ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตน, คนอื่นทำคนอื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้  (อ่าน 2949 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เรื่อง : อุบาสกชื่อจุลกาล

    ข้อความเบื้องต้น               
    พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภอุบาสกชื่อจุลกาล ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อตฺตนาว กตํ ปาปํ" เป็นต้น.

    จุลกาลถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร               
    ความพิสดารว่า วันหนึ่ง พวกโจรขุดอุโมงค์ อันเจ้าของทั้งหลายติดตามแล้ว จึงทิ้งห่อภัณฑะไว้ข้างหน้าของอุบาสกผู้ฟังธรรมกถาในวิหารตลอดราตรี เดินออกจากวิหารแต่เช้าตรู่มาสู่กรุงสาวัตถีแล้ว ก็หลบหนีไป
    โดยนัยที่กล่าวแล้วในเรื่องมหากาลนั่นแล.
    พวกมนุษย์เห็นเข้าแล้ว พูดว่า
    "คนนี้ ทำโจรกรรมในราตรีแล้ว ทำทีเหมือนฟังธรรมเที่ยวไป ท่านทั้งหลายจงช่วยกันจับมันไว้ ดังนี้แล้ว โบยอุบาสกนั้น.


    จุลกาลรอดตายเพราะนางกุมภทาสีช่วย               
    หมู่นางกุมภทาสีเดินไปท่าน้ำ ประสบเหตุนั้น จึงกล่าวว่า
    "นายท่านทั้งหลายจงหลีกไป, ท่านผู้นี้ย่อมไม่ทำกรรมเห็นปานนั้น" ดังนี้แล้ว ให้มนุษย์พวกนั้นปล่อยเขาแล้ว.
    เขาไปวิหารบอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
    "ท่านขอรับ ก็กระผมถูกมนุษย์ทั้งหลายให้ฉิบหายแล้ว, กระผมได้ชีวิตเพราะอาศัยพวกนางกุมภทาสี."
    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลความนั้นแด่พระตถาคต.




    จะเศร้าหมองหรือผ่องแผ้วเพราะตน               
     พระศาสดาทรงสดับถ้อยคำของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสว่า
    "ภิกษุทั้งหลาย จุลกาลอุบาสกได้ชีวิตเพราะอาศัยพวกนางกุมภทาสี และความที่ตนไม่ใช่ผู้ทำ ด้วยว่า ธรรมดาสัตว์เหล่านี้ทำบาปกรรมด้วยตนแล้ว ย่อมเศร้าหมองด้วยตนเอง ในอบายมีนรกเป็นต้น, ส่วนสัตว์ทั้งหลายทำกุศลแล้ว ไปสู่สุคติและนิพพาน ย่อมชื่อว่าบริสุทธิ์ได้ด้วยตนเอง"
    ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
    ๙.    อตฺตนา ว กตํ ปาปํ       อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
        อตฺตนา อกตํ ปาปํ       อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ
        สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ       นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย.

        บาปอันผู้ใดทำแล้วด้วยตนเอง ผู้นั้นย่อมเศร้าหมองด้วยตน;
        บาปอันผู้ใดไม่ทำด้วยตน ผู้นั้นย่อมบริสุทธิ์ด้วยตนเอง;
        ความบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตน,
        คนอื่นทำคนอื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้.


     แก้อรรถ               
     ความแห่งพระคาถานั้นว่า :-
     อกุศลกรรมเป็นกรรมอันผู้ใดทำแล้วด้วยตน ผู้นั้นเมื่อเสวยทุกข์ในอบาย ๔ ชื่อว่าเศร้าหมองด้วยตนเอง; ส่วนบาปอันผู้ใดไม่ได้ทำด้วยตน ผู้นั้นเมื่อไปสู่สุคติและนิพพาน ชื่อว่าย่อมบริสุทธิ์ด้วยตนเอง,
     ความบริสุทธิ์กล่าวคือกุศลกรรม และความไม่บริสุทธิ์กล่าวคืออกุศลกรรม เป็นของเฉพาะตน คือ ย่อมเผล็ดผลเฉพาะในตนของสัตว์ผู้ทำทั้งหลาย. บุคคลอื่นทำบุคคลอื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้ คือให้หมดจดไม่ได้เลย ให้เศร้าหมองไม่ได้เลย."

     ในกาลจบเทศนา จุลกาลตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล. พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่บริษัทผู้ประชุมกัน ดังนี้แล.


               เรื่องอุบาสกชื่อจุลกาล จบ. 

       
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อัตตวรรคที่ ๑๒
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=22&p=9
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=692&Z=720
ขอบคุณภาพจาก
http://53010914905.xp3.biz/ , http://www.dhammajak.net/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

pongsatorn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า