ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้องเป็นอย่างนี้.? : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 983 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 

ทำไมต้องเป็นอย่างนี้.? : ธรรมะยู-เทิร์น
โดย อิทธิโชโต

ดูกรภิกษุทั้งหลาย...บุคคลคนเดียว เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย บุคคลคนเดียวคือใคร? คือ บุคคลผู้เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริต เขาทำให้คนเป็นอันมากออกจากอสัทธรรม แล้วให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม (พุทธพจน์ จาก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต)

ดังนั้น  สิ่งที่ควรให้เกิดขึ้นและมีขึ้นใตตัวเราและจิตใจเราคือ ความดีงามทั้งหลาย มีวิชชาดีที่สุด แล้วสิ่งที่ควรให้หลุดหายไปจากตัวเราและจิตใจของเราคือ อวิชชาและอกุศลทั้งหลายดีที่สุด วิชชาควรเกิดขึ้นส่วนอวิชชาควรตกไป


 :25: :25: :25: :25:

การที่จะเป็นบุคคลที่มีสัมมาทิฐิ ก็ต้องมีความเห็นชอบเป็นเบื้องต้น การทำวิชชาให้เกิดขึ้น มีทาน ศีล ภาวนา เป็นฐาน เช่นเดียวกับข้าวหนึ่งเมล็ด กว่าจะออกมาจากรวงข้าวได้ก็ใช้เวลาตั้งหลายเดือน จิตใจของเราก็เหมือนกัน แม้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ก็ไม่เกินความสามารถที่จะฝึกฝนให้ตั้งต้นอยู่ในสัมมาทิฐิได้ ไม่เช่นนั้นพระพุทธเจ้าคงไม่ตรัสสอนให้เจริญสติภาวนาอยู่ทุกขณะ

เพราะสติ ป้องกันภัยได้ ทั้งภัยภายในใจและภัยภายนอก ภัยนอกยังไม่ร้ายแรงเท่าภัยจากจิตใจของเจ้าของ หรือ จากความคิดไม่ดีของเจ้าของ โทสะก็เหมือนกัน แม้ว่ามันมาจากข้างนอก ทำให้เราโมโห แต่ลองพิจารณาจริงๆ ความโมโหมันมาจากข้างในใจเราต่างหากเล่า เพราะเราไปยึดถือความคิดของเขาใช่ไหม จึงโมโห ถ้าไม่ยึดถือ ก็ไม่โมโห เมื่อพิจารณาให้ละเอียดจะเห็นว่า แทบทุกสิ่งที่ทำให้เราทุกข์และสุข เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาอยู่ทุกวันมันออกมาจากข้างในนั่นเอง



ฉะนั้น การมีสติควบคุม ก็คือ ควบคุมอารมณ์ ควบคุมจิตเรา ไม่ต้องควบคุมคนอื่น ภัยของคนอื่นก็เป็นของคนอื่นไป แต่ภัยของเรา ก็ต้องแก้ไขด้วยตัวเราเอง

ถ้าไม่ได้ฝึกเจริญสติ เราจะไม่มีวันรู้ได้ ถึงเหตุเกิดแห่งทุกข์ที่มาจากกิเลสภายในจิตใจเราเอง เรามักได้ยินคนบ่นว่า ทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ฉันคงจะดีกว่านี้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้ออ้าง จริงๆ มันอยู่กับตัวเราเอง การอ้างคนอื่น มันเป็นปลายเหตุ


 st12 st12 st12 st12

เราป้องกันความทุกข์ได้ ถ้ามีสติ เพราะสติ เป็นรั้วป้องกัน เหมือนเราจะเข้าบ้าน ก็มีหลายประตู เช่น ประตูเข้าบ้าน เข้าห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอน ใช่ไหม ไม่อยากให้ใครเข้าไปในห้องไหน ก็ล็อกประตู เหมือนกัน ร่างกายก็มีประตูหลายบาน ที่เปิดรับสิ่งภายนอกแทบตลอดเวลา ถ้าเปิดรับหมด ก็แน่นอนล่ะ ต้องทุกข์ ดังนั้น ก็ต้องหาทางล็อกประตูของเรา อันมีไม่กี่ช่องทางได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ด้วย "สติ" นี้เอง


ขอบคุณบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140916/192175.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ