ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องราวของ "สุนัขคู่พระทัย"  (อ่าน 429 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เรื่องราวของ "สุนัขคู่พระทัย"
« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2019, 06:20:18 am »
0



เรื่องราวของ "สุนัขคู่พระทัย"

ใช่ค่ะ อยากแบ่งปันเรื่องราวของสุนัขคู่พระทัยซึ่งจะเป็นในหลวงพระองค์อื่นไปไม่ได้นอกจากล้นเกล้าฯ ร.6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 6 โปรดที่จะเสด็จมาประทับที่นครปฐมค่ะ คนชาวนครปฐมควรภาคภูมิใจ รับสั่งถึงนครปฐมว่า

การที่ได้ออกไปอยู่ที่สนามจันทร์สัปดาห์ 1 นับว่าค่อยมีความผาสุกหน่อย เพราะอากาศเย็นสบายดี และโปร่งใจกว่าในกรุงเทพฯ…

เวลาที่เราไปเที่ยวชมพระราชวังสนามจันทร์ อนุสาวรีย์ที่โดดเด่น ไม่ใช่คนค่ะ แต่เป็นสุนัขทรงเลี้ยง สุนัขทรงเลี้ยงทั้งหลาย หากไม่นับคุณทองแดงในรัชกาลที่ 9 แล้ว อนุสาวรีย์ของสุนัขทรงเลี้ยงที่มีชื่อว่า ย่าเหล โดดเด่นที่สุดและเนื่องจากย่าเหลตายในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนม์ชีพ พระองค์จึงให้สร้างอนุสาวรีย์ให้ย่าเหล

@@@@@@

ย่าเหลเป็นสุนัขพันธุ์ผสม แม่เป็นสุนัขไทย แต่พ่อเป็นสุนัขพันธุ์ฝรั่งของเจ้าคุณเทศา หรือพระยาสุนทรบุรีศรีพิไชยสงคราม (ชม สุนทราชุน) ย่าเหลจึงเป็นสุนัขพันธุ์ทางที่ไม่ได้เกิดจากการผสมบ่อยๆ จึงมีความฉลาดแสนรู้เป็นพิเศษ

ย่าเหลเป็นสุนัขสีขาวดำ หูตก หลังอาน มีความจงรักภักดีต่อเจ้านายมาก เดิมเป็นสุนัขของหลวงชัยอาญา (โพ เคหะนันทน์) ซึ่งเป็นพะธำมะรง เมื่อในหลวงเสด็จออกเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนครปฐม ได้พบย่าเหลเป็นครั้งแรก ขณะนั้นยังเป็นลูกสุนัขยังไม่หย่านม เมื่อเห็นในหลวง ย่าเหลก็วิ่งเข้ามาหา เมื่อเห็นพระองค์ทรงพอพระทัย หลวงชัยอาญาผู้เป็นเจ้าของก็เลยนำสุนัขเข้ามาถวายพร้อมแม่สุนัข ก็ลูกยังไม่หย่านมเลยต้องเอามาทั้งแม่ทั้งลูก

ย่าเหลแสดงอุปนิสัยที่จงรักภักดีเจ้านายมาก เป็นที่โปรดปราน พระราชทานนามว่า ย่าเหล เป็นชื่อตัวละครที่ชื่อว่า Jarlet แผลงมาเป็นย่าเหล ชื่อตัวละครนี้ ในเรื่อง เป็นมิตรแท้ต่อเพื่อน จนถูกยิงตาย และย่าเหลในชีวิตจริงก็มาถูกยิงตายเช่นกัน

@@@@@@

ย่าเหลเป็นสุนัขที่ผูกพันกับพระองค์ท่านเป็นยิ่ง คำว่า “ห้าแต้ม” ที่กลายเป็นภาษาพูดในความหมายว่า ทำเรื่องเชย น่าอายนั้น ว่ากันว่า เกิดขึ้นในสมัยนี้ และห้าแต้ม แท้ที่จริงแล้ว คือ รอยเท้าของสุนัข สุนัขที่ว่านี้คือ ย่าเหลนั่นเอง

ในช่วงแรกที่ย่าเหลถูกยิงตายนั้น ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง มีการคาดการณ์ว่า ย่าเหลถูกยิงตายโดยความตั้งใจ เนื่องจากเป็นสุนัขแสนรู้ หากมีผู้ใดทำสิ่งที่ไม่ดี มีอาการหน้าไหว้หลังหลอก ย่าเหลก็จะมีวิธีการที่จะแสดงออกให้ในหลวงทรงทราบความจริง เรียกว่า คนที่ถูกฟ้อง อาจจะตั้งใจทำร้ายย่าเหล

ต่อมาจึงทรงทราบความจริงว่า เป็นอุบัติเหตุ เพราะทหารยามในกรมทหารมหาดเล็กได้กราบบังคมทูลสารภาพว่า ในคืนที่เกิดเหตุนั้น ฝนตก ทหารผู้นี้อยู่ยาม ได้ยินสุนัขเห่าและกัดกันส่งเสียงดัง จึงได้ยิงปืนออกไป ทำให้พลาดไปถูกย่าเหลโดยบังเอิญ ขณะที่ยิงปืนออกไปแล้วก็ยังไม่ทราบว่าได้ยิงถูกย่าเหล


@@@@@@

การที่ย่าเหลออกไปในจุดที่เกิดเหตุนั้น เพราะหนีออกมาจากพระราชฐานส่วนใน เนื่องจากเป็นฤดูผสมพันธุ์ จึงทำให้เกิดเหตุน่าเศร้าดังกล่าว เมื่อพบศพย่าเหลนั้น นอนตายอยู่ใต้ต้นก้ามปูในกรมทหารมหาดเล็กนั้นเอง

การตายของย่าเหลจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสียพระทัยเป็นอันมาก เพราะย่าเหลจะอยู่เฝ้าในเวลาเสวยพระกระยาหารทุกครั้ง พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเป็นการชื่นชมในความจงรักภักดีของย่าเหลผู้เป็นมิตรแท้ ที่ทำหน้าที่ยิ่งกว่าองครักษ์ซึ่งอยู่ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทและตามเสด็จไม่เคยห่าง ย่าเหลจึงเป็นเหมือนมิตรสนิทของพระองค์ ความรักของพระองค์ที่มีต่อย่าเหล จึงเป็นความรักความผูกพันของผู้เป็นมิตรรักและเป็นมิตรแท้



จารึกที่อยู่ด้านหน้าอนุสาวรีย์ เป็นจารึกที่คนที่ไปชมพระราชวังสนามจันทร์จะเว้นไม่ได้เลยค่ะ

อนุสาวรีย์นี้เตือนจิต
ให้กูคิดรำพึงถึงสหาย
โอ้อาลัยใจจู่อยู่ไม่วาย
กูเจ็บคล้ายศรศักดิ์ปักอุรา

ยากที่ใครเขาจะเห็นหัวอกกู
เพราะเขาดูเพื่อเห็นแต่เปนหมา
เขาดูแต่เปลือกนอกแห่งกายา
ไม่เห็นฤกตรึกตราถึงดวงใจ

เพื่อนเป็นมิตรชิดกูอยู่เนืองนิตย์
จะหามิตรเหมือนเจ้าที่ไหนได้
ทุกทิวาราตรีไม่มีไกล
กูไปไหนเจ้าเคยเป็นเพื่อนทาง

ช่างจงรักภักดีไม่มีหย่อน
จะนั่งนอนยืนเดินไม่เหินห่าง
ถึงยามกินเคยกินกับกูพลาง
ถึงยามนอนๆ ข้างไม่ห่างไกล

อันตัวเพื่อนเหมือนมนุษสุจริต
จะผิดอยู่แต่เพียงพูดไม่ได้
แต่เมื่อกูใคร่รู้ความในใจ
ก็มองดูรู้ได้ในดวงตา

โอ้อกกูดูเพื่อนอยู่หรัดๆ
เพื่อนมาพลัดพรากไปไม่เห็นหน้า
กูเผลอๆ ก็ชะเง้อเผื่อเพื่อนมา
เสียงกุกกักก็ผวาตั้งตามอง

อันความตายเป็นธรรมดาโลก
กูก็ตัดความโศกกระมลหมอง
มีเพื่อนตายเพราะผู้ร้ายมันมุ่งปอง
เอาปืนจ้องสังหารผลาญชีวี

เพื่อนมอดม้วยด้วยมือทรชน
เอารูปคนสวมใส่คลุมใจผี
เปนคนจริงฤๅจะปราศซึ่งปรานี
นี่รากษสอัปรีย์ปราสเม็ตตา

มันยิงเพื่อนเหมือนกูพลอยถูกด้วย
แทบจะม้วยชีวังสิ้นสังขาร์
จะหาเพื่อนเหมือนเจ้าที่ไหนมา
ช้ำอุราอาไลยไม่วายเว้น

เมื่อยามมีชีวิตร์สนิทใจ
ยามบรรไลยลับล่วงดวงใจสั่น
ด้วยอำนาจจงรักภักดีนั้น
ขอให้เพื่อนขึ้นสวรรค์สำราญรมย์

ถึงจะมีหมาอื่นมาแทนที่
กูก็รักเพื่อนนี้เป็นปฐม
ที่ไหนเล่าจะสนิทและชิดชม
ที่ไหนเล่าจะนิยมเท่าเพื่อนรัก

ถึงแม้จะไม่มีรูปนี้ไว้
รูปเพื่อนฝังดวงใจกูตระหนัก
แต่รูปนี้ไว้เป็นพยานรัก
ให้ประจักษ์แก่คนผู้ไมตรี

เพื่อนเป็นเยี่ยงอย่างมิตรสนิทยิ่ง
ภักดีจริงต่อกูอยู่เต็มที่
แม้คนใดเป็นได้อย่างเพื่อนนี้
ก็ควรนับว่าดีที่สุดเอย



ถ้าอ่านพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่านนี้ จะเห็นว่า พระองค์ท่านเข้าใจว่า ย่าเหลถูกปลิดชีพด้วยความตั้งใจ ส่วนทางราชการพยายามอธิบายว่าเป็นอุบัติเหตุ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งมีความเป็นไปได้อยู่มาก เพราะพระองค์ท่านให้ความรักความเอ็นดูเหนือพวกข้าราชบริพารหลายคน ในบทพระราชนิพนธ์นี้เองก็ให้ภาพนั้นอยู่

ต้องบอกว่า ย่าเหลเป็นตำนานที่ติดตรึงในใจของทุกคนที่รับรู้เรื่องราว ว่าพระองค์ท่านมีความสัมพันธ์กับย่าเหลเช่นเดียวกับมิตร ไม่ได้ถือว่าเป็นสุนัขดังเช่นที่เราท่านเข้าใจกันทั่วไป ถ้าไปนครปฐม และเข้าไปเยี่ยมชมพระราชวังสนามจันทร์ อย่าลืมไปเยี่ยมย่าเหลด้วย



ที่มา: มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24-30 พฤษภาคม 2562
คอลัมน์ : ธรรมลีลา
ผู้เขียน : ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2562
ขอบคุณ : https://www.matichonweekly.com/column/article_198305
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ