“ฮวงจุ้ยดี” บ้านมือสองก็มีโชคได้
การเลือกซื้อบ้านพักอาศัยหรืออาคารสำนักงานนั้นมีปัจจัยหลักๆที่ใช้ในการ พิจารณานอกจากศาสตร์ทางด้านฮวงจุ้ยอยู่อีกหลายๆอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคา ประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามของงานสถาปัตย์นั้นๆ ไปจนถึงคุณภาพของการก่อสร้าง ความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ ทำเลที่ตั้ง หรือปัจจัยอื่นๆอีกหลายประการครับ แต่หากเราให้ความใส่ใจในเรื่องของ “ทำเล” ซึ่งในปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าในหลายๆจังหวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดหัวเมืองใหญ่หลายแห่งนั้น ทำเลที่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าขาย การเดินทางคมนาคม ได้ถูกพัฒนาและขายไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากเรามีความต้องการอยู่อาศัยใน “ทำเล” ดังกล่าวจริงๆ การเลือกซื้อบ้านพักอาศัยมือสอง หรือ อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์มือสอง ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากครับ
สำหรับ วันนี้เราจะมาดูกันว่าในศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้น เราจะมีวิธีการรับความเจริญรุ่งเรืองจากการเลือกซื้อบ้านมือสองได้หรือไม่ อันนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจเป็นไม่น้อยครับ เพราะในหลายๆครั้งที่ผมได้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกอาคารสำนักงาน ทำเลร้านค้า ไปจนกระทั่งบ้านพักอาศัย อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นในลักษณะของมือสองนั้น มักจะเป็นทำเลที่ผู้คนค่อนข้างกลัวในการเลือกซื้อ โดยเฉพาะหากประวัติของผู้ที่อยู่อาศัยเดิมนั้นไม่ประสบความสำเร็จในด้านใด ด้านหนึ่ง ในทางกลับกันหากประวัติของผู้อยู่อาศัยเดิมนั้นประสบความสำเร็จ อสังหาริมทรัพย์นั้นๆก็จะเป็นที่ต้องการของผู้ที่จะอยู่อาศัยรายใหม่เป็น อย่างมาก ผมยังไม่อยากสรุปว่าประวัติของผู้อยู่อาศัยเดิมนั้นสามารถบอกถึงคุณภาพทาง ฮวงจุ้ยของอสังหาริมทรัพย์นั้นได้ 100% ครับ ขอให้ทุกๆท่านพิจารณาปัจจัยหลายๆด้านดังต่อไปนี้ครับ
1. สภาพแวดล้อมโดยรวม หากสภาพแวดล้อมของอาคารหรือบ้านข้างเคียงโดยรวมนั้น เป็นสภาพที่มีชีวิตชีวา หรือในภาษาของฮวงจุ้ยนั้นเรียกได้ว่า “สามารถสัมผัสกับกระแสได้” เช่น หากเป็นบ้านก็ต้องเป็นสภาพโครงการที่ไม่รกร้าง มีผู้อยู่อาศัยอยู่พอสมควร สามารถสัมผัสได้ทั้งกระแสจากลมตามธรรมชาติและกระแสจากการจราจรที่รถหรือคนพา มา หรือหากเป็นทำเลการค้าก็ต้องรู้สึกว่าเป็นย่านที่มีการจราจรพาคนไปมาอย่าง สม่ำเสมอ สภาพของกิจการอื่นๆรอบๆ ส่วนใหญ่ยังต้องดูแล้วค้าขายได้ หาก สภาพแวดล้อมของอาคารข้างเคียงมีลักษณะดังกล่าวบ้านหรืออาคารมือสองที่ท่าน สนใจอยู่ก็ถือว่ามีโอกาสจะมีฮวงจุ้ยที่ดีได้ครับ โดยแม้ว่าผู้อยู่อาศัยเดิมนั้นไม่เจริญรุ่งเรือง ก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่สามารถจะออกแบบชัยภูมิของบ้านหรืออาคารให้สามารถดัก กระแสโดยรอบของทำเลนั้นเพื่อเหนี่ยวนำเอากระแสพลังที่ดีเข้ามาได้ครับ ซึ่งในการปรับสภาพชัยภูมิโดยละเอียดนั้นท่านสามารถขอคำปรึกษาได้จากซินแสที่ มีประสบการณ์ครับ
2. หาองศาทิศทางที่ดี ในศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบดาวเหิน (Xuan Kong Flying Star) ซึ่งเป็นวิชาที่ซินแสที่มีชื่อเสียงทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และ ซินแสในประเทศไทยหลายๆท่านได้ใช้ในการให้คำปรึกษานั้น ถือว่ามีการเปลี่ยนยุคจากพลังงานของระบบสุริยะจักรวาลจากยุคที่ 7 มาเป็นยุคที่ 8 ในปี พศ.2547 เป็นต้นมาครับ ซึ่งทำให้ทิศทางที่เคยเป็นทิศโชคในช่วงยุคที่ 7 อาจจะเป็นทิศเสื่อมที่สุดในยุคที่ 8 (ปี พศ.2547-2567) ก็เป็นได้ครับ หรือในทางกลับกันทิศทางที่เป็นทิศเสื่อมในยุคที่ 7 ก็อาจจะเป็นทิศทางที่ดีที่สุดในยุคที่ 8 ได้เช่นเดียวกันครับ ในข้อนี้ให้ลองสังเกตดูนะครับ ว่าบางทีคนรู้จักหรือญาติของเราหลายคน ทำธุรกิจมาแบบเดิมๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาดหรือผลิตภัณฑ์ อยู่ดีๆก็สามารถจะเปลี่ยนชะตาชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้ โดยใช้เวลาไม่นานหลังจากปี พศ.2547 นั่นก็เป็นเพราะองศาทิศทางของบ้านหรืออาคารนั้นกลับมาเป็นองศาทิศทางโชคของ ยุค 8 นั่นเอง
ดังนั้นในบางครั้งที่เราพบว่าบ้านหรืออาคารที่ เราจะซื้อนั้นเคยอยู่ในฮวงจุ้ยที่ไม่ดีมาก่อน ก็อาจจะเป็นบ้านหรืออาคารที่มีองศาทิศทางที่เป็นองศาทิศทางที่เป็นทิศโชคใน ยุคนี้ไปแล้วก็ได้ครับ ท่านอาจจะสามารถหาของดีได้ในราคาถูกก็ได้ครับ โดยศาสตร์ฮวงจุ้ยทางด้านองศาทิศทางนั้นจะได้ผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อได้ใช้ร่วม กับศาสตร์ฮวงจุ้ยในเชิงชัยภูมิครับ (Landform Feng Shui Theory) 3.
เลือกบ้านและอาคารที่เสริมดวงชะตา หากท่านสามารถเคยได้รับการผูกดวงชะตาตามระบบวิชาดวงจีน “โป๊ยหยี่ซีเถียว” (Four Pillars) มาก่อน ท่านจะสามารถทราบถึง “ธาตุที่ชอบหรือธาตุปรับดวง” ว่าเป็น ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ หรือว่าธาตุไฟครับ ซึ่งเราจะสามารถนำมาแปลผลได้ว่าทิศทางหลักๆของการเลือกอาคาร ทิศนั่ง หรือทิศนอน นั้นควรจะเป็นทิศอะไรเพื่อเสริมดวงชะตาของท่านได้ครับ ท่านสามารถดูทิศทางเทียบกับธาตุต่างๆได้ตามภาพประกอบนะครับ
4. เลือกฤกษ์ยามที่ดีในการตกแต่ง ต่อเติม ซ่อมแซม และ เข้าอยู่อาศัย เพราะการซื้อบ้านหรืออาคารมือสองนั้น เราไม่สามารถที่จะได้รับการประเมินฤกษ์ยามที่ดีได้ตั้งแต่การลงเสาเอกหรือลง เสาเข็ม ดังนั้นการหาฤกษ์ยามที่ดีของการเริ่มตกแต่ง ต่อเติมซ่อมแซม ก่อนเข้าอยู่ ก็สามารถจะชดเชยการที่เราไม่รู้ฤกษ์ของการเริ่มลงเสาเอกของบ้านหรืออาคาร นั้นได้ ซึ่งในศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นเราให้ความสำคัญกับการใช้ฤกษ์ยามที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเหมือนกับกุญแจสตาร์ทรถของเราให้สามารถวิ่งออกไปได้อย่างมั่นคง ข้อนี้ให้เราลองคิดภาพว่าถึงแม้เราจะมีรถยนตร์หรือบ้านที่เราชอบหรือฮวงจุ้ย ที่ดีขนาดไหน หากเราไม่มีกุญแจรถหรือฤกษ์ยามที่ดีในการเริ่มสตาร์ทได้ รถหรือฮวงจุ้ยนั้นๆก็ย่อมลดค่าลงไปมากทีเดียว
โดยหากว่าท่านก็ยังไม่สามารถควบคุมการเลือกฤกษ์ในการตกแต่ง ต่อเติม ซ่อมแซม ได้อีก อย่างน้อยการเลือกฤกษ์ยามที่เป็นมงคลในการเข้าอยู่วันแรกที่เราได้เข้าไป สัมผัสกับพลังงานในบ้านหรืออาคารนั้นๆ ก็ยังสามารถจะนำเอาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ท่านและสมาชิกภายในครอบครัวเช่น เดียวกันครับ สำหรับท่านที่สนใจในการเรียนการคำนวณฤกษ์ยามที่ดี สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์วิชาการฮวงจุ้ย (ประเทศไทย) ของท่าน อ.มาศ เคหาสน์ธรรม โดยโทรสอบถามได้ที่ คุณเพ็ชรมณี เบอร์โทร 089-014-6888 ครับ
ที่มาของข้อมูล:
http://www.khomesmilesclub.com/homesmiles.aspx?gSelPG=H_FENGSHUI_DETAIL&S_C_IDCODE=96
ขอขอบคุณ http://www.thaihomeonline.com/knowledge.php?id=000164