พิมพ์

[noobmany]

ตั้งใจทำงาน รักษา ศีล มาอย่างดี พอเปลี่ยน หน.ใหม่ ช่วงกลางปี มีงานเลี้ยง บริษัท หน.งานใหม่ แต่เป็น หน.งานแผนกอื่นมาก่อน คือ ใหม่ในออฟฟิสเรา แต่ โก๋แก่ ในบริษัท บังคับให้กินเหล้า ในบริษัท เป็นที่ทราบกันดีว่า ผมเป็นคนไม่ดื่มสุรา ไม่ผิดศีลข้อนี้ แกบังคับให้กินต่อหน้า คนทั้งแผนก นัยว่าจะให้ทุกคนยอมรับว่า บังคับผมได้ แต่ผมปฏิเสธ ทำให้แกไม่พอใจ

    พอสิ้นปี วันรับซองประเมินผลงาน พอเปิดซองมา ผมต้องตะลึง เพราะว่า แกประเมินผลงานผม 6 เดือนน้ี้ คือ พอใช้ แน่นอนพนักงานอย่างผม ต้องสงสัยที่จะถามกันในห้องให้รู้กันไป สุดท้ายที่แกพูดตอบผม ก็คือผมเป็นพวกตรงมีอุดมคติ ไม่รับฟังเจ้านาย โดยเฉพาะเรื่องที่สั่งให้กินเหล้าวันนั้น หักหน้าแกเป็นอย่างมาก

    อย่างนี้เราควรทำอย่างไร ต่อไป เพราะกฏบริษัท หากประเมิน พอใช้ 3 ปี ก็ต้องรับซองขาว คือ ไล่ออก ครับ งานนี้ทำให้คนที่ขยันทำงาน มาอย่างดี รู้สึกอารมณ์เสีย มาก ๆ เป็นปีแรกที่เงินตลอดอายุงาน 18 ปี ที่ได้รับการประเมินผลงาน พอใช้ เงินเดือนขึ้น 220 บาท ในขณะที่คนอื่นในแผนกทั้งหมดนั้น ขึ้น 1000 กว่าบาท

     คำถาม

    1. ผมควรทำอย่างไร เพื่อให้รอด ต่อไป ต้องยอมผิดศีล ใช่หรือไม่
    2. ผมควรแก้ทางเขาอย่างไร เพื่อไม่ให้ถูกประเมินตามอารมณ์ เขาอย่างนี้อีก

   

[KIDSADA]

   

    1. ควรรักษาศีล ครับ
    2. ปรึกษา ผจร. ครับ
 

[Admax]

- ศีล ก็เป็นเจตนา ก็ควรรักษาไว้ไม่ให้เสื่อม
- เรื่องงานทำงานอะไรอย่างไรบ้างก็บันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วเมื่อเกิดปัญหาก็นำหลักฐานนี้มาชี้แจงทั้งหมดด้วยความเป็นเหตุเป็นผลมากกว่าใช้ความไม่พอใจตน
- หากเราทำถูกต้องทุกอย่างไม่มีผิดและมีผลงานจริงก็ยื่นหลักฐานต่อกรรมการบริษัท หรือ ยื่นเรื่องสู้ในฝ่ายบุคคล หรือ HR

ความไร้เหตุผลเอาอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดตนเป็นเครื่องเสพย์ เราจะเอาความไม่มีสติไม่มีเหตุและผลเข้าไปสู้ไม่ได้
ความมีเหตุมีผลทบทวนตรวจสอบได้ตามจริง ย่อมทำลายความเลื่อนลอยไร้เหตุผลตรวจสอบไม่ได้

ผมเองแค่ไม่ถูกใจกัน ไม่ใช่เด็กเขา กับ DD DM เขากดผมเงินเดือนไม่ขึ้นมา 3 ปี ไม่ได้โบนัส ซึ่งคนอีสานจะโดนทุกคน ผมก็ทำหลักฐานอย่างนี้ชี้แจงเล่นงานกลับเป็นหลักฐานของตน คุณทำงานมา 18 ปีแล้ว การที่จะทำรายงานหลักฐานและ Capture ภาพแนบเอกสารไว้ คงไม่มีปัญหา ทำงานมานานต้องมีผลงานและหลักฐานตรวจสอบได้

แต่ถ้าทำงานมานานแต่ไม่มีผลงานเลย หรือ หัวหน้าสั่งงานแต่ไม่ยอมทำ ทั้งๆที่เป็นในส่วนหน้าที่ตนที่จะต้องทำ ก็ตรงกับคำว่า "ใหญ่ย้อนกินข้าว เฒ่าเพราะเกิดโดน" คือ "แก่แต่อายุและร่างกาย แต่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ไม่เอาอะไรสักอย่าง"
ดังนั้นเราก็ต้องสำรวจความประพฤติของเราก่อน การมีศีลแต่ไม่ทำงานก็ไม่ช่วยอะไร แต่การมีศีล มีเจตนาละเว้นอันดีแล้วประกอบกับการทำงานของเราที่ดีพร้อม ย่อมนำประโยชน์สุขมาให้แน่นอนอย่างไม่มีข้อสงสัย โดยคุณสามารถทวนสอบการทำงานของคุณการประพฤติตัวให้เขาประจักษ์เห็นได้ แค่หัวหน้างานไม่ใช่ดเจ้าของบริษัทไม่มีคุณค่าบทบาทกับชีวิตเราหรอก อย่าเอาความสุขสำเร็จไปผูกขึ้นไว้กับคนอื่นจนทำให้ศีลและการประพฤติดีของตนถึงความฉิบหาย

- มีผู้จัดการท่านหนึ่งสอนผมว่า ถ้ามึงมีประวัติไม่ดีมาก่อน(ไม่ว่าจะด้วยโดนแกล้งหรือตนเองทำตนเองก็ตาม) มึงพึ่งทำดีมาแค่ 3-4 ปี มันวัดผลความดีมึงไม่ได้หรอก กูทำมาเป็น 10-20 ปี ไม่เคยเปลี่ยนก็ก็พึ่งได้ผลวันนี้ แล้วถ้าเขาประเมินงานมึงไม่ดี มึงจะยังคงทำดีต่อไปไหม หรือ มึงจะคิดว่าทำดีไปก็เท่าตัว คนไม่ทำกลับได้ แล้วมึงจะเลิกทำดีหรือ
- เตี่ยผมสอนผมว่า กูเลี้ยงมึงมาตลอดชีวิตกู กูไม่เคยคิดต้องการอะไรจากมึงนอกจากให้มึงเป็นคนดี ก็เจอปัญหาเรื่องงานมามากมาย อดอยู่ อดกิน เพื่อที่จะหาให้มึงได้กินได้ใช้ กูทำงานกุต้องถูกคนกลั่นแกล้งทำร้ายมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่กูก็ทนได้เพื่อหาเงินมาเลี้ยงมึง มึงเจอปัญญหาเพียงแค่นี้ มึงจะตายหรือ กูสอนให้มึงเป็น คนดี ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน ไม่ได้เลี้ยงมึงและสอนให้มึงมาตาย ถ้าเจอปัญหหาแแค่นี้มึงผ่านไปไม่ได้มึงก็ไม่ใช่ลูกกูแล้ว

[Gaston]

ที่จริงไม่หน้าเกี่ยวกับการกินเหล้านะ เข้าใจว่าอยากให้สนุกแต่ไม่น่าจะมีผลต่อการประเมินได้นะ

[cocore]

เหอๆๆๆ