ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: นั่งสมาธิ ได้ไม่เกิน 20 นาที เอาดีทางนี้ไม่ได้ เลยเปลี่ยนเป็นทำบุญอย่างอื่นแทน  (อ่าน 15088 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

montra

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 76
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือพยายามนั่งแล้ว ก็ไม่สามารถ กำหนด สำรวมใจ อะไรได้ ซ้ำยังทรมานจากท่านั่งอีก ปวดเหน็บขาชาทำไม่ไหว

ลองหลายหน ก็รู้สึก ท้อคิดว่าคงไม่มีวาสนา บารมีมาทางนี้แน่ เปลี่ยนเป็นอ่านหนังสือ กำหนด สติแทน ทำบุญ

ตักบาตร แทน อย่างนี้จะไปสู่ นิพพาน สิ้นกิเลสได้หรือไม่ครับ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 
ต้องหากัลยาณมิตรครับ ควรเข้าหาครูบาอาจารย์ มรรคมีองค์แปด แบ่งเป็น ๓ ส่วน
  คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เบื้องต้นต้้องมีศีล

  "สีเลนะ สุคติง ยันติ" - ศีลจะพาไปสู่ เป็นสะพานไปสู่สุคติภูมิ คือ มนุษย์ เทวดา
  "สีเลนะ โภคะ สัมปทา" - ศีลเป็นเหตุให้เกิดโภคทรัพย์ ผู้มีศีล จะมีโภคทรัพย์
  "สีเลนะ นิพพุตติง ยันติ ตัสมา สีลังวิโสทะเย"- จะไปสู่มรรค ผล นิพพาน ได้ ก็ต้องอาศัยศีล


    ส่วนการได้มาซึ่งสมาธิ ควรหาครูสอนให้ครับ ในเว็บนี้ช่วงเวลาระหว่างหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม
  ที่ RDN station (ลานฟังธรรม) จะมีเสียงพระอาจารย์สอนกรรมฐาน ลองฟังอันนี้ก่อนก็ได้
  มีปัญหาอะไร ก็ค่อยมาคุยกันอีกที


  การทำบุญตักบาตร อ่านหนังสือธรรมะ ทำไปเถิดครับ สิ่งนี้จะทำให้ใจเป็นกุศล เมื่อใจเป็นกุศล สมาธิจะเกิดได้ง่ายขึ้น
  นิวรณ์จะน้อย ส่วนเรื่องการเจริญสตินั้น ต้องมีสมาธิระดับหนึ่งก่อน จึงจะทำได้
  ขอคุยเท่านี้ครับ
;) 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2011, 01:35:43 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Sitti

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 97
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าคุณต้องการทำอย่างนั้น หรือ คิดว่าทำได้แค่นั้น ก็ทำเพียงเฉพาะคุณไปก่อน แต่อย่าไปชักชวนคนอื่นล้มเลิกตามแบบเรา นะครับ เพราะจะมีวิบากกรรม อุปสรรคเพิ่มขึ้นนะครับ
 
  เรื่องอย่างนี้อยู่ที่การสั่งสมบารมีส่วนหนึ่งครับ

  :25:
บันทึกการเข้า
สิทธิ มาแว๊ว มาตามคำเชิญ แก๊งค์  อ๊บ

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ต้องอดทนครับ ถ้าชอบฝึกสติ ก็ให้นั่งเหมือนเดิม แล้วตามรู้ตรงเวทนา พิจารณาว่า
-ที่ปวดนะเป็นเรามั้ย
- มันเที่ยงมั้ย
ลองทำสักสิบครั้ง ถ้าชนะหนึ่งครั้ง ก็จะชนะตลอดไป
ตอนที่ชนะ เราก็จะรู้ว่าที่แท้ จิตนั่นแหละที่มันปรุง ไม่ใช่กาย ลองเล่นกับมันดูสนุกนะ
แล้วก็จะรู้กฏไตรลักษณ์เข้าไปอยู่ในจิตเราโดยอัตโนมัติ
บันทึกการเข้า

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


 
ถ้าคุณต้องการทำอย่างนั้น หรือ คิดว่าทำได้แค่นั้น ก็ทำเพียงเฉพาะคุณไปก่อน แต่อย่าไปชักชวนคนอื่นล้มเลิกตามแบบเรา นะครับ เพราะจะมีวิบากกรรม อุปสรรคเพิ่มขึ้นนะครับ
 
  เรื่องอย่างนี้อยู่ที่การสั่งสมบารมีส่วนหนึ่งครับ

  :25:

เห็นด้วย กับคุณ sitti ครับ

  ในส่วนนี้ มีผลกรรมเป็นวิบาก ที่ทำให้เกิดอุปสรรค การชักชวนให้บุคคลใด ๆ เลิกแล้ว ละเลย ต่อการภาวนาธรรมอันมีิิจิตั้งสู่ มรรค ผล และ นิพพาน ย่อมทำให้ผู้ชักชวน ได้รับวิบาก อุปสรรคในการภาวนาทุกชาติ ร่วมถึงการมีปัญญาทราม เพราะไม่การขัดขวางผู้ฝึกธรรม

  บางคนมีความเพียรน้อย มีความพยายามน้อย สามารถทำได้ แต่ไม่ทำ มีจำนวนมาก คนเหล่านี้ก็มักจะชักชวนให้คนอื่น ไม่ภาวนาเหมือนให้อยู่เป็นเพื่อนตนเอง

 จริงอยู่การภาวนา อยู่ที่ศรัทธา แต่อย่าลืมว่า ศรัทธา อย่างเดียว ไม่เพียงพอ ต้องมีธรรมประกอบ ด้วยคือ ความอดทน คนมีศรัทธาในการทำกุศล แต่ไม่มีความอดทนในการทำกุศล พอเจออุปสรรคขัดขวาง ก็จะมักจะท้อถอย และเลิกลา

  ดังนั้น อยากให้คุณ ใส่ความอดทน ลงไปบ้างครับในการภาวนา

  ถึงแม้ไม่กำหนดเวลา ก็จะควรกำหนดเวลา เริ่มจากคูณสอง ก็จะดีครับ

  ไม่ต้องทำกรรมฐาน ให้นาน แต่ให้ทำ บ่อย ๆ เช่น นั่งกรรมฐาน เดินจงกรม นอนภาวนา ยืนกำหนดจิต ก็ให้ทำบ่อย สัก 5 นาที แต่ทำบ่อย ๆ

   ผมเองก็ใช้วิธีการนี้ ตอนไปเรียน กรรมฐาน ที่วัดธรรมมงคล เรียกว่า วิทิสสาสมาธิ คือการกำหนด สมาธิบ่อย ๆ ครั้งละ 5 นาที หลาย ๆ ครั้ง  5 นาที ทำ 10 ครั้ง ก็ 50 นาทีแล้วครับ ต้องเริ่มด้วยความอดทนแบบนี้่ก่อนครับ

   ส่วนเรื่อง การรักษาศีล ทำทาน อ่านหนังสือธรรมะ สำหรับผม คิดว่าเป็นการทำแค่พื้นฐาน ซึ่งควรจะมีอยู่แล้วสำหรับผู้ฝึกภาวนา ทุกท่าน แต่การเจริญ อริยมรรรค ไม่ได้มีอยู่ในพื้นฐาน เพราะต้องเติบโตมาด้วย  ทิฏฐิ ที่ถูกต้อง ความตั้งใจ ที่ถูกต้อง ด้วย

  ดังนั้น ขอให้ใช้คาถา ที่พระอาจารย์ เคยแนะนำไว้ ว่า


    อ ด ท น
 
บันทึกการเข้า

ban

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 117
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยครับ

  อ ด ท น



 :25: :25: :25: :25:
 
บันทึกการเข้า

ปักษาวายุ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 96
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยครับ

  อ ด ท น



 :25: :25: :25: :25:

 เห็นด้วยครับ แต่เพิ่มการเรียน กรรมฐาน ให้เข้าใจด้วยนะครับ

บันทึกการเข้า

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ต้อง ปล่อยวาง ลงเสียบ้างคะ ไม่ใช่ อดทน

  ปล่อยวาง ความอยาก สำเร็จลงเสียบ้างคะ

  ส่วน อดทน เป็น อัตตกิลมถานุโยค คะ ทรมานตนให้เจ็บ ให้ปวด ยังผิดทางคะ

 ปล่อยวาง วิธีการลงบ้าง เพราะไม่ใช่ ว่าจำเป็นต้องนั่งให้เมื่อย ให้เหน็บกิน กันเป็น ชั่วโมง

 ต้องย้อนกลับมาดูว่า เราต้องการภาวนานี้เพื่ออะไร

   คำตอบ คือ นิพพาน ก็หมายถึง ความดับ ความเย็น คะ

  ดังนั้นถ้าเรา อดทน แล้ว เร่าร้อน เพราะทรมาน มีตัณหาเป็นแดนเกิดแล้ว จะสวนทางกลับ นิพพาน นะคะ

  :25: :85:
บันทึกการเข้า

จตุพร

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 94
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากทราบ วิธี ปล่อยวางครับ

  ปล่อยวาง คือทำอย่างไร ?

  ปล่อยวาง วิธีการ คือการปล่อยตัวตามสบาย อยากจะนั่ง เดิน นอน ยืน ตามใจฉัน

  มรรค หมายถึง วิธีการ ใช่หรือไม่ หรือ เป็น วิถึทาง เท่านั้นครับ

  :25:
บันทึกการเข้า

เด็กวัด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 150
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากทราบ วิธี ปล่อยวางครับ

  ปล่อยวาง คือทำอย่างไร ?

  ปล่อยวาง วิธีการ คือการปล่อยตัวตามสบาย อยากจะนั่ง เดิน นอน ยืน ตามใจฉัน

  มรรค หมายถึง วิธีการ ใช่หรือไม่ หรือ เป็น วิถึทาง เท่านั้นครับ

  :25:

 เอ้า คนเดียวกัน เลยนะครับ คุณ modtanoy ช่วยเล่า วิธีการด้วยนะครับ
แจกธรรมทาน ไม่สะดวก ก็หลังไมค์ เลยนะครับ

  :25:
บันทึกการเข้า

NP2706

  • เราต้องสร้างสะพานระหว่างสมองกับหัวใจ ให้ความรู้ที่เป็นสัญญานี้ทราบซึ้งเข้าไปถึงหัวใจ
  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 96
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


 
  ไม่ต้องทำกรรมฐาน ให้นาน แต่ให้ทำ บ่อย ๆ เช่น นั่งกรรมฐาน เดินจงกรม นอนภาวนา ยืนกำหนดจิต ก็ให้ทำบ่อย สัก 5 นาที แต่ทำบ่อย ๆ

   ผมเองก็ใช้วิธีการนี้ ตอนไปเรียน กรรมฐาน ที่วัดธรรมมงคล เรียกว่า วิทิสสาสมาธิ คือการกำหนด สมาธิบ่อย ๆ ครั้งละ 5 นาที หลาย ๆ ครั้ง  5 นาที ทำ 10 ครั้ง ก็ 50 นาทีแล้วครับ ต้องเริ่มด้วยความอดทนแบบนี้่ก่อนครับ

    ดังนั้น ขอให้ใช้คาถา ที่พระอาจารย์ เคยแนะนำไว้ ว่า


    อ ด ท น
 

 :72: :72: เห็นด้วยกับวิธีปฏิบัติมาก ๆ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้มาก็คือ "วสี ในการปฏิบัติ"  ซึ่งผู้ปฏิบัติจะต้องทำให้คล่องทั้งเข้าและออกในการปฏิบัติกรรมฐาน ส่วนเรื่องเวลาควรจะลืมไปก่อนเลย  ถ้าการปฏิบัติตั้งมั่นในเวลาที่ควรจะเป็นก็เรียกว่าสร้างกิเลสเป็นอันดับแรกเลย  จริงๆ แล้วไม่มีผู้ปฏิบัติใดที่เริ่มที่จะปฏิบัติแล้วนั่งได้เป็นชั่วโมง ๆ ในคราวแรก ถ้าจะให้เห็นชัดๆ ให้ดูนักกีฬา การที่จะวิ่งให้ได้ระยะไกลๆ นานๆ นั้นก็ต้องเริ่มตั้งแต่ฝึกหัดวิ่งระยะใกล้ๆ แล้วฝึกบ่อยๆ จึงค่อยเพิ่มระยะทางให้มากขึ้น
                สิ่งที่สำคัญที่ควรจะให้มีก็คือ ต้องกำหนดองค์บริกรรมนิมิตให้ได้ทั้ง 3 นิมิต อย่างที่คำกล่าวที่ว่า " แค่งูแลบลิ้น หรือช้างกระดิกหู ก็สามารถบรรลุธรรมได้ " 
                อย่างแรกสำหรับผู้ปฏิบัติ...ไม่ได้แจ้งว่าการกำหนดภาวนาอย่างไร เลยไม่ทราบว่าเคยฝึกปฏิบัติมาอย่างไรสิ่งที่แนะนำได้เพื่อให้เกิดกำลังใจ ก็คือ "เราเป็นลูกพระพุทธเจ้านะ....เรื่องแค่นี้อย่าเพิ่งท้อ เพราะยังมีสิ่งที่ยากกว่านี้อีกตั้งมากมายที่จะต้องฝ่าฟันไปให้ได้ "
                ขอเป็นกำลังใจให้ :88:
บันทึกการเข้า
"Only two things are infinite, the universe and human stupidity,
and I'm not sure about the former."

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สำหรับผม ขันติมีความสำคัญมาก ถ้าจำไม่ผิด พระพุทธเจ้าท่านสอนเป็นสิ่งแรกในบทธรรมจักร
ส่วนจะเป็นการทรมาณตัวเองหรือไม่ ต้องพิจารณาดูเอง วิธีการมีมากมาย
แต่คิดว่าถ้าสามารถผ่านเวทนาได้ และแยกออกว่าที่ปวดนะไม่ใช่เรา แล้วจะเห็นไตรลักษณ์เอง
ตรงนี้จะเกิดปํญญาเองโดยอัตโนมัติ
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
ปฏิปทาวรรคที่ ๒

ทรงแสดงปฏิปทา ๔ อย่าง มีชื่อเดียวกัน แต่ต่างใน คือ 
   ๑. ปฏิบัติลำบาก ทั้งรู้ได้ช้า
   ๒. ปฏิบัติลำบาก แต่รู้ได้เร็ว
   ๓. ปฏิบัติสะดวก แต่รู้ได้ช้า
   ๔. ปฏิบัติสะดวก ทั้งรู้ได้เร็ว.


ทรงแสดงปฏิปทา ๔ อย่าง มีชื่อเดียวกัน แต่ต่างใน คือ
   ๑. ปฏิบัติไม่อดทน
   ๒. ปฏิบัติอดทน
   ๓. ปฏิบัติข่ม
   ๔. ปฏิบัติสงบ.


พระมหาโมคคัลลานะตอบพระสาริบุตร ว่า ท่านอาศัย การปฏิบัติลำบาก และรู้ได้ช้า มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะ.
พระสาริบุตรตอบพระมหาโมคคัลลานะ ว่า ท่านอาศัย การปฏิบัติสะดวก และรู้ได้เร็ว มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะ.


อ้างอิง
http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/13.4.html
อ่านรายละเอียดได้ที่
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ บรรทัดที่ ๔๐๘๓ - ๔๒๙๙. หน้าที่ ๑๗๖ - ๑๘๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=4083&Z=4299&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=21&i=161


 พระพุทธองค์ตรัสว่า
 "ขันติเป็นประธานเป็นเหตุแห่งคุณ คือ ศีลและสมาธิ กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญ เพราะขันติเท่านั้น"

 ลิงค์แนะนำ
   "ความสำเร็จของศีลและสมาธิ มีเหตุมาจากขันติ(อดทน)"
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5098.0

 

 
    เืลือกเอาเถิดครับ ชอบอะไรก็็ทำไปตามอัธยาศัย แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ความอดทน

    จะทนได้มากน้อยอย่างไร ก็แล้วแต่บุญบารมีที่สั่งสมมา

     ;) :49: :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
พยายามนั่งแล้ว ไม่สามารถกำหนดสำรวมใจได้ ซ้ำทรมานจากท่านั่งก็รู้สึกท้อ คิดว่าคงไม่มีวาสนาบารมีมาทางนี้แน่ เปลี่ยนเป็นอ่านหนังสือ ทำบุญตักบาตร แทน อย่างนี้จะไปสู่ นิพพาน สิ้นกิเลสได้หรือไม่ครับ



     ก่ออิฐสร้างฐานบุญ          เข้าอุดหนุนศีลรักษา
ย่างก้าวเข้าภาวนา           วิปัสสนาค่อยค่อยไป.

                                                                                                        ธรรมธวัช.!



http://www.oknation.net/blog/print.php?id=566077
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2011, 10:13:16 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

Lux

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 113
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณ modtanoy กรุณามา อธิบาย เพิ่มเติมด้วยคะ เพื่อน ๆ เรียกร้องนะคะ
อยากทราบ วิธี ปล่อยวางครับ



    อ ด ท น
 


คุณ modtanoy กรุณามา อธิบาย เพิ่มเติมด้วยคะ เพื่อน ๆ เรียกร้องนะคะ
คุณ modtanoy กรุณามา อธิบาย เพิ่มเติมด้วยคะ เพื่อน ๆ เรียกร้องนะคะ
คุณ modtanoy กรุณามา อธิบาย เพิ่มเติมด้วยคะ เพื่อน ๆ เรียกร้องนะคะ
คุณ modtanoy กรุณามา อธิบาย เพิ่มเติมด้วยคะ เพื่อน ๆ เรียกร้องนะคะ
คุณ modtanoy กรุณามา อธิบาย เพิ่มเติมด้วยคะ เพื่อน ๆ เรียกร้องนะคะ
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม มีความสุข แม้แบบชาวโลก
อยากให้ทุกคนไม่มีทุกข์ มีแต่สุข ในการภาวนา
อยากหนอ .... ก็ทุกข์หนอ ใช่หรือไม่จ๊ะ

Lux

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 113
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณ modtanoy กรุณามา อธิบาย เพิ่มเติมด้วยคะ เพื่อน ๆ เรียกร้องนะคะ

 :c017: :58: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม มีความสุข แม้แบบชาวโลก
อยากให้ทุกคนไม่มีทุกข์ มีแต่สุข ในการภาวนา
อยากหนอ .... ก็ทุกข์หนอ ใช่หรือไม่จ๊ะ

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทราบแล้วคะ คุณ lux แต่ประเด็นการปล่อยวาง รู้สึกว่าจะได้พิมพ์ไปแล้วนะคะ

 อย่างไรเสีย ถ้าไม่เข้าใจ ก็ลองหาคู่มือมนุษย์ อ่านดูได้คะ

  ถ้าที่สระุบุรี ก็มาร่วมสนทนา ปฏิบัติธรรมกัน ที่สวนอิทัปปัจจยตา พุแค สระุบุรีได้คะ

  ถ้าอยู่ปากเกร็ด ก็ขอเชิญที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ นะคะ

  ถ้าอยู่เขตรังสิต ก็ขอเชิญที่วัดปัญญานันทาราม

  ถ้าอยู่ภาคใต้ ก็เชิญที่ สวนโมกขพลาราม ไชยา

  ถ้าอยู่ภาคเหนือ ก็ขอเชิญที่ วัดอุโมงค์ เีชียงใหม่ และ สวนโมกเชียราย ใกล้สนามบินเก่า นะคะ

  ส่วนประเด็นการปล่อยวางจิต จะพยายามทะยอยมาให้อ่านคะ เพราะตอนนี้ทำงานอยู่คะ


  :58:
บันทึกการเข้า

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
ปฏิปทาวรรคที่ ๒

ทรงแสดงปฏิปทา ๔ อย่าง มีชื่อเดียวกัน แต่ต่างใน คือ 
   ๑. ปฏิบัติลำบาก ทั้งรู้ได้ช้า
   ๒. ปฏิบัติลำบาก แต่รู้ได้เร็ว
   ๓. ปฏิบัติสะดวก แต่รู้ได้ช้า
   ๔. ปฏิบัติสะดวก ทั้งรู้ได้เร็ว.


 
ผมว่า ทั้งอดทนและปล่อยวาง ก็ดีทั้งคู่แล้วแต่จริตของแต่ละคน
คนที่ฝึกสมถะมักจะเน้นอดทน
คนที่ฝึกวิปัสสนามักจะปล่อยวาง
 การที่เราปวดเมือ่ยที่หลายปัจจัย เช่น ขันธมาร กรรมเก่ามาตาม ร่างกายไม่สมบูรณ์
ตรงนี้เราต้องพิจารณาเองว่าน่าจะเป็นอะไร
ผมเคยฝึกเล่นกับมัน ว่าวันนี้อยากรู้กฏไตรลักษณ์ ปรากฏว่าเขาจัดเต็มมาเลย มันปวดมากจริงๆ
เลยกำหนดเพียงแค่รู้ ประคองสติไว้ สนุกมาก เป็นอย่างนี้ประมาณ สิบนาที ทีนี้เมื่อเราก็กำหนดจะออกจากฌาณ
เมื่อออกมา ปรากฏว่า ตรงที่ปวดนะไม่มีอะไรเลย ไม่ปวด จิตมันปรุงเองทั้งนั้น เมือ่เป็นอย่างนี้ ตรงนี้เรารู้ทันทีว่า
จิตปรุงแต่งมันเป็นอย่างไร มันรู้เอง ลองเล่นดูซิ แล้วจะเห็นเอง





บันทึกการเข้า

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ฝึกภาวนา ตามกำลังศรัทธา และจริต นะครับ

 :25:
บันทึกการเข้า

nongmai-new

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 73
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปฏิบัติตามที่ชอบเถิดครับ แต่ดูจริต ของตนเองด้วยนะครับ
บางท่านก็มีวาสนา กับครูอาจารย์ กองกรรมฐาน อย่างใด อย่างหนึ่ง

  :25:
บันทึกการเข้า

konsrilom

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 69
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เข้าใจคะ ไม่ว่าอย่างไร ก็ควรจะเลือกสักแนว และ หากัลยาณมิตร ช่วยแนะนำใกล้เคียงคะ
แต่ถ้าเป็นกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ก้ห้องนี้ น่าจะช่วยชี้ทางแนะนำกันได้นะคะ

 ที่ีนี่กัลยาณมิตร มีมาก คะ ได้คุยกันหลังไมค์ หลายท่านแล้วคะ

 ลองใช้ข้อความส่วนตัว หรือ emai ก็ได้นะคะ

  :88:
บันทึกการเข้า

theerachai

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จขกท. อาจใช้วิธีอื่นแทนก็ได้นี่ครับ ยืน-เดิน-นั่ง-นอน ทำได้ทั้งนั้น กินข้าวก็เป็นกรรมฐานนะครับ
บันทึกการเข้า

ชมพู่

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 91
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมสนใจเรื่องนั่งสมาธิมานาน โดยการศึกษาเองแบบไม่เคยไปเรียนวิธีการนั่งที่ถูกทำว่าทำอย่างไร ก็แค่พุทโธ ปกติธรมดา แต่จะมีรูปพระที่เราเคารพวางตรงหน้าเพื่อเวลาจิตจะไม่เป็นสมาธิก็ลืมตามา จ้องรูป

เรื่องก็คือ ผมนั่งสมาธินานกว่าปกติจนปวดหลัง ปวดขามาก ไม่รู้ว่านั่งไปนานแค่ไหน ปวดจนเหงื่อท่วมตัว ปวดจนคอแห้งแทบจะรู้ว่ารูขุมขนมีน้ำออกมาทุกรู ปกติจะไม่นั่งนานขนาดนี้

แต่ ผมคิดให้ใจว่า สู้ตาย ตายเป็นตาย ทนปวด ทนเจ็บ ปวดหัวมาก อากาศก็ไม่ร้อน ทน ทน ทน จิตไม่เป็นสามธิแล้วเพราะปวดมาก แต่อยู่ดีๆ เหมือนคนเปิดสวิทซ์ไฟในตัวผม หายปวดทันที หายเจ็บทันที ตัวเบารู้สึกเบาๆผิดปกติ แต่เหงื่อยังท่วมอยู่

ตัวรู้สึกถึงความเย็น มากๆ จนผมตกใจสุดขีดตอนนั้นคิดอย่างเดียวกลัวตาย (ไม่รู้ว่าคิดแบบนั้นได้อย่างไร) จึงรีบเรียกสติกลับมา ลืมตาเหงื่องี้ท่วมเลย ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติแต่สิ่งที่ได้หลังจากนั่งสมาธิครั้งนั้นเสร็จคือ ความสบายตัว เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเราเดินออกจากห้องพระแบบให้หัวว่างเปล่า มันมีความสุขจริงๆนะครับ

อย่างนี้พระที่ท่านนั่งสมาธิได้นานๆแสดงว่าท่านนั่งจนตัวเบาแบบนี้ได้ทั้งวันเลยหรือครับ

หรืออาจจะเป็นทางวิทยาศาสตร์ว่าผมเจ็บจนตัวชา แต่ถ้าตัวชาลืมตาก็ไม่น่าหายชานะครับ

ผมเสียดายไม่หน้าตกใจเลยจริงๆอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ว่าจะเบาแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนและจะเกิดอะไรขึ้นอีกเสียดายมากเลย

ผม ว่าผมคงนั่งสมาธิให้เป็นแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะในเมื่อเรามีความอยากก็ถือว่าเป็นกิเลสที่อยากไปถึงจุดๆนั้นอีก มันอดไม่ได้ที่จะคิดอยากทำให้ได้อีก  ท่านใดนั่งแล้วเคยเป็นแบบนี้บ้างไหมครับ หรือว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ปฎิบัติกันเจอกันอยู่ทุกวันครับ

จากคุณ    : นุ๊กตูน
บันทึกการเข้า

ชมพู่

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 91
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เคยอ่านเจอเกี่ยวกับหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่ท่านนั่งสมาธิตากแดด ตากฝน ทนหนาว ที่ป่าช้าก็รู้สึกทึ่ง

ตั้งแต่ ผมเจอความเย็นที่ผมเคยสัมผัสได้ ถึงจะช่วงเวลาสั้นๆ ก็รู้ว่าต่อให้นั่งสมาธิที่ไหนคงจะทำได้จริงอย่างแน่นนอน บางคนคงจะทำได้โดยที่ไม่ต้อง รอจนเจ็บปวดขนาดนี้

การที่ผมได้สัมผัส สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นทำให้ผมรู้ซึ้ง อีกมากมายว่า ตั้งแต่จำความได้ไม่มีครั้งไหนที่จะไม่คิดเรื่องราวต่างๆ สมองทำงานตลอด

การ นั่งสมาธิวันนั้นเป็นครั้งแรกที่สมองว่างเปล่า รู้สึกถึงความสบาย เดินก็สบาย ไปนั่งคิดทบทวนก็สบาย นี้คงเป็นความสุขที่แท้จริง ใช่ไหมครับ พระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ท่านถึงฝากชีวิตไว้ในผ้าเหลืองตลอดชีวิต ขนาดผมสัมผัสแค่นิดเดียวอีกยังมีความสุขขนาดนี้

จนตื่นเช้ามาทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมทำงานอย่างรีบเร่ง คิดเรื่องงานเรื่องการตลอด

ชีวิตคนเรามันก็เท่านี้ละครับ

แต่ ผมจะไม่หยุดที่จะปฎิบัติต่อไปแม้ช่วงชีวิตที่เหลืออาจจะไม่ได้สัมผัสอีกแล้ว ก็ตาม แต่ไม่เป็นไรเรารู้อยู่แก่ใจว่ามีจริง เป็นจริง ทำได้จริง สัมผัสได้จริง....

จากคุณ    : นุ๊กตูน
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
บารมีธรรม ยังอ่อนอยู่ ยังไม่เต็ม สั่งสมบารมีเพิ่มขึ้น

 สั่งสมการให้ทาน

 สั่งสมการรักษาศีล

 สั่งสมการภาวนา

 สั่งสมไปเรื่อย ๆ ทุกวัน ทำให้บ่อยมากขึ้น ไปทีละนิด เริ่มจากน้อย ไปหา มาก

 แล้ว กลับมาพิจารณา ว่าดีขึ้นหรือไม่ ?

เจริญธรรม

  ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ