ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา  (อ่าน 2513 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28362
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา

บทความเคล็ดลับพลิก ความโกรธ ให้เป็นความเมตตานี้ เขียนโดย ท่าน ว.วชิรเมธี เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Secret ในเรื่อง “อานิสงส์ของการเจริญสติ”

แท้ที่จริงเราทุกคนสามารถที่จะเป็นบุคคลที่สงบนิ่งได้ แต่เพราะไม่เคยได้รับการฝึก เราจึงไม่เคยรู้ว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่นิ่งได้เหมือนกัน คนที่นิ่งเป็น คนที่หยุดเป็นจะเป็นคนที่โชคดีมาก เพราะจะไม่ตกเข้าสู่ความรุนแรง ข้อดีของรถคือ วิ่งได้รวดเร็วแต่ข้อเสียก็คือ รถที่ไม่ยอมเบรกเป็นรถที่อันตราย การฝึกสมาธิเป็นวิธีเรียนรู้ที่จะทำให้เราติดเบรกให้ตนเอง คือรู้จักวิธีหยุดใจตัวเองให้หยุดในที่ที่ควรหยุด ระวังตัวในที่ที่ควรระวัง คนที่สามารถห้ามตัวเองได้ทุกครั้งที่จิตใจกำลังใฝ่ต่ำคือคนที่โชคดีที่สุดในโลก

เราลองสังเกตตัวเองว่า เราสามารถที่จะนิ่งได้ไหม สามารถที่จะสงบได้ไหม ถ้าทำได้ ขอให้รู้ว่านั่นคือสภาพเดิมแท้แห่งจิตใจของเราทุกคน เราควรเรียนรู้ที่จะนิ่งเราควรเรียนรู้ที่จะสงบอย่างนี้บ้างอย่างน้อยวันละ 3-5 นาที ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ เราจะเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งน่าชื่นชมมาก

 :96: :96: :96: :96:

เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกแย่กับชีวิต รู้สึกแย่กับเพื่อน รู้สึกแย่กับการทำงาน หรือกำลังตกอยู่ในความเครียดและอ่อนล้าจากการทำงานมากมาย ผู้เขียนอยากจะขอให้ลองหลับตาลงเบา ๆ สถานที่ไม่สำคัญ จะเป็นตรงไหนก็ได้ ในรถแท็กซี่ บนรถไฟ หน้าจอคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน ขณะที่เรากำลังทะเลาะกับลูก ตอนที่เรากำลังเปิดฝักบัวฉีดน้ำใส่ตัวเพื่ออาบน้ำ หรือแม้กระทั่งตอนที่เราหลับตาลงนอนบนที่นอน ลองสละเวลากลับมาหายใจเงียบ ๆ คนเดียว เอามือแตะลงไปที่หน้าท้อง หายใจเข้าก็รู้ตัว หายใจออกก็รู้ตัว หากเราทำอย่างนี้ทุกวัน จะมากจะน้อยไม่สำคัญ รับรองได้ว่า ภายในสามวันเราจะเปลี่ยนเป็นอีกคน และเราจะเห็นว่าตัวเราเองมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าได้ตลอดเวลา เราจะมีสุขภาพจิตที่ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราจะสามารถจัดการชีวิตได้ดีขึ้น และแน่นอนที่สุดเราจะกลายเป็นคนมีเสน่ห์ดึงดูดต่อคนรอบข้าง

คนที่สามารถจัดการความโกรธได้เปรียบเสมือนดอกกุหลาบแรกแย้มที่ใคร ๆ ก็อยากชื่นชม มีความนุ่มนวลอ่อนโยนเปรียบเสมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ส่วนคนที่จัดการความโกรธไม่ได้เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แม้จะมีแสงที่เป็นประโยชน์ต่อโลก แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าใกล้


 st12 st12 st12 st12

ใครๆ ก็มักจะชอบมองพระจันทร์แล้วบอกว่าพระจันทร์ส่องแสงเพื่อตัวฉันทั้งนั้น แต่ไม่มีใครมองพระอาทิตย์แล้วบอกว่าพระอาทิตย์ส่องแสงเพื่อฉันเลย

เราอยากเป็นพระจันทร์หรือพระอาทิตย์ ถ้าอยากเป็นพระจันทร์ ควรเรียนรู้ที่จะหายใจอย่างรู้สึกตัวทุกวัน อย่างน้อยวันละ 3 นาทีแล้วเราจะเห็นว่าชีวิตนั้นเราจัดการได้ เราสามารถมีชีวิตที่ดีได้ในปัจจุบันขณะ แล้วถ้าทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ให้สังเกตว่าความโกรธของเราจะอายุสั้นลง ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราสามารถอยู่เหนือความโกรธได้ ความเมตตาจะเข้ามาแทนที่ความโกรธ เหมือนกับพระประธานในวัดทุกวัด สังเกตให้ดี ไม่มีพระประธานองค์ไหนเลยที่หน้าบึ้งด้วยความโกรธ เราทุกคนมีศักยภาพที่จะเบิกบานกันทุกคน โปรดอย่าลืมศักยภาพที่จะเบิกบานศักยภาพนั้นมีอยู่ในตัวเรา ขอแค่เรามาเรียนรู้ที่จะหายใจอย่างมีสติ

การจะพลิกความโกรธให้เป็นความเมตตานั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำได้ยาก แต่ขอแนะนำว่า ให้ทำตามขั้นตอนที่ผู้เขียนแนะนำมาก่อนหน้านี้ก่อน จากนั้นเมื่อเราสามารถตั้งเนื้อตั้งตัวได้แล้ว จึงหันกลับมาทบทวนตัวเอง แล้วหันกลับไปทบทวนคนที่ทำให้เราโกรธ ว่าทั้งเขาทั้งเราต่างก็เป็นเพื่อนร่วมสังสารวัฏด้วยกันแท้ๆ



เคล็ดลับพลิกความโกรธให้เป็นความเมตตา บทความดีๆ จากท่าน ว.วชิรเมธี
ที่มา http://www.goodlifeupdate.com/38770/healthy-mind/angry-3/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2016, 10:57:33 am »
0
 st12
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2016, 11:01:32 am »
0
การจะดับความโกรธ เป็นปัญหาใหญ่ เพราะขณะที่โกรธ ต่อให้เป็นพระอินทร์พระพรหม ที่ไหน ข้าก็ไม่สน คนที่ระงับความโกรธได้ ทางกายก่อนนับว่า ประเสริฐ คนที่ระงับความโกรธ ได้ทางวาจา ก็นับเป็นนักปราชญ์ ส่วนคนที่ละจากความโกรธได้ทาง ใจ นับว่า ยอดยิ่ง เป็น อริยะบุคคล

  st11 st12 st12 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2016, 11:28:17 am »
0


ให้ข้อธรรมง่าย ๆ ในวันนี้ ภาวนาแบบนี้ถูกใจไหม ?

เมื่อพรามหณ์โมโห ภรรยาตนเอง( นางธนัญชานี ) เพราะทำลายความเชื่อถือของเหล่านิครนถ์ที่ตนนับถือในวันนั้น ด้วยการกล่าวคำสรรเสริญ พระพุทธเจ้า พราหมณ์ โมโหเป็นอย่างมากจึง เร่งรีบไปที่อารามที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ครั้นไปถึงเป็นเวลาสนทนาธรรมมีประชาชนเยอะ พราหมณ์พยายามระงับอารมณ์ แล้วแค่นเสียงถามพระพุทธเจ้าว่า
ฆ่าอะไร ถึงจะมีความสุข
( เพราะตอนนั้นตนเองอยากฆ่าทำร้ายพระพุทธเจ้า )
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ ฆ่าความโกรธเสียได้ ย่อมหลับเป็นสุข
พราหมณ์ถึงแม้จะโกรธอยู่ แต่ครั้นฟังแล้วก็ได้ปัญญาในทันที นั่นเองนี่เรียกว่า ชนะ 3 อย่าง ช่นะกายกรรม ชนะวจีกรรม ชนะมโนกรรม จึงประกาศตนเป็นพุทธมามกะ

ดังนั้นการจะดับความโกรธ เป็นปัญหาใหญ่ เพราะขณะที่โกรธ ต่อให้เป็นพระอินทร์พระพรหม ที่ไหน ข้าก็ไม่สนใจ ดังนั้นคนที่ระงับความโกรธได้ ทางกายก่อนนับว่า ประเสริฐ คนที่ระงับความโกรธ ได้ทางวาจา ก็นับว่าเป็นนักปราชญ์ ส่วนคนที่ละจากความโกรธได้ทาง ใจ นับว่า ยอดยิ่ง เป็น อริยะบุคคล

เจริญธรรม / เจริญพร

( นี่เรียกว่า พ้นจากกิเลสเพราะปัญญาพิจารณาก่อน เป็นการละกิเลสตรงไม่ต้องผ่านสมาธิ หรือ สติ แค่มี หิริ โอตตัปปะ เท่านั้นก็เพียงพออยู่ )
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2016, 05:56:03 pm »
0
 st11 st12 st12
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2016, 08:11:16 pm »
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ดับความโกรธในใจ แล้วทำให้กลายเป็นความเมตตา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2016, 01:17:58 pm »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ