สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 24, 2018, 10:10:18 am



หัวข้อ: ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 24, 2018, 10:10:18 am
 :25: :25: :25:

ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
โดย : รศ.ทวี ผลสมภพ

ตามที่ผู้เขียนได้เสนอบทความเรื่อง พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาจังหวัดลพบุรี (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=25664.0) และประทับรอยพระพุทธบาทไว้บนยอดเขาวงพระจันทร์ อำเภอโคกสำโรงนั้น ได้มีปฏิกิริยาออกมา 3 ลักษณะ คือ

    - ชาวพุทธกลุ่มแรก เป็นผู้ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน และสมถกัมมัฏฐาน พอเห็นภาพดังกล่าวเท่านั้น ได้ยกขึ้นจบเกล้าพร้อมพึมพำว่า บุญเหลือเกินที่ได้เห็น
    - ส่วนชาวพุทธกลุ่มที่ 2 แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ปลงใจเชื่อ คิดว่าเป็นภาพที่คนวาดขึ้น
    - ชาวพุทธกลุ่มที่ 3 ส่วนใหญ่เป็นพระท่านไม่เชื่อเลย ว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จมา จ.ลพบุรี

      ในกลุ่มที่ไม่เชื่อนี้มีอยู่หนึ่งรายที่ค้านอย่างมีเหตุผล และความมีเหตุผลดังว่านั้น ได้เปิดทางให้อธิบายสนับสนุนเรื่องพระพุทธเจ้าเสด็จมาสระบุรี หรือลพบุรี ไปในตัว
      ท่านผู้นั้นค้านว่า แต่โบราณมาเมืองไทยมีพระพุทธบาทอยู่ 5 รอย ดังคำบาลีว่า
     "สุวัณณะมาลิเก สุวัณณะ ปัพพะเต สุมะนะกูเฏ โยนกะปุเร นัมมะทายะ นทิยา ปัญจะปาทะวรัง ฐานัง วันทามิ ทูระโต"
      แปลโดยใจความว่า เราขอไหว้พระบาท 5 แห่งคือ
          ที่สุวัณณะมาลิก หนึ่ง
          ที่สุวัณณปัพพตะ หนึ่ง
          ที่สุมนะกูฏ หนึ่ง
          ที่เมืองโยนก หนึ่ง และ
          ที่แม่น้ำนัมมะทา หนึ่ง

เมืองไทยเราเชื่อกันว่า พระพุทธบาทที่สระบุรี คือพระพุทธบาทที่ระบุไว้ในบาลีว่า สุวัณณะปัพพะเต แปลว่า ภูเขาทอง แถมประวัติความเป็นมาของพระพุทธบาทที่สระบุรี เป็นเรื่องของพระปุณณเถระ ชาวเมืองสุนาปรันตะ ตามหลักฐานในปุณโณวาทสูตรและอรรถกถา

     ask1 ans1 ask1 ans1

    ถ้าจะอ้างว่า พระพุทธเจ้ามาประทับพระพุทธบาทไว้ที่เขาวงพระจันทร์ลพบุรีอีก มิต้องเพิ่มแหล่งพระพุทธบาทมี 6 แห่งหรือ.?
    จากคำถามดังกล่าว จึงขอตอบว่า พระพุทธบาทที่ ลพบุรี ก็คือรอยพระพุทธบาทที่คำบาลีว่า สุวัณณปัพพเต นั่นเอง
    ถามว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
    ขอตอบว่า เพราะประวัติรอยพระพุทธบาทที่ลพบุรี และรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี เป็นเรื่องเดียวกัน คือเป็นเรื่องของพระปุณณะ ชาวเมืองสุนาปรันตะเหมือนกัน ต้นเรื่องมาจากปุณโณวาทสูตรและอรรถกถา ในพระไตรปิฎกภาษาไทยเล่มที่ 23 หน้า 434-441 เหมือนกัน
    เมื่อยืนยันว่า พระพุทธบาททั้งสองแห่งก็คือพระพุทธบาท ที่บาลีกล่าวว่า สุวัณณปัพพะเต นั่นเอง
    ท่านจะยอมรับหรือไม่.? ไม่ว่ากัน

ต่อไปจะขอวิเคราะห์ข้อเท็จจริงให้เห็น ข้อเท็จจริงที่จะวิเคราะห์มีอยู่ 4 หลักการ
    1. ความเป็นมาของพระพุทธบาทที่ภูเขาสัจพันธ์
    2. ภูมิประเทศ
    3. สภาพแวดล้อม
    4. รอยเปื้อนฝ่าพระบาท

 ask1 ans1 ask1 ans1

ความเป็นมาโดยสรุปของพระพุทธบาทก็คือ ท่านปุณณะเป็นชาวเมืองสุนาปรันตะ ไปค้าขายที่เมืองสาวัตถี เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธองค์จึงขอบวช เมื่อบวชแล้วกลับไปบำเพ็ญกัมมัฏฐานที่บ้านเดิม คือเมืองสุนาปรันตะ ท่านไปแสวงหาที่ทำกัมมัฏฐาน 4 แห่ง จุดแรกไปที่ชายทะเล มีคลื่นจัดไม่เหมาะที่จะทำกัมมัฏฐาน จึงไปที่วัดมกุฬการาม ท่านสำเร็จที่นั่น

ต่อมาท่านทูลอาราธนาพระพุทธเจ้ามาโปรดชาวสุนาปรันตะ พระองค์เสด็จมา เมื่อผ่านภูเขาสัจพันธ์พระองค์โปรดพระฤๅษีสัจพันธ์ ให้สำเร็จแล้ว ก็พาไปเมืองสุนาปรันตะด้วย พระองค์โปรดชาวเมืองนี้ 3 คืน ตอนเสด็จกลับ ผ่านแม่น้ำนิมมะทา ทรงประทับรอยพระบาทไว้ให้นิมมะทานาคราช ริมแม่น้ำนิมมะทา จากนั้นเสด็จไปส่งพระสัจพันธ์บนยอดเขาสัจพันธ์ พระสัจพันธ์ประสงค์จะติดตามพระพุทธองค์ไปพระเชตวันในมัฌชิมประเทศด้วย พระพุทธองค์ตรัสว่า เธอสอนประชาชนผิดมาแล้ว จงอยู่แสดงธรรมที่ถูกต้องแก่หมู่ชนบริเวณนี้ต่อไป พระสัจพันธ์จึงขอพระพุทธบาทไว้

 ask1 ans1 ask1 ans1

แล้วนั่นเอง จึงมีรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาสัจพันธ์ หรือเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี ส่วนประวัติความเป็นมาของพระพุทธบาทที่เขาวงพระจันทร์ และพระพุทธบาทที่สระบุรี ไม่กล่าวถึงชายทะเล ไม่กล่าวถึงแม่น้ำนิมมะทาไว้เลย เป็นเพราะเหตุใด จะกล่าวข้างหน้า

การกล่าวถึงภูมิประเทศ จะมีส่วนหนึ่งที่หาความจริงได้ เป็นไปได้ไหมที่เขาสัจพันธ์อยู่อินเดีย ไม่ใช่เมืองไทย การที่ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงทะเลจะเป็นจุดสำคัญที่จะหาความจริง! อินเดียก็มีทะเล จงดูแผนที่อินเดีย เหมือนกรวยนอน โคนกรวย คือ ทางเหนือเป็นภูเขาหิมาลัย สองข้างกรวยและปลายแหลมเป็นทะเลหมด เมื่อพระองค์ไปโปรดชาวสุนาปรันตะที่อยู่ติดทะเล จะผ่านเขาสัจพันธ์ก่อน แล้วจึงไปถึงเมืองสุนาปรันตะที่ติดทะเล โดยสมมุติฐานแบบนี้ พระปุณณะสามารถไปพบทะเลได้ทั้ง 3 ทิศ คือ ทะเลทางตะวันออก ตะวันตก และทะเลทางทิศใต้ ของอินเดีย

พอเสด็จกลับก็จะพบแม่น้ำนิมมะทา และเขาสัจพันธ์ที่อยู่ในอินเดียได้ แต่ในเมื่อพระลังกาบอกพระไทยที่ไปไหว้พระพุทธบาทที่ลังกาว่า เมืองไทยก็มีรอยพระพุทธบาทที่เขาสุวัณณบรรพต ถ้าเป็นอย่างนี้ เราลองตั้งสมมุติฐานดูว่าสระบุรี ลพบุรีติดทะเลหรือไม่ แม้จะสันนิษฐานกันว่า สระบุรี ลพบุรี เคยเป็นฝั่งทะเล แต่ก็คงหลายพันปีมาแล้ว ความก็ไม่สามารถวิเคราะห์ไปไม่ตลอด เพราะหาแม่น้ำนิมมะทาไม่พบ แต่อย่าเพิ่งทิ้งจุดนี้ไป

 ask1 ans1 ask1 ans1

เราไปตั้งสมมุติฐานจุดอื่นดูบ้าง ตอนนี้ขอเอาลพบุรี สระบุรี เป็นจุดหลักก่อน สมมุติว่า จากเขาสัจพันธ์ไปเมืองติดทะเลของแผนที่ไทย จะพบชายทะเลที่สมุทรปราการและทะเลทางตะวันออก เราไม่ทราบว่า เมื่อ 2,600 กว่าปีมาแล้ว เป็นที่อยู่ของใคร แต่ถ้าเรายึดประวัติศาสตร์ของอาณาจักรจามที่อยู่ติดทะเลของเวียดนาม ซึ่งคนเหล่านี้เป็นชาวอินเดียที่อพยพมาตั้งเมือง ณ แผ่นดินนี้ เขาพูดภาษาบาลีและสันสกฤต

สมัยอยุธยายังมีบันทึกไว้ว่า ผู้ที่แล่นเรือมาค้าขายที่อยุธยา มีจีนและแขกจาม เป็นต้น อย่างนี้การสันนิษฐานจะไปได้ตลอดว่า พระปุณณะท่านเป็นชาวจาม แล้วไปค้าขายที่เมืองแม่ แถมตรงนี้มีประวัติศาสตร์ของกัมพูชายอมรับไว้ในหนังสือ พระพุทธศาสนาในกัมพูชา หน้า 33 บันทึกว่า มีศิลาจารึกเขมรอันหนึ่ง เก่าแก่โบราณกว่าเขาทั้งหมด ณ แดนดินเอเชียอาคเนย์นี้เขาเรียกว่าศิลาจารึก โว-กาญ ศิลาจารึกนี้กล่าวว่า
      “พระเจ้าศรีมาระ ทรงเลื่อมในต่อพระพุทธศาสนา”
       ถามว่า พระพุทธศาสนามาจากไหน
       ตอบได้เลยว่า มาจากพระปุณณะนั่นเอง

 ask1 ans1 ask1 ans1

การตั้งสมมุติฐานว่า ชายทะเลที่ในคัมภีร์กล่าวถึงนั้น น่าจะเป็นอาณาจักรจาม ในเวียดนาม ซึ่งมีสภาพแวดล้อมสนับสนุน คือ มีรอยพระพุทธบาทอยู่ที่แม่น้ำโขงที่นครพนม และนั่นคือทำให้คิดว่า เป็นแม่น้ำนิมมะทา ที่พระพุทธองค์เสด็จผ่านมาพบ จึงประทับรอยพระบาทไว้

อีกทั้งในหนังสือการต่อสู้ของชาวเวียดนามเพื่อขับไล่ฝรั่งเศส ในประเทศไทย ชื่อ ผู้คนและเส้นทาง แปลโดย แดง และแฉล้มได้กล่าวไว้ในหน้า 99 ว่า
     “บ้านต้นผึ้ง บ้านวัดป่า ที่นครพนม เป็นหมู่บ้านติดแม่น้ำโขง เป็นจุดเชื่อมโยงประเทศเรา (เวียดนาม) ลาวและไทย”
      หมายถึงว่า ชาวเวียดนามเดินทางมาลาวและไทยผ่านนครพนม

ดังนั้น ถ้าตั้งสมมุติฐานว่า เป็นทะเลเมืองไทย คือทางตะวันออกของประเทศไทย เราไม่พบรอยพระบาทที่แม่น้ำสายไหนที่อยู่ระหว่างสุนาปรันตะ และเขาสัจพันธ์ที่ลพบุรี ตามประวัติเลย

(https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/06/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%972.jpg)

การที่อาณาจักรจามปาติดทะเล การที่มีรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำโขง จึงเป็นข้อให้สันนิษฐานว่า เมืองสุนาปรันตะ ก็คืออาณาจักรจามปา จึงเป็นข้อสันนิษฐานว่า แม่น้ำโขงก็คือแม่น้ำนิมมะทานั่นเอง แต่เมื่อคนไทยสมัยอยุธยา ท่านคงคิดไม่ถึง และเข้าใจว่า แม่น้ำนิมมะทาอยู่ในอินเดียแน่

ท่านคงคิดว่า ถ้าขืนเขียนไปตามที่ในพระคัมภีร์ระบุไว้ ว่าทรงประทับรอยพระพุทธบาทไว้ที่แม่น้ำนิมมะทาแล้ว ความจะไม่เชื่อมต่อกัน ในประเด็นที่ว่า เพราะอะไร พระพุทธองค์ประทับรอยพระบาทไว้ที่แม่น้ำนิมมะทาประเทศอินเดียแล้ว จึงมาประทับรอยพระบาทไว้เขาสัจพันธ์ ซึ่งอยู่เมืองไทยอีก ความไม่น่าจะเป็นไปได้ และจะไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นในประวัติรอยพระพุทธบาทที่เขาวงพระจันทร์ ที่ลพบุรี และประวัติรอยพระพุทธบาท ที่สระบุรี จึงตัดเรื่องที่ทรงประทับรอยพระบาท ที่แม่น้ำนิมมะทาออกเสีย

ถามว่า ทำไมจึงคิดว่าแม่น้ำโขงคือแม่น้ำนิมมะทา ตอบว่า ชาวจามที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งที่เวียดนาม ได้เอาชื่อแม่น้ำในถิ่นของตนในอินเดียมาตั้งเป็นชื่อแม่น้ำ และต่อมากลายเป็นแม่น้ำโขง ก็น่าจะเป็นว่า เมื่อขอมปราบจามปาจนราบคาบแล้ว ก็ยึดดินแดนเป็นของตน แล้วก็เปลี่ยนชื่อแม่น้ำว่า แม่น้ำขอมหลายร้อยปีผ่านไป ก็เพี้ยนไปเป็นแม่น้ำของซึ่งยังมีเมืองเชียงของเป็นพยานอยู่ ต่อมาก็เปลี่ยนไปเป็นแม่น้ำโขงดังปัจจุบัน


(https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/06/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%972.jpg) (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/06/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-1-225x300.jpg)

ถามว่า ทำไมจึงกล้ากล่าวขัดแย้งกับประวัติในพงศาวดาร สมัยพระเจ้าทรงธรรม ที่ว่าทรงพบรอยพระพุทธบาทพร้อมภาพมงคล 108 ที่ฝ่าพระบาท ที่เชิงเขาสัจพันธ์ที่สระบุรี

ตอบว่า เพราะภาพรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี ถูกต้องตามลักขณะของมหาปุริสลักขณะ ในพระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม 16 หน้า 2
        และเห็นภาพแกะสลักรอยพระพุทธบาท ที่แผ่นป้ายประวัติรอยพระพุทธบาทในเมืองไทยทั้งหมดที่ติดไว้ ที่วัดเขาดีสลัก อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี โดยมีอักษรแจ้งไว้ใต้ภาพรอยพระบาทว่า
        “รอยพระบาทจำลองที่วัดพระพุทธบาท สระบุรี”
โปรดดูภาพข้างบน ภาพซ้าย คือ ภาพรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี ภาพขวา คือ ภาพรอยพระพุทธบาทที่เชิงเขาสัจพันธ์ สระบุรี

      ก่อนอื่นมาดูข้อความใน คัมภีร์อรรถกถาธรรมบท ที่ว่า
     “บรรดารอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่ทรงเหยียบย่ำบนแผ่นดินนี้ จะไม่ปรากฏให้ผู้ใดเห็นเลย นอกจากบุคคลที่พระองค์ต้องการให้เขาเห็นเท่านั้น”
      การที่ไม่เห็นนั้น หมายถึงไม่เห็นภาพมงคล 108 ดังภาพข้างขวา แต่ภาพข้างซ้ายเป็นภาพรอยเท้าเปื้อนธรรมดา ไม่เห็นภาพมงคล 108 เมื่อยึดหลักนี้

จึงได้บทสรุปว่า รอยพระพุทธบาท ถ้าพระองค์ประทับไว้เอง จะไม่ปรากฏภาพมงคล ดังภาพข้างซ้าย แต่ถ้ามนุษย์สร้างขึ้น จะมีภาพมงคลทั้งหมด ดังภาพข้างขวา

ask1 ans1 ask1 ans1

ด้วยหลักฐานนี้ ผู้เขียนจึงมั่นใจว่า รอยพระพุทธบาทข้างซ้ายในภาพข้างบน เป็นรอยพระพุทธบาทของพระองค์แน่นอน ส่วนรอยพระพุทธบาทข้างขวา เป็นรอยที่มนุษย์สร้างขึ้น ดังเช่นข้อความในป้ายแผ่นเดียวกันกับที่รอยพระบาทจำลองปรากฏอยู่ มีข้อความปรากฏว่า
    -และสร้างรอยพระพุทธบาทเป็นลายมงคล 108 ประการ ครอบทับ-
     ความหมายก็คือ สลักลายมงคล 108 วางทับหลุมรอยพระบาทนั้นอีกทีหนึ่ง

นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานอีกข้อหนึ่ง คือ เมื่อผู้เขียนเห็นภาพรอยเปื้อนพระพุทธบาท มีภาพรอยเปื้อนเต็มฝ่าพระบาท แสดงว่า ฝ่าพระบาทของพระองค์เรียบเสมอกัน ไม่มีรอยเว้า เหมือนคนธรรมดาถูกต้องตามตำรามหาปุริสลักขณะ ข้อที่หนึ่ง มีนิ้วพระบาทยาวเท่ากันทั้ง 5 นิ้ว ถูกต้องตามมหาปุริสลักขณะข้อที่ 4 จึงมั่นใจว่า พระพุทธองค์เสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้แน่นอน ความมั่นใจนี้จึงเกิดความกล้าหาญที่จะเผยความจริงนี้ อีกทั้งมั่นใจว่า พระพุทธองค์ตรัสให้พระสัจพันธ์อยู่ประกาศพระศาสนาที่ลพบุรีแน่นอน

 ask1 ans1 ask1 ans1

พร้อมกันนี้ขอสันนิษฐานว่า พระสัจพันธ์เป็นผู้สร้างสังเวชนียสถาน 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงธรรมจักร และสถานที่ปรินิพพาน ในเมืองไทย ก่อนมีพระพุทธรูปบูชา สังเวชนียสถานในเมืองไทย คือ พระแท่นศิลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง อุตรดิตถ์ จุดนี้มีครบทั้ง 4 แห่งเพราะสร้างต่อเติมกันมา แต่ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร.?

    จุดที่ 2 นครปฐม หรือทวารวดี มีเหลือเฉพาะพระปฐมเจดีย์ นอกนั้นเหลือแต่ซากอิฐ
    จุดที่ 3 คือเมืองโกสินนารายณ์ ( นั่นคือเมืองกุสินารา) ราชบุรี มีเหลือเฉพาะพระแท่นดงรังสถานที่ปรินิพพานอยู่ที่วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี ส่วนสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ และแสดงธรรมจักรน่าจะอยู่ที่พงตึกสถานที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเหลือแต่ซากแล้ว

 st12 st12 st12

ความทั้งหมดที่กล่าวมา จึงขอสรุปว่า เพราะได้เห็นรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาวงพระจันทร์ เป็นรอยเปื้อนเต็มฝ่าพระบาท แสดงว่าพื้นฝ่าพระบาทของพระองค์ราบเรียบเสมอกัน ไม่มีรอยเว้า เหมือนคนทั่วไป ต้องตามมหาปุริสลักขณะ ข้อที่ 1 และได้เห็นนิ้วพระบาทของพระองค์ ยาวเสมอกันทั้ง 5 นิ้ว ถูกต้องตามมหาปุริสลักขณะข้อที่ 4

จึงขอแสดงความมั่นใจว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดพระสัจพันธ์ ที่ประเทศไทยแน่ เมื่อพระองค์เสด็จมาแน่ แสดงว่าพระพุทธศาสนาได้มาสถิตที่เมืองไทยสมัยที่พระพุทธเจ้ามีพระชนม์อยู่แน่ เมื่อพระพุทธศาสนามาประกาศ ณ แดนนี้โดยพระสัจพันธ์แน่ จึงมั่นใจว่า พระพุทธศาสนาเมืองไทยได้พัฒนามาจากพระสัจพันธ์แน่

และได้เค้าว่า ศาสนวัตถุเมืองไทยที่ยังไม่รู้ว่าใครสร้าง คือ พระปฐมเจดีย์ พระแท่นศิลาอาสน์อุตรดิตถ์ พระแท่นดงรัง เมืองกาญจน์ และโกสินนารายณ์ (กุสินารา) พร้อมพงตึก ที่ราชบุรี พระสัจพันธ์นั่นเองเป็นผู้สร้าง ขอผู้อ่านช่วยโปรดพิจารณาด้วย



ขอบคุณภาพและบทความจาก
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_591853 (https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_591853)
วันที่ 30 มิถุนายน 2560 - 13:00 น.


หัวข้อ: Re: ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: sinsae ที่ กันยายน 24, 2018, 11:19:57 am
สุดยอดในการแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวผม นั้น จะจริง จะแท้ นั้นเคารพอยู่แล้ว สำหรับที่ พระพุทธบาท และ ลพบุรี ทราบมาจากการเล่า ของ ธัมมะวังโส นั้น ครูอาจารย์ในสายกรรมฐาน ล้วนใช้เส้นทาง อยุธยา บ้านหมอ พระพุทธบาท โคกสำโรง ตากฟ้า เพื่อไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ระหว่างจาริก ( ธุดงค์ )

อันว่า สมัยก่อน นั้นการจะขึ้นไปนมัสการ รอยพระพุทธบาท บนยอดเขาวงพระจันทร์ คงต้องใช้เวลาเป็นวัน เพราะไม่มีบันได บริการอย่างในยุคนี้ ผมลองนึกภาพดูว่า สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ นั้น เส้นทางขึ้นไป ของพวกฤาษี น่าจะลำบาก พอสมควร

แต่ เพราะการขึ้นไปลำบาก มันจึงทำให้ผู้อยู่ด้านบน มีโอกาสในธรรมมากขึ้น สมัยก่อน ต้นไม้ไม่ถูกตัดรอน อย่างในปัจจุบัน คาดว่า น่าจะร่มรื่น กว่าที่เห็นในปัจจุบัน

 :25: :25: thk56 like1


หัวข้อ: Re: ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: bajang ที่ กันยายน 24, 2018, 11:32:54 am
ได้เปิด ความรู้ขึ้นบ้าง ที่จริง ส่วนตัว ก็คิดว่า รอยเท้า ในประเทศไทย ทั้งหมด เป็นของปลอม เกิดขึ้นตามความเชื่อของบุคคล ต่าง ๆ ความลับจริง ๆ แล้ว อาจจะเป็นรอย สร้าง


อย่างเช่น รอยยอดนิยม บนเขา คิชกูฏ จันทบุรี อีกรอย ที่สงสัย ตะหงิด ๆๆ ว่า มันถูกจัดให้เป็น รอย ที่ไว้หาเงิน ของพวกพุทธพาณิชย์ หรือป่าว เพราะจริง ๆ แล้ว รอยพระพุทธบาท คนที่มีสัมผัสใน พุทธคุณ น่าจะสัมผัสได้ เหมือนการไหว้กราบ สังเวชนิยสถาน เคยไปแล้วรู้สึกได้ จริง ๆ ว่า มีพลังพุทธคุณ อยู่ ไม่ต้องตั้งจิตสมาธิ อะไร ก็สัมผัสได้ทันที อย่างนี้

 :c017:


หัวข้อ: Re: ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: paitong ที่ กันยายน 25, 2018, 11:01:11 am
หรือว่า รอยพระพุทธบาท ที่กล่าวกันเป็น ตำนาน นี้ไม่ใช่รอยพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า
ผมจำได้ว่า พระอาจารย์ ท่านเคยโพสต์ใน กระทู้ แต่จำไม่ได้ว่า กระทู้ไหน ว่า

รอยพระพุทธบาท ที่มีในพระไตรปิฏก มีเพียงรอยเดียว คือ รอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธเข้าประทับไว้ที่ ประตูสังกัสสะนคร คราเสด็จลงจากเทวโลก แต่รอยพระพุทธบาทนี้ ก็ไม่รู้อยู่ตรงไหน

สังกัสสะนคร คือ ที่ไหน และ อยู่ตรงไหน อยากรู้มาก ๆ เลย ใครพอจะบอกได้บ้างครับ

 thk56 like1 like1 like1


หัวข้อ: Re: ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: Be-boy ที่ กันยายน 25, 2018, 12:38:26 pm
 thk56 like1 like1


หัวข้อ: Re: ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 26, 2018, 10:51:07 am
ก็ดี นะ ที่มี่การวิจารณ์ ข้อสงสัย
ส่วนจะจริง แท้ อย่างไร ก็อยู่ที่ ดุลย์พินิจของแต่ละท่าน

 :49:


หัวข้อ: Re: ปฏิกิริยาจาก การเสนอบทความ เรื่องพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมา จ.ลพบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ ตุลาคม 04, 2018, 02:06:26 pm
 st12 st12 st12