ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: นั่งกรรมฐาน เข้าฌาน ออกจาก ฌาน ไม่เป็นเหน็บ จริง หรือไม่ครับ  (อ่าน 3582 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1
ผมฟังจาก รายการเสียง หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านกล่าวว่า ผู้ที่ได้ฌาน เวลาเข้าสมาบัติออกจากสมาบัติแล้วไม่เป็นเหน็บ สามารถลุกขึ้นเดินได้ทันที อันนี้จริงหรือไม่ครับ แต่ส่วนตัวผมพบพระอาจารย์หลายรูป ที่ท่านนั่งกรรมฐานเก่ง ๆ ผมเห็นท่านก็นั่งเหยียดขาก่อนสักครู่ บางรูปนั่งกรรมฐาน ตั้งสองวันก็มี ก็ไม่เห็นลุกขึ้นทันที ต้องเหยียด ต้องคลายก่อน คือ ผมอยากแย้ง แต่ไม่มีข้อมูล เพื่อไม่ให้ผู้ภาวนาเข้าใจผิดกันครับ

  thk56
บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ไม่รู้นะ รู้แต่ว่า ตัวเองนั่งทีไร ก็เหน็บชาทุกครั้ง คะ

  :58:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

Uploaded on Jan 4, 2008 by eq072

๔. ชุณหสูตร
ว่าด้วยยักษ์ประหารศีรษะพระสารีบุตร

     [๙๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
     สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน ใกล้กรุงราชคฤห์ ก็สมัยนั้นแล ท่านพระสารีบุตรและท่านพระมหาโมคคัลลานะอยู่ที่กโปตกันทราวิหาร ก็สมัยนั้น ท่านพระสารีบุตรมีผมอันปลงแล้วใหม่ๆ นั่งเข้าสมาธิอย่างหนึ่ง อยู่กลางแจ้งในคืนเดือนหงาย ฯ

       :25: :25: :25:

      [๙๔] ก็สมัยนั้น ยักษ์สองสหายออกจากทิศอุดรไปยังทิศทักษิณ ด้วยกรณียกิจบางอย่าง ได้เห็นท่านพระสารีบุตรมีผมอันปลงแล้วใหม่ๆ นั่งอยู่กลางแจ้งในคืนเดือนหงาย ครั้นแล้วยักษ์ตนหนึ่งได้กล่าวกะยักษ์ผู้เป็นสหายว่า
      ดูกรสหาย เราจะประหารที่ศีรษะแห่งสมณะนี้ เมื่อยักษ์นั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว
      ยักษ์ผู้เป็นสหายได้กล่าวกะยักษ์นั้นว่า
      ดูกรสหาย อย่าเลย ท่านอย่าประหารสมณะเลยดูกรสหาย สมณะนั้นมีคุณยิ่ง มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก
      แม้ครั้งที่ ๒ ... แม้ครั้งที่ ๓ ยักษ์นั้นก็ได้กล่าวกะยักษ์ผู้เป็นสหายว่า
      ดูกรสหาย เราจะประหารที่ศีรษะแห่งสมณะนี้
      แม้ครั้งที่ ๓ ยักษ์ผู้เป็นสหายก็ได้กล่าวกะยักษ์นั้นว่า
      ดูกรสหาย อย่าเลย ท่านอย่าประหารสมณะเลย
      ดูกรสหาย สมณะนั้นมีคุณยิ่ง มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก


      ลำดับนั้นแล ยักษ์นั้นไม่เชื่อยักษ์ผู้เป็นสหาย ได้ประหารที่ศีรษะแห่งท่านพระสารีบุตรเถระ ยักษ์นั้นพึงยังพระยาช้างสูงตั้ง ๗ ศอกหรือ ๘ ศอกให้จมลงไปก็ได้ หรือพึงทำลายยอดภูเขาใหญ่ก็ได้ ด้วยการประหารนั้น
      ก็แลยักษ์นั้นกล่าวว่า เราย่อมเร่าร้อน แล้วได้ตกลงไปสู่นรกใหญ่ในที่นั้นเอง ฯ




Uploaded on Jan 4, 2008 by eq072


     [๙๕] ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ได้เห็นยักษ์นั้นประหารที่ศีรษะแห่งท่านพระสารีบุตร ด้วยจักษุเพียงดังทิพย์อันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ แล้วเข้าไปหาท่านพระสารีบุตร ครั้นแล้วได้ถามท่านพระสารีบุตรว่า
    ดูกรอาวุโส ท่านพึงอดทนได้หรือ พึงยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ ทุกข์อะไรๆ ไม่มีหรือ
    ท่านพระสารีบุตรตอบว่า
    ดูกรอาวุโสโมคคัลลานะ ผมพึงอดทนได้ พึงยังอัตภาพให้เป็นไปได้ แต่บนศีรษะของผมมีทุกข์หน่อยหนึ่งฯ

      :96: :96: :96:

      ม. ดูกรอาวุโสสารีบุตร น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาแล้วท่านพระสารีบุตรมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ยักษ์ตนหนึ่งได้ประหารศีรษะของท่านในที่นี้ การประหารเป็นการประหารใหญ่เพียงนั้น ยักษ์นั้นพึงยังพระยาช้างสูงตั้ง ๗ ศอก ๘ ศอกให้จมลงไปก็ได้ หรือพึงทำลายยอดภูเขาใหญ่ก็ได้ ด้วยการประหารนั้น
     ก็แลท่านพระสารีบุตรได้กล่าวอย่างนี้ว่า
     ดูกรอาวุโสโมคคัลลานะ ผมพึงอดทนได้ พึงยังอัตภาพให้เป็นไปได้ แต่บนศีรษะของผมมีทุกข์หน่อยหนึ่ง ฯ
     สา. ดูกรอาวุโสโมคคัลลานะ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาแล้ว ท่านมหาโมคคัลลานะมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ที่เห็นยักษ์ ส่วนผมไม่เห็นแม้ซึ่งปีศาจผู้เล่นฝุ่นในบัดนี้ ฯ





     [๙๖] พระผู้มีพระภาคได้ทรงสดับการเจรจาปราศรัยเห็นปานนี้ แห่งท่านมหานาคทั้งสองนั้น ด้วยโสตธาตุอันเป็นทิพย์อันบริสุทธิ์ล่วงโสตธาตุของมนุษย์ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานี้ว่า
             จิตของผู้ใดเปรียบด้วยภูเขาหิน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ไม่กำหนัด
             ในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ไม่โกรธเคืองในอารมณ์
             เป็นที่ทั้งแห่งการโกรธเคือง จิตของผู้ใดอบรมแล้วอย่างนี้
             ทุกข์จักถึงผู้นั้นแต่ที่ไหน ฯ


             จบสูตรที่ ๔

____________________________________________________________________
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๒๖๑๘ - ๒๖๖๑. หน้าที่ ๑๑๔ - ๑๑๖.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=2618&Z=2661&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=93
ขอบคุณภาพจาก http://www.ubook.msu.ac.th/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 19, 2013, 07:49:55 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

อรรถกถา ขุททกนิกาย อุทาน เมฆิยวรรคที่ ๔ ชุณหสูตร
อรรถกถาชุณหสูตร   
   

     (ยกมาแสดงบางส่วน)
     ก็ในขณะนั้นนั่นเอง ความเร่าร้อนใหญ่เกิดขึ้นในร่างของยักษ์นั้น.
     ยักษ์นั้นอาดูรด้วยเวทนา เมื่อไม่อาจจะดำรงอยู่ในอากาศได้ จึงตกลงที่พื้นดิน.
     ในขณะนั้นนั่นเอง มหาปฐพีหนา ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์ รองรับขุนเขาสิเนรุซึ่งสูง ๑๖๘,๐๐๐ โยชน์ ประหนึ่งไม่อาจจะรองรับสัตว์ชั่วนั้นได้ จึงได้เปิดช่องให้.
     เปลวไฟพลุ่งขึ้นจากอเวจีมหานรก จับยักษ์นั้นซึ่งกำลังคร่ำครวญอยู่นั่นแล.
     ยักษ์นั้นกำลังคร่ำครวญบ่นเพ้อตกไป.
     ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ครั้งนั้นแล ยักษ์นั้นจึงกล่าวว่า ร้อน ร้อน แล้วได้จมลงในมหานรกนั้นนั่นเอง.


     ถามว่า ก็ยักษ์นั้นตกนรก ด้วยทั้งอัตภาพยักษ์นั่นแหละหรือ.?
     ตอบว่า ไม่ตก. ก็ในที่นี้ เพราะพลังแห่งบาปกรรมซึ่งอำนวยผลในปัจจุบัน ยักษ์จึงเสวยทุกข์มหันต์ในอัตภาพเป็นยักษ์.
     อนึ่ง เพราะอุปปัชชเวทนียกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม ยักษ์จึงเกิดในนรกถัดจากจุติ
     แต่ร่างกายของพระเถระที่ถูกพลังแห่งสมาบัติสนับสนุน จึงไม่มีวิการอะไรเลย.

     ความจริง ยักษ์ประหารท่าน ในเวลาที่ท่านยังไม่ออกจากสมาบัติ.

      :96: :96: :96:

     ท่านพระมหาโมคคัลลานะเห็นยักษ์นั้นประหารอยู่อย่างนั้น ด้วยทิพยจักษุ จึงเข้าไปหาพระธรรมเสนาบดี.     
     และพร้อมกับเวลาที่เข้าไปหานั่นแหละ พระธรรมเสนาบดีก็ออกจากสมาบัติ.
     ในลำดับนั้น พระมหาโมคคัลลานะจึงถามถึงความดูแคลนนั้นกะท่านพระธรรมเสนาบดี.
     ฝ่ายพระธรรมเสนาบดีก็ได้พยากรณ์แก่ท่าน.
     ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้เห็นแล้วแล ฯลฯ
     ก็แต่ว่าศีรษะของผมมีทุกข์นิดหน่อย.


     บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โถกํ ทุกฺขํ ความว่า
     ศีรษะของผมเป็นทุกข์ คือได้รับความทุกข์นิดหน่อย คือ มีประมาณน้อยนิดคล้ายหยดเทียน.
     จริงอยู่ ศีรษะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ ท่านเรียกว่า มีทุกข์
     บาลีว่า สีเส โถกํ ทุกฺขํ เป็นทุกข์นิดหน่อยที่ศีรษะ ดังนี้ก็มี.

      ask1 ask1 ans1 ans1

     ถามว่า ก็เมื่อสรีระถูกพลังแห่งสมาบัติสนับสนุน ศีรษะของพระเถระเป็นทุกข์น้อยหนึ่งอย่างไร.?
     ตอบว่า เพราะท่านออกจากสมาบัติไม่นานเลย.
     จริงอยู่ ทุกข์ไม่ปรากฏในภายในสมาบัติ เหมือนยุง เป็นต้น ปรากฏแก่ผู้หลับ ปรากฏหน่อยหนึ่งแก่ผู้ตื่นขึ้น เพราะเนื่องด้วยกาย.
 
      st12 st12 st12

     เมื่อท่านพระมหาโมคคัลลานะเกิดความคิดอัศจรรย์ขึ้นว่า ขึ้นชื่อว่าความวิการ ย่อมไม่มีแม้ในร่างกายที่ถูกยักษ์มีกำลังมากประหารเอาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดเช่นนั้น ประกาศความที่ท่านพระธรรมเสนาบดีมีอานุภาพมาก โดยนัยมีอาทิว่า น่าอัศจรรย์นะ สารีบุตร.

     ฝ่ายพระธรรมเสนาบดีก็แสดงความที่ตนละได้เด็ดขาดซึ่งมลทินมีริษยาตระหนี่และอหังการเป็นต้น โดยการประกาศว่า ตนมีอิทธานุภาพมากแก่พระมหาโมคคัลลานะนั้น โดยนัยมีอาทิว่า น่าอัศจรรย์นะ โมคคัลลานะ.
     ......ฯลฯ.............


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=93
ขอบคุณภาพจาก http://board.postjung.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 19, 2013, 08:09:25 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ask1
ผมฟังจาก รายการเสียง หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านกล่าวว่า ผู้ที่ได้ฌาน เวลาเข้าสมาบัติออกจากสมาบัติแล้วไม่เป็นเหน็บ สามารถลุกขึ้นเดินได้ทันที อันนี้จริงหรือไม่ครับ แต่ส่วนตัวผมพบพระอาจารย์หลายรูป ที่ท่านนั่งกรรมฐานเก่ง ๆ ผมเห็นท่านก็นั่งเหยียดขาก่อนสักครู่ บางรูปนั่งกรรมฐาน ตั้งสองวันก็มี ก็ไม่เห็นลุกขึ้นทันที ต้องเหยียด ต้องคลายก่อน คือ ผมอยากแย้ง แต่ไม่มีข้อมูล เพื่อไม่ให้ผู้ภาวนาเข้าใจผิดกันครับ

  thk56


    ans1 ans1 ans1
   
    พระสารีบุตรถูกยักษ์ประหารศีรษะในขณะนั่งสมาธิ การนั่งนั้นเป็นการเข้าสมาบัติ ในอรรถกถาชุณหสูตร ระบุว่า มติของอรรถกถาจารย์แบ่งสมาบัติออก ๓ อย่าง คือ อุเบกขาพรหมวิหารสมาบัติ สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ และ ผลสมาบัติอันมีอรูปฌานเป็นบาท แต่ไม่ยืนยันว่าพระสารีบุตรเข้าสมาบัติอะไร

    ความในอรรถกถาชุณหสูตรระบุว่า ยักษ์ประหารศีรษะของพระสารีบุตรด้วยกำปั้น(เอากำปั้นตีศีรษะ) ในขณะที่ท่านอยู่ในสมาบัติ ในขณะที่ท่านอยู่ในสมาบัติท่านไม่รู้สึกอะไร แต่พอออกจากสมาบัติแล้ว พระสารีบุตรกล่าวว่า ท่านเป็นทุกข์นิดหน่อย นั่นแสดงว่า ท่านรู้สึกเจ็บไม่มาก อาจกล่าวได้ว่า เจ็บเล็กน้อย


    ถามว่า การเข้าฌานนานๆ พอออกจากฌานแล้ว จะมีอาการปวดเมื่อยหรือเป็นเหน็บชาหรือไม่.?
    ตอบว่า กรณีของพระสารีบุตรเห็นได้ชัดเจนว่า บารมีของอัครสาวกเบื้องขวาเช่นพระสารีบุตร ออกจากสมาบัติแล้วยังรู้สึกเจ็บเลย สาวกธรรมดาๆ ก็น่าจะรู้สึกปวดเมื่อยบ้าง
    เพื่อนๆอาจแย้งว่า เพราะพระสารีบุตรโดนยักษ์ทำร้ายจึงรู้สึกเจ็บ หากท่านไม่ถูกทำร้ายท่านจะรู้สึกเป็นทุกข์หรือไม่.? เรื่องนี้จนปัญญาครับ ผมหาเรื่องราวในพระสูตรมาเทียบเคียงได้เท่านี้จริงๆ
    คุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

     :25:
 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


พิจารณาจากข้อกังขาก็ยากอยู่ที่จะหากล่า่วอ้างอิง แต่สำหรับผมจากที่ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับด้วยพระิอาจารย์แล้วพอทราบได้ว่าการอยู่ในอารมณ์ฌานนั้น โดยเฉพาะฌานสี่ลมหายใจจะหยุดทุกอย่างในกายดูเสมือนไม่มีชีวิตเรื่องหิวกระหายนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเลย หากจิตเพิกถอยจากฌานแล้วนั่นแหละสภาวะกายธาตุขันธ์จักคงเดิมมีหิวกระหายเป็นไปตามสภาวะเดิมของนิพัทธทุกข์

http://denkungza.blogspot.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 20, 2013, 12:39:08 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ฟ้าใหม่แจ่มใส

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 226
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องว่า ยายกบ เพราะชวนมาศึกษาธรรมะ