ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - รักหนอ
หน้า: 1 ... 7 8 [9]
321  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / เกี่ยวกับ หลวงพ่อ พุทโธ วัดปากเพรียว ( วัดศรีบุรีรตนาราม ) เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2010, 06:49:48 am


" หลวงพ่อพุทโธ" เป็นพระพุทธรูป สร้างในสมัยพระครูวัตตโสภณ (สิน) เป็นทั้งเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดปากเพรียว พ.ศ.2473 (บ้างก็ว่า สร้างในสมัย สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7)ชาวปากเพรียว ได้ขอเศียรพระพุทธรูปองค์นี้มาจากหลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อปาน เป็นพระทรงอภิญญา ท่านสร้างเฉพาะเศียรพระ ส่วนชาวสระบุรีได้ร่วมกันสร้างองค์พระประธานขึ้นรับพระเศียร เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวในวัดปากเพรียว



ชาวสระบุรี นิยมมากราบไหว้บนบานศาลกล่าว หลวงพ่อพุทโธ ด้วยพวงมาลัย 3 พวง หรือ 9 พวง พร้อมด้วย มะพร้าวหอมอ่อน ส่วนใหญ่จะบนด้วยพวงมาลัย 9 พวง มะพร้าว 1 ลูก อธิษฐานในใจขอในสิ่งที่เป็นไปได้จากหลวงพ่อพุทโธ ประสบผลสำเร็จไปหลายราย

พ.ศ.2512 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน จ.สระบุรี ครั้งนั้นว่ากันว่าเป็นไฟไหม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ ไทย เพลิงเผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปมาก แม้แต่โรง เรียนวัดปากเพรียว พร้อมวิหารหลวงพ่อพุทโธ ก็ถูกเพลิงเผาไหม้จนหมด แต่ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ไฟไม่ได้ทำองค์หลวงพ่อพุทโธ เกิดความชำรุดเสียหายแต่อย่างใด



เหรียญหลวงพ่อพุทโธ

"วัดปากเพรียว"หรือ "วัดศรีบุรีรตนาราม" ตั้งอยู่ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นปี พ.ศ.2092

เมื่อครั้งตอนสร้างกรุงเทพ มหานคร พ.ศ.2325 มีการลำเลียงเสาตะเคียน ล่องมาตามลำน้ำป่าสัก เพื่อเอาไปสร้างเป็นเสาหลัก เมือง ได้มาพักที่หน้าวัดปากเพรียว แต่เสาไม้ตะเคียนต้นนี้คด จึงไม่ได้เอาไป ภายหลังไปจมอยู่ที่เมืองใหม่ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี

ต่อมาได้อัญเชิญขึ้นไปเก็บไว้ที่วัดสูง อ.เสาไห้ เรียกกันว่า เสาร้องไห้แม่นางตะเคียน

เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 1 ยังดำรงตำแหน่งสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เข้าตีเวียงจันทน์ ประ เทศลาว ได้อัญเชิญพระแก้วมรกต ล่องเรือมาพักที่วัดปากเพรียว สม เด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มารับที่เมืองสระบุรี มีงานฉลองสม โภชอยู่ 3 วัน แล้วนำลงเรือที่วัดไปยังกรุง ธนบุรี (พงศาวดารกรุงธนบุรี) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดปากเพรียวในอดีต

สมัยที่ พระศรีสุทัสสมุนี เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี สมัยนั้นได้มาจำพรรษาอยู่วัดปากเพรียว ได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า "วัดศรีบุรีรตนาราม" ใช้เรียกกันมาตราบทุกวันนี้

วัดปากเพรียว ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ เมื่อสมัยหลวงพิริกิจเกษม มีการก่อสร้างมากมาย ได้ก่อสร้างเสนาสนะบูรณะซ่องแซม ปูชนียวัตถุสถานที่ต่างๆ มีการสร้างศาลาการเปรียญ สร้างถนนหนทาง รวมทั้งสร้างวิหารหลวงพ่อพุทโธ

" หลวงพ่อพุทโธ" เป็นพระพุทธรูป สร้างในสมัยพระครูวัตตโสภณ (สิน) เป็นทั้งเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดปากเพรียว พ.ศ.2473 (บ้างก็ว่า สร้างในสมัย สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7)ชาวปากเพรียว ได้ขอเศียรพระพุทธรูปองค์นี้มาจากหลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อปาน เป็นพระทรงอภิญญา ท่านสร้างเฉพาะเศียรพระ ส่วนชาวสระบุรีได้ร่วมกันสร้างองค์พระประธานขึ้นรับพระเศียร เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวในวัดปากเพรียว

"หลวงพ่อพุทโธ" เป็นพระพุทธรูปแบบสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดปากเพรียว ข้างพระอุโบสถวัดปากเพรียว มีหน้าตักกว้าง 2 เมตร 30 เซนติเมตร สูง 3 เมตร 50 เซนติ เมตร เมื่อนำเศียรมาประกอบเข้า ด้วยกันแล้ว มีลักษณะงดงาม พระพักตร์อิ่มเอิบ ยิ้มแย้ม มีเมตตา

ชาวสระบุรี นิยมมากราบไหว้บนบานศาลกล่าว หลวงพ่อพุทโธ ด้วยพวงมาลัย 3 พวง หรือ 9 พวง พร้อมด้วย มะพร้าวหอมอ่อน ส่วนใหญ่จะบนด้วยพวงมาลัย 9 พวง มะพร้าว 1 ลูก อธิษฐานในใจขอในสิ่งที่เป็นไปได้จากหลวงพ่อพุทโธ ประสบผลสำเร็จไปหลายราย พ.ศ.2512 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน จ.สระบุรี ครั้งนั้นว่ากันว่าเป็นไฟไหม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ ไทย เพลิงเผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปมาก แม้แต่โรง เรียนวัดปากเพรียว พร้อมวิหารหลวงพ่อพุทโธ ก็ถูกเพลิงเผาไหม้จนหมด แต่ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ไฟไม่ได้ทำองค์หลวงพ่อพุทโธ เกิดความชำรุดเสียหายแต่อย่างใด
322  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / วัดที่น่าจะมีตำนาน เกี่ยวกับพระกรรมฐาน และ พระแก้วมรกต ในสระบุรี เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2010, 06:41:00 am
วัดศรีบุรีรตนาราม

วัดศรีบุรีรัตนาราม มีลักษณะเด่นที่ตัวฐานของพระอุโบสถ ซึ่งมีรูปแบบคล้ายเรือสำเภาซึ่งมีความสวยงามมาก ลวดลายต่างๆ รอบอุโบสถก็งดงามเช่นกัน มีความอ่อนช้อยเป็นลวดลายที่วิจิตร บริเวณรอบๆ วัดมีบรรยากาศร่มรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พุทธศาสนิกชน มักจะมาสักการะบูชา พระแก้วมรกตพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร "พระแก้วมรกต" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์สำคัญที่สุดของชาติไทย เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมืองเชียงราย ต่อมาย้ายมาอยู่ที่เมืองลำปางและเชียงใหม่ ต่อมาพระไชยเชษฐา (เจ้าลาว) ได้มาอัญเชิญไปประดิษฐานเพื่อเป็นที่สักการะยังเมืองลาวเป็นการชั่วคราวแล้ว ไม่ยอมคืนไทย

ในปี พ.ศ. 2320 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช รัชกาลที่ 1) เป็นแม่ทัพ ยกไปตีเมืองเวียงจันทน์ได้ จึงได้อัญเชิญ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต กลับคืนมาประดิษฐานไว้ในราชอาณาจักรไทยดังเดิม

ในคราวสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ยาตราทัพกลับประเทศไทย เมือเดินทัพมาถึงจังหวัดสระบุรี ได้หยุดพำนักที่วัดศรีบุรีรตนาราม (วัดปากเพรียว) พร้อมกับอัญเชิญ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต ประดิษฐานไว้ที่วัดนี้ เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเตรียมการรับเสด็จและเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่มโหฬาร ณ กรุงธนบุรี

ต่อมาสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ พระมหาอุปราช เสด็จขึ้นมารับและอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต โดยขบวนแห่พยุหยาตราทางชลมารค อย่างมโหฬารเป็นประวัติการณ์ เมื่อเดือนยี่ ข้างแรม ปีกุน พ.ศ. 2322 ขบวนแห่พยุหยาตราได้ล่องมาถึงกรุงธนบุรี เมื่อวันอังคาร ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4 ปี พ.ศ. 2322



ใบลาน คัมภีร์เก่าในวัด ที่ยังหลงเหลืออยู่



เหรียญเจ้าคุณหนู ถือว่าเป็นที่นิยมในหมู่เซียนพระเครื่อง

ไหว้พระเก้าวัด
www.madchima.org/forum/index.php?topic=378.0
323  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / บุญใหญ่ระดับประเทศ ตักบาตรดอกไม้ประจำปี 25 - 27 ก.ค.53 เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2010, 06:28:12 am
รักหนอ ยังไม่เคยไป ปีนี้คงต้องไปแล้ว เห็นภาพ

การทำบุญแล้วชื่นใจ

ได้กราบ รอยพระพุทธบาท 1 ใน 5 ( สุุวรรณปัพพเต ) ก็ถือว่าเป็นบุญใหญ่


รอยพระพุทธบาท

รอยพระพุทธบาท

มณฑปที่ครอบรอยพระพุทธบาท
อนุโมทนา ด้วยคะ

 :25: :25: :25:
324  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: เมื่อเรานั่ง กรรมฐาน อยู่ แล้ว เกิดเวทนา ขึ้นควรทำอย่างไร เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:58:08 pm
การชนะเวทนา เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ คะ แต่จิตต้อง สูง

เคยฟังพระอาจารย์ เล่าตอนที่ท่าน อุบัติเหตุ ลวดปัก นิ้วกระดูก กว่าจะผ่าตัด ทั้ง ๆ ที่ลวดก็เสียบอยู่อย่างนั้น

ท่านบอกว่า นั่งกรรมฐาน แล้วดับเวทนาเลยจนเข้าผ่่าตัด ( จริงแท้อย่างไรต้องให้ ศิษย์ที่ใกล้ชิด ขยายต่อนะคะ )



วิธี การชนะเวทนา ในขณะภาวนานั้น พระอาจารย์ แนะวิธีดังนี้คะ

   1. อธิษฐาน กรรมฐาน โดยกำหนดเวลา ตามความสามารถ จริง เมื่อภาวนาให้กำหนด นับ ด้วยคะ

   2.เมื่อถึงเวลาที่กำหนด แล้ว ให้ออกจากกรรมฐาน ในรอบต่อไป ก็กำหนดเพิ่มเวลาขึ้ัน สัก 5 นาที

     แล้วกำหนดนับ เหมือนเดิม ตอนภาวนานั้นให้ตั้งเสียงนาฬิกา ไว้ก่อน

   3. กำหนดปฏิบัติ ตามเสียงในการสอบพระกรรมฐาน

   4. มาตรฐาน ที่ควรจะเป็น คะสำหรับนักภาวนาที่ดีแล้ว ควรอยู่สัก 1 ชั่วโมง ในการภาวนาแต่ละครั้ง

   ส่วนมากรักหนอ จะนั่งอยู่ที่ 2 ชั่วโมงคะแต่ละครั้ง ถ้าปฏิบัติตามขั้นตอบพระกรรมฐานกำหนด ทั้ง ส่วนอนุโลม และ ปฏิโลม ของพระธรรมปีติ ก็จะใช้เวลาประมาณนี้ คะไม่มีความทรมาน หรือ เหน็บคะ คงจะเคยชินแล้วคะ

325  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ทำอย่างไร จะชนะ นิวรณ์ 5 ได้เสียที เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:42:44 pm
จากประสพการณ์ ที่ได้ติดตามกับพระอาจารย์ คะ


    หมั่น อธิษฐาน กรรมฐาน และปฏิบัติ ตามที่อธิษฐาน คะ

    นิวรณ์ จะไม่เกิด เลยคะ ถ้าเราทำตามขั้นตอน ที่ได้อธิษฐาน

     เคยนั่งกรรมฐาน กับพระอาจารย์ อยู่ 2 ครั้ง

       ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อคะ สามารถ นั่งกรรมฐาน กับท่านได้ 2 ชั่วโมง


       โดยที่มีความรูสึก เหมือนนั่งสัก 10 นาทีเองคะ

     ในขณะ นั้นก็เพียง ปฏิบัติ ตามเสียงนำของพระอาจารย์ และ ภาวนาตามเท่านั้นคะ

   คุณวิจิตรชัย แสดงว่ายังไม่เคย พบพระอาจารย์แน่ ๆ และยังไม่ได้ปฏิบัติ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

   จึงทำให้ นิวรณ์ ดับลงไม่ได้

326  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: การที่เราทำสมาธิ เป็นการภาวนา การที่เราฟังธรรม จัดเป็นการภาวนาหรือไม่ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:36:02 pm
แหม น่าจะรู้อยู่ในใจแล้วนะคะ ว่าเป็นการภาวนาได้คะ

   ถ้าจะยกองค์ธรรมรวม ๆ ก็คือความไม่ประมาท คะ


      ความไม่ประมาท เป็นองค์ธรรมรวม แห่งธรรมทั้งปวง


         ความไม่ประมาืท เป็นเหตุให้เกิด สติ
         
               สติเป็นเหตุ ให้เกิด สัมปชัญญะ
             
                  สัปมชัญญะ เป็นเหตุให้เกิด ญาณ คะ

ดังนั้นการฟังธรรม จัดเป็นการภาวนาส่วนหนึ่งคะ ชื่อว่า ธัสมัสสวนามัย บุญเกิดจากการฟังธรรม

   ถ้าขณะที่ฟัง เจริญ ธรรม เข้าถึง ธรรม อันเป็นส่วน ธรรมคุณ แล้ว ก็เป็นการภาวนา คะ

     ไม่ว่า จะเป็นการภาวนา แบบไหน ถ้าให้ผลออกมา แล้ว ดับกิเลส ทำกิเลสให้เบาบาง เป็นเครื่องสนับสนุน

       พระนิพพาน ชื่อว่าเป็นการภาวนาธรรม โดยชอบธรรม



วันนี้ รักหนอ มาทำหน้าที่แทน หมวยนีย์ นะคะ เพราะว่า หมวยนีย์ ติดงาน ต.จ.ว. คะ ประมาณ 20 วันคะ
327  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เกี่ยวกับเรื่อง เซ็น เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:25:35 pm
หาชม มาตั้งนาน พึ่งจะได้ดู ครั้งนี้


ขอบคุณ กับเนื้อหา ของเรื่องเซ็น อ่านแล้ว รู้สึกเคารพ พระอาจารย์ ตั๊กม้อ มาก ๆ เลยคะ

 :25: :25: :88: :88:

328  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ใช้สัตว์ทดลอง ทางการแพทย์ เป็นบาป หรือป่าวครับ เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:17:05 pm
การแพทย์ เพื่อมวลมนุษย์ชาติ คะ ถึงแม้ว่าสัตว์เหล่านั้่น ต้องสิ้นชีวิต

แต่ก็เป็นเหตุจำเป็น บุญ และ บาป อยู่ใกล้กัน ดูที่เจตนาด้วยคะ

รักหนอ มีเพื่อนเป็นคุณหมอสัตว์แพทย์ เคยเล่าให้ฟังว่าครั้งแรกที่ผ่าท้องกบ นั้นนอนร้องไห้ไปหลายวัน

แต่ เพราะความรู้ตรงนั้นก็ได้ช่วยสัตว์ อีกหลายตัว

   จะตอบให้เข้าใจง่าย ๆ นะคะว่า เจตนาเป็นตัวกรรม นะคะ

 


เพื่อความสบายใจ ก็ขอให้ทำบุญอุทิศ ให้กับสรรพสัตว์ ที่เราได้เป็นคู่เวร คู่กรรม กันมา

ตราบใดที่เรายังต้องใช้ ชีวิตอยู่ ในภพ สังสารวัฏ จะให้พ้นจากความไม่สบายใจ ไม่สบายกาย เป็นไปไม่ได้คะ

ดังนั้น พระพุทธองค์จึงทรงตรัสสอน ในอภิณหปัจจเวกขณ ไว้ว่า

     เรามีความแก่เป็น ธรรมดา

     เรามีความเจ็บเป็น ธรรมดา

     เรามีความตายเป็น ธรรมดา

     เรามีความเป็นไปต่าง ๆ คือว่าจะมีความพรัดพราก จากของรัก ของชอบใจ ทั้งหลายทั้งปวง

     เรามีกรรมเป็นกำเนิด เป็นเผ่าพันธ์ เป็นพวกพ้อง เป็นที่พึ่งอาศัย เป็นมรดก ไม่ว่าเราทำกรรมใด ๆ ไว้
   
    ดี หรือ ชั่ว เราจักเป็นผู้รับ ผลของกรรม คะ






 :88: :88: :25: :25:
329  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: แก้กรรม ด้วยสังฆทาน ทำได้จริง หรือ เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:08:09 pm
สังฆทาน จะตัดกรรม ได้หรือไม่ สำหรับ ชาวพุทธ นั้นไม่สงสัยหรอกคะ

แต่ขึ้นชื่อว่า บุญ เป็นความอิ่มใจ เต็มใจ พอใจ มีความสุข เป็นพื้นฐาน ของคนดี เทวดา

ทำแล้ว สบายใจกว่า ไม่ได้ทำ

เพราะเมื่อขณะที่ทำ ย่อมทำให้ใจ ร่าเริง ในบุญกุศล บางครั้ง ก็จะช่วยลดภาวะ เครียด ไม่รู้ มืดมน

ปัญหาบางอย่าง อาจจะหมดไปได้ เพราะ ความแจ่มใสแห่งจิต ทำให้เกิดปัญญา


ขึ้นชื่อว่า บุญ และ ทาน และ ภาวนา เป็น คุณชาติ สมบัติของมนุษย์ทุกคนคะ



 :88: :88: :25: :25:
330  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ศึกษาธรรมะ มาก ๆ เพื่อสิ่งใดกัน เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:03:15 pm
อ้างถึง
การศึกษาธรรมะ มาก ๆ นั้นเพื่ออะไรกัน

ศึกษาเพื่อรู้ วิธีการปฏิบัติ คะ

    ต้องมีคำถามต่อไปนะ คะว่า แล้วเราจะปฏิบัติธรรม เพื่ออะไร ?

        ปฏิบัติ เพื่อ เป็น เทวดา พรหม พระโพธิสัตว์ และ พระอรหันต์ คะ

            ต้องถามต่อไปอีกว่า  แล้วจะเป็น เทวดา พรหม พระโพธิสัตว์ และ พระอรหันต์ ไปเพื่ออะไร ?

                เป็นเทวดา เพื่อให้เกิดความร่มเย็น ในสังคมคะ เพราะถ้ามีคนดีเยอะ ๆ เราก็ไม่เดือดร้อน คะ

                     เป็นพรหม เพื่อให้จิต เปี่ยมไปด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คะ

                            เป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อช่วยเหลือ มหาชน คะ

                                  เป็นพระอรหันต์ ก็เพื่อ พ้นจาก วัฏฏะสงสาร นี้คะ


      หวังว่าคงชื่นใจ กับคำตอบนะคะ


 :88: :88: :25: :25:

331  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / มัชฌิมา นี้มีสาเหตุมาจาก พระอินทร์ใช่ไหมคะ เมื่อ: มิถุนายน 30, 2010, 08:44:54 am
รักหนอ ได้ดู วีดีโอ ตอนที่ พระมหาบุรุึษได้ ปฏิบัติภาวนา ทรมานตนจนเป็นเวลา 6 ปี

ต่อมา พระอินทร์ เหมือนจะมาเตือนพระพุทธองค์ ด้วยการดีดพิณ ที่มี การขึงสายต่างกัน

เส้นหนึ่งตึง พอดีด ก็ขาด

เส้นหนึ่งหย่อน พอดีด ก็เสียงไม่กังวาน

เส้นหนึ่งขึงไม่ตีงไม่หย่อน ( พอดี ) พอดีดเสียงก็กังวานดี

พระมหาบุรุษ จึงได้เปลี่ยน พระทัยหันกลับมาปฏิบัติ แบบ ไม่โต่ง ไปทางซ้าย หรือ ทางขวา

ทำให้กลุ่ม ปัญจวัคคีย์ หนีจากพระองค์ไป

==========================================

จากเรื่อง วิเคราะห์ โดยส่วนตัวเห็นว่า พระอินทร์มาชี้นำทางสายกลาง แก่พระมหาบุรุษใช่หรือป่าวคะ

 :25: :25:
332  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: เรื่องของคุณยาย ที่อยู่แต่ในบ้าน 50 ปี ที่พระอาจารย์พูดถึงบ่อย ๆ เมื่อ: มิถุนายน 30, 2010, 08:39:29 am
เมื่อได้ดู วีดีโอ ตอนนี้จบแล้ว

น้ำตาอดจะไหล ออกมาไม่ได้ เพราะสงสารคุณยาย ถึงแม้ทุกข์ ขนาดนี้ ก็ยังทนกับความทุกข์ที่มีอยู่


สิ่งที่ประทับใจ ก็คือ คุณยาย จะกราบไหว้พระ สวดมนต์เป็นประจำ

พระพุทธรูป องค์หนึ่ง กับหลักธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งทางจิตใจ ของคุณยาย

คนที่ท้อถอย ควรจะดูคะ เรื่องนี้

อนุโมทนา กับ พี่นีย์ด้วยนะคะ ที่อุตส่าห์ ไปหามาให้ดู

 :25: :25:
333  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / เพื่อนทุกข์ เพราะัการเรียน เมื่อ: มิถุนายน 30, 2010, 08:36:27 am
เพื่อนรักหนอ คนหนึ่งก็พบกับอุปสรรค เปลี่ยนอารมณ์ เป็นอีกคนเลย

เนื่องด้วย เพื่อนคนนี้ ตกงาน แต่ก็ยังพยายามเ้รียน ทำให้เกิดการกู้เงิน เพื่อเรียนทั้งในระบบ และ นอกระบบ

เพราะเรียน ม.เอกชน คะ ค่าเทอมก็ หลัก 4 หมืี่้่น ขึ้นคะ

============================================

ิแต่เพื่อน คนนี้ถึงจะทุกข์ แต่ก็พยายามหางาน จ๊อบเล็ก ๆ ทำเช่น รับจ้างทำบัญชี ขายขนม ส่งขนม

เป็นต้น เพราะความทุกข์ ที่เกิดขึ้นกับเธอ ทำให้เธอเปลี่ยนอารมณ์ เป็นคนเก็บตัวไม่เหมือนเมื่อก่อน

แต่ ก็เป็นคนที่เยือกเย็น เป็นผู้ใหญ่ เพิ่มขึ้น และสนใจการภาวนามากขึ้น

=================================================

ที่เล่าให้ฟัง ก็เพื่อนให้ เพื่อน ๆ ที่มีความทุกข์ อยู่ ไม่ว่าจะทุกข์ เรื่องอะไร ๆ เราก็ต้องฟันฝ่าไปให้ได้นะคะ

อย่าท้อถอย อย่าทำผิด

 :25: :25: :25:
334  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: คนที่อยู่กันมา 10 กว่าปีต้องเลิกร้างกัน จะช่วยอย่างไรดี เมื่อ: มิถุนายน 30, 2010, 08:20:16 am
อันความรัก เมื่อเกิดขึ้นแก่ใครแล้ว ย่อมทำให้พบแต่ความทุกข์

มีความปรารถนา สิ่งใด ไม่ได้ สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์

ความพลัดพราก จากสิ่งที่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์

ความประสบกับสิ่ง ไม่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์

=======================================



พระพุทธองค์ สอนให้เราฉลาด ในการดำเนิน ชีวิต นะคะ

=======================================

รักหนอ ก็พึ่งผ่าน เหตุการณ์ เรื่องรักมาไม่นาน ตอนนี้ปล่อยวาง ได้แล้วคะ

ส่วนผู้ชาย ที่เราหลงรัก นั้นตอนนี้ก็เตรียมเข้าวิวาห์ กับเพื่อน รักหนอ แล้ว

เฮ้อ .........

===========================================
335  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: เหนื่อยเมื่อยล้า แก้ด้วยกรรมฐานได้หรือป่าวคะ เมื่อ: มิถุนายน 30, 2010, 08:16:37 am
สาธุ กับลุงกิตติศักดิ์ ด้วยคะ

 :25: :25: :25:

และขอให้คุณ ก้านตอง นั้นผ่านอุปสรรคไปได้

หัวอกเดียวกัน คะ พี่ก็เรียนอยู่แต่ตอนนี้เป็น ป.โท นะจ๊ะ ทำงานด้วย เรียนด้วย

ดูแลสุขภาพ ด้วยนะจ๊ะ
336  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สาระเบื้องต้น ในมหาราหุโรวาทสูตร เมื่อ: มิถุนายน 30, 2010, 08:12:38 am
 :08: :25: :08:

อนุโมทนา กับอุบาสิกาหญิง ด้วยเดี๋ยวนี้

คุณธรรม ก้าวหน้า แล้ว
337  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ข้อมูลและ รูปภาพ เมืองเพชร ที่พวกเราช่วยกันหา เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 10:19:07 pm
 :25: :25:

น่าไปเที่ยวจังเลย
338  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: มีโครงการดี ๆ ที่เป็นมูลเหตุ ให้พระอาจารย์ต้องการสร้างการ์ตูน หลวงปู่สุก เมื่อ: มิถุนายน 08, 2010, 09:20:09 pm
ลองสอบถามไปทาง บริษัทให้นะคะ

การ์ตูน 3d animation งบ 2 ล้านขึ้นไป มากกว่า 3 ปี ที่ความยาวไม่เกิน 3 ชม.
339  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: คติธรรม กับภาพถ่าย ( สำหรับสมาชิก ) เมื่อ: มิถุนายน 08, 2010, 09:15:22 pm
ภาพสวยดีคะ บิณฑบาตร ชายฝั่ง

 :25: :25: :25:
340  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "การตักบาตร" ทำอย่างไรได้บุญ...เต็มร้อย เมื่อ: มิถุนายน 08, 2010, 09:10:13 pm
 :25: :25:

สาธุ กับคำแนะนำ ดี ๆ

 :88:
341  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: “ข้าวมธุปายาส” มีความสำคัญอย่างไรกับ “วันวิสาขะบูชา” เมื่อ: มิถุนายน 08, 2010, 09:08:51 pm
คุณ นิรนาม_พุทโธ


รอทานไม่ได้ แล้ว ซื้อแบบถุง ละ 10 บาททานเลยคะ

เพราะเจ๊นีย์ ( หมวยนีย์ ) ทำไหม้ในรอบแรก แล้ว ไปเห็นกระทะมาแล้ว ใช้เตาแก๊ส ก็อย่างนี้


 :25: :25:
342  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ในชั้นดุสิต นั้นมีเทพธิดา หรือป่าวคะ เมื่อ: มิถุนายน 06, 2010, 10:56:32 am
 :c017:

อนุโมทนา คะ

สำหรับ พี่นีย์ ( หมวยนีย์ ( คุณปุ้มเรียก ) ) เรียนที่เดียวกันคะ ม.รังสิต คะั มีหมวด axe ด้วยคะ

ส่วนมากจะใช้ on msn คุยกัน แล้วเข้ามาโพสต์ที่เว็บคะ
 :25: :25: :88:

343  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ ผู้บริจาคร่วมโครงการ RDN ( เรดิโอเน็ต ) เมื่อ: มิถุนายน 04, 2010, 10:23:03 pm
 :25:
344  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ในชั้นดุสิต นั้นมีเทพธิดา หรือป่าวคะ เมื่อ: มิถุนายน 04, 2010, 10:14:01 pm
ได้ยินว่า ในสวรรค์ชั้นดุสิต นั้นไม่มี เทพธิดา

อย่างนั้นแสดงว่า พุทธมารดา ที่พระพุทธเจ้า ขึ้นไปโปรดนั้นต้องเป็นเทพบุตรใช่ หรือ ป่าวจ๊ะ


 :88: :25:
345  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: RDN ( Radio net online ) ทดสอบสถานีวิทยุ มัชฌิมา อาร์ดีเอ็น เมื่อ: มิถุนายน 03, 2010, 12:15:56 am
คุณหมวยนีย์ ออน msn มาชวนนอนดึกบอกให้มาช่วยโพสต์ ให้คนนอนดึก ด้วย

ก็เห็นด้วย ถ้าเป็นไปได้ พระอาจารย์ตั้ง auto ไปเลยก็ได้คะ ไม่ต้องปล่อยให้เงียบ

 :25:

เสนอแล้วนะ คุณหมวยนีย์
346  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: RDN ( Radio net online ) ทดสอบสถานีวิทยุ มัชฌิมา อาร์ดีเอ็น เมื่อ: มิถุนายน 02, 2010, 12:08:32 am
 :41:  :34:

ลุกขึ้นมาเพราะฟัง ธรรมะ แล้วหลับเพลิืน เสียงเงียบไปแล้ว

แสดงว่าพระอาจารย์ ปิดสถานี ตอนกลางคืน เห็นด้วยคะ

อนุโมทนา ฟังเสียงดี

ลำดับพระกรรมฐาน กับ เสียงสวดมนต์ ฟังเพลิน เลยหลับไป เลย......

 :25:
347  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: เดือดร้อนเพราะคน.....พวกนี้ เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2010, 04:06:00 pm
พี่แสนหวาน พี่หวาน หมวดแอ็กซ์ พี่นีย์ พรุ่งนี้เราไปทำบุญกันที่วัดระฆังกันเถอะนะ


หัวอกเดียวกัน แต่พระธรรม ทำให้ทุกข์น้อยลงหน่อย ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็กระวนกระวาย มาก ๆ เลย

อย่างไรเสีย ก็โทรปรึกษาพระอาจารย์ เบอร์ท่านไม่ได้เปิดเครื่อง ส่ง Email ไปก่อน

คงอีกเป็นเดือนกว่าจะปรับปรุงห้างร้าน ให้ค้าขาย ได้ 
:bedtime2: :bedtime2: :bedtime2:
มีเวลานอนมากขึ้น

แต่ไม่มีสตางค์ 5 5 5 5 5

ต้องไปภาวนาที่วัด จะไปวัดปทุมก็ดี นะอยู่ใกล้ ๆ
348  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: RDN ( Radio net online ) ทดสอบสถานีวิทยุ มัชฌิมา อาร์ดีเอ็น เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2010, 07:35:55 am
วันนี้ วันพระ ก่อนไปทำงานได้รับศีล และ ฟังพระกรรมฐาน ก่อนไปทำงาน

เหมือนนั่งอยู่กับ พระอาจารย์เลยคะ

ในเรื่องการ สอนลำดับ พระกรรมฐาน แล้ว

โยมชอบมาก เลย คะ

ชื่นใจ จริง ๆ วันนี้เป็นมงคล แต่เช้า


 :25: :25: :25: :25: :25:
349  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: คำอธิษฐาน กับเรื่องบังเอิญ ? เมื่อ: เมษายน 30, 2010, 07:51:59 pm
คุณ นีย์ คร้า ไปวัดแก่งขนุน วันที่ 28 พ.ค. 53 ด้วยกันนะคร้า

เดี๋ยว on msn คุยกันน้อ
 :08:
350  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ขอโทษ และ อภัย ( เก็บตกจากอบรมอีกคะ ) เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 04:59:48 am
ดูได้จ้า คอนเน็กซ์จากมือถือ ยังดูได้จ้า :25:
351  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ความสุข 2 ชั้น เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 04:56:47 am
 :c017:
352  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: มีภาพการ์ตูน รู้จักตนเอง ให้ดูกัน เมื่อ: เมษายน 07, 2010, 06:10:38 am
 :08:
มาช่วยเสริม จากการ์ตูนคะ


เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์ท่านหนึ่งลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง

แล้วบอกให้นักเรียนลองทำให้เส้นตรงเส้นนี้สั้นลงโดยไม่ต้องลบ

นักเรียนต่างหาวิธีทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไม่ได้เพราะทุกคนติดอยู่กับภาพลักษณ์

ของการลบ

เส้นเดิมทิ้งไปเพื่อให้เส้นเดิมสั้นลงไป

อาจารย์ท่านนั้นจึงขอให้นักเรียนรายหนึ่งเขียนเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเส้น

เดิม

ภายหลังจากที่นักเรียนลากเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเดิมแล้ว

อาจารย์ท่านนั้นอธิบายให้นักเรียนฟังว่า

 

*"การที่มีคนลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง ไม่ว่าเส้นตรงที่ลากมาจะยาวแค่ไหน

เราสามารถทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไปได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบเส้นของคนอื่น

ให้สั้นลง

แต่เราสามารถทำให้เส้นของคนอื่นสั้นลงโดยที่เราลากเส้นของเราให้ยาวขึ้น

ยิ่งเราลากเส้นยาวออกไปมากเท่าไหร่เส้นเดิมที่ลากไว้ก็จะสั้นลงไปทุกที

เปรียบเหมือนการที่ใครซักคนทำในสิ่งหนึ่งที่ดีอยู่ประสบความสำเร็จอยู่

เราไม่ควรให้ความอิจฉาริษามาก่อให้จิตของเรารุ่มร้อนและหาทางกลั่นแกล้งคนๆนั้น

ด้วยการ

หาทางทำลาย

เหมือนกับการพยายามลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง

ตรงกันข้ามควรจะยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น

เหมือนกับที่เรามองความยาวของเส้นตรงที่คนอื่นลากไว้

แต่เราหาทางพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับการพยายามลากเส้นตรงเส้นใหม่ให้

ยาวขึ้น

เรื่อยๆโดยไม่ไปลบเส้นของคนอื่น

เส้นตรงที่เราลากก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ

โดยเส้นเดิมที่เราลากไว้ก็จะสั้นลงไปเรื่อยๆโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบออกให้

สั้นลง"

*

 

การคิดในเชิงสร้างสรรค์แบบนี้ทำให้จิตใจของเราโปร่งสบาย ไม่รุ่มร้อน

เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้แข่งกับใครแต่เราแข่งกับตัวของเราเองอยู่ตลอดเวลาและ

เราไม่ได้ไป

สร้างศัตรูหรือไปก่อเวรกับคนอื่น

ตรงกันข้ามการแข่งขันระหว่างกันเป็นไปในทางเกื้อกูลกันทำให้ระบบโดยรวมมีการเติบ

โตอยู่

ตลอดเวลาไปในทางที่เป็นบวก

คงไม่สำคัญว่าคุณต้องชนะคนทั้งหมด

*สิ่งสำคัญคงอยู่ที่คุณพยายามชนะตัวของคุณเองอยู่ตลอดเวลาต่างหาก

เพียงแต่เมื่อใดคุณสามารถชนะตัวของคุณเองได้

ชัยชนะที่ได้ก็จะมีความหมายและทำให้คุณเกิดความภูมิใจ

และถ้าคุณยังไม่หยุดพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะชนะตัวคุณไปเรื่อยๆ

เมื่อคุณมองย้อนกลับมาเมื่อไหร่คุณก็จะมีแต่ความภูมิใจในชัยชนะที่ขาวสะอาด

ชัยชนะที่เป็นแรงขับดันให้คุณพยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ *

 

การประสพความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนมีอยู่หลายวิธี

บางครั้งผู้คนต่างพยายามเลียนแบบเส้นทางประสพความสำเร็จของผู้อื่น

แต่เมื่อเดินตามเส้นทางนั้นกลับพบว่าไม่ประสพความสำเร็จนัก

*ความสำเร็จในชีวิตของผู้คนคงไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบอย่างเดียวกันเสมอไป

และเส้นทางไปสู่ความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นทางเดียวกันเสมอไป

สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ความสุขใจที่ได้เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด

มากกว่า

*

 

จงอย่าพยายามเลียนแบบเส้นทางไปสู่ความสุขของผู้อื่น

เพราะนิยามความสุขของผู้คนต่างกัน ความสุขที่เราเห็นผู้คนอื่นมีความสุขกันอยู่

ถ้าเราไปอยู่ในสถานะนั้นเราอาจจะไม่มีความสุขอย่างที่เราเข้าใจก็ได้

*สุขและทุกข์แท้จริงอยู่ที่ใจของเรากำหนดต่างหาก

ลองมองทุกอย่าง อย่างเป็นกลางๆ ไม่เอาความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง อคติ

มาครอบงำ

แล้ววันหนึ่งเราอาจจะค้นพบความหมายของคำว่าความสุขที่แท้จริงของตัวเราเอง*
353  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ป่วยเบาหวาน มีทางรักษาได้ ไม่ต้องตัดขา เมื่อ: เมษายน 07, 2010, 06:00:41 am
รพ มศว

ในประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นเบาหวาน ที่ต้องรักษาแผลที่เท้า และต้องถูกตัดขาปีละ 40,000 ราย ( สี่หมื่นราย!!! )
ปัจจุบันนี้ได้มีความพยายามในงานวิจัยโดยความร่วมมือกับ
คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกับ
พตอ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤกษ์วรรณ โรงพยาบาลตำรวจ และ
นพ.ณรงค์ชัย ยิ่งศักดิ์มงคล ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ คลอง16 ถนนรังสิต-นครนายก
ได้ช่วยผู้ป่วยให้ไม่ต้องถูกตัดขาไปแล้วหลายราย

หากท่านใดมีญาติที่เป็นเบาหวาน มีแผลที่เท้า
และมีปัญหาในการดูแลรักษา
กรุณาช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วย คะ
ติดต่อโดยตรงกับผู้ประสานงานโครงการ
คุณวุฒิพันธ์ บุญญกาญจน์ Tel. 081-3024707

ในงานวิจัยนี้ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการดูแลรักษาเรื่องเบาหวานขึ้นจอประสาทตาด้วย
โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
กรุณาบอกบุญเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดทางเลือกในการรักษาด้วยครับ ขออุโมทนาบุญที่ได้ร่วมกันด้วย
ขอบคุณคะ
354  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ใครคิดว่าตนเองโชคร้าย ควรอ่านนะจ๊ะ เมื่อ: เมษายน 07, 2010, 05:57:17 am
จากเรื่องจริง ที่ถ่ายทอดมา จากพระ

ธรรมบรรยาย ที่นำมาลงให้อ่านนี้ ได้มาจากพระพระสุปฎิปันโนรูปหนึ่ง

ขอเชิญพิจารณาเถิด



ใครที่คิดว่าตัวเองโชคร้าย หรือเป็นคนอับโชคมีเคราะห์ อยากให้พิจารณาเรื่องนี้ดู แล้วมาเปรียบเทียบกับตัวเองดูว่าเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 50 เศษ ชีวิตของเธอเรียกว่าเจอแต่ความทุกข์ และสิ่งที่ไม่คาดฝันมาโดยตลอด

อายุ 2 เดือน พี่เลี้ยงทำตกน้ำ กว่าจะช่วยขึ้นมาได้ก็สำลักน้ำกับน้ำมัน เพราะแถวนั้นมีเรือและยังมีถังน้ำมันในเรือ 8 ขวบ ก็ตกน้ำอีก เกือบจะช่วยไม่ทัน ดำผุดขึ้นมา 2 ครั้ง ไม่มีใครเห็น ครั้งที่ 3 พ่อเห็นก็เลยช่วยเอาไว้ได้

ตกน้ำ 2 ครั้งนั้น มีผลกระทบต่อระบบประสาทเรื่อยมา เวลาเจอแดดร้อนๆ นี่จะเป็นลม บางทีร้องไห้มากๆ ถึงกับสลบไปเลย อยู่มาอีก 2 ปี แม่ก็เสียชีวิต พ่อทำใจไม่ได้ เครียดจนเป็นอัมพาต ตอนหลังก็เสียชีวิต ทิ้งหนี้สินให้กับผู้หญิงคนนี้

ซึ่งชื่อเกษมสุข ภมรสถิตย์ ชื่อ เพราะ แต่ว่าเจอทุกข์มาโดยตลอด อายุ 19 ก็ต้องเป็นหลักในครอบครัว ต้องเลี้ยงน้องอีก 4 - 5 คน จากบ้านที่เคยอยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ก็ต้องไปอยู่บ้านเช่าเล็กๆ ต่อมาก็แต่งงาน ชีวิตก็น่าจะมีความสุขได้ ถ้าหากว่าลูกที่ออกมาไม่เกิดพิกลพิการ

เพราะว่าหมอเอาคีมดึงหัวลูกออกมา คง จะดึงแรงเกินไป ทำให้กระทบกระเทือนถึงสมองกลายเป็นเด็กปัญญาอ่อน หมอบอกว่าคงจะมีอายุอีกไม่นาน แต่เธอก็สามารถเลี้ยงลูกจนโตได้ คลอดลูกมาไม่นานก็เป็นเนื้องอกที่มดลูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัด ปรากฏว่าหมอผ่าผิดข้าง คือเอาข้างดีออกไป ส่วนที่ไม่ดียังค้างไว้

หมาย ความว่าต้องกลับไปผ่าใหม่ คราวนี้ก็หมายความว่าตัดหมดเลย พอตัดหมดก็ไม่มีฮอร์โมน พอไม่มีฮอร์โมนก็ต้องกินฮอร์โมนทดแทน ทำให้เป็นโรคกระดูกผุ เป็นคนที่กระดูกผุง่ายมาก ซึ่งกลายเป็นปัญหากับเธอในภายหลัง

ชีวิตต่อมาก็มีปัญหาอีก สามีทิ้ง เพราะว่าคงจะทนอยู่รับภาระเลี้ยงลูกซึ่งปัญญาอ่อนไม่ได้ ทิ้งลูกไป ตัวเองตอนนั้นอายุ 26 เอง ต้องเลี้ยงลูก เป็นอันว่าต้องมาช่วยตัวเองกันใหม่ ต่อมาก็เกิดอุบัติเหตุอีก นั่งรถอยู่ดีๆ ก็มีรถฝ่าไฟแดงพุ่งเข้ามาชน

ปรากฏ ว่า กระดูกต้นคอหักไปทับเส้นประสาท ทำให้เกือบจะขาดเลย หมายความว่า ตั้งแต่ต้นคอลงไปนี่เป็นอัมพาต เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องเข้าโรงพยาบาลแน่นิ่งอยู่ 2 เดือนเต็ม ทีแรกก็นึกว่ายังจะไม่รอด หรือถึงรอดก็ต้องเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต แต่เดชะบุยยังรอดมาได้ สามารถเดินเหินเป็นปกติ

หลังจากนั้นก็เจออุบัติเหตุอีก รถที่ตนนั่งเกิดแหกโค้งไปชนเสาไฟฟ้า เธอแขนหักเป็น 2 ท่อน แต่ที่หนักก็คือว่า ก้านเกียร์หักทิ่มเข้าไปในท้องขณะที่กำลังช่วยคนขับรถอยู่ ผลคือตับแตก หลังจากนั้นก็ยังเจออุบัติเหตุอีกหลายครั้ง แม้กระทั่งก่อนไปออกรายการ"เจาะใจ" ก็เกิดอุบัติเหตุรถที่นั่งมาถูกรถอีกคันหนึ่งชน แต่ว่ายังทนได้ ออกรายการเสร็จแล้วจึงค่อยไปหาหมอ

ถามว่ามีใครที่เจอชะตากรรมซ้ำซากแบบนี้บ้าง แต่ที่พิศวงก็คือว่า ผู้หญิงที่ชื่อ เกษมสุข คนนี้ เธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจในโชคชะตาเลย กลับมีความหวังกับชีวิตอยู่เสมอ ไม่ได้มีความท้อแท้ท้อถอย หรือรู้สึกว่าถูกชะตากรรมทำร้าย ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น กลับทำให้ตัวเองเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้

ที่เอาเรื่องของคุณเกษมสุขมา เล่าให้ฟัง ก็เพราะอยากชี้ให้เห็นว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์ ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรมากระทบเรา หรือเกิดขึ้นกับเรา แต่อยู่ที่ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่มากระทบกับเรา หลายคนอาจจะคิดว่า เราจะสุขได้ต่อเมื่อมีของดีๆ เกิดขึ้นกับเรา

เช่น มีคนรัก มีเงิน มีสุขภาพดี มีโชค มีเกียรติยศ มีชื่อเสียง มีบ้าน มีงานการต่างๆ จึงจะเป็นสุขได้ แต่นั่นก็ไม่แน่ บางคนได้เงิน ได้ขึ้นเงินเดือนน่าจะดีใจ แต่กลับกลายเป็นทุกข์ เพราะไปรู้ว่าคนอื่นได้ขึ้นเงินเดือนมากกว่าตัวเอง ตัวเองได้ขึ้นหนึ่งพัน แต่พอรู้ว่าคนอื่นได้ขึ้นสองพัน ทุกข์ทันทีเลย

สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองกลับกลายเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด เพราะ ไปมองว่าคนอื่นเขาได้มากกว่า บางคนถูกหวยน่าจะดีใจแต่ก็เป็นทุกข์ เพราะรู้สึกว่าที่ได้มามันน้อยเกินไป เด็กๆ เดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนี้ แม่ซื้ออะไรให้ บางทีแทนที่จะดีใจกลับทุกข์ เพราะรู้สึกว่าตัวเองได้น้อยไป คนอื่นได้มากกว่านี้ หรือทุกข์ เพราะเห็นว่าเพื่อนๆ มีดีกว่านี้ คิดแบบนี้ก็เป็นทุกข์เลย

ฉะนั้น สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเราไม่ได้ทำให้เราเป็นสุขเสมอไป อาจจะทำให้เราทุกข์ก็ได้ ในทางตรงข้ามเมื่อเจอสิ่งแย่ๆ เราอาจไม่ทุกข์ก็ได้ ถ้ารู้จักวางใจหรือรู้จักมอง คนที่ไม่รู้จักวางจิตวางใจก็จะตีโพยตีพาย กลุ้มอกกลุ้มใจ อยู่อย่างไม่มั่นใจ คนที่ฝึกจิตไว้ดีนี่จะรู้เลยว่า สุขหรือทุกข์ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรเกิดกับเรา แต่อยู่ที่ว่า เราวางใจอย่างไร

คนเราทุกข์เพราะไปมีปฏิกิริยาแตกตื่นมากเกินไป แต่ถ้าเรามีสติได้เราจะรู้ว่า เออ ของพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดา เวลา เราทุกข์ถ้าเราตั้งหลักได้ก็จะพบว่า ที่ทุกข์นี่เพราะใจ มากกว่าทุกข์เพราะอย่างอื่น อากาศร้อนไม่ได้ทำให้เราทุกข์หรอก พวกที่เล่นฟุตบอลหรือดูฟุตบอลกลางแดด

พวก นี้นั่งอยู่กลางแดดเป็นชั่วโมงๆ โดยไม่รู้สึกร้อนเลย แต่พอแข่งเสร็จออกไปยืนรอรถเมล์กลางแดดแค่ 5 นาที เท่านั้นล่ะ กระสับกระส่าย ทั้งที่ตอนดูบอล ดูมาเป็นชั่วโมงไม่เห็นรู้สึกทุกข์อะไรเลย ถามว่าทุกข์เพราะแดดหรือเปล่า ไม่ใช่ ทุกข์ที่ใจต่างหาก

ถ้าใจเรามีสมาธิกับอะไรสักอย่างมันก็จะลืมเรื่องกาย แต่พอไม่มีสมาธิจิตมันก็จะหาเรื่อง บ่นโน่นบ่นนี่ จิตของเราเป็นจิตที่ขี้บ่น จะเห็นอะไรต่ออะไรไม่ถูกใจไปหมด แต่ถ้าเรารู้จักดูแลจิตใจของเราให้ดี ของพวกนี้จะทำอะไรเราไม่ได้ เสียงที่ดังเพราะเราไปตั้งใจจดจ่อฟัง

แต่ ถ้าเราไม่ฟังมันก็เลิกรบกวนเรา ดังนั้นขอให้เราลองพิจารณาดูว่า เวลาเป็นทุกข์ เราทุกข์เพราะอะไรแน่ เวลาเป็นทุกข์ เรามีวิธีแก้ทุกข์ได้หลายอย่าง เช่น นึกถึงคนที่ทุกข์มากกว่าเรา มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า เออ เรานี่ยังโชคดีกว่าคนอื่นนะ เวลาเงินหายพันนึง ลองนึกสิว่า ยังดีกว่าหายห้าพัน

เราเคยคิดแบบนี้บ้างหรือเปล่า คนที่เป็นมะเร็ง พอมองให้เป็นก็พูดขึ้นมาว่า โชคดีที่เป็นมะเร็ง ถ้าไม่เป็นมะเร็งก็คงไม่มีเวลามาอยู่กับครอบครัว คงไม่มีเวลามาศึกษาปฏิบัติธรรมะ จนเข้าใจชีวิตจิตใจของตนเอง คนที่เป็นเอดส์บางคนบอกว่า โชคดีที่เป็นเอดส์นะ เพราะตอนที่ไม่ได้เป็นก็เที่ยวเตร่สนุกสนานใช้ชีวิตอย่างไร้สาระ แต่พอเป็นเอดส์ก็รู้สึกว่าชีวิตนี้มีคุณค่ามีความหมาย

ดัง นั้นจึงพยายามใช้เวลาที่เหลือให้มีประโยชน์ หันมาสนใจธรรมะ ทำให้ค้นพบความสุขที่แท้จริง ค้นพบความหมายของชีวิต เรื่องพวกนี้ถ้าเขาไม่เป็นเอดส์ก็คงไม่สนใจ หรือไม่มีวันค้นพบเลย

เมื่อเป็นอย่างนี้ขอให้เรารู้จักหาประโยชน์จากความทุกข์ ถ้าพิจารณาดูจะพบว่ามันมีประโยชน์มากมาย แต่ส่วนใหญ่เราไม่รู้จักวางใจหรือมองไม่เป็น เช่น ชอบไปมองเปรียบเทียบคนที่เขาดีกว่าเรา หรือได้มากกว่าเรา เราได้เลื่อน 1 ขั้น ไม่ดีใจ เพราะเห็นคนอื่นได้ 2 ขั้น ที่จริงได้เลื่อน 1 ขั้น น่าจะดีใจ

หรือแม้จะไม่ได้เลื่อนก็ น่าจะดีใจ อย่างน้อยเราก็ยังมีงานทำ อย่างน้อยเราก็ยังมีบ้านอยู่ แม้จะไม่ใช่บ้านของเรา แต่เราก็ยังกินอิ่มนอนอุ่น ตรงกันข้ามกับคนอีกหลายร้อนล้านในโลกนี้ ที่ไม่มีโชคอย่างเรา

เราลองดูให้ดีนะว่าเรายังมีอะไรที่ดีๆ บ้าง ที่คนอื่นเขาไม่มีกัน ถ้าเรามองให้เป็นแล้วเราจะมีความสุขได้ มองให้เป็นนี่ เราสามารถมองได้หลายแง่ เช่น การเปรียบกับคนที่เขาแย่กว่าเรา ช่วยให้เรารู้สึกว่าเรายังโชคดีกว่าคนอีกมาก หรือมองหาประโยชน์จากเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้น

เช่น เมื่อสูญเสียข้าวของ ก็มองว่านี่เป็นการฝึกให้เราเตรียมพร้อม กับการพลัดพรากสูญเสียที่ยิ่งกว่านั้นในอนาคต จะไม่ดีกว่าหรือ ถ้าเราลองฝึกการรับมือกับการสูญเสียตั้งแต่ต้นๆ เริ่มจากการสูญเสียที่ยังพอรับได้ ก็ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมหรือฝึกใจเอาไว้ เป็นการซ้อมย่อย

ถ้าจะไม่นึกถึงก็ได้ แต่ก็ต้องมีสติรู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถ้าไม่มีสติใจก็จะพลัดเข้าไปสู่ร่องอารมณ์เดิมๆ ที่เราสร้างเอาไว้ เราถูกฝึกเอาไว้ว่า ถ้าฉันสูญเสียฉันต้องทุกข์ มันเป็นปฏิกิริยาเหมือนกับเจอเสียงดังต้องหงุดหงิด ต้องโมโห เราถูกฝึกแบบนี้มาเป็นเวลานาน

จน กระทั่งกลายเป็นนิสัยหรือความเคยชิน ทำไปโดยไม่รู้ตัวและไม่ทันได้คิดด้วย เรากลายเป็นทาสของสิ่งแวดล้อมไป เป็นทาสของ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส จากสิ่งรอบตัว รวมทั้งความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นในใจด้วย

แต่เราเลือกได้นะ เราไม่จำเป็นต้องเป็นทาสเสมอไป เราสามารถเป็นอิสระจากมันได้ พอได้ยินเสียงปุ๊บมีสติปั๊บ ก็ไม่รู้สึกขุ่นเคือง หรือถึงจะมีความขุ่นเคืองก็วางได้ทัน เวลามีคนพูดไม่ดีกับเราไม่ให้เกียรติเรา แทนที่เราจะฉุนเฉียวแล้วก็พูดตอบโต้ไป เรามีสติรู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากเสียงที่มากระทบ

เรา ก็หลุดจากอารมณ์นั้น มันทำอะไรเราไม่ได้ ต่อไปความเจ็บความปวดก็ทำให้เราทุกข์ไม่ได้ เพราะเรารู้ว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นเรื่องของกาย แต่ใจไม่จำเป็นต้องเจ็บปวดหรือเป็นทุกข์ด้วย

จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้สำคัญอยู่ที่ใจ สำคัญอยู่ที่ว่าเรามีท่าทีอย่างไรกับสิ่งที่มากระทบกับเรา หรือต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราเลือกได้ว่าจะทุกข์หรือไม่ทุกข์ ถ้าเราทุกข์ก็แสดงว่าเราเลือกที่จะทกุข์เอง ไม่ใช่เป็นเพราะปัจจัยภายนอกอย่างเดียว พระพุทธเจ้าตรัสว่า มือที่ไม่เป็นแผลจับยาพิษก็ไม่เป็นอันตราย แต่ที่เป็นอันตรายเพราะมือมีแผล นั่นหมายความว่า ปัจจัยภายในสำคัญกว่าปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายในหรือจิตใจนี้เป็นสิ่งสำคัญ เราจะทุกข์หรือไม่ อยู่ที่ว่าใจของเราจะยอมให้ยาพิษมันเข้ามาในใจเราหรือไม่ ใจเรามีแผลที่จะให้ยาพิษซึมซาบเข้ามาทำร้ายได้หรือเปล่า ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นเพราะเราปล่อยให้ใจมีแผลใช่ไหม ยาพิษหรือความไม่สมหวังจากภายนอกจึงเข้ามาทำอันตรายเราได้ ถ้าหากทุกข์นั้นเกิดจากใจเป็นสำคัญ

เรา ก็ต้องกลับมาดูตัวเองแล้วว่า เราจะมีเครื่องคุ้มกันจิตได้อย่างไร เรามีสติ ปัญญาแค่ไหน ที่จะช่วยคุ้มกันปกป้องใจเรา เรารู้จักคิดแค่ไหน เรารู้จักมองแค่ไหน เพื่อไม่เปิดช่องให้ความทุกข์มาทำร้ายเราได้


( พระไพศาล วิสาโล / 24 สิงหาคม 2547 )
355  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ใจคน อยากหยั่งลึก เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:35:39 pm
 :'(
มีพี่ที่นับถือกันอยู่คนหนึ่ง คอยพูดสนับสนุน ดิฉัน ในเวลาทำงาน ตอนที่ดิฉันเข้าไปทำงานใหม่ ๆ พี่คนนี้ก็คอย
พูดบอกเพื่อน ๆ ให้ว่า ฉันนี้เก่งอย่างนั้น อย่างนี้ ในงานที่ฉันทำ ดิฉันก็เลยทำงานให้พี่คนนี้ สุดชีวิต


แต่หลังจากสิ้นปีนี้ มาที่มีการประเมินผลงานและมีการปรับฐานเงินเดือน ด้วยความสามารถ บวกกับความขยันและตั้งใจทำงาน เจ้านายใหญ่ก็เลื่อนตำแหน่งให้ มาเสมอกับพี่ที่ดิฉันนับถือ

แต่พอดิฉัน ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาก็พูดถึงความดีของพี่คนนี้ และทำงานให้อย่างเต็มกำลังเหมือนเดิม แต่หลังจากนี้มาพี่คนนี้ ไม่ชอบพูดที่จะพูดกับฉัน และทำท่าทางไม่สนับสนุนดิฉัน แต่ดิฉันก็ยังทำงานให้พี่เขาเหมือนเดิม เพราะยังนับถือพี่คนนี้อยู่

ทำอย่างไรให้พี่คนนี้ กลับมาดีต่อฉันเหมือนเดิมคะ
356  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / คิดไม่ออก จะปลอบใจพี่เขาอย่างไร เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:27:33 pm
วันนี้ ระหว่างที่ใจสับสน ปกติก็จะเป็นที่ปรึกษาให้กับคนนั้น คนนี้ ตามสภาพของนักอาสา
แต่มาวันนี้ โดนความรักเล่นงาน มีพี่คนหนึ่งมาปรึกษาเรื่อง ลูกชาย ที่ไปจับสลากเข้าเรียนในสถานศึกษา
แล้วจับไม่ได้ พี่แกน่าสงสาร ไหนจะต้องดูแลแม่ ไหนจะต้องมาดูลูก ไหนจะต้องมารับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
พี่คนนี้ มานั่งร้องไห้และเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง

แต่เพราะวันนี้ใจของฉัน ไม่ปกติ จึงไม่สามารถ ที่จะกล่าวเรื่องต่าง ๆ ปลอบใจเขาได้
ในสมองมีแต่เรื่องของตัวเอง เท่านั้น ที่คิดอยู่ พร้อมกับอึดอัด

ถ้าในสถานการณ์อย่างนี้ เราจะปลอบใจพี่เขาอย่างไร ด้วยคำที่ทำให้จิตยินดี คะ
357  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:21:45 pm
ในชีวิต เกิดมาไม่เคยรักใคร และไม่อยากรักใคร ผ่านอายุมา 27 ปี ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่อายุ 16

จนตอนนี้มาพบชายคนหนึ่ง ที่สบตาแค่ครั้งเดียว ทำให้ใจหวั่นไหว แอบมอง แอบเป็นห่วง แอบ......
ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์

อาการกระสับ กระส่าย ไม่เห็นหน้าชายคนนั้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ
อยากพบ อยากเจอ อยากคุย อยากสนทนา
เวลาเห็นหญิงอื่น คุยสนทนากับชายคนนั้น แล้วรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกเลือดขึ้นหน้า

ถึงแม้รู้ อย่างนี้ ใจมันก็สับสน นั่งนึกภาวนา พุทโธ ๆๆๆๆๆ
แต่อารมณ์ ก็ไม่สงบ สักที

บางคืน ก็หงุดหงิด พาลให้งาน เสียด้วย
คุยคนเดียว เหมือนคนบ้า
รู้สึกตัว อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ก็หักห้ามใจ ไม่ได้

นึกถึง เว็บนี้ได้อยากได้คำปรึกษา วิธีปฏิบัติธรรม ต่อความรัก นี้ด้วย

ช่วยด้วย คะ :'( :-[ :'( :-[
หน้า: 1 ... 7 8 [9]