ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนถามว่า โคตรภูบุคคล คือใคร มีอารมณ์อย่างไร เห็นอย่างไร ในธรรม ครับ  (อ่าน 3974 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

rainmain

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 323
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1
เรียนถามว่า โคตรภูบุคคล คือใคร มีอารมณ์อย่างไร เห็นอย่างไร ในธรรม ครับ

 thk56 :25: :25:
บันทึกการเข้า
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นกุศล และ กรรมฐาน เป็นมหากุศล นะครับ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

         พระโยคาวจรสวรรค์........โคจร......

                เดี๋ยว....รอท่านศิษย์พี่มาตอบ  ก่อน

                          และครูท่านคงจะมาปิดท้าย ครับ

                                   อดใจรอ   ซักหน่อย นะท่านผู้ถาม.....
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

มหายันต์

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 154
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พระโยคาวจร น่าจะหมายพ ถึง พระสมมุติสงฆ์ นะครับ

   :character0029: :character0029: :character0029:
บันทึกการเข้า

saieaw

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 271
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องนี้ ส่วนตัว คิดว่า ยังตอบไม่กระจ่างคะ อยากให้ศิษย์พี่ ๆ ช่วยกันแสดง ความหมายตรงนี้กันหน่อยนะคะ

  thk56 st11 st12 :58:
บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณดนัย พอจะทราบ ความหมายหรือไม่ คะ ส่วนนี้

  thk56 st11 st12
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างอิงจากการตอบกระทู้หนึ่งของท่านพระอาจารย์สนธยา

          " โคตรภู บุคคล อันนี้จัดเป็น กึ่งปฐมมรรค
บุคคลที่เริ่มเข้ากระแสแห่งนิพพาน คือ มีนิพพิทา ขึ้นในสันดาน
อันมีการปฏิบัติ สั่งสมมาหลายภพหลายชาติ
เพียงแต่ พยายามอีกหน่อย ก็สามารถเข้าสู่กระแสแห่งนิพพานได้

          สำหรับระดับนี้ ปฏิบัติ ด้วยการพอกพู  ปัญญา  และ ศีล ( ไม่ใช่ สมาธิ )
สองฐานนี้เท่านั้น ในอริยะมรรคมีองค์ 8 จะเริ่มที่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา
สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ

          บุคคลระดับนี้ ต้องพยายามทบทวน ธรรมะให้มาก และ รักษากาย วาจา ให้เรียบร้อย
ไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น”

บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

     ในส่วนของผมเอง ผมมีความเห็นในการอธิบายว่า


     โคตรภูบุคคล ก็คือ ผู้ที่มีคุณธรรม อยู่ระหว่าง ปุถุชน กับ พระโสดาปัตติมรรค

     อาจสามารถแบ่งได้เป็น อ่อน กลาง แก่

          อ่อน หมายถึง ค่อนไปในทาง ปุถุชน

          กลาง หมายถึง อยู่ระหว่างกลางของ ปุถุชน กับ พระโสดาปัตติมรรค

          แก่ หมายถึง ค่อนไปทาง พระโสดาปัตติมรรค


     ในส่วนของอารมณ์
     
    ปุถุชน คือ ผู้ที่ยังมีความพอใจ ความปรารถนา ในการเวียน ว่าย ตาย เกิดอยู่ เช่น ทำบุญก็ขอให้ชาติหน้าเกิดมารวย ๆ เกิดมาสวย ๆ เกิดมาหล่อ ๆ เกิดมามียศสูง ๆ เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เกิดมาเป็นคนมีความสุขมาก ๆ อยากเกิดไปเป็นคู่ชีวิตกันอีก อยากเกิดไปเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูกกันอีก

     
     พระโสดาปัตติมรรค มีความปรารถนา เพื่อพ้นจากการเวียน ว่าย ตาย เกิด มีความปรารถนาใน พระนิพพาน


     ผู้ที่จะเป็น โคตรภูบุคคล ต้องเกิด *โคตรภูญาณ ในวิปัสสนาญาณ ๑๖ คือ ญาณที่ทำให้มองเห็นความทุกข์ที่เกิดจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นเรื่องที่ต้องหนี และต้องตัดและต้องทำลายให้สิ้น ผู้ที่ได้ญาณนี้ เรียกอีกชื่อว่า พระโยคาวจร คือ ผู้มองเห็นโทษแห่ง วัฏฏะสงสาร และพยายามทำลายทิ้ง ซึ่งตัณหาและอุปาทาน*

     ผู้มีโคตรภูญาณอย่างอ่อน บางคราวก็อยากจะพ้น จากวัฏฏะสงสาร บางคราวก็ ไม่อยากจะพ้นจากวัฏฏะสงสาร พอทุกข์มาก ๆ ก็ไม่อยากเกิด พอสุขมาก ๆ ก็อยากเกิดอีก แต่อารมณ์ค่อนไปทางอยากเกิด

     ผู้มีโคตรภูญาณอย่างกลาง อยากเกิด กับ ไม่อยากเกิด พอ ๆ กัน ใกล้ ๆ กัน

    ผู้มีโคตรภูญาณอย่างแก่ มีกำลังใจหนักแน่น ตัดสินใจว่า พอแล้วกับการเกิด ไม่อยากเกิดอีกแล้ว ถึงแม้เวลาที่เป็นสุข ก็รู้ว่าสุขนั้นไม่นานก็หายไป กลับไปทุกข์อีก ถ้ายังเกิดอีกก็ไม่พ้นจากทุกข์ ตัดสินว่าจะไม่เกิดอีกแล้ว ตัดสินใจไปนิพพาน หลังจากนั้นก็ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ในแนวทางของมรรค 8 บางคราวปฏิบัติแล้วยังไม่ถึงจุดที่จะเกิด มรรค ผล อาจท้อแท้บ้าง หยุดไปบ้าง แต่ไม่นานก็กลับมาปฏิบัติอีก


* มาจากหนังสือที่ระลึก “วันอุปสมบถ” ของพระอาจารย์สนธยา ธัมมะวังโส
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 25, 2015, 01:17:23 am โดย ดนัย »
บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"