ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - นักเดินทาง
หน้า: 1 ... 14 15 [16]
601  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญร่วมเสวนาธรรม 17 ต.ค.54 กับ พระไพศาล วิสาโล ณ หอจดหมายเหตุ เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 07:01:04 pm
เมื่อ จิตสงบ ก็จะมองเห็นตามความเป็นจริง ครับ

 คือ จะมองเห็นแง่มุม วิธีการที่แยบยล หลายชั้นครับ รู้สึกว่าผ่าน ๆ กระทู้มาวันนี้เองจำไม่ได้

  :s_hi:

 ก็ดี ส่งเสริม หลักธรรม เป็นพระอาจารย์ ที่มีชื่อเสียง ถ้าเทียบกับพระอาจารย์ กรรมฐาน มัชฌิมา
ตอนนี้ก็ต่างกัน ครับ ....... ( มุมมองคนภายนอก น่าจะเป็นอย่างนี้ นะครับ )

  :s_hi:
602  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 06:53:50 pm
สมัยปัจจุบัน นี้ พระภิกษุ สามเณร ไม่เรียนบาลีกันแล้ว ครับ เพราะมุ่งเรียน แต่ทางโลก มาตรฐานการสอบบาลีนั้นโอกาสตก มากกว่า สอบได้ นะครับ บางสำนักเรียน ตกยกสำนักเลยนะครับ ส่งสอบ 50 รูป ตก 50 รูป ถามว่าพระเณร ขี้เกียจเรียน หรือครับ ไม่ขยัน ท่องอ่านหนังสือหรือครับ ผมเคยเข้าไปทำความสำรวจ ที่สำนักเรียนแห่งหนึ่งมาแล้วครับ

   จากผลการทดสอบ สรุปดังนี้ ครับ

   1. พระภิกษุ สามเณร ที่เรียนบาลี ต้องใช้ความพยายาม ทางด้านสมองมากครับ

      คือ ต้องท่องตำรา เรียกว่า วิชาไวยากรณ์ และ ต้องท่องคำศัพท์ ให้ได้
      แถม ต้องจำรูปประโยค การอ้าง ได้ด้วย ยกเมฆไม่ได้ ต้องตามแบบที่สอน เป๊ะ ๆ
      ปัญหา ส่วนนี้ คือ ภิกษุ สามเณร ท่านจะพักผ่อนน้อย ในขณะต้องทำกิจวัตรของสงฆ์ด้วย
      น่าเห็นใจ ดังนั้น ปัญหา เรื่อง สมองไม่แล่น เฉื่อย เป็นเพราะสาเหตุนี้

   2. พระภิกษุ สามเณร มีการอบรมก่อนสอบ อย่างน้อย 15 วัน ซึ่งคล้ายระบบการติว
      แต่ความเป็นจริง อาจจะทำให้สับสน เพราะต้องไปเก็งผิดจุด ถ้าเก็งข้อสอบได้ถูกก็รอดตัว
      ผมว่าในปัจจุบัน น่าจะประยุกต์ ให้กับการเรียนภาษาอังกฤษทางโลก นะครับ

   3. ปัญหาหลักอีกเรื่อง คือ สมัยปัจจุบัน ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า เพาเวอร์ เป้าหมาย ของการเรียนบาลี
       ว่าเรียนแล้วใช้อะไรได้ นอกจากแปลในสิ่งที่เขาแปลมาแล้ว ไม่มีอะไรที่ท้าทาย ในการเรียน
       วิเคราะห์ ดังนี้

        1. เรียนสอบได้แล้ว ก็ไม่มีตำแหน่งอะไร ทั้งนั้น บางวัดผมไปเดิน มหาแทบชนกัน ก็อยู่กันเต็ม
           แต่บางวัดก็ไม่มี ครับ
        2. จะแปล อะไรเขาก็ไม่เชื่อถือ ผมเคยดูในห้องสนทนาธรรม เดี๋ยวนี้เข้าใช้ คอมพิวเตอร์ ค้นคำศัพท์
           แปล และไม่ยอมตามความหมายของผู้แปล พระไตรปิฏก ก็มีคนแปลแล้ว อะไรก็มีแปลแล้ว
        3. เรียนจบ เปรียญ การเทียบทางโลก ต่ำ มาก และ ใช้สมัครงานได้น้อยมาก ผมเคยมีเพื่อนที่เป็น
           เปรียญอยู่รูปหนึ่ง จบ เปรียญ 5 ไปเดินสมัครงานไม่มีที่ไหนรับครับ เขารับแต่ ปวช ปวส ปริญญาตรี
       
         สรุปตรงนี้ คือ แรงจูงใจที่จะเรียนไม่มี เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วครับ ครับ คนที่มาทำงานด้านการแปล ยังไม่ได้เรียน บาลีกันโดยตรง มีมากครับ ดูง่ายๆ ไม่ไกล เช่น วัดนาป่าพง ปทุมธานี เป็นต้น ไม่มีพระเปรียญ ในการแปลครับ แต่ก็เอกสาร พุทธวัจน์ จนเลื่องลือ เป็นต้น

         ถ้าคณะสงฆ์ เล็งเห็นตรงนี้จริง คงต้องพัฒนา หลักสูตร บาลี เป็นเอกบาลี ขึ้นมา ใช้การสอบวัดผลแบบปรนัยบ้าง  พิจารณาตามความเป็นจริง ว่าควรจะให้หลักสูตร เหมือน หลักสูตรภาษาอังกฤษ คือเน้นเรื่องอะไร
มีสาขา ในวิชา บาลีให้ชัดเจน เช่น บาลีชีวิตประจำวัน บาลีเพื่อการแปล บาลีเพื่อการเดินทาง เป็นต้น

          อันนี้ผมยกตัวอย่าง แต่ถ้าจะให้ทำวิถีเก่า ผมเชื่อว่าไปไม่รอด เพราะระบบของพระสงฆ์ตอนนี้เริ่มรวนแล้วมองจากสถิติพระสงฆ์ มีน้อยลง และจะน้อยลงไปเืรื่อย ๆ ทุกวัน เนื่องด้วยพระสงฆ์ เรียนทางโลก ก็มีจุดประสงค์เดียวครับ คือเพื่อให้โลกยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นด้วย เกรียติ ยศ ตำแหน่ง การยอมรับ

           สมัยก่อนผมไปตามวัด จะพบว่า วัดจะภูมิใจที่มีพระเปรียญกันมากครับ แต่ปัจจุบัน ถ้าหากบอกว่าจบเปรียญ แต่ไม่มี ดีกรีย พธบ หรือ ศศบ หรือ ป.ตรี ป.โท ป.เอก อื่น ๆ มาพ่วงด้วยครับ เปรียญหัวเน่าครับ

            ดังนั้นมุมมอง ของคณะสงฆ์ ตอนนี้ ส่งเสริม ดีกรี ทางโลกมากครับ มีการออกกฏบังคับกลาย ๆ ว่าให้พระสงฆ์ต้องไปเรียน ต่อ ป.ตรี ป.โท กัน

    โครงการนี้ ผมคิดว่าไปไม่รอด ถ้าหากยังไม่เปลี่ยนรูปแบบ การเีรียน การสอบ กันใหม่

 
   
603  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี วัดแก่งขนุน 23 ต.ค.2554 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 06:32:23 pm
ไปแล้วจะได้พบ พระอาจารย์ หรือไม่ครับ ทราบว่าพระอาจารย์ไม่ได้อยู่จำพรรษา

  :25: :25: :25:
604  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ทำบุญที่วัดศรีชุม ลำปาง คะ เมื่อ: ตุลาคม 12, 2011, 12:20:21 pm
อนุโมทนา ครับวันนี้เป็น วันออกพรรษา คนส่วนใหญ่ ก็จะได้ทำบุญกัน อาจจะเว้นคนที่ประสบอุทกภัยอยู่อาจจะไม่ได้ทำบุญ ต้องคอยรับบุญและน้ำใจ ครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
  :25: :25: :25: :25:
605  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ลพบุรี-ชาวบ้านเขาสมอคอนผวาพบจระเข้กลางหมู่บ้าน เมื่อ: ตุลาคม 12, 2011, 12:18:22 pm
ตอนนี้ มีจรเข้ หลุดจากฟาร์ม ประมาณ 100 กว่าตัว ก็โปรดระมัดระวัง กันด้วยครับ

ตอนนี้ปรากฏที่ เกาะอยุธยา บ้างแล้ว ครับ

ลพบุรี ก็มีหลายตัว ครับ

 ความเดือดร้อน มีกันมากขึ้น โดยเฉพาะ มีผู้เสียชีวิตเพราะสัตว์มีพิษ จำนวนหลายคนครับ
เพราะเมื่อถูกฉกกัดแล้วไม่สามารถไปโรงพยาบาล รับเซรุ่มได้ทันที เนื่องจากน้ำท่วมและ

 สถานีอนามัย ก็ถูกท่วม

 ดังนั้น นอกจากน้ำท่วมแล้ว ก็สัตว์มีพิษ นี้ก็เป็นอีกพวก ที่คอยเบียดเบียน คนที่ประสบภัยด้วยครับ

  :'(
606  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กรรมฐาน กับ การเล่นเกมส์ เล่นเน็ต จะไปด้วยกันได้หรือครับ เมื่อ: ตุลาคม 12, 2011, 12:13:22 pm
นั่นสินะครับ ยิ่งถ้าเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ถึงมิได้ปรารถนา สาวกภูมิ แต่ด้วยจรรยา จริยา ข้อวัตรแล้วก็ไม่ควรที่จะต้องเล่น หรือ ดู อันเป็นสิ่งที่เรียกว่า ข้าศึกต่อกุศล

  ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ครับ .....

  ดังนั้น การภาวนาพึงเว้น หรือปฏิบัติใน ศีล มาตรฐาน ของ สามเณร อย่างน้อยก็ ศีล 10

  :s_hi: :smiley_confused1:
607  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: สองภิกษุ ผู้อาภัพ ด้วย บิณฑบาตร และ ภัตร ( ได้แต่ของหยาบ ) เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 06:27:27 pm
อ้างถึง
5. คนใช้ที่ซื่อสัตย์ ทำบุญ ก็ย่อมจะได้บุญ


ตรงนี้สำคัญนะครับ เพราะเป็นที่โต้เถียงกันมาก ว่า แม่ทำบุญตอนเช้า แต่พ่อเป็นเจ้าของทรัพย์ พ่อไม่ได้ทำแต่แม่เป็นคนทำ ใครเป็นคนได้บุญมาก บุญน้อย หรือไม่ได้เลย อยากให้ท่านทั้งหลายไปอ่านเรื่อง สังกะสีแผ่นเดียว ที่หลวงพ่อจรัล ท่านได้เล่าไว้จะเข้าใจบางส่วนนะครับ ว่าใครได้บุญ

  ในกรณีนี้ท่านเศรษฐี ท่านเป็นผู้นิมนต์ แต่ไม่ได้ถวาย ปล่อยให้สาวใช้ เป็นผู้ทำทานแทน คนที่ได้รับบุญก่อนในขณะนั้น ก็คือ สาวใช้ ส่วนเศรษฐก็ได้รับแน่นอนแต่จะได้แบบไหน นี่สิ .... อันนี้น่าจะกล่าวกันยาก นะครับ

  ดังนั้นเมื่อมีจิตศรัทธา ในทาน ก็ลงมือในผลแห่งทาน นั้นเองเลยก็ดีนะครับ จะได้ไม่เกิดความสงสัยแต่ท่านทั้งหลายถ้าได้ทำ ก็ขอให้ทำกันเรื่อย ๆ แต่อย่าทำเพียงครั้งสองครั้ง นะครับ


   :s_hi: :25:
608  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: สองภิกษุ ผู้อาภัพ ด้วย บิณฑบาตร และ ภัตร ( ได้แต่ของหยาบ ) เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 06:21:02 pm
อ้างถึง
4. เศรษฐี เลือกทำบุญ กับพระที่หยาบ  ก็ยังทำแต่ทำน้อย ทำอย่างเสียไปที

หัวข้อนี้ก็มีความสำคัญนะครับ เพราะแสดงให้เห็นว่า เวลาทำบุญนั้น ผู้ที่ทำบุญก็มักจะเลือกเนื้อนาบุญด้วย เหตุนี้เองพระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงอานิสงค์ สังฆทานดังนั้นการถวายทานเพื่อการละกิเลส ก็ควรทำแบบสังฆทานอานิสงค์จึงมีมากกว่าทานที่เจาะจง

  ที่นี้คนที่ทำบุญ ก็จะได้ใคร่ครวญในทาน ที่ควรจะทำ

  แต่ส่วนตัวผมเองก็เลือกทานที่เจาะจงเช่นกันครับ ชอบทำทานกับพระภาวนามากกว่า


   :25:
609  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สร้างกรรมไว้อย่างนี้ พระอรหันต์ ก็ช่วยไม่ได้ เมื่อ: ตุลาคม 08, 2011, 02:32:25 pm

อ้างถึง
2. แม้พระอรหันต์ทัพพมัลลบุตร จะจัด ภัตร เพื่อให้แก่ภิกษุทั้งสองนั้น ก็ยังต้องชวด

 บางครั้งหลายคราว เราก็ชวดงานดี ๆ ไป ชวดของรางวัลไปเฉียดซ้าย เฉียดขวาประมาณนี้มานั่่งนึกดูให้ดีแล้วก็เพราะกรรมที่สร้างไว้ไม่ดี

 ดังนั้นก็อย่าคิดว่าผลของกรรมนั้น จะอาศัยบารมีผู้ือื่นมาเข้าช่วยเลยนะครับ ขนาดพระอรหันต์ท่านเมตตาจัดภัตรช่วยภิกษุสองรูปนี้ บุญมี แต่ กรรมบัง ก็ยังส่งผลเห็นชัด ๆ ว่า ช่วยแล้ว

  แต่กรรมที่ท่านสร้างนั้นคงเกินกว่า บารมีพระอรหันต์ จะมาช่วยได้นะครับ

  ดังนั้นคนสร้างกรรมไว้ไม่ดี ต่อให้บารมีพระอรหันต์ท่านช่วยเหลือ ก็อย่าคิดว่า จะรอดได้นะครับถ้าเราสร้างกรรมไว้ดี ก็ไม่ต้องกลัวเกรงกับกรรมนั้น ๆ ครับ


 
610  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ภิกษุผู้อาภัพ อาหารบิณฑบาตร ผู้อื่น ได้แต่ของปราณีต แต่ ตัวเองได้แต่ของ หยาบ เมื่อ: ตุลาคม 08, 2011, 02:25:58 pm

อ้างถึง
1. ภิกษุผู้อาภัพ อาหารบิณฑบาตร ผู้อื่น ได้แต่ของปราณีต แต่ ตัวเองได้แต่ของ หยาบ

อันนี้ ถ้าจะให้พูดต้องขอเดา ว่า ภิกษุุ ทั้งสองนั้นไม่เคยสั่งสมบุญด้วยการถวายของที่ดี แต่ผู้อื่น เวลาให้ของสิ่งใดก็คงจะมีนิสัยให้แต่สิ่งที่ไม่ดี เป็นเดนอะไรประมาณนี้ นึกดูมากระทบตัวเอง บางครั้งก็ำทำอย่างนี้เช่นกัน เมื่อได้อ่านตรงจุดนี้แล้ว จึงคิดได้ว่าต่อไปนี้ เมื่อจะทำบุญทำทาน ก็จะทำบุญทำทาน ที่ดีที่สุด เมื่อทำบุญ ทำทานก็ไม่ควรจะให้แต่ของเหลือเดน เหลือใช้ เพราะถ้าผลกรรมนั้นมาหาแล้ว ก็จะมาันั่งทุกข์ใจ ว่าทำไมไม่ได้

   เป็นเพราะเหตุว่า ชอบทำกรรม อย่างนี้ทำไมเราจึงได้ของดี โชคดี ก็เพราะสร้างกรรมมาดี จึงได้ผลดี
   เพราะเราเป็น ทายาทแห่งกรรม เป็นผู้รับมรดกของกรรม อย่างนี้ครับ

ประเด็นแรกที่จะให้แตกก็เรื่องการสั่งสม บารมี คือทาน
   
    สังเกต หรือ ไม่ครับคนมีปัญญาดี เกิดในตระกูลที่ยากจน ลำบาก เพราะในชาติก่อน ๆ นั้นชอบแจกธรรมทานแต่ไม่ชอบแจกทานเป็นสิ่งของครับ มีปัญญาดี มีทรัพย์น้อยก็เพราะเหตุนี้ ดังนั้นพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสสอนธรรมอย่างสมบูรณ์ คือการทำทาน ครบ 10 ประการ ไม่ใช่ทำทานแต่เพียงประการเดียว

  ดังนั้น เวลาทำบุญ อย่าทำด้วยใจอย่างเดียว นะครับ เพราะเดี๋ยวไม่มีเสบียงบุญ มีปัญญาแต่เอาตัวไม่รอดมีถมไปครับ ดังนั้นการสั่งสมทานควรเริ่มจากการให้ทานเป็นวัตถุทาน กันจริง นะครับ จากนั้นก็ทำ ทานอย่างอื่น ควบคู่กันไปด้วย นะครับ

   
611  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เจาะประเด็น ข้อคิด อรรถธรรมสาระประโยชน์ จากพระสูตร เมื่อ: ตุลาคม 08, 2011, 02:16:52 pm
ขอร่วม ประเด็น ด้วยก็แล้วกันนะครับ เพราะเห็นกระทู้ไม่ค่อยมี

 หลังจากอ่านเรื่องนี้ จบแล้ว

 มีข้อจะพิจารณา ดังนี้

 1. ภิกษุผู้อาภัพ อาหารบิณฑบาตร ผู้อื่น ได้แต่ของปราณีต แต่ ตัวเองได้แต่ของ หยาบ
 
 2. แม้พระอรหันต์ทัพพมัลลบุตร จะจัด ภัตร เพื่อให้แก่ภิกษุทั้งสองนั้น ก็ยังต้องชวด

 3. เรื่องเกิดแต่ความไม่ชอบใจ จึงพยายามหาผู้ใส่ร้าย

 4. เศรษฐี เลือกทำบุญ กับพระที่หยาบ  ก็ยังทำแต่ทำน้อย ทำอย่างเสียไปที

 5. คนใช้ที่ซื่อสัตย์ ทำบุญ ก็ย่อมจะได้บุญ

 6. คบคนเช่นไร เป็นคนเช่นนั้น ภิกษุณี เมตติยา น่าจะเป็นพวกเดียวกับ ภิกษุเมตติยะ

 7. การใส่ร้ายพระภิกษุ ไม่มีข้อหาใดรุนแรง นอกจาก ข่มขืน

 8. การเป็นผู้ไม่หวั่นไหว แสดงปฏิปทา ของพรหมจรรย์ ของพระทัพมัลลบุตร

 9. ต้นบัญญัติ ของพระวินัย

 10. อาบัติถูกกล่าวหา นี้ปรับแค่ สังฆาทิเสส ( อาบัติกลาง ๆ  )

 ก็จะเริ่มประเด็นตามที่คุณ รักหนอ ต้องการก็แล้วกันนะครับ

   :25: 
612  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ผลสำรวจความเสียหาย ข้าว เมื่อ: ตุลาคม 04, 2011, 02:25:31 pm
ผมดูจากรายการ tpbs แล้ว ผลจากการประ้เมิน ก็จะโดนตรง คือ ภาคอิสาณ และ ภาคใต้

 ส่วนที่จะโดนผลกระทบ คือ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก

 แต่ปัญหา อยู่ที่การระบายน้ำทำไม่ได้ เพราะทะเลหนุน และเขื่อนเต็ม นี่แหละปัญหาใหญ่

  :34: :67:
613  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปรึกษาเรื่อง สมาธิ ครับ ใครพอจะเข้าใจ ช่วยด้วยครับ เมื่อ: กันยายน 29, 2011, 11:35:21 am
หนทาง ยังอีกยาวไกล ควรพบ กัลยาณมิตร คือ ครูอาจารย์

ถ้ายังเชื่อมั่นว่า ตราบใดที่ยังมีผู้ประพฤติปฏิบัติตามธรรม ตราบนั้นโลกนี้จักไม่ว่างจากพระอรหันต์

 อนุโมทนา สาธุ กับความรู้ที่แแบ่งปันกัน ด้วยดี

  :s_hi:
614  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ไหว้เทพทั้ง 9 ในเทศกาลกินเจ เมื่อ: กันยายน 29, 2011, 11:33:14 am
สำนักสงฆ์ไตรรงค์วิสุทธิธรรม (วัดป่าสระกระโจม) อ.ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี

ขอเชิญชวนญาติธรรมร่วมปฏิบัติธรรมและบวชเนกขัมมะในเทศกาลกินเจ   27 ก.ย.- 6 ต.ค. 2554 


พิเศษ !  ในวันที่ 27  เวลา 10 โมงเช้า 39 นาที จะมีพิธียกพระ 3 องค์  คือ หลวงพ่อพุทธโสธร หลวงพ่อพระพุทธชินราช และพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ทำด้วยหินแกรนิต ขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว   พิธียกพระเป็นการเสริมสร้างพลังความสามัคคี เป็นกุศลและเสริมบุญบารมีให้แก่ผู้เข้ามาร่วมพิธีเป็นอย่างยิ่ง


การกินเจ ลดการเบียนเบียนสัตว์โลก การถือศีล 8 ปฏิบัติธรรมในเทศกาลกินเจ ยิ่งเพิ่มพลังบุญ สร้างกุศล เสริมบารมี


ท่านสามารถมากินเจที่วัดได้ มีโรงทานอาหารเจ 

ท่านสามารถบวชติดต่อกัน หรือมาบวชบางวันที่สะดวกก็ได้


ในวันพระทั้ง 2 ครั้ง คือวันที่ 27 กันยายน 54 และวันที่ 5 ตุลาคม 54 

ทางวัดจะจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามคืนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ญาติโยมทุกท่านได้ร่วมปฏิบัติธรรมอย่างเต็มกำลัง 

สร้างบรรยากาศและสร้างโอกาสให้ได้ทดลองถือเนสัชชิกกัน

ใครยังไม่เคยสวดมนต์ข้ามคืน หรือปฏิบัติเนสัชชิก น่ามาลิ้มลอง..



ส่วนผู้ที่ชอบบวชชีแต่ไม่เจ..  ก็มาบวชได้ทุกวันตอนเที่ยง เช่นเคยจ้า..


หาทางมาวัดได้ที่ www.visudhidham.com 




จากคุณ    : chaosy
615  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง ??? เมื่อ: กันยายน 27, 2011, 10:22:20 pm
ทั้งท่วม ทั้งแล้ง ก็ไม่ดีทั้งสองอย่าง
ทางสายกลาง พอดี ๆ นี่แหละดีที่สุด


  น้ำตา +  น้ำใจ = พอทนได้

  น้ำตา + ไร้น้ำใจ = ชอกช้ำ

  น้ำตา + ชอกช้ำ = สิ้นหวัง

  น้ำตา + สิ้นหวัง = ตายทั้งเป็น ( ทุกข์ )

  ตายทั้งเป็น จะหาอะไรเป็นที่พึ่ง นอกจากตนเอง

  จะพึ่งตนเอง ได้ ก็ต้องมีสติ

  เมื่อมีสติ ธรรมที่ควร ตื่น ก็ควรจะมี

  ธรรมที่ควรตื่น ก็คือ เห็นทุกข์ เห็นเหตุแห่งทุกข์ รู้เป้าหมายของการพ้นทุกข์ และ เห็นทางสู่ความพ้นทุกข์


 :93: :73: ??? :smiley_confused1:


  ทุกข์ สุข ที่อารมณ์ มีได้ อยู่ สติ มีมาก หรือ น้อย

 
616  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ผลแห่งทานที่กล่าว ในพระสูตร ทั้งเรื่องการอุทิศส่วนกุศลแห่งทานนั้น ๆ เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 11:35:15 am
      พระสุตตันตปิฎก  ขุททกนิกาย  ขุททกปาฐะ  ๗.  ติโรกุฑฑสูตร
 
               ๗. ติโรกุฑฑสูตร๑
         ว่าด้วยเรื่องเปรตที่อยู่ภายนอกฝาเรือน๒
            (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้    เพื่ออนุโมทนาพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพมคธรัฐ
ดังนี้)
   [๑]  พวกเปรตพากันมาสู่เรือนของตน๓
 บ้างยืนอยู่ที่ฝาเรือนด้านนอก
 บ้างยืนอยู่ที่ทางสี่แพร่ง    สามแพร่ง
บ้างยืนพิงอยู่ที่บานประตู
 [๒]  เมื่อมีข้าวและน้ำดื่มมากมาย
 เมื่อของเคี้ยวของกินถูกจัดเตรียมไว้แล้ว
 ญาติสักคนก็ไม่นึกถึงเปรตเหล่านั้น
 เพราะกรรมของสัตว์เหล่านั้นเป็นปัจจัย
 [๓]   เหล่าชนผู้อนุเคราะห์    ย่อมถวายอาหารและน้ำดื่ม
ที่สะอาดประณีต    เหมาะแก่พระสงฆ์ตามกาล
 อุทิศให้ญาติทั้งหลาย(ที่เกิดเป็นเปรต)อย่างนี้ว่า
 ขอทานนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของเรา
ขอญาติทั้งหลาย    จงเป็นสุขเถิด
 [๔]   ส่วนญาติที่เกิดเป็นเปรตเหล่านั้น
 พากันมาประชุมพร้อมกัน    ณ    ที่ให้ทานนั้น
 ย่อมอนุโมทนาในอาหารและน้ำดื่มเป็นอันมากโดยเคารพว่า
 [๕] เพราะเหตุแห่งญาติเหล่าใด    พวกเราจึงได้สุขสมบัติเช่นนี้
 ขอญาติเหล่านั้นของพวกเราจงมีอายุยืน
 อนึ่ง    การบูชา    ญาติผู้เป็นทายกก็ได้ทำแก่พวกเราแล้ว
 และทายกก็ไม่ไร้ผล
      [๖]   ในเปตวิสัย๑นั้น    ไม่มีกสิกรรม    (การทำไร่ไถนา)
  ไม่มีโครักขกรรม    (การเลี้ยงวัวไว้ขาย)
ไม่มีพาณิชกรรม    (การค้าขาย)    เช่นนั้น
 การแลกเปลี่ยนซื้อขายด้วยเงิน    ก็ไม่มี
ผู้ที่ตายไปเกิดเป็นเปรตในเปตวิสัยนั้น
 ดำรงชีพด้วยผลทานที่พวกญาติอุทิศให้จากมนุษยโลกนี้
 [๗]  น้ำฝนที่ตกลงมาในที่ดอนย่อมไหลไปสู่ที่ลุ่ม    ฉันใด
 ทานที่ทายกอุทิศให้จากมนุษยโลกนี้
ย่อมสำเร็จผลแน่นอนแก่พวกเปรต    ฉันนั้นเหมือนกัน
 [๘]  ห้วงน้ำที่เต็มย่อมยังสมุทรสาครให้เต็มเปี่ยม    ฉันใด
 ทานที่ทายกอุทิศให้จากมนุษยโลกนี้
ย่อมสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย    ฉันนั้นเหมือนกัน
[๙]  กุลบุตรเมื่อระลึกถึงอุปการะ
 ที่ญาติผู้ละไปแล้ว(เปรต)เคยทำไว้ในกาลก่อนว่า
 ‘ผู้นั้นได้ให้สิ่งนี้แก่เรา    ได้ทำสิ่งนี้แก่เรา
 ได้เป็นญาติ    มิตร    และสหายของเรา’
 ก็ควรถวายทักษิณาทานอุทิศให้แก่ญาติผู้ละไปแล้ว
 [๑๐]  การร้องไห้    ความเศร้าโศก
 หรือความร่ำไห้คร่ำครวญอย่างอื่นใด
  ใคร  ๆ    ไม่ควรทำเลย    เพราะการร้องไห้    เป็นต้นนั้น
  ไม่เป็นประโยชน์แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว
ญาติทั้งหลายก็ยังคงสภาพอยู่อย่างนั้น
 [๑๑]    ส่วนทักษิณาทานนี้แล    ที่ตั้งไว้ดีแล้วในพระสงฆ์
 ย่อมสำเร็จประโยชน์เกื้อกูลสิ้นกาลนาน
 แก่หมู่ญาติที่เกิดเป็นเปรตนั้น    โดยพลันทีเดียว
 [๑๒]  ญาติธรรม๑นี้นั้น    ท่านแสดงออกแล้ว
 การบูชาญาติที่ตายไปเป็นเปรต    ท่านทำอย่างยิ่งใหญ่แล้ว
 ทั้งกำลังกายของภิกษุ    ท่านก็เพิ่มให้แล้ว
เป็นอันว่าท่านสั่งสมบุญไว้มิใช่น้อยเลย
                  ติโรกุฑฑสูตร จบ


อ่่านพระสูตร นี้ จะรู้ผลแห่งทานที่ควรทำ และ ควรจะกระทำ
และผลแห่งทาน นั้นจักได้รับแน่นอน



617  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การทําให้เกิดมรรค -ผลแค่...พระโสดาบัน อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นเรื่องง่าย. เมื่อ: กันยายน 06, 2011, 08:35:39 am
อ้างถึง
อย่าเพิ่งไปฝันว่าจะเป็นพระใหญ่ แค่พระโสดาบันยังทําไม่ได้เค้าเรียกฝันเฟื่อง(หลงอยู่ในปีติ)บอกได้เลยว่า

ประโยคนี้ เตือนใจดี คะ บางทีเราอาจจะลืมตัว หวังผลใหญ่ ไม่เอาผลเริ่มต้นคือ พระโสดาบัน ก่อน ใช่หรือไม่ คะ
อ่านแล้ว ถึงข้อความจะดู ๆ ติด ๆ กัน แต่ก็ เหมือนเอาในใจที่ได้ปฏิบัติมากล่าวไว้

 ดีจ้า ตามอ่านอยู่เช่นกันคะ

  :25:

 จาก midknight มือใหม่หัดกรรมฐาน
หน้า: 1 ... 14 15 [16]