ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศึกษาธรรมะ มาก ๆ เพื่อสิ่งใดกัน  (อ่าน 4136 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

vijitchai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ศึกษาธรรมะ มาก ๆ เพื่อสิ่งใดกัน
« เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 07:39:50 am »
0
พระพุทธองค์ ทรงตรัสกับ ภิกษุ ว่า ธรรมะที่เราแสดงแก่เธอทั้งหลาย เพียงกำมือเดียวจากป่า

ผมจึงมีความรู้สึกว่า การศึกษาธรรมะ มาก ๆ นั้นเพื่ออะไรกัน

ถ้าเราศึกษาเพียง พอแก่การภาวนาได้หรือไม่

ผมไปบางที ก็ใช้คำว่า ศึกษา พุทธวจนะ แต่ที่จริงก็ต้องการให้เชื่อท่าน ว่า พุทธวจนะ เป็นอย่างนี้ ควรเชื่อท่าน

อย่าไปฟังบรรดา สาวก เลยฟัง พระพุทธเจ้า ดีกว่า แต่ที่จริงคำพูดที่ท่่านอ้างออกมาก็ต้องการให้เชื่อท่าน ที่เป็นผู้

บอก พุทธวจนะ บางครั้งผมฟัง และคล้อยตามไปกับเห็นว่า พระสูตรบทนี้ไม่ใช่ พระสูตรที่เหมาะกับจริตเรา

จึงทำให้ผมเขว และ ปฏิบัติแบบตามสบาย ตามสไตล์เดิม ซึ่งผมก็รู้ในใจว่า กิเลสมันไม่ได้เบาบางลงจริง แตก

ต่าง จากตอนที่นั่งสมาธิ ภาวนาแล้ว รู้สึกได้เลยว่า พิจารณาธรรม ได้ทะลุปรุโปร่ง

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อม ครูบาอาจารย์ ผู้สอนกรรมฐาน ทุก ๆ รูป ครับ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึง พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ตลอดชีวิต พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

axe

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 187
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษาธรรมะ มาก ๆ เพื่อสิ่งใดกัน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 04:11:27 pm »
0


 :25: :25:
บันทึกการเข้า
หนุ่มหล่อ ใจดี AXE

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษาธรรมะ มาก ๆ เพื่อสิ่งใดกัน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:57:10 am »
0
เพื่อนๆครับ อย่าลืมซิครับ ในภาพรวมแล้ว พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งสิกขา

สิกขา คือ การศึกษา, การสำเหนียก, ข้อที่จะต้องศึกษา,
ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรม มี ๓ อย่างคือ

๑.อธิสีลสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องศีล
๒.อธิจิตตสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องจิต เรียกง่าย ๆ ว่า สมาธิ
๓.อธิปัญญาสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องปัญญา รวมเรียกว่า ไตรสิกขา


หากนำการศึกษามาเป็นเครื่องแบ่งอริยบุคคล จะแบ่งได้สองประเภท คือ

  ๑.เสขบุคคล (บุคคลที่ยังต้องศึกษาอยู่)
 ๒.อเสขบุคล(บุคคลผู้ไม่ต้องศึกษา)


เสขะ ผู้ยังต้องศึกษา ได้แก่ พระอริยบุคคลที่ยังไม่บรรลุอรหัตตผล
โดยพิสดารมี ๗ คือ ท่านผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค ในโสดาปัตติผล ในสกทาคามิมรรค
ในสกทาคามิผล ในอนาคามิมรรค ในอนาคามิผล และในอรหัตตมรรค,
พูดเอาแต่ระดับเป็น ๓ คือ พระโสดาปัน พระสกทาคามี พระอนาคามี

อเสขะ ผู้ไม่ต้องศึกษา เพราะศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว ได้แก่ บุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตผล คือ พระอรหันต์, คู่กับ เสขะ


จะเห็นว่า ถ้ามองในมุมกว้างแล้ว คนที่ไม่ต้องศึกษาธรรมะ มีอยู่คนเดียวครับ คือ พระอรหันตผล
อริยบุคคลส่วนใหญ่ยังต้องศึกษาธรรมะอยู่เลย แล้วเราผู้เป็นปุถุชน ควรจะทำอย่างไรดีครับ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

รักหนอ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +22/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 369
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศึกษาธรรมะ มาก ๆ เพื่อสิ่งใดกัน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2010, 12:03:15 pm »
0
อ้างถึง
การศึกษาธรรมะ มาก ๆ นั้นเพื่ออะไรกัน

ศึกษาเพื่อรู้ วิธีการปฏิบัติ คะ

    ต้องมีคำถามต่อไปนะ คะว่า แล้วเราจะปฏิบัติธรรม เพื่ออะไร ?

        ปฏิบัติ เพื่อ เป็น เทวดา พรหม พระโพธิสัตว์ และ พระอรหันต์ คะ

            ต้องถามต่อไปอีกว่า  แล้วจะเป็น เทวดา พรหม พระโพธิสัตว์ และ พระอรหันต์ ไปเพื่ออะไร ?

                เป็นเทวดา เพื่อให้เกิดความร่มเย็น ในสังคมคะ เพราะถ้ามีคนดีเยอะ ๆ เราก็ไม่เดือดร้อน คะ

                     เป็นพรหม เพื่อให้จิต เปี่ยมไปด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คะ

                            เป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อช่วยเหลือ มหาชน คะ

                                  เป็นพระอรหันต์ ก็เพื่อ พ้นจาก วัฏฏะสงสาร นี้คะ


      หวังว่าคงชื่นใจ กับคำตอบนะคะ


 :88: :88: :25: :25:

บันทึกการเข้า