ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หมั่นพิจารณาธรรม 5 อย่างเพื่อ มองเห็นตามความเป็นจริง  (อ่าน 1714 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


การหมั่นพิจารณ 5 ประการ จะส่งเสริม วิปัสสนาอย่างสูง คือ คุณธรรมของพระโสดาบัน

1. หมั่นพิจารณาว่า เรา มีความแก่เป็นธรรมดา เราไม่ล่วงพ้นความแก่นี้ไปได้
2. หมั่นพิจารณาว่า เรา มีความเจ็บเป็นธรรมดา เราไม่ล่วงพ้นความเจ็บนี้ไปได้
3. หมั่นพิจารณาว่า เรา มีความตายเป็นธรรมดา เราไม่ล่วงพ้นจากความตายไปได้
4. หมั่นพิจารณาว่า เรา มีความเศร้าโศรก ความร่ำไร รำพัน ความประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจ ความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ความอุปายาส (คร่ำครวญ ) เป็นธรรมดา
5. หมั่นพิจารณาว่า เรา มีกรรมเป็นของ ๆ ตน มีกรรมเป็นมรดกตกทอด มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย ไม่ว่าเราทำกรรมใด ๆ ไว้ เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

การพิจารณาอย่างนี ทำสม่ำเสมอ จะทำให้จิตเราไม่คร่ำครวญไม่ท้อแท้ แม้มันจะย่ำแย่สักปานไหนก็ตาม จะมีกล้าแกร่งขึ้นเพราะ เป็นจิตที่ยอมรับตามความเป็นจริง เห็นตามความเป็นจริง

ดังนั้นการเห็นตามความเป็นจริง ก็คือการยอมรับความเป็นจริงอย่างนั้น แน่ละ คนเราเมื่อประสบความทุกข์ก็อยากออกจากความทุกข์ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะออกจากทุกข์นั้นได้ โดยเฉพาะ ทุกข์ จากความแก่ ความเจ็บ และความตาย มันเป็นสิ่งที่ต้องมี

บางคนเจ็บป่วย อย่างหนักหนา สาหัสทางกายก็ทุกข์ ทางจิตก็ทุกข์ กายทุกข์จิตทุกข์ไม่พอ ก็พอคนรอบข้างให้เป็นทุกข์ สุดท้ายเมือรับความทุกข์ไม่ได้ ก็ทำอัตวินิบาต(ฆ่าตัวตาย) กัน นี่เป็นเพราะว่า จิตไม่เข้มแข็งไ่ม่ได้ใช้ลมหายใจให้มีคุณค่า ทางธรรม จึงดำเนินทางผิด

การฝึกกรรมฐาน เบื้องต้นก็ชำระกิเลสส่วนนี้ ดังนั้นใครมัวแต่มานั่งท้อแท้ ท้อใจ เพราะทุกข์รอบตัว ที่มีอยู่ ก็ควรจะมีสติ หายใจเข้า หายใจออก อย่าปล่อยเวลาให้มัวหมองอยู่กับเรื่อง ไร้สาระ อย่ามองเห็นเรื่องไร้สาระ เป็นสาระเลย

เพราะสาระจริง ๆ แล้ว ควรถามว่า ชีวิตเราต้องการอะไร เกิดมาทำไม ทำไมต้องเกิดมา ทำไมต้องทุกข์ สุขอย่างเดียวได้ไหม ทำไมต้องเบียดเบียนกัน ไม่เบียดเบียนกันได้ไหม

ถ้าทุกคนภาวนาแล้ว มีความรู้สึก มีความเห็นเรือ่งพวกนี้เข้าไปมากขึ้นนั่นแหละคือความก้าวหน้าทางจิต เพราะสิ่งที่พระพุทธศาสนาต้องการในการมองเห็นตามความเป็นจริง ก็คือ จิตที่เบื่อหน่าย ต่อสังสารวัฏ คนที่เบื่อหน่ายต่อสังสารวัฏจริง ๆ คือ พระสกทาคามี เป็นต้นไป ที่ชื่อว่า อุชุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติตรง คือ ตรงต่อพระนิพพาน ไม่มีเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือแวะต่อไป

เจริญธรรม/เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ