ช่วงที่ผมนั่งทำสมาธิ จะมี
1.ช่วงนึงที่รู้สึก ว่าร่างกายโอนเอนนิดหน่อย
2. แล้วรู้สึกเหมือนกับว่า อยู่ดีๆก็หลุดเข้าไปอยู่ในที่ๆกว้างมากๆ ลึกมากๆ
3. จากนั้นสักพักก็จะรู้สึกลมหายใจละเอียดขี้นเรื่อยๆ จนเกือบไม่มี อารมณ์ก็จะเครียดๆนิ่งๆแน่วแน่ อธิบายไม่ถูก
4. หลังจากถอนสมาธิ อารมณ์ก็จะนิ่งๆเพ่งๆเครียดๆอยู่พักนึงครับแล้วค่อยๆผ่อนออก บางทีผมต้องไปอาบน้ำ ไม่งั้นนอนไม่หลับ มันเหมือนสมองตื่นลุกโพลงอยู่ตลอดน่ะครับ
ตอบข้อที่ 1
เป็นอาการของปีติ ถ้าเป็นกรรมฐาน อื่น ๆ ก็อยู่ โอกันติกาปีติ ร่างกายโคลง และ อุพเพงคาปีติ รู้สึก เบา
ตอบข้อที่ 2
จิตตกภวังค์ คลายบริกรรม ไปตามดูความรู้สึกมากเกินไป ที่สำคัญความแน่วแน่ อยู่ที่บริกรรมนิมิต ต้องมั่นคง เบื้องต้น นั้นแม้ปฐมฌาน ก็มี วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา ยังไม่ถึง ฌาน 1 ตกภวังค์ก่อน
แก้ไข สติ ดึงกลับมาตั้งบริกรรมใหม่ อย่าไปสนใจเรื่องอาการที่มี ที่เกิด ที่เป็นอยู่ ให้มุ่งบริกรรม ให้สมบูรณ์
ตอบข้อที่ 3
เพราะหลุดจากบริกรรม ก็เลยมีอาการเข้าไปติดสภาวะอารมณ์ ธรรมต่าง ๆ ระหว่างที่ภาวนา ทำให้หลงด้วย กามฉันท์ นิวรณ์ ในสภาวะว่าเป็น สมาธิ เ่พ่งอยู่ นึกอยู่ ติดอยู่
อาการภาวนา สภาวะของสมาธิ ไม่มีความเครียด ตึง ใด ๆ ทั้งนั้น มีแต่คำว่า สุข ๆๆ ๆๆๆๆ เท่านั้น จนเป็นอารมณ์เดียว เมื่อเป็นอารมณ์เดียว ก็คือ ตั้งมั่นใน สุข ๆๆๆๆๆๆๆ เรียกว่า สุขทิพย์
ดังนั้น ข้อที่ 3 ไม่ใช่อุปจาระสมาธิ
วิธีแก้ไข อย่านึกหน่วง อารมณ์ ใด ๆ ระหว่างที่ภาวนา ให้นึกหน่วง นิมิต 3 ประการ เท่านั้น
คือ 1 ปัคคาหะนิมิติ กำหนดฐาน จิตใด จิตหนึ่ง เข้าใจว่าฝึกอานาปานสติอยู่ ก็ัตั้ง ฐานจิตไว้ ที่ปลายจมูก หรือ ที่มีทางผ่านของลม
2 บริกรรมนิมิต คือ ตามดูลมหายใจ หายใจออก
3 อุเบกขานิมิต วางอารมณ์ให้อยู่ที่การภาวนาไม่ต้องสนใจ สภาวะที่เกิดขึ้น หน้าที่ตามดูลมหายใจเข้า หายใจออก เท่านั้น
( ก็แนะนำแบบอานาปานสติ ทั่วไปให้นะ )
เจริญธรรม