ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เลิกเล่น Facebook แบบวู่วามสักที  (อ่าน 2287 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เลิกเล่น Facebook แบบวู่วามสักที
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2017, 09:21:37 am »
0



เลิกเล่น Facebook แบบวู่วามสักที

ยุคนี้เป็นยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว จนทำให้โลกจริงกับโลกไซเบอร์ถูกผสมผสานกันอย่างกลมกลืน ชีวิตของคนเกินครึ่งไปปรากฏอยู่บนโลกออนไลน์เสียเยอะ ด้วยความที่ลึกๆ แล้วมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการการยอมรับ ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเพื่อที่จะไม่ได้รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยวเกินไปบนโลกใบนี้

เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ทราบเรื่องนี้ดี จึงรังสรรค์เครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบการกดไลค์ กดแชร์ โพสต์เรื่องราวต่างๆ ของตนเองออกไปให้ผู้อื่นรับรู้ มองในมุมดี เครื่องมือมหัศจรรย์นี้ก็ทำให้เราหายเหงาได้จริงๆ โดยเฉพาะคนในยุคนี้ ที่ต้องทำงาน มีการแข่งขันทางสังคมสูง อาจต้องมาอยู่ในเมืองลำพัง

แม้ในชีวิตจริงเราจะอยู่ลำพัง แต่ราก็สามารถเชื่อมต่อกับโลกใบใหญ่ได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว เลื่อน NewsFeed ดูชีวิตเพื่อนสักหน่อย.. โพสต์สเตตัสโดนๆ ถ่ายรูปสวยๆ อัพเดตชีวิตลงโซเชียลสักหน่อย รอคนมากดไลค์ มาคอมเมนต์ จะได้มีเพื่อนคุย หรือบางทีเพื่อให้รู้สึกว่า “เราไม่ได้ถูกโลกลืม”

 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

ไม่ผิดเลยค่ะ เฟื่องเองก็เป็น บางทีก้านสมองเชื่อมต่อโดยตรงกับปลายนิ้ว คิดอะไรออกก็อยากสไลด์ปลดล็อกมือถือ พิมพ์เรื่องราวถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมาลงไปในนั้น ก็มันสะดวกดี บางทีไม่ได้อยู่ในสถานการณ์จะไปพูดกับใครได้ แต่ก็อยากส่งต่อ อยากระบาย อยากสื่อสารกับใครสักคน วิธีแรกที่คิดออกก็ผ่านเจ้าอวัยวะที่ 5 อย่างสมาร์ทโฟนนี่แหละ

แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรพึงระวัง และเตือนตัวเองอยู่เสมอคือ การเชื่อมโยงแบบแทบไร้รอยต่อของโลกอินเทอร์เน็ตกับชีวิตจริงแบบนี้ ทำให้ “ตัวตน” ของคนถูกเสพผ่านสื่อโซเชียลไปด้วย

“Facebook” ไม่ใช่ไดอารี่ที่ใช้ระบายอารมณ์อีกต่อไป แต่ Facebook กลายเป็นเหมือน “Portfolio” ของคุณ..

อย่าบอกว่าคุณไม่เป็นค่ะ เวลาอยากรู้จักใคร หรือเพิ่งเจอเพื่อนใหม่ วิธีแรกๆ ที่เราจะทำความรู้จักเขาในสมัยนี้คือ “Search Facebook” เลื่อนดูเนื้อหาที่เขาโพสต์บนหน้าวอลล์ ดูภาษาที่ใช้ และวิเคราะห์เชื่อมโยงไปถึงความคิด ความสนใจ ว่าคนๆ นี้เป็นคนแบบไหน น่าคบหาหรือเปล่า ซึ่งในความเป็นจริง มนุษย์เราก็มีหลายมุม แต่สิ่งที่อยู่ในเฟซบุ๊กเป็น “มุมที่ถูกเลือกมานำเสนอ” โดยปริยาย โทษใครไม่ได้ เพราะสมัยนี้อะไรๆ ก็ไปเร็ว จะให้มานั่งทำความรู้จักทุกๆ อย่างครบทุกด้านก็คงไม่ได้



ดังนั้นควรเป็นเราเองที่ระวัง ไม่จำเป็นต้องโพสต์ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต พึงระลึกเสมอว่าทุกสิ่งที่ถูกส่งผ่านออไปบนโลกออนไลน์ จะกลายเป็น “Digital Footprint” ที่คงอยู่ไปตลอดกาล ทุกครั้งที่เกิด “แรงกระตุ้น” อยาพิมพ์อะไรยาวๆ ออกไป ขอให้ชะลอสักนิด.. ก่อนกดปุ่ม “โพสต์”อ่านข้อความให้ถี่ถ้วนอีกรอบ คิดถึผลดีผลเสียที่จะตามมาจากโพสต์นี้ จะกระทบอะไรกับใครบ้าง จะเสียใจไหมถ้าเวลาผ่านไปแล้วเคยมีข้อความนี้ออกมมจากปากของเรา บางทีตอนมีอารมณ์ อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ขอพูดสักหน่อยน่า มันอัดอั้น...

แต่เข้าใจบางคนที่รู้สึกดีจริงๆ กับการได้ระบายออกไปในโลกออนไลน์บ้าง เป็นคนดิจิทัลตัวจริง คิดอะไรก็อยากสื่อสารให้โลกรู้ ณ ห้วงอารมณ์นั้นแบบตรงๆ บ้าง ถ้าจำเป็นต้องทำอย่างนั้นจริงๆ เฟื่องแนะนำแบบนี้ค่ะ

 :96: :96: :96: :96:


1. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เห็นแค่ Only Me เท่านั้น ตอนอารมณ์เย็น สถานการณ์เป็นปกติกลับมาอ่านอีกทีถ้ารู้สึกว่าข้อความนี้โอเค ค่อยเปิดให้คนอื่นเห็นด้วย

2. เลี่ยงไปใช้ Snapchat / My stories ใน IG วัยรุ่นฝรั่งนิยมโซเชียล 2 ตัวนี้มากก็เพราะความ “ไม่ถาวร” ของข้อมูลนี่แหละค่ะ บางทีก็ยังอยากให้คนรับรู้เรื่องราว/อารมณ์ของเราในช่วงนั้นๆ มีคนมากดไลค์ คอมเมนต์ คุยด้วยนี่นา แต่ก็ไม่ได้อยากบันทึกเอาไว้เป็นอนุสรณ์สถานตอบโจทย์นี้ด้วย Snapchat และ My stories ที่คนเล่นส่วนมากจะเป็นแวดวงเพื่อนของเราเอง(ไม่ใช่คู่ค้าทางธุรกิจ หรือเจ้านาย) และจะทำลายตัวเองไปในเวลาที่กำหนดค่ะ แต่ก็อย่าลืมว่าคนก็แคปเจอร์หน้าจอเอาไว้ได้อยู่ดี ถ้าคิดดีแล้วว่าโพสต์ไปส่งผลดีมากกว่า ก็ลุยเลยค่ะ

3. ไลน์/โทรหาเพื่อนที่ไว้ใจได้แทน การคุย 1 ต่อ 1 ดีกว่าเสมอ เพราะบางทีโพสต์ออกสื่อไปก็เหมือนเราเอาตัวไปอยู่ใต้แสงสปอตไลต์ เรามีความคิดของเรา แต่คนในสังคมออนไลน์ก็มีหลากหลาย ต่างคนต่างมุมมอง แทนที่เราจะได้ระบาย อาจกลับกลายเป็นล่อเป้า ถูกตำหนิ เพิ่มทุกข์มากขึ้นอีก


 :49: :49: :49: :49:

ลองกันดู เพราะเราเห็นหลายกรณีแล้ว ที่คนตกม้าตายจากคำพูดของตัวเอง หรืออารมณ์ชั่ววูบโพสต์เรื่องอะไรลงไป ทั้งโดนแคป โดนขุด ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่านะคะ

สัปดาห์หน้าเฟื่องจะมาขยายความเพิ่มเติมว่าเวลาเราอัพอะไรลงไปใน Facebook ครั้งหนึ่ง อินเทอร์เน็ตได้ข้อมูลอะไรของเราไปบ้าง รอติดตามกันนะคะ

    เฟื่องลดา


ขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/859064
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

wiriya

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เลิกเล่น Facebook แบบวู่วามสักที
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2017, 11:32:51 am »
0
สื่อออนไลน์ พูดส่วนตัว แต่เป็นได้เรื่องกลับ มักเป็นอย่างนี้ ดังนั้นคนไทยจึงสอนว่า
ความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า ใช่ไหม ครับ

 :bedtime2:
บันทึกการเข้า
รักครอบครัว ห่วงลูกหลาน ต้องช่วยต้าน ภัยยาเสพติด
รักตนเอง หนีสงสาร ต้องภาวนาให้ มาก ๆๆๆๆๆ

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เลิกเล่น Facebook แบบวู่วามสักที
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 01:18:03 pm »
0
 st12 st12 :49:
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เลิกเล่น Facebook แบบวู่วามสักที
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 02:30:03 pm »
0
มีประโยชน์ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา