ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นพุทธบริษัท ไม่สมควรใช้ เทคโนโลยี อันนี้ถูกต้องหรือไม่คะ  (อ่าน 1997 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

   มาตามความเห็นเพื่อน ๆ คะ บางท่านมักจะกล่าวว่า เทคโนโลยี ไม่มีความจำเป็นต่อชาวพุทธ เช่น ไม่ควรตั้งสถานีวิทยุ  ไม่ควรใช้อินเตอร์เน็ต ไม่ควรทำรายการโทรทัศน์ ไม่ควรใช้สื่อใด ๆ เพื่อการเผยแผ่ เพราะชาวพุทธเป็นผูรักษ์ สันโดษ ดังนั้นเทคโนโลยี จึงไม่มีความจำเป็นต่อ ชาวพุทธบริษัท


   ไม่ทราบ พวกเพื่อน ๆ มีความเห็นกับ เรื่องนี้อย่างไรกันคะ


    :49: :s_hi:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็ คิดว่า ถ้าเป็น พระภิกษุ เทคโนโลยี ก็อาจจะไม่มีความจำเป็น นะคะ เพราะการภาวนา ไม่ต้องใช้ เทคโนโลยี นะคะ ส่วนพุทธบริษํท ที่เป็นอุบาสก อุบาสิกา นั้นคิดว่า น่าจะมีความจำเป็นอยู่คะ

   :88:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28444
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ask1

   มาตามความเห็นเพื่อน ๆ คะ บางท่านมักจะกล่าวว่า เทคโนโลยี ไม่มีความจำเป็นต่อชาวพุทธ เช่น ไม่ควรตั้งสถานีวิทยุ  ไม่ควรใช้อินเตอร์เน็ต ไม่ควรทำรายการโทรทัศน์ ไม่ควรใช้สื่อใด ๆ เพื่อการเผยแผ่ เพราะชาวพุทธเป็นผูรักษ์ สันโดษ ดังนั้นเทคโนโลยี จึงไม่มีความจำเป็นต่อ ชาวพุทธบริษัท


   ไม่ทราบ พวกเพื่อน ๆ มีความเห็นกับ เรื่องนี้อย่างไรกันคะ


    :49: :s_hi:




   "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติ ทรงสั่งสอนอย่างนี้."
________________________________________
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=1358&Z=1513


    [๕๘๐] สุภมาณพ โตเทยยบุตร พอนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
    ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอแล
    เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ ปรากฏความเลวและความประณีต
    คือ มนุษย์ทั้งหลายย่อมปรากฏมีอายุสั้น มีอายุยืน มีโรคมาก มีโรคน้อย
    มีผิวพรรณทรามมีผิวพรรณงาม มีศักดาน้อย มีศักดามาก มีโภคะน้อย มีโภคะมาก
    เกิดในสกุลต่ำ เกิดในสกุลสูง ไร้ปัญญา มีปัญญา
    ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอแล
    เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ ปรากฏความเลวและความประณีตฯ


    [๕๘๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้ ฯ

________________________________________________
จูฬกัมมวิภังคสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=14&A=7623&Z=7798&pagebreak=0


      ans1 ans1 ans1
     
      คติทางพุทธศาสนาเชื่อว่า ในโลกนี้ไม่มีเรื่่องบังเอิญ ทุกเรื่่องที่เกิด มีเหตุและปัจจัยทำให้เกิดทั้งสิ้น
      ทุกคนถูกกำหนดมาด้วยบุพกรรมในอดีต ให้มีฐานะ ให้มีหน้าที่บางอย่าง ที่เหมือนและต่างกันไป

      ดังนั้น การงานอันใดควร การงานอันใดไม่ควร ยากที่จะตัดสิน
      ไม่ว่าใครจะนำบรรทัดฐานใดมาตัดสินก็ตาม ทุกบรรทัดฐานไม่ใช่เหตุ
      เหตุที่แท้จริง คือ กฏแห่งกรรม
      ธรรมชาติของกฏแห่งกรรมไม่เปิดโอกาสให้อุทธรณ์ หรือฎีกา
      กฏแห่งกรรม เปรียบเสมือนศาลสูงสุด เมื่อตัดสินแล้ว
      จะถูกใจหรือไม่ก็ตาม ทุกคนจำเป็นต้องยอมรับสถานเดียว

      หน้าที่ใคร..ก็หน้าที่ของเค้า กรรมใคร..ก็กรรมของเค้า
      ไม่ควรไปแทรกแซงหน้าที่หรือกรรมของคนอื่่น
      คำตอบนี้หากไม่ถูกใจใคร ก็เรื่องของเค้า

     
      พระพุทธเจ้าถามว่า หากมีไฟไหม้ที่หัวเรา ระหว่างการดับไฟที่หัวเรา กับ การรู้อริยสัจ
      เราควรทำอะไรก่อน.? ขอให้เพื่อนๆ พิจารณาไตร่ตรองให้ดีๆ ไม่ต้องรีบตอบ
      คุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

       :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ