ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่นี่ ช่างวุ่นวายหนอ.? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว  (อ่าน 1648 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28363
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ที่นี่ ช่างวุ่นวายหนอ.?
วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยพิสุทธิ์ เกรียงบูรพา

ขึ้นชื่อว่า 'ข่าวร้าย' ย่อมต้องถูกสื่อมวลชนนำเสนอมาก และยังแพร่ขยายไปไกลกว่าข่าวดีเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ หนังสือพิมพ์รายวัน คนไทยหลายคน กว่าจะได้เป็นข่าวขึ้นหน้า ๑ ได้ อาจจะต้องกลายเป็นศพไปเสียก่อน ดังเช่นกรณีล่าสุดนี้ เพื่อนรุ่นน้องร่วมมหาวิทยาลัยคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ ขับรถเบนซ์ชนรถคอนเทนเนอร์ เสียชีวิตคาที่ด้วยวัยเพียง ๔๒ ก็ปรากฏภาพสยองของรถหรู ที่พังยับเยิน อยู่ในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวันบางฉบับ เป็นที่น่าสะเทือนขวัญของคนทั่วไป โดยเฉพาะกับคนที่รู้จักกัน

แต่ชาวพุทธเรา หากรู้จักโยนิโสฯ เป็น 'ข่าวร้าย' ก็อาจกลายเป็นประโยชน์ สอนธรรมะ แก่เราได้ดี อย่างที่การอ่านหนังสือธรรมะมาแล้วหลายร้อยเล่ม ยังไม่อาจเทียบได้ทีเดียว ... กรณีการตายอย่างกะทันหันของหนุ่มวิศวกรเจ้าของธุรกิจที่ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ รายนี้ ก็เหมือนกัน เป็นสิ่งที่สอน 'อนิจจัง' ได้ดีกว่า พระอาจารย์รูปใดๆ เทศน์ให้เราฟังเสียอีก กอรปกับสารพันบรรดา 'ข่าวร้าย' หลายร้อยข่าวที่ไหลประเดประดังเข้ามาในความคิด เช่น หัวหน้าครอบครัวหนีปัญหาหนี้สิน ด้วยการกรอกยาฆ่าแมลง พากันตายยกครัว, ชาวนาถูกรัฐบาลเอาเปรียบ ลงทุนปลูกข้าวขายไปแล้ว กลับได้มาเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งขึ้นเงินก็ไม่ได้ ทุกข์ทนจนรับสภาพไม่ไหว ฆ่าตัวตายตามๆ กันไปเป็นสิบคน, ครูผู้ขาดจิตวิญญาณบางคนในสังคมนี้ สรรหาวิธีน่ารังเกียจ เพื่อเป็นข้อต่อรองให้ลูกศิษย์ต้องกระทำบางอย่าง เพียงแลกเกรดเท่านั้น


 :96: :96: :96: :96:

คนชั่วแฝงกายใต้จีวร เกาะกินพระศาสนา รับทานรับเงินทองของญาติโยม แต่กลับไม่ประพฤติตัวอยู่ในศีลาจาวัตร ทำตัวบัดสีบัดเถลิง เป็นข่าวให้เห็นไม่เคยขาดจากหน้าหนังสือพิมพ์ ฯลฯ ต่างๆ นานา เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเครื่องสะท้อนสภาพสังคม ความตกต่ำของคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ หรือความไม่แน่ไม่นอนของชีวิตคนเรา แต่ใครเล่าจะแลเห็นสัจธรรมที่ซ่อนเร้นอยู่ในการแสดงเหล่านี้ นอกจากจะเป็นผู้มีปัญญา

ทำให้ผมระลึกนึกไปถึง ท่านยสกุลบุตร พระอรหันตสาวก องค์ที่ ๖ ของโลก ท่านก็คงพิจารณาประสบการณ์ในชีวิต ที่ได้เผชิญมาอย่างแยบคาย ถึงกับระเบิดออกมาจากข้างใน แล้วเดินทอดน่อง ออกจากพระราชวัง ๓ ฤดู (ผู้มีอันจะกินสมัยพุทธกาล เขานิยมสร้างวัง ๓ ฤดูกัน) ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแต่เบื้องหลัง พร้อมพลอดรำพันไปตลอดทางว่า ...

    “ที่นี่ วุ่นวายหนอ, ที่นี่ ขัดข้องหนอ”

ความเบื่อหน่ายคลายจางของท่าน เกิดขึ้นจากกระบวนโยนิโสมนสิการในกมลสันดานของท่าน กระทั่งผ่านมาพบพระพุทธเจ้า ที่ทรงโปรดท่านยสกุลบุตร ด้วยการเชิญชวนไปนั่งฟังเทศน์ เพียงแค่ ๒ กัณฐ์เล็กๆ ท่านยสก็บรรลุอรหัตผลแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้บวชเป็นพระเลย ผมจึงยกท่านให้เป็น “บิดาแห่งการบรรลุอรหันต์ทั้งๆ ที่ยังเป็นฆราวาส” ... ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เกิดจากการได้พิจารณาเรื่องความน่าเบื่อหน่าย วนเวียนไปมาทางโลก จนตกผลึกอย่างแยบคายแล้วนั่นเอง


 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

เพราะฉะนั้น อานิสงส์ของข่าวร้ายจากสื่อมวลชนก็ดี จากชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์โดยตรง หรือโดยอ้อมก็ดี สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือน กระตุ้นให้คนเราเล็งเห็น ความเบื่อหน่าย (นิพพิทา) ได้เองด้วยปัญญาของตน แล้วก็จะเกิดความคลายจาง จนกระทั่งกิเลสย้อมไม่ติด (วิราคะ) จนในที่สุด เขาผู้นั้นก็จะปรารภออกมาเอง คล้ายๆ กับคำอุทานของพระ ยสกุลบุตรว่า ....

      “ที่นี่ วุ่นวายหนอ, ที่นี่ ขัดข้องหนอ”

อุทานกันให้ทันนะครับ เวลาประสบเหตุกับตัวเองน่ะ ... เพราะความเห็นสัจธรรมจังๆ จนบรรลุอรหัตผลได้ กับ เห็นจนแบบรับทุกข์นั้นไม่ไหว กลายเป็นบ้า สติวิปลาสไปนั้น มันใกล้เคียงกันมาก ดังกรณีที่ท่านพุทธทาสเคยเตือนอุบาสกใกล้ชิดที่สวนโมกข์ครั้งหนึ่งในอดีต (ขออนุญาตเล่าซ้ำ) ... คุณตาทองมาก แกเคยสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อตอน “แม่” ตายได้ ๓ วัน, ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแกก็มาตายตามไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์อีกคนหนึ่ง วันนั้นโลงศพทั้งสองตั้งเรียงกันอยู่กลางบ้านเลย หลังจากท่านอาจารย์พุทธทาสทราบข่าว ได้พบคุณตาในสวนโมกข์ พอดี ท่านพูดปลอบใจแบบเซนให้คุณตาฟังว่า ...

    “คุณทองเอ้ย ... เจอแบบนี้ ถ้าไม่บ้า ก็อรหันต์แล้ว!”


 ans1 ans1 ans1 ans1

ครับ ... อย่าประหลาดใจเลย หากวันหนึ่ง ท่านรู้สึกด้วยหัวใจท่านเองว่า โลกนี้มันช่างวุ่นวายหนอ ... ช่างขัดข้องหนอ ก็ขอให้ตระหนักว่า นั่นแหละสภาวะจิตของท่านเกิดความเจริญก้าวหน้ามาถึงระดับหนึ่งแล้ว แม้โลกมันจะวุ่นวาย ซับซ้อน จนน่าสะอิดสะเอียนมากเพียงไหน ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ก็ยังดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างแคล้วคลาดปลอดภัย ด้วยหัวใจที่มีธรรม เสมือนลิ้นของงู ที่อยู่ในปากตัวเอง แต่ไม่เคยถูกเขี้ยวของตนนั้นขบกัด ฉันใดก็ฉันนั้น

และด้วยจิตภาวนาที่ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ กระทั่งท่านเห็นชัดเจนว่า ในโลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มีอะไรน่าเอา-น่าเป็น เลยจริงๆ ก็เท่ากับว่า ... ท่านทั้งหลายก็ได้ดำเนินรอยตามท่านยสกุลบุตร ผู้เป็นพยานบุคคลซึ่งพิสูจน์แล้วว่า การบรรลุอรหันต์ผลนั้นเกิดขึ้นได้แม้ยังเป็นคนหัวดำๆ อยู่เลยครับ 


 


พระยสเถระ พระอรหันตสาวกองค์ที่ ๖ ของโลก

พระยสเถระ เป็นบุตรนางสุชาดา (ผู้ถวายข้าวมฑุปายาสแก่พระพุทธเจ้า) กับเศรษฐีชาวเมืองพาราณสี ก่อนบวชท่านมีเรือนอาศัย ๓ หลัง มีประโคมดนตรี รายล้อมด้วยสตรีมากมาย เปี่ยมด้วยโลกิยสุขมาโดยตลอด กระทั่งคืนหนึ่งท่านหลับไปก่อนประโคมดนตรีจบ แล้วจึงตื่นขึ้นมากลางดึก เห็นเหล่าสตรีนอนมีกิริยาน่าเกลียดน่ากลัว ท่านจึงเกิดความเบื่อหน่ายและออกจากปราสาทไป พลางบ่นไปว่า "ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ" ไปตลอดทาง จนเข้าป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (พระพุทธเจ้าทรงแผ่ญาณเพื่อตรวจดูเวไนยสัตว์ผู้ที่พอจะบรรลุ) เมื่อยสกุลบุตรเดินมาใกล้พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง เชิญมาที่นี่ เราจะแสดงธรรมแก่เธอ"

 :25: :25: :25: :25:

เมื่อ ยสกุลบุตรได้ยินดังนั้นจึงเข้าไป พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาโปรดแด่ท่านยสกุลบุตรจนได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน ภายหลังบิดาได้เดินออกตามหาบุตรชาย จนได้พบกับพระพุทธเจ้า และถูกเชิญขึ้นมาฟังพระธรรมเทศนาพร้อมๆ กับยสกุลบุตร โดยผู้เป็นพ่อยังไม่เห็นตัวลูกชาย (บุตรชายผู้ถูกเสกให้บิดาไม่อาจแลเห็นด้วยฤทธิ์ของพระพุทธเจ้า)

เมื่อท่านยสกุลบุตรได้สดับพระธรรมเทศนา เน้นย้ำเป็นครั้งที่ ๒ ก็ได้ส่งกระแสจิตไปตามธรรม จนรู้แจ้งเห็นจริง ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าจึงคลายฤทธิ์ที่ทำให้ล่องหน จนปรากฏร่างยสกุลบุตร พ่อลูกจึงได้พบกัน แล้วท่านยสกุลบุตรจึงทูลขอบวช ซึ่งพระบิดาในขณะนั้นได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันแล้ว จึงอนุโมทนา (อ้างอิงจาก Wikipedia)


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140916/192174.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ที่นี่ ช่างวุ่นวายหนอ.? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 18, 2014, 10:47:55 am »
0
ขออนุโมทนาสาธุ gd1
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์