นิ่งเฉย ต่อสภาวะอารมณ์ที่เกิด ตั้งสติ สัมปชัญญะพร้อม ในนิมิต ทั้งสามอย่างต่อเนื่อง

    การทำ 6 อย่างนี้ เป็นไปด้วยความครบสมบูรณ์แห่งองค์ อริยะมรรคทั้ง 8 เรียกว่า การภาวนา ที่ไม่ได้ใ่ส่ความคาดหวังใด ๆ ในการภาวนา นอกเสียจาก ความปรารถนา ในนิพพาน เท่านั้น

  เจริญธรรม / เจริญพร

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2014, 08:14:55 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 08:04:32 pm »
0
 st11           :86:           st11           :93:           st11           :67:

บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 09:12:40 pm »
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 10, 2014, 03:14:26 pm »
0
อ่านข้อความ พระอาจารย์แล้ว รู้สึก ว่าแนวทางที่ตัวเองปฏิบัิติ เหมือนแทบไม่รู้อะไรเลย แค่ อานาปานสติ ยังพิศดารขนาดนี้ จนมีความรู้สึกกลัวว่า ปฏิบัติตามไม่ได้

   :41: :25:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 11, 2014, 12:08:01 pm »
0
อานาปานสติในแนวพระกรรมฐานมัชฌิมาค่อนข้างพิศดารยากกับจริตผมมากๆ ผมนั้นเลี่ยงวิธีการนี้มาตลอดหันมาเจริญพุทธานุสสติกรรมฐานเป็นหลักก้าวหน้าหรือไม่อยู่ที่เวลา แต่เวลาดูเสมือนไม่ใช่ในตอนนี้ขณะนี้ที่มีแก่ผมเลยด้วยต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการงานทุกวี่ทุกวัน มันมีคำถามผุดเกิดในใจมากมายที่ต้องการคำตอบรอการค้นหา ผมเริ่มเบื่อหน่ายต่อชีวิตเห็นทุกข์และทุเรศในชะตา ความเป็นคนไม่ได้มีค่าหากขาดธรรมคนหมู่มากคิดลิขิตตนเองอยู่กับกิเลสมีชะตาน่าสมเพศแทบทั้งนั้น
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

lomtong

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 48
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 11, 2014, 06:47:08 pm »
0
ท่าทางจะไม่ได้เรียน เต็ม ๆ แน่ ๆ ถ้า คิดว่า จะอ่านอย่างเดียว โดยไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน กับ ครู

   :s_hi: :34: ไม่เหมือนที่คิดซะแล้ว

บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 11, 2014, 10:35:38 pm »
0
 st12 st12 st12 st12 st12

ผมขอขอบคุณพระอาจาราบ์อย่างสูงครับ ผมจะนำไปปฏิบัติให้เกิดผลครับ
ทำให้ผมทำลายความเขลาลงได้อย่างไม่มีข้อติดข้องใจไรๆเลยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2014, 10:39:49 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

what-is-it

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 11, 2014, 10:36:02 pm »
0
อานาปานสติในแนวพระกรรมฐานมัชฌิมาค่อนข้างพิศดารยากกับจริตผมมากๆ ผมนั้นเลี่ยงวิธีการนี้มาตลอดหันมาเจริญพุทธานุสสติกรรมฐานเป็นหลักก้าวหน้าหรือไม่อยู่ที่เวลา แต่เวลาดูเสมือนไม่ใช่ในตอนนี้ขณะนี้ที่มีแก่ผมเลยด้วยต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการงานทุกวี่ทุกวัน มันมีคำถามผุดเกิดในใจมากมายที่ต้องการคำตอบรอการค้นหา ผมเริ่มเบื่อหน่ายต่อชีวิตเห็นทุกข์และทุเรศในชะตา ความเป็นคนไม่ได้มีค่าหากขาดธรรมคนหมู่มากคิดลิขิตตนเองอยู่กับกิเลสมีชะตาน่าสมเพศแทบทั้งนั้น
อ่านข้อความ พระอาจารย์แล้ว รู้สึก ว่าแนวทางที่ตัวเองปฏิบัิติ เหมือนแทบไม่รู้อะไรเลย แค่ อานาปานสติ ยังพิศดารขนาดนี้ จนมีความรู้สึกกลัวว่า ปฏิบัติตามไม่ได้

   :41: :25:


เห็นด้วยคะ ห้องนี้ ถามคำถามธรรมดา ไม่ได้หรอกคะ อ่านวิธีปฏิบัติกรรมฐาน แต่ละชุดแล้ว ความรุ้ที่มี เป็น กบในกะลา จริง ๆ คะ พิศดาร จนไม่กล้าที่จะเรียนกรรมฐาน แนวทางนี้


 คิดว่า ยาก มากคะ ในการภาวนา

  :25:
บันทึกการเข้า

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 12, 2014, 01:18:01 am »
0
อานาปานสติในแนวพระกรรมฐานมัชฌิมาค่อนข้างพิศดารยากกับจริตผมมากๆ ผมนั้นเลี่ยงวิธีการนี้มาตลอดหันมาเจริญพุทธานุสสติกรรมฐานเป็นหลักก้าวหน้าหรือไม่อยู่ที่เวลา แต่เวลาดูเสมือนไม่ใช่ในตอนนี้ขณะนี้ที่มีแก่ผมเลยด้วยต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการงานทุกวี่ทุกวัน มันมีคำถามผุดเกิดในใจมากมายที่ต้องการคำตอบรอการค้นหา ผมเริ่มเบื่อหน่ายต่อชีวิตเห็นทุกข์และทุเรศในชะตา ความเป็นคนไม่ได้มีค่าหากขาดธรรมคนหมู่มากคิดลิขิตตนเองอยู่กับกิเลสมีชะตาน่าสมเพศแทบทั้งนั้น
อ่านข้อความ พระอาจารย์แล้ว รู้สึก ว่าแนวทางที่ตัวเองปฏิบัิติ เหมือนแทบไม่รู้อะไรเลย แค่ อานาปานสติ ยังพิศดารขนาดนี้ จนมีความรู้สึกกลัวว่า ปฏิบัติตามไม่ได้

   :41: :25:


เห็นด้วยคะ ห้องนี้ ถามคำถามธรรมดา ไม่ได้หรอกคะ อ่านวิธีปฏิบัติกรรมฐาน แต่ละชุดแล้ว ความรุ้ที่มี เป็น กบในกะลา จริง ๆ คะ พิศดาร จนไม่กล้าที่จะเรียนกรรมฐาน แนวทางนี้


 คิดว่า ยาก มากคะ ในการภาวนา

  :25:


 พระพุทธเจ้า บำเพ็ญเพียร 6 ปี

 ครูอาจารย์ ปฏิบัติกันก็ใช้เวลากันไม่ใช่น้อย

 เรื่องเล่านี้ แล้ว แต่จริต ความชอบใจ มันก็มีส่วน บางทีง่าย ก็เป็นยาก เพราะไม่ชอบ
 เหมือนผมเอาทุเรียน หมอนทองไปให้เพื่อน ๆ ไม่ชอบ บอกว่า ไม่อร่อย ทานยาก ต้องแกะ กินแล้วร้อนใน อย่างไรดี ผมกินอร่อย แกะง่าย ไม่ร้อนใน

   :s_hi:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: การเริ่มต้นภาวนา อานาปานสติ มี สอง แนวทาง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มีนาคม 21, 2014, 09:14:54 pm »
0
การศึกษาภาวนาพระกรรมฐานเพื่อเข้าถึงซึ่งสัจจะบางสิ่งที่ไม่อาจก้าวล่วงด้วยผัสสะทางกายนั้น เราท่านทั้งหลายที่ได้ชื่อว่าเป็นไนยชนจักเริ่มต้นอย่างไร เชื่อว่าหลากหลายท่านคุ้นเคยที่จักทำบุญหย่อนข้าวใส่ปัจจัย แต่การสดับฟังธรรมค่อนข้างเข้าใจยากด้วยไม่คุ้นในคำ,ศัพย์,ภาษา ในทางศาสนา การฟังเทศน์ฟังธรรมก็เป็นเพียงสละสลวยในสำนวนลีลาไปก็เท่านั้น ที่สำคัญอยู่ที่ต้องฟังให้บ่อย ตามศึกษา ตามคำกล่าวสั่งของพ่อแม่ครูอาจารย์ ผมกำลังจะขอกล่าวอ้างอย่างกรณีการตามศึกษาหาอ่าน "ราหุโลวาทสูตร" โดยเฉพาะศิษย์พระกรรมฐานมัชฌิมา เนยยะสำคัญนั้นอยู่ที่การกล่าวเรื่องธาตุ การรู้จักวางอารมณ์ ซึ่งเป็นบาทฐานก้าวเริ่มสำคัญสำหรับผู้ภาวนาหัดใหม่ทุกคน แบบแผนในการภาวนานั้นมีแต่หากแจงแล้วพิศดารก็คร้ามกลัวเสียอย่างนั้น ผู้ใคร่ใส่ใจในการภาวนาจะใหม่หรือเก่าคร้ามแล้วสะเพร่าเอาง่ายเข้าหาตามแต่ใจตนยากที่จะถึงดึงจมก้นบ่อขอบอก ผมฟังตามอ่านจากครูอาจารย์หลากหลายท่านก็เข้าใจ ใบ้บอกใครไม่ได้ ผมในความเป็นศิษย์สายมัชฌิมาวัดพลับเข้าใจเลยว่าทำไมต้องปิติ ๕ ยุคลหก สุขสมาธิ นี้ต้องกล่าวเลยว่าครูอาจารย์ท่านอนุเคราะห์มาก เราท่านตามลำดับแบบแผนแนววัดพลับถูกต้องที่สุดและไปได้ถึงง่ายที่สุด การศึกษาเรียนรู้ภาวนาตามเยื้องอย่างสติปัฏฐาน อานาปาน โดยทั่วๆไปก็เป็นเพียงยกเอาที่กล่าวอ้างว่าเลิศตามคัมภีร์ แต่มิได้กล่าวละเอียดในการก้าวย่างเริ่มอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นการอ่าน ฟัง "ราหุโลวาทสูตร" มีเนยยะสำคัญที่ผู้ภาวนาหัดเริ่มควรใส่ใจ แม้ผู้เก่าปรามาสอยู่ควรหันไปพิจารณาด้วยเช่นกัน ที่สุดผมในฐานะศิษย์ที่เข้าใจและก็หวั่นใจที่การเรียนรู้เริ่มของเราเราท่านท่านยังไม่เข้าใจที่จะเริ่มขอให้เริ่มที่พระกรรมฐานวัดพลับง่ายที่สุดถึงที่สุดจริง กึ่งพุทธกาลนี้นั้นมีพระอาจารย์ ๒ รูปสำคัญที่ปรากฏบังเกิดมีแล้ว ถ้าแคล้วไปก็คงหลงล่าช้าอีกนาน วันนี้ผมเจริญศรัทธาเอาพุทธานุสสติก่อนตามครูบาอาจารย์สั่ง จากนั้นจักขอเพียรเอาอานาปานสติ หวังว่าเพื่อนชาวธรรมผู้ใส่ใจใคร่ในภาวนาอย่าคร้ามและคร้าน.....สวัสดี!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 21, 2014, 09:17:52 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา