พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๓
๖. ปฐมกาลสูตร ว่าด้วยกาล ๔
[๑๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ กาล ๔ เป็นไฉน? คือ
กาเลน ธมฺมสฺสวนํ การฟังธรรมตามกาล
กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล
กาเลน สมโถ สมถะตามกาล
กาเลน วิปสฺสนา วิปัสสนาตามกาล
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล กาล ๔.
จบปฐมกาลสูตรที่ ๖อรรถกถาปฐมกาลสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกาลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กาลา คือกาลที่เหมาะที่ควร.
บทว่า กาเลน ธมฺมสฺสวนํ ได้แก่ การฟังธรรมในเวลาที่เหมาะที่ควร.
บทว่า ธมฺมสากจฺฉา ความว่า การสนทนาที่เป็นไปด้วยอำนาจการถามและการตอบปัญหา.
จบอรรถกถาปฐมกาลสูตรที่ ๖.พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๔ - ๓๖๕
๗. ทุติยกาลสูตร ว่าด้วยกาล ๔
[๑๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔ เป็นไฉน? คือ
การฟังธรรมตามกาล ๑
การสนทนาธรรมตามกาล ๑
สมถะตามกาล ๑
วิปัสสนาตามกาล ๑
นี้แลกาล ๔ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่
ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขา
น้ำไหลไปตามที่ลุ่ม ยังซอกเขาและลำรางทางน้ำให้เต็ม
ซอกเขาและลำรางทางน้ำเต็มแล้ว ย่อมยังหนองให้เต็ม
หนองเต็มแล้ว ย่อมยังบึงให้เต็ม
บึงเต็มแล้ว ย่อมยังคลองให้เต็ม
คลองเต็มแล้ว ย่อมยังแม่น้ำให้เต็ม
แม่น้ำเต็มแล้ว ย่อมยังทะเลให้เต็ม ฉันใด
กาล ๔ นี้ เมื่อบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับ โดยชอบอยู่
ย่อมยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นแล.
จบทุติยกาลสูตรที่ ๗ อรรถกถาทุติยกาลสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในทุติยกาลสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กาลา นั่น เป็นชื่อแห่งกุศลธรรมที่เป็นไปด้วยอำนาจการฟังธรรม เป็นต้น ในกาลนั้นๆ กาลเหล่านั้น จักแจ่มชัด และจักเป็นไป.
บทว่า อาสวานํ ขยํ ได้แก่ พระอรหัตต์.
จบอรรถกถาทุติยกาลสูตรที่ ๗.ที่มา
http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=17060ขอบคุณภาพจาก
http://3.bp.blogspot.com/,http://toptenthailand.com/